“ยะใส” ชี้เจงข้อสงสัยเลือกตั้งใหญ่พันธมิตรฯ ลั่นปีหน้ามีสมาชิกหลักแสนขึ้น เผยเหตุไม่ใช่คอมพ์ช่วยนับคะแนน กันข้อครหาไม่โปรงใส ส่วนที่ล่าช้าเพราะติดข้อบังคับพรรค ขณะที่ “สมศักดิ์” ระบุแม้เปิดตัวไม่หวือหวา แต่เน้นเป็นต้นแบบการเมืองใหม่ แย้มหากส่งผู้สมัครชิง ส.ส.ต้องมั่นใจ ไม่ชกแบบมวยวัด จี้กรรมการพรรคเร่งกรอกแบบฟอร์มยื่น กกต.
รายการ “ก้าวที่กล้าสู่การเมืองใหม่” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-21.30 น. วันที่ 10 ตุลาคม 2552 โดยมี นายประพันธ์ คูณมี เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายสมศักดิ์ โกศัยสุข รองหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ และนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ มาร่วมพูดคุยทำความเข้าใจในการประชุมใหญ่ที่ผ่านมา
นายสุริยะใสกล่าวถึงคำถามที่ประชาชนสงสัย ทำไมถึงไม่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยนับคะแนนว่า แต่เดิมได้เตรียมนำมาใช้แล้ว แต่พอทดลองใช้จริงแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงเกินไป และอาจถูกร้องเรียนเรื่องความโปร่งใส ว่าอาจมีการโปรแกรมพิเศษ เพื่อล็อกคะแนน ฉะนั้นเพื่อให้เกิดข้อครหาทีหลัง ก็เลยตกลงให้นับแบบเปิดเผย นายสมศักดิ์กล่าวเสริมว่า ความจริงแล้วการนับคะแนนโดยใช้คนนับ เวลาจะใกล้เคียงกัน แต่การประมวลผลจะแม่นยำกว่า ไม่เสี่ยง
หลายคนแซวว่าพรรคการเมืองใหม่ ประชาธิปไตยมากไปหรือเปล่า นายสมศักดิ์กล่าวว่า คนที่คุ้นเคยระบบเก่าๆ ก็อาจจะดูว่าประชาธิปไตยมากไป แต่ความจริงไม่ถือว่ามากไป นายสุริยะใส กล่าวเสริมว่า สาเหตุที่ทำให้การประชุมล่าช้า เพราะไปติดข้อบังคับการเลือกตั้ง ที่เราไปมัดตัวเองให้เลือกที่ละลำดับ และเป็นรายบุคคล คราวหน้าถ้าจัดประชุม สมมติว่า มีผู้เข้าร่วมประชุมสักสองหมื่นคน ประชุมเก้าโมงเช้า จะใช้เวลาไม่เกินหกโมงเย็นเสร็จ
นายสมศักดิ์กล่าวว่า กรรมการบริหารพรรค ต้องเตรียมทะเบียนบ้าน รูปถ่าย เหมือนกับตอนสมัครสมาชิกพรรค และต้องไปกรอกคำถามว่ามี ทรัพย์สินและหนี้สินอยู่เท่าไรบ้าง ตามแบบฟอร์มที่ กกต.กำหนด ตรงนี้หากไม่เข้าใจให้ติดต่อมาที่สำนักงานใหญ่ ซึ่งตนจะจัดเจ้าหน้าที่ไปให้บริการ ทั้งนี้หากหลักฐานสมบูรณ์ กกต.จะรับรองให้ไม่เกินภายใน 30 วัน
นายสุริยะใสกล่าวถึงแผนยุทธศาสตร์ของพรรค ตั้งใจจะจัดหลักสูตรอบรมเจ้าหน้าที่ของพรรคทุกระดับ ในเรื่องบัญชี งานมวลชน แต่จะต้องปรึกษากันก่อนว่าจะจัดโครงสร้างอย่างไร ตนในฐานะเลขาธิการ ก็มีข้อผู้มัดตัวเองพอสมควรที่กำหนด 1 ปีจะต้องหาสมาชิกให้ได้ 3 แสนขึ้น แต่ที่หนังสือพิมพ์ “มติชน” บอกว่า 10 ล้าน ตรงนี้ตนไม่ได้พูด เมื่อนักข่าวถามในอนาคตเป็นไปได้หรือไม่จะมีมวลชนถึง 10 ล้าน ซึ่งตนก็บอกว่าเป็นไปได้ เป็นแค่การคาดการณ์เท่านั้น อย่างไรก็ตามภายใน 1 ปีนี้ตนมั่นใจว่าจะมีสมาชิกอย่างน้อยก็หลักแสนขึ้น
มีพี่น้องพันธมิตรฯ สอบถามมาว่า บัตรสมาชิกที่ตกค้างจะได้เมื่อไร นายสุริยะใสกล่าวว่า กำลังให้เจ้าหน้าที่ทยอยส่ง EMS ไปให้ถึงบ้าน คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์คงได้รับ ส่วนคำถามที่ว่า ถ้าหากมี ส.ส. ของพรรคล้มหายตายจาก การเมืองใหม่จะส่งผู้สมัครซ่อมหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องดูความเห็นของมวลชนเป็นหลัก ว่าจะให้ส่งหรือไม่ เราจะไม่ชกแบบมวยวัด
นายสุริยะใสกล่าวว่า วันที่ 6 ที่ผ่านมาเป็นเปิดตัวพรรคกับสาธารณะอย่างเป็นทางการ หากเปรียบเป็นการสร้างบ้าน ก็อยู่ในขั้นวางศิลาฤกษ์อย่างเป็นทางการ สามารถเข้าอยู่ได้ อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวยังมีอีกหลายครั้ง เช่น ในการลงสมัครเลือกตั้งก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง ว่า จะมีสมาชิกเท่านี้ หรือจะมีคนสำคัญเข้ามา
นายสมศักดิ์กล่าวถึงคนที่ติงว่าการเปิดตัวพรรคการเมืองใหม่ไม่จ๊าบ ว่า การเปิดตัวพรรคการเมืองใหม่ จ๊าบไม่จ๊าบ ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือในอนาคตจะทำให้พรรคการเมืองใหม่ เป็นพรรคการเมืองต้นแบบ ทั้งจรรยาบรรณสมาชิก การมีส่วนร่วมของประชาชน ดังนั้นคำว่าจ๊าบ อาจเป็นในลักษณะวูบวาบดังแค่เดี๋ยวเดียว แต่ของเราเป็นแบบไฟลามทุ่ง ไม่หวือหวาแต่อยู่นาน
ทบทวนเลือกตั้ง 4 รอบ มีอะไรบ้าง
นายสุริยะใส กล่าวว่า วาระที่ 1 เลือกหัวหน้าพรรค ได้มีการเสนอเข้ามาเยอะมาก ซึ่งทั้ง ตน และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข ต่างก็ถูกเสนอ แต่ได้สละสิทธิถอนตัว นอกจากนี้ยังมีบุคคลอื่น ๆ อีกจำนวนมากที่ถูกเสนอเข้ามา แต่ติดตรงที่ยังไม่ได้สมัครสมาชิก ทำให้ท้ายที่สุดก็เหลือ นายสนธิ ลิ้มทองกุล คนเดียว อย่างไรก็ตามแม้จะเหลือคนเดียว ก็ต้องเข้าคูหา เลือกว่าจะรับรองหรือไม่รับรอง ซึ่งในที่สุดสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่ลงความเห็นรับรองให้ นายสนธิ เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยในตอนนี้จะยังคงเป็นเพียงรักษาการหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ไปจนกว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งจะรับรอง
ส่วนวาระที่ 2 เป็นการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารจำนวน 24 คน โดยนายสนธิ มีสิทธิ์เสนอได้ 12 คน จากนั้นก็ให้ที่ประชุมโหวต อีกว่าจะรับรองหรือไม่ ในที่สุดก็ได้ 1. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข เป็นรองหัวหน้าพรรค 2.นายสุริยะใส กตะศิลา เป็นเลขาธิการพรรค 3.พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ เป็นเหรัญญิกพรรค 4.นายบรรจง นะแส เป็นกรรมการบริหารพรรค 5.นายประพันธ์ คูณมี เป็นกรรมการบริหารพรรค 6.นายสุทธิ อัฌชาศัย เป็นกรรมการบริหารพรรค 7.นายชาลี ลอยสูง เป็นกรรมการบริหารพรรค 8.นายชุมพล สังข์ทอง เป็นนายทะเบียนพรรค 9.นางสาวอาภารัตน์ ชาติชุติกำจร เป็นกรรมการบริหารพรรค10.นายสำราญ รอดเพชร เป็นโฆษกพรรค 11.นายศรัณยู วงศ์กระจ่าง เป็นรองเลขาธิการพรรค 12.นางกิมอัง พงษ์นารายณ์ เป็นกรรมการบริหารพรรค
วาระที่ 3 เป็นการเลือกกรรมการบริหารพรรคอีก 12 รายที่ได้รับการเสนอจากสมาชิกมี 1.นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก 2.พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ 3.นายเทิดภูมิ ใจดี 4.พล.อ.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ 5.นางลักขณา ดิษยะศริน ตะเวทิกุล 6.นางเสน่ห์ หงส์ทอง 7.นายอมรเทพ อมรรัตนานนท์ 8.นายพิชิต ไชยมงคล 9.นายธัญญา ชุนชฎาธาร 10.นางทัศนีย์ บุญประสิทธิ์ 11.นายสราวุธ นิยมทรัพย์ 12.นายรังษี ศุภชัยสาคร
วาระที่ 4 คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายสุริยะใสกล่าวว่า คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร มีหน้าที่วางกฎเกณฑ์ในการคัดเลือกคน โดยจะเสนอเป็นชุด ชุดละ 11 คน ประกอบด้วย 1.นายสนธิ ลิ้มทองกุล 2.นายสมศักดิ์ โกศัยสุข 3.นายสุริยะใส กตะศิลา 4.นายประพันธ์ คูณมี 5.นายสำราญ รอดเพชร 6.นายเทิดภูมิ ใจดี 7.พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ 8.พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ 9.นายบรรจง นะแส 10.นายสุทธิ อัฌชาศัย และ 11.นายชาลี ลอยสูง
ส่วนชุดที่ 2 คณะกรรมการนโยบายพรรค ทำหน้าที่กลั่นกลองร่างนโยบาย ประกอบด้วย 1.นายสมศักดิ์ โกศัยสุข 2.นายทศพล แก้วทิมา 3.พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ 4.นางเสน่ห์ หงส์ทอง 5.นางกิมอัง พงษ์นารายณ์ 6.นพ.เกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา 7.นายบรรจง นะแส 8.นายสุทิน ธราธิน 9.นายกิจ พระอธิบดี 10.นายประพันธ์ คูณมี และนายสุริยะใส กตะศิลา
และชุดที่ 3 คณะกรรมการส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในพรรค ได้แก่ 1.นายสุริยะใส กตะศิลา 2.นายสุทิน 3.นายพิชิต ไชยมงคล 4.นายอมรเทพ อมรรัตนานนท์ 5.นายดนุช ตันเทิดทิตย์ 6.และนายไพโรจน์ ลิมป์ธนวงศ์ 7.นายสมาน ท่อทิพย์ 8.นายธัญญา ชุนชฎาธาร9.วิชาญ สุวรรณนาพาณิชย์ 10.พ.อ.ไพโรจน์ นิยมพันธ์ และ11.นพ.ระวี มาศฉมาดล
หลังจากนั้น เป็นการประชุมแก้ไขข้อบังคับพรรค ในประเด็นสำคัญมี 1.ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ แต่เดิมอยู่ในพื้นที่ที่หายากพอควร ได้แก้ไขมาใช้ที่อยู่ใหม่ คือ บ้านเลขที่ 457 ถ.พระสุเมรุ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 2. การเปลี่ยนแปลงโลโก้พรรค รอบนอกให้กลมมนขึ้น 3.แก้ไขวิธีการรับสมาชิก จากเดิมให้มาสมัครที่สำนักงานใหญ่ แก้เป็นสมัครได้ที่สาขาพรรคทุกแห่ง