xs
xsm
sm
md
lg

“เด็จพี่” ปูดอักษรย่อโกง มท. หวั่น ตท.10 ตบยุงเข็นร่วม กมธ.สอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์
โฆษกเพื่อไทยปูดนักการเมืองอักษรย่อเอี่ยวทุจริตโครงการไทยเข้มแข็งมหาดไทย จัดซื้อจัดจ้างสูงกว่าราคากลาง หวั่น ตท.10 นั่งตบยุงเรียกร้องให้ กมธ.อันเชิญเข้าร่วม คกก.สอบ อัด รบ.บริหารงาน 9 เดือน ถลุงงบประชาสัมพันธ์ เฉียด 3 พันล้าน เผยญาตินักการเมืองในทำเนียบ อักษรย่อ ท.รับงาน

วันนี้ (25 ต.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า คณะทำงานพรรคเพื่อไทย ที่ติดตามการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็ง และชุมชนพอเพียง ล่าสุดได้พบว่า กระทรวงมหาดไทย น่าจะมีการทุจริตที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ซึ่งมีการอนุมติงบประมาณลงพื้นที่แบบกระจุกตัวที่ จ.นครราชสีมา จ.ขอนแก่น จ.ร้อยเอ็ด จ.นครพนม และ จ.เลย ทั้งนี้ เพื่อเป้าหมายทางการเมือง โดยเฉพาะ จ.เลย มีการรับการอนุมัติงบตามแผนยุทธศาสตร์จังหวัด โดยไม่ผ่านคณะกรรมการกลั่นกรอง ซึ่งมีการอนุมัติไปทั้งหมด 66 โครงการ คิดเป็นเงิน 127 ล้านบาท โดยมีผู้รับเหมาก่อสร้างกว่า 20 รายไปขอยื่นในการสอบราคาของโครงการดังกล่าว ซึ่งพบว่าการก่อสร้างทุกโครงการได้ประมาณราคาไว้สูงเกินจริง และยินดีลดราคา โครงการละ 22 เปอร์เซ็นต์ ในการสอบราคาและประกวดราคา แต่สุดท้ายทางนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ได้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษและมีราคาสูงกว่าราคากลาง ซึ่งน่าจะเป็นการทุจริต

“การทุจริตครั้งนี้มีนักการเมือง ศ. อยู่เบื้องหลังอนุมัติงบประมาณแบบกระจุกตัว โดยได้มีการอนุมัติงบประมาณไปยังจังหวัดที่มีคนของพวกตัวเองอยู่ เป็นการอนุมัติงบแบบกระจุกตัวและมีเงื่อนงำ ขาดความโปร่งใส และนายก อบจ.เลยก็เป็นสมาชิกพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล” นายพร้อมพงศ์กล่าว

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังพบอีกว่าในยุคที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง เพื่อพิจารณาโครงการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ แต่เมื่อถึงยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ กลับไม่ได้ใช้กฎเกณฑ์ของคณะกรรมการกลั่นกรอง แต่มาใช้อำนาจประธานคณะกรรมการกระจายอำนาจ ซึ่งเป็นโดยตำแหน่ง โดยมีการอนุมัติโครงการต่างๆ ทิ้งทวนหลายพันล้าน ไปกระจุกตามจังหวัดต่างๆ ที่น่าจะมีคนของรัฐบาลอยู่ ซึ่งเป็นการน่าจะเอื้อประโยชน์แบบพายเรือให้โจรนั่ง

“คณะทำงานตรวจสอบการทุจริตของพรรคเพื่อไทยจะติดตามรวบรวมหลักฐานทั้งหมด และจะร้องตรวจสอบเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยจะเสนอให้พรรคเพื่อไทย และประธานกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 14 คณะ เข้าร่วมตรวจสอบ และเสนอให้มีการแต่งตั้ง ทหาร ตำรวจ จาก จปร.7 เตรียมทหาร รุ่น 9 และ 10 ที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย มาร่วมเป็นอนุกรรมการตรวจสอบทุจริตดังกล่าวด้วย เพราะนับวันการทุจริตของรัฐบาลขยายวงกว้างอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายและบาปกรรมน่าจะเป็นรัฐบาลฟาสฟู๊ดแบบกินด่วน” โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว

โฆษกพรรคเพื่อไทยแถลงว่า การบริหารประเทศของรัฐบาลในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลไม่มีนโยบายชัดเจนในการหารายได้ การกระจายทรัพยากรให้ประชาชน มีแต่ประชานิยม ลด แลก แจกแถม เอาเงินอนาคตมาใช้โดยการกู้สูงสุดในประวัติศาสตร์ จำนวน 8 แสนล้านบาท โดยเสียดอกเบี้ยปีละ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งรัฐบาลยังไม่มีนโยบายหรือแผนงานที่ชัดเจน

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า จากการตรวจสอบของคณะทำงานพรรคพบว่า ตลอด 9 เดือน หน่วยงานของรัฐบาลได้ใช้งบโฆษณากว่า 2,848 ล้านบาท ถ้าบริหารประเทศครบ 1 ปี ก็คงพุ่งสูงถึง 4 พันล้านบาท นับเป็นการใช้งบประชาสัมพันธ์สร้างภาพมากกว่าสร้างผลงาน โดยพบว่า สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กำกับดูแลอยู่ ได้ใช้งบมากที่สุด 734 ล้านบาท และที่น่าตกใจคือ นายสาทิตย์ อนุมัติงบประชาสัมพันธ์ 7 โครงการ ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา เป็นเงินถึง 141,890,000 บาท ซึ่งใช้วีจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ โดยให้เหตุผลว่า จำเป็นต้องเร่งดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ จึงทำให้ขาดความโปร่งใส

โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า อีกหนึ่งโครงการร้อนเมื่อเดือนกันยายน คือ นายสาทิตย์เพิ่งขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินเป็นจำนวนเงิน 49,922,800 บาท เพื่อจัดทำโครงการประชาสัมพันธ์แผนปฏิบัติการโครงการไทยเข้มแข็ง โดยอ้างความจำเป็นเร่งด่วนของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

“ซึ่งการจัดซื้อจัดจ้างวิธีพิเศษจำนวนหลายโครงการ ถือเป็นผลเสียทำให้น่าจะเกิดการทุจริตขึ้น เพราะมีบุคคลที่เป็นญาติสนิทของผู้มีอำนาจบางคนในทำเนียบรัฐบาล ที่มีชื่อย่อ ท. เข้ามาเกี่ยวข้องกับการรับงานทำธุรกิจรับจ้างงานประชาสัมพันธ์ ซึ่งทำให้ข้าราชการเกิดความอึดอัดและคับข้องใจกลัวจะถูกร้องเรียนและติดคุก สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์หาเงินไม่เก่ง แต่ใช้เงินเก่ง กู้ไป 8 แสนล้านบาท สร้างหนี้ให้กับประชาชนไปอีกหลายปี” นายพร้อมพงศ์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น