ระวัง แผนคนทรยศ-ล้มประชุมอาเซียน !!

"ผ่าประเด็นร้อน"

นาทีนี้แม้ว่าคนไทยไม่น้อยที่รู้สึกขัดหูขัดตากับท่าทีและพฤติกรรมของบางคนในรัฐบาล แค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อไปพิจารณาสถานการณ์บ้านเมืองก็ต้องหยุดอารมณ์ดังกล่าวเอาไว้ชั่วคราวก่อน

นาทีนี้ต้องร่วมใจกันปกป้อง และรวมใจต่อสู้กับคนทรยศที่กำลังทำร้ายชาติบ้านเมือง กำลังทำทุกทางเพื่อให้บ้านเมืองปั่นป่วนวุ่นวาย เพื่อนำไปสู่เป้าหมายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา (23-25 ต.ค.) ที่ชะอำ-หัวหิน จะมีผู้นำจากประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน ผู้นำมหาอำนาจ รวมไปถึงบรรดาสื่อมวลชนและคณะเจ้าหน้าที่จำนวนนับพันคนเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ในฐานะเป็นเจ้าของบ้านคนไทยน่าจะทำตัวเป็น “เจ้าภาพ” ที่ดีให้การขับสู้กับแขกทุกคนดุจดังเป็นคนพิเศษ เหมือนกับภาพในอดีตที่เลื่องลือในเรื่องการต้อนรับขับสู้

คำว่าสยามเมืองยิ้มย่อมพิสูจน์ความรู้สึกดังกล่าวได้ดี

อย่างไรก็ดีความรู้สึกดีต่อชาติบ้านเมืองในเวลานี้อาจเป็นข้อยกเว้นสำหรับคนบางคนที่ทรยศชาติ เพราะในจังหวะแบบนี้อาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับสร้างความปั่นป่วน ก่อความวุ่นวายประจานประเทศของตัวเองให้ชาวโลกได้รับรู้

หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าในช่วงเวลาตั้งแต่ต้นเดือนไปจนถึงเดือนหน้าจะเห็นตารางการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงที่ชุมนุมกันทั้งเดือนเริ่มตั้งแต่ “แดงทั้งเดือน” เรื่อยไป เป้าหมายก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าสร้างแรงกดดัน เร่งเครื่องกันทุกวิถีทาง

จะด้วย “นายใหญ่” กำลังจะจนมุมกำลังเดินเข้าสู่มุมอับ จึงต้องใช้พลังมวลชนที่ตนเองมีอยู่ในมือออกมาก่อกวนเพื่อต่อรอง

ซึ่งการเคลื่อนก็มีหลายรูปแบบหลายวิธีการ ไม่ว่าจะเป็นการอ้างในประเด็นพิทักษ์ประชาธิปไตยทวงคืนรัฐธรรมนูญปี 40 การทวงฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดมีการประกาศที่จะนำมวลชนไปแหย่ใกล้ที่ประชุมอาเซียน โดยคนที่พูดก็เป็นคนๆเดียวกับการนำคนเสื้อแดงไปพังการประชุมสุดยอดอาเซียนที่พัทยาเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาที่ชื่อ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ซึ่งผลจากการกระทำของคนกลุ่มได้สร้างความฉิบหายให้กับบ้านเมืองมาจนถึงวันนี้ ความเสียหายทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่น การท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นกลับมา ยังเยียวยากันไม่เสร็จ

แต่คนกลุ่มนี้ยังไม่เคยสำนึก คิดว่าพฤติกรรมที่ตัวเองก่อขึ้นมาเป็นความสำเร็จ หลงคิดว่าเป็นฮีโร่ และยังขู่ว่าจะยกขบวนไปป่วนอีกรอบ

อย่างไรก็ดีแม้ว่าจะประเมินได้ว่าเป็นแค่คำขู่ เพราะสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว อีกทั้งมีการเตรียมการรับมือในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างเต็มกำลัง มีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติความมั่นคงภายในราชอาณาจักรทั้งในพื้นที่จัดการประชุมและในกรุงเทพมหานครอย่างเข้มงวด ทำให้การเคลื่อนไหวลำบากมากขึ้นก็ตาม

และที่ผ่านมาการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องยังสร้างความรำคาญให้กับชาวบ้านทั่วไปมากขึ้น ทำให้กระแสเริ่มลดลงเรื่อยๆ

อย่างไรก็ดีแม้ว่ากระแสของเสื้อแดงทุกอย่างเริ่มเป็นลบ แต่ก็ไม่สมควรประมาทเป็นอันขาด เพราะการสร้างความวุ่นวายไม่จำเป็นต้องใช้คนจำนวนแสน แค่ไม่กี่พันคนหากจงใจที่จะสร้างสถานการณ์ให้ปั่นป่วนวุ่นวายก็ทำได้ไม่ยาก

ยิ่งมีกระแสของ “คนทรยศชาติ” ที่ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสลานนท์ ประธานองคนมนตรีและรัฐบุรุษออกมาส่งสัญญาณเตือนอย่างแรงก็ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นสองเท่า โดยเฉพาะในช่วงการประชุมอาเซียนนี่แหละที่อาจจะได้ใช้จังหวะเพื่อประจานรัฐบาล

แม้ว่าทำการอาจจะไม่สำเร็จ แต่การทำให้วุ่นวายจนรัฐบาลต้องเสียหน้ามันก็เป็นไปได้ไม่ใช่หรือ

ดังนั้นต้องไม่ประมาทกับแผนชั่วของคนทรยศชาติเป็นอันขาด !!