รมว.คมนาคม เรียกร้องให้พนักงาน ร.ฟ.ท.ไปเดินรถก่อนเปิดเจรจาข้อเรียกร้อง ลั่นใครผิดว่าก็ว่าไปตามผิด บอกอีก 2 วันได้ข้อยุติ ยันต้องปฏิรูป ชี้ปล่อยให้อยู่ตามยถากรรมมันก็เดือดร้อน ขีดเส้น 3 สัปดาห์ อ้างข้อเรียกร้องปลดผู้ว่าฯ เปลี่ยนไปแล้ว ชี้หากให้ปลดก็ต้องพบผิดจริงตามระเบียบเท่านั้น
วันนี้ (20 ต.ค.) ที่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการแก้ไขเกี่ยวกับการหยุดงานพร้อมกันของพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จนทำให้ไม่สามารถเดินรถสายใต้ให้กับที่ประชุม ครม.ทราบ โดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบ ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวก็เป็นไปตามที่ ครม.เศรษฐกิจ ได้ให้เวลา 3 สัปดาห์เพื่อนำข้อมูลปัญหาของ ร.ฟ.ท.เข้าไปหารือตั้งแต่เกิดเหตุการรถไฟตกรางที่สถานีเขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคิรีขันธ์ ที่มีการตั้งกรรมการขึ้นมา 4 ชุดขึ้นมาดูเรื่องคน สิทธิประโยชน์ เรื่องทรัพย์สิน กฎหมาย และเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนปัญหาที่มีการหยุดงานพร้อมกันนั้นเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมาตนไปดูแล้วที่จ.สุราษฎร์ธานีไม่มีปัญหา ขั้นตอนการจัดส่งผู้โดยสารไปยังภูมิลำเนาเรามีทั้งรถใหญ่รถเล็กรองรับทั้งไปส่งและรับมาขึ้นรถไฟที่สุราษฎร์ฯ ไม่มีปัญหา แต่จะมีปัญหาเรื่องความรู้สึกเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินความเสียหายที่หยุดเดินรถไป 4 วันจำนวนเท่าไหร่ นายโสภณกล่าวว่า ไม่ทราบเพราะไม่ประเมิน แต่หลังจากที่ตนไปที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไปดูหัวจักรที่จอดอยู่ก็มีทั้งใหม่สุด 12 ปี และเก่าที่สุด 50 ปีก็จอดอยู่ ส่วนการเดินรถของท้องถิ่นขณะนี้เราเดินได้แล้ว แต่เรื่องความปลอดภัยการเดินรถเป็นเรื่องของฝ่ายบ้านเมือง ที่จะต้องไปทำความเข้าใจกับผู้ที่ประท้วงเงียบ โดยการลาอย่างที่เห็น เชื่อว่าวันสองวันคงจะยุติ เพราะมีคนที่มีความประสงค์ไม่ว่าคนที่เกษียณไปแล้ว จะมาขับรถไฟให้ ในเรื่องระเบียบที่บอร์ดรฟท.มีมติว่า สามารถให้พนักงานที่มีความสามารถเป็นลูกจ้างเข้าขับรถไฟได้ แต่ต้องเป็นพนักงานขับรถเก่าหรือนักเรียนวิศวกรรมรถไฟ 170 คนที่ไม่ได้บรรจุเข้าทำงาน ซึ่งถ้าประท้วงกันอย่างนี้เราต้องหาคนอื่นมาขับ ส่วนเรื่องลงโทษพนักงานที่หยุดประท้วงนั้น เรามีนโยบายที่ประนีประนอมแต่ต้องเคารพกฎเกณฑ์ขององค์กร ซึ่งทุกวันนี้เราเด็ดขาดถึงบอกว่า ถ้าจะให้เจรจาก่อนเดินรถไม่ได้ เรื่องเจรจาเป็นเรื่องเจรจาแต่เรื่องการทำหน้าที่ต้องไปทำ ต้องไปขับรถอย่าเอาประชาชนมาต่อรองมันไม่ได้
เมื่อถามว่า แต่พนักงานเรียกร้องให้มีการปลดผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. นายโสภณกล่าวว่า วันนี้ข้อเรียกร้องมันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ถ้าผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ผิดสมควรปลด หากทำหน้าที่ที่ผิดระเบียบกฎหมาย สมควรปลดก็ต้องปลดไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าฯ หรือเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องรับผิดชอบตามระเบียบกฎหมายที่มีอยู่ ดังนั้นมันเป็นคนละเรื่องกัน เมื่อถามอีกว่า เป็นประเด็นการเมืองหรือไม่ นายโสภณกล่าวว่า ตนไม่ทราบแต่ก่อนหน้านี้ ร.ฟ.ท.บอบช้ำพอสมควร ทั้งภาพลักษณ์ทั้งสถานทางการเงินและวันนี้คนในองค์กรไม่ช่วยกันแล้ว ประชาชนเป็นเจ้าของรถไฟประชาชนทนไม่ได้แล้วเราจะอยู่อย่างไร เขาจ้างตนมาบริหาร จ้างพนักงานรถไฟมาจัดการแล้วปล่อยกันอย่างนี้คงไม่ไหว ส่วนใหญ่ต้องขอบคุณพนักงานที่เข้าใจเรื่องนี้ เพราะคนไม่กี่คน วันนี้คนที่ประท้วงเราก็ให้กลับมาทำงาน ใครทำผิดอะไรก็ว่ากันไป มันไม่ถึงโทษประหารชีวิตหรอก
“ถ้ายอมวันนี้บางสื่อเหมือนตำหนิเราว่าบริหารจัดการไม่ได้ ผมถึงบอกว่าวันนี้ทุกฝ่ายต้องเคารพกฎกติกา ปัญหารถไฟมันสะสมมานาน ผมขอเวลา 3 สัปดาห์จะเอาข้อมูลรถไฟทั้งหมดให้สังคมได้รู้ ที่จริงทำไปก่อนนี้แล้วก็มาเกิดเหตุอย่างนี้ อันนี้เหตุเกิดหลังจากที่เราตั้งคณะกรรมการขึ้นเอกซเรย์ยกเครื่องรถไฟขึ้นมา รถไฟอย่างไรก็ต้องปรับปรุง รัฐบาลไม่กล้าปรับปรุง ปล่อยให้อยู่ตามยถากรรมมันก็เดือดร้อนแต่ต้องปรับปรุงทั้งโครงสร้างและคนไปด้วย ซึ่งไม่ต้องกลัวว่าจะกระทบสิทธิแต่ต้องดูให้โปร่งใส” นายโสภณกล่าว