“มาร์ค” เต้น “ฮุนเซน” ทำเสียหน้าเวทีอาเซียน เรียก “สุเทพ” พร้อมฝ่ายความมั่นคงเคลียร์นอกรอบ พร้อมสั่งให้ รมต.ที่มีเอี่ยวทุจริตมาชี้แจง และสั่งการให้เดินหน้าไทยเข้มแข็งเต็มที่ เตรียมส่ง ส.ส.แต่ละพื้นที่ตีปี๊บผลงานพรรค หลังผลโพลฉีกหน้ารัฐบาลทุจริตร้อยละ 70
วันนี้ (27 ต.ค.) แหล่งข่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมรัฐมนตรีด้านความมั่นคงนอกรอบ ประกอบด้วย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งคาดว่า น่าจะเป็นกรณีสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
แหล่งข่าวในการประชุม ครม.เปิดเผยอีกว่า ภายหลังการประชุม ครม. นายอภิสิทธิ์ยังได้เรียกประชุมรัฐมนตรีในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมดเป็นการพิเศษ โดยเป็นการประชุมลับ ขณะที่แหล่งข่าวรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า นายกฯได้กำชับ รมต.ของพรรคใน 2 เรื่อง คือ ให้รัฐมนตรีของพรรคทุกคนไปชี้แจงในที่ประชุมพรรคถึงกรณีปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามโครงการรัฐบาล ให้เดินหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง และให้ติดตามงานของพรรคร่วมรัฐบาล ภายหลังจากที่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนพบว่า รัฐบาลมีการทุจริตถึงร้อยละ 70 ในโครงการของรัฐบาล
แหล่งข่าวที่ประชุมรัฐมนตรีพรรค ปชป.เปิดเผยอีกว่า ในการประชุมนอกรอบของรัฐมนตรีพรรค ปชป. ทางนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้รัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมประชุม เพื่อตอบคำถาม ส.ส.พรรคอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะประเด็นนโยบายและผลงานของรัฐบาล เพื่อเป็นการตอบคำที่ตรงกันเมื่อ ส.ส.และรัฐมนตรีลงพื้นที่ รวมถึงกำชับให้รัฐมนตรี และ ส.ส.พรรคทุกคนเร่งประชาสัมพันธ์ผลงานรัฐบาลในรอบ 10 เดือนที่ผ่านมา
อีกทั้งทางนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงถึงสาเหตุในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณโครงการปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2553-2555 ล่าช้า เนื่องจากติดขัดเทคนิคและข้อกฎหมายของการเบิกจ่ายและการอนุมัติงบประมาณของสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง กล่าวคือ การอนุมัติงบประมาณโครงการต้องผ่านความเห็นชอบและตรวจสอบความถูกต้องจากสำนักงบประมาณก่อน จากนั้นทางกรมบัญชีกลาง จึงจะแจ้งต่อไปยังกระทรวง ทบวงกรมต่างๆ เพื่อรับเงินงวดแรก ซึ่งการได้รับงบประมาณสนับสนุนนั้น จะต้องมีการทำสัญญาที่ถูกต้องโปร่งใส
ทั้งนี้ ระหว่างการประชุมรัฐมนตรี ปชป. นายกรัฐมนตรีได้แจ้งว่า ขณะนี้ทางสำนักงบประมาณเร่งทำงานล่วงเวลาอย่างหนัก เพื่อดำเนินการเร่งรัดจัดทำงบประมาณต่างๆ โดยเร็ว ซึ่งนายกฯยังแจ้งว่า งบประมาณของกรมชลประทาน ล่าช้ามากที่สุด ส่วนงบประมาณในโครงการไทยเข้มแข็ง ของกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ในสัดส่วนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นั้นรวดเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นโครงการที่ตั้งเรื่องและมีการศึกษามาก่อนหน้านี้แล้ว จึงง่ายต่อการดำเนินการจัดทำสัญญาและจัดงบประมาณ