ASTVผู้จัดการรายวัน-"มาร์ค"ปัดแตกคอ"นิพนธ์"เรื่องเก้าอี้ ผบ.ตร.อ้างยังชื่นมื่นกันดี ชี้ก่อนประชุม ก.ต.ช.ครั้งต่อไปต้องทำความเข้าใจให้เรียบร้อยก่อน ย้ำเก้าอี้ ผบ.ตร.ไม่จำเป็นต้องจบสัปดาห์นี้ ด้าน"บุญจง"โบ้ยปัญหาตัว ผบ.ตร.จะงัดข้อพรรคร่วมหรือไม่ ให้ถาม "สุเทพ-นิพนธ์" ขณะที่ก.ตร."เทพเทือก"รับรองตำรวจ 688 นาย ที่ได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งรับโครงสร้างใหม่ “พัชรวาท” ยันไม่มีเด็กเส้น
วานนี้(31 ส.ค.)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าว เรื่องปัญหาการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ ซึ่งนายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ เลขานุการนายกรัฐมนตรี มีความเห็นไม่ตรงกับนายกฯ จนนำไปสู่กระแสข่าวว่า นายนิพนธ์ จะลาออกว่า ไม่มีอะไร ตนกับนายนิพนธ์ ก็ยังคุยกันตามปกติ เข้าใจกันดี เมื่อถามย้ำว่า เมื่อเข้าใจกันดี แต่ทำไมมีข่าวลาออก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้เป็นคนให้ข่าว เมื่อกี้ก็ยังคุยโทรศัพท์กันอยู่ แต่ไม่มีการคุยกันประเด็นนี้
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้มีคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. บางคนออกมาพูดว่า ควรจะมีการพิจารณาตัวบุคคลก่อนที่จะมีการประชุม ก.ต.ช. เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะมีการประชุมนอกรอบ เพื่อให้ได้บุคคลเป็นไปในแนวทางเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าคิดว่าก่อนการประชุมครั้งต่อไป คงจะทำความเข้าใจกันให้เรียบร้อยก่อน ส่วนจะทำในรูปแบบไหนนั้น ซึ่งจะเป็นในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
เมื่อถามว่า ตอนนี้ได้เลยขั้นตอนที่ว่าไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ก็ยังทำกันอยู่ครับ ซึ่งถึงเวลานี้ไม่ต้องลงรายละเอียดแล้ว ตนทำงานเรื่องนี้อยู่แล้ว และต่อไปจะต้องเรียบร้อยที่สุด ถึงได้บอกว่า ทาง ก.ตร. เขาก็ทำงานของเขาไปแล้ว เขาก็เห็นว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเร่งทำในสัปดาห์นี้ ก็คงใช้เวลาให้เต็มที่ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ส่วนที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิไทย ระบุว่านายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังมีความเข้าใจไม่ตรงกัน อยากให้นายกฯไปถามนายนิพนธ์ กับนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันเป็นเรื่องเดิม เดี๋ยวก็คุย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงกระแสข่าวนายนิพนธ์ จะลาออกว่า ต้องไปถามนายนิพนธ์ เอง ตนไม่ทราบ
**"บุญจง"ให้ถาม"สุเทพ-นิพนธ์"
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีปัญหาความขัดแย้งในการคัดเลือก ผบ.ตร. ซึ่งกลายเป็นกระแสข่าวว่า อาจทำให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลว่า ไม่ทราบกระแสข่าวนี้เลย เพราะเป็นเรื่องของนายกฯ นายสุเทพ และนายนิพนธ์ ส่วนการถอนตัวจากพรรคร่วมนั้น ไม่มี
เมื่อถามอีกว่า กระแสข่าวออกมาเพื่อเป็นการกดดันให้เลือกคนอื่นแทน พล.ต.อ. ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติหรือไม่ นายบุญจง กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปถามนายสุเทพ และนายนิพนธ์
เมื่อถามถึงกรณีที่นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เคยออกมาระบุว่า อาจมีการยุบสภาภายหลังการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 53 แล้วเสร็จ นายบุญจง กล่าวว่า นายชัย ไม่ได้มีอำนาจยุบสภา อำนาจอยู่ที่นายกฯ ที่นายชัย พูดเช่นนั้น เข้าใจว่าเพราะสภาเกิดความวุ่นวายในขณะนั้น ก็เลยต้องการปราม และเมื่อวานนี้ นายชัย ออกมาพูดอีกว่า ไม่มีการยุบสภา ในการประชุมสภาร่วม ก็แสดงให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ขณะนี้ดีมาก
**ก.ตร."เทพ"ผ่านโผเล็ก 688 นาย
วันเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เวลา 09.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ร่วมกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จเรตำรวจ รอง ผ.ตร. และ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง
พล.ต.อ.พัชรวาท เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า เป็นการพิจารณาตำรวจระดับรอง ผบก.ลงไป จำนวน 688 นาย ที่ได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้ง ก็ผ่านที่ประชุมทุกตำแหน่ง แต่ ก.ตร.ก็มีการซักถามในบางตำแหน่งที่มีปัญหา เช่น เรื่องวุฒิการศึกษา การปรับเปลี่ยนตำแหน่ง การกำหนดหลักเกณฑ์โครงสร้างใหม่ แต่ทำงานในตำแหน่งเดิม แต่ก็สามารถชี้แจงได้ทุกตำแหน่ง ยืนยันว่าไม่มีเด็กเส้น เป็นการปรับเกลี่ยงลงในตำแหน่งระนาบเดียวกัน
ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.ยื่นร้องเรียนความไม่เป็นธรรมในการแต่งตั้ง รักษาราชการแทน ผบ.ตร.นั้น อยู่ในวาระอื่นที่ประชุม ก.ตร.ได้มอบหมายให้เลขาฯ ก.ตร.ไปพิจารณาข้อกฎหมายและมาเสนอในที่ประชุม ก.ตร.ครั้งต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงศ์ ผบช.ก.ตร. กล่าวถึงการประชุม ก.ตร.ว่า การพิจารณาเรื่องสำคัญใน ก.ตร.มีเรื่องที่ พล.ต.อ.ชลอ ชูวงศ์ ที่ปรึกษา (สบ 10) เสนอให้ตำแหน่งที่ปรึกษาเทียบเท่ารอง ผบ.ตร.สามารถเป็น ก.ตร.โดยตำแหน่งได้นั้นที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่าขัดกับ พ.ร.บ.ตำรวจ มาตรา 30(ข) ที่ระบุชัดเจนว่า รอง ผบ.ตร. และจเรตำรวจเท่านั้นที่เป็น ก.ตร.โดยตำแหน่งหากมี ก.ตร.โดยตำแหน่งเพิ่ม ก็ต้องมี ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มในอัตราที่เท่ากัน ตำแหน่งที่ปรึกษาเป็นตำแหน่งเฉพาะตัว เมื่อเกษียณราชการตำแหน่งก็หมดไปหน้าที่ไปด้วย
พล.ต.ท.อาจิณ กล่าวว่า สำหรับเรื่องการขออนุมัติยกเว้นคุณสมบัติตำรวจ 688 ตำแหน่งนั้น พบว่าเมื่อตรวจสอบแล้วเหลือเพียง 686 ตำแหน่งไม่มีกรณีพิเศษ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการกำหนดคุณสมบัติตำรวจที่จะดำรงตำแหน่งตามโครงสร้างใหม่ โดยส่วนใหญ่จะปฏิบัติหน้าที่นั้นเป็นเวลานานอยู่แล้ว เพียงขาดคุณสมบัติด้านวุฒิการศึกษา การอบรมหลักสูตร แต่การพิจารณาในครั้งนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท ก็ต้องการเพียงแค่ปรับเกลี่ยตำแหน่งตามโครงสร้างใหม่เท่านั้น ส่วนการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งก็จะนำไปพิจารณาในวาระประจำปี เนื่องจากมีปัญหาเรื่องข่าวการซื้อขายตำแหน่ง
ส่วนเรื่องการขออนุมัติขยายระยะเวลาการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ผบก.ในวาระประจำปีนั้น พล.ต.ท.อาจิณ กล่าวว่า ที่ประชุม ก.ตร.ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าควรขยายระยะเวลาเนื่องจากเดิมกำหนดให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 ส.ค. แต่ไม่ทันเนื่องจากมีการปรับโครงสร้างใหม่ ต้องรอแต่งตั้งโครงสร้างใหม่ให้เสร็จสิ้นก่อน จึงขยายเวลาพิจารณาการแต่งตั้งไปถึงวันที่ 30 ก.ย.ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายระดับรอง ผบก.ลงไป ก็ไม่น่าจะเกินกำหนดระยะเวลาเดิม 30 พ.ย.
วานนี้(31 ส.ค.)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าว เรื่องปัญหาการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ ซึ่งนายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ เลขานุการนายกรัฐมนตรี มีความเห็นไม่ตรงกับนายกฯ จนนำไปสู่กระแสข่าวว่า นายนิพนธ์ จะลาออกว่า ไม่มีอะไร ตนกับนายนิพนธ์ ก็ยังคุยกันตามปกติ เข้าใจกันดี เมื่อถามย้ำว่า เมื่อเข้าใจกันดี แต่ทำไมมีข่าวลาออก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้เป็นคนให้ข่าว เมื่อกี้ก็ยังคุยโทรศัพท์กันอยู่ แต่ไม่มีการคุยกันประเด็นนี้
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้มีคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. บางคนออกมาพูดว่า ควรจะมีการพิจารณาตัวบุคคลก่อนที่จะมีการประชุม ก.ต.ช. เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะมีการประชุมนอกรอบ เพื่อให้ได้บุคคลเป็นไปในแนวทางเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าคิดว่าก่อนการประชุมครั้งต่อไป คงจะทำความเข้าใจกันให้เรียบร้อยก่อน ส่วนจะทำในรูปแบบไหนนั้น ซึ่งจะเป็นในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
เมื่อถามว่า ตอนนี้ได้เลยขั้นตอนที่ว่าไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ก็ยังทำกันอยู่ครับ ซึ่งถึงเวลานี้ไม่ต้องลงรายละเอียดแล้ว ตนทำงานเรื่องนี้อยู่แล้ว และต่อไปจะต้องเรียบร้อยที่สุด ถึงได้บอกว่า ทาง ก.ตร. เขาก็ทำงานของเขาไปแล้ว เขาก็เห็นว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเร่งทำในสัปดาห์นี้ ก็คงใช้เวลาให้เต็มที่ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ส่วนที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิไทย ระบุว่านายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังมีความเข้าใจไม่ตรงกัน อยากให้นายกฯไปถามนายนิพนธ์ กับนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันเป็นเรื่องเดิม เดี๋ยวก็คุย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงกระแสข่าวนายนิพนธ์ จะลาออกว่า ต้องไปถามนายนิพนธ์ เอง ตนไม่ทราบ
**"บุญจง"ให้ถาม"สุเทพ-นิพนธ์"
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีปัญหาความขัดแย้งในการคัดเลือก ผบ.ตร. ซึ่งกลายเป็นกระแสข่าวว่า อาจทำให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลว่า ไม่ทราบกระแสข่าวนี้เลย เพราะเป็นเรื่องของนายกฯ นายสุเทพ และนายนิพนธ์ ส่วนการถอนตัวจากพรรคร่วมนั้น ไม่มี
เมื่อถามอีกว่า กระแสข่าวออกมาเพื่อเป็นการกดดันให้เลือกคนอื่นแทน พล.ต.อ. ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติหรือไม่ นายบุญจง กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปถามนายสุเทพ และนายนิพนธ์
เมื่อถามถึงกรณีที่นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เคยออกมาระบุว่า อาจมีการยุบสภาภายหลังการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 53 แล้วเสร็จ นายบุญจง กล่าวว่า นายชัย ไม่ได้มีอำนาจยุบสภา อำนาจอยู่ที่นายกฯ ที่นายชัย พูดเช่นนั้น เข้าใจว่าเพราะสภาเกิดความวุ่นวายในขณะนั้น ก็เลยต้องการปราม และเมื่อวานนี้ นายชัย ออกมาพูดอีกว่า ไม่มีการยุบสภา ในการประชุมสภาร่วม ก็แสดงให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ขณะนี้ดีมาก
**ก.ตร."เทพ"ผ่านโผเล็ก 688 นาย
วันเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เวลา 09.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ร่วมกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จเรตำรวจ รอง ผ.ตร. และ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง
พล.ต.อ.พัชรวาท เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า เป็นการพิจารณาตำรวจระดับรอง ผบก.ลงไป จำนวน 688 นาย ที่ได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้ง ก็ผ่านที่ประชุมทุกตำแหน่ง แต่ ก.ตร.ก็มีการซักถามในบางตำแหน่งที่มีปัญหา เช่น เรื่องวุฒิการศึกษา การปรับเปลี่ยนตำแหน่ง การกำหนดหลักเกณฑ์โครงสร้างใหม่ แต่ทำงานในตำแหน่งเดิม แต่ก็สามารถชี้แจงได้ทุกตำแหน่ง ยืนยันว่าไม่มีเด็กเส้น เป็นการปรับเกลี่ยงลงในตำแหน่งระนาบเดียวกัน
ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.ยื่นร้องเรียนความไม่เป็นธรรมในการแต่งตั้ง รักษาราชการแทน ผบ.ตร.นั้น อยู่ในวาระอื่นที่ประชุม ก.ตร.ได้มอบหมายให้เลขาฯ ก.ตร.ไปพิจารณาข้อกฎหมายและมาเสนอในที่ประชุม ก.ตร.ครั้งต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงศ์ ผบช.ก.ตร. กล่าวถึงการประชุม ก.ตร.ว่า การพิจารณาเรื่องสำคัญใน ก.ตร.มีเรื่องที่ พล.ต.อ.ชลอ ชูวงศ์ ที่ปรึกษา (สบ 10) เสนอให้ตำแหน่งที่ปรึกษาเทียบเท่ารอง ผบ.ตร.สามารถเป็น ก.ตร.โดยตำแหน่งได้นั้นที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่าขัดกับ พ.ร.บ.ตำรวจ มาตรา 30(ข) ที่ระบุชัดเจนว่า รอง ผบ.ตร. และจเรตำรวจเท่านั้นที่เป็น ก.ตร.โดยตำแหน่งหากมี ก.ตร.โดยตำแหน่งเพิ่ม ก็ต้องมี ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มในอัตราที่เท่ากัน ตำแหน่งที่ปรึกษาเป็นตำแหน่งเฉพาะตัว เมื่อเกษียณราชการตำแหน่งก็หมดไปหน้าที่ไปด้วย
พล.ต.ท.อาจิณ กล่าวว่า สำหรับเรื่องการขออนุมัติยกเว้นคุณสมบัติตำรวจ 688 ตำแหน่งนั้น พบว่าเมื่อตรวจสอบแล้วเหลือเพียง 686 ตำแหน่งไม่มีกรณีพิเศษ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการกำหนดคุณสมบัติตำรวจที่จะดำรงตำแหน่งตามโครงสร้างใหม่ โดยส่วนใหญ่จะปฏิบัติหน้าที่นั้นเป็นเวลานานอยู่แล้ว เพียงขาดคุณสมบัติด้านวุฒิการศึกษา การอบรมหลักสูตร แต่การพิจารณาในครั้งนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท ก็ต้องการเพียงแค่ปรับเกลี่ยตำแหน่งตามโครงสร้างใหม่เท่านั้น ส่วนการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งก็จะนำไปพิจารณาในวาระประจำปี เนื่องจากมีปัญหาเรื่องข่าวการซื้อขายตำแหน่ง
ส่วนเรื่องการขออนุมัติขยายระยะเวลาการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ผบก.ในวาระประจำปีนั้น พล.ต.ท.อาจิณ กล่าวว่า ที่ประชุม ก.ตร.ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าควรขยายระยะเวลาเนื่องจากเดิมกำหนดให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 ส.ค. แต่ไม่ทันเนื่องจากมีการปรับโครงสร้างใหม่ ต้องรอแต่งตั้งโครงสร้างใหม่ให้เสร็จสิ้นก่อน จึงขยายเวลาพิจารณาการแต่งตั้งไปถึงวันที่ 30 ก.ย.ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายระดับรอง ผบก.ลงไป ก็ไม่น่าจะเกินกำหนดระยะเวลาเดิม 30 พ.ย.