จับตา “มาร์ค” ถกผลกระทบเปิดประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์มือถือ 3 จี ลือหึ่ง! อาจผ่าน ครม.เศรษฐกิจยากเหมือนโครงการรถเมล์นรก “ภูมิใจห้อย”
วันนี้ (13 ต.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.เศรษฐกิจ วันพรุ่งนี้ (14 ต.ค.) จะมีการพิจารณานโยบายการพัฒนาระบบโทรศัพท์มือถือจี 3ของรัฐบาลว่าจะไปในทิศทางใด หลังจากที่ได้เสนอข้อสังเกตไปยังคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ใน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ การเปิดให้บริการโทรศัพท์มือถือ3จีของ กทช.อยากให้กทช.คำนึงถึงภาพรวมที่ครอบคลุมถึงบทบาทของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ด้วย เพราะไม่ต้องการให้เกิดความเหลื่อมล้ำ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาปัญหาธุรกิจโทรคมนาคมมีมาตลอด เพราะไทยมีการใช้ระบบสัมปทาน และดำเนินการเอง และต่อมาจะเปิดเสรีโทรคมนาคม ส่วนอีกประเด็นคือเรื่องการประเปิดประมูลใบอนุญาตโทรศัพท์มือถือ 3 จี นั้น ขณะนี้มีหลายฝ่ายทักท้วง ดังนั้นกทช. จะต้องชี้แจงให้ชัดเจนและกระจ่างในทุกประเด็น
“ผมมีความห่วงใยในเรื่องกาเปิดประมูลใบอนุญาต 3 จี ที่จะมีการแข่งขันกันเพื่อให้ได้ค่าตอบแทนที่สูงให้กับ กทช.หรือรัฐ นั้นจะเป็นการผลักภาระให้ประชาชนหรือไม่ รวมถึงจะต้องพิจารณาเรื่องการแข่งขันที่เป็นธรรม โดยไม่ทำให้เอกชนรายใหญ่และทุนต่างชาติได้เปรียบเสียเปรียบ ซึ่งก็หวังว่ากทช.จะมีคำอธิบายที่ชัดเจนในการตัดสินใจของ กทช.” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในการประชุม ครม.เศรษฐกิจ วันที่ 14 ต.ค.นี้ กระทรวงไอซีทีจะนำผลกระทบต่อทีโอทีและกสท จากการเปิดประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์มือถือ 3 จี ของ กทช.มาพิจารณาด้วย โดยทีโอทีแจ้งว่า หากบริษัท แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ประมูลได้ใบอนุญาต ก็จะทำให้เอไอเอสไม่ขยายการลงทุนในโครงข่ายเดิม แต่จะหันไปมุ่งเน้นการทำโครงข่าย 3 จีแทน ขณะที่สัญญาสัมปทานเอไอเอสเหลืออีก 6 ปี หรือสิ้นสุดในปี 2558 อีกทั้งเอไอเอสมีความพร้อมด้านการเงินมีผลต่อการทำการตลาดและถ่ายโอนลูกค้าจาก2จีไป3จีได้ง่าย ซึ่งเมื่อไม่มีการขยายการลงทุน มีการถ่ายโอนลูกค้า ก็จะส่งผลต่อการจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้ทีโอที ซึ่งจะมีผลต่อฐานะการเงินของทีโอที และมีผลต่อเนื่องการนำเงินส่งรัฐด้วย ซึ่งในปี 2551 ทีโอที ได้รับรายได้จากเอไอเอส 19,000 ล้านบาท และจากการวิเคราะห์ คาดการณ์ว่ารายได้จากส่วนแบ่งรายได้จะหายไป 50%
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ตั้งข้อสังเกตว่า โครงการ 3 จี ที่ทางกระทรวงไอซีทีเสนอ ครม.เศรษฐกิจ คงจะต้องมีการพิจารณาอย่างกว้างขวาง และหากจะให้ความเห็นชอบคงจะยาก เพราะเป็นโครงการที่ลงทุนด้วยงบประมาณสูง เช่นเดียวกับโครงการรถเมล์เอ็นจีวีที่กระทรวงคมนาคมเสนอ แต่จะมีการตัดงบประมาณอีกหรือไม่ต้องดูการพิจารณาในพรุ่งนี้ (14 ต.ค.)
