“สนธิ” เอือมรัฐบาล ปชป.มัวท่องคาถาเจรจา แต่กลับปล่อยเขมรรุกพื้นที่ 4.6 ตร.กม.จนทำให้ไทยเสียดินแดน เตือนระวัง ปชช.ทนไม่ไหว ชายแดนลุกเป็นไฟ เชื่อ คนใน รบ.มีเอี่ยว ผลประโยชน์ทางทะเล สานต่อยุค “แม้ว” จับพิรุธ “เทพเทือก” แอบพบ “ฮอร์ นัมฮง” ที่ฮ่องกง ลั่นไม่หวั่นโดนศาลพิพากษาจำคุก หากติดจนตายแล้วภาค ปชช.เข้มแข็ง ไล่คนโกงสำเร็จ ระบบศาลเป็นที่พึ่งได้ ก็ยอม พร้อมเชิญชวนพี่น้องพันธมิตรฯ ร่วมรำลึกความเสียสละและสานต่ออุดมการณ์วีรชน 7 ตุลาฯ
คลิกที่นี่เพื่อฟัง รายการ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" คุยกับ สนธิ ลิ้มทองกุล
คืนวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เป็นแขกพิเศษในรายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ทางเอเอสทีวี โดยได้เล่าถึงการเดินทางไปพบปะพี่น้องคนไทยในประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วงปลายเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ซึ่ง นายสนธิ บอกว่า ที่ต้องเดินทางไป เพราะรู้ว่าพี่น้องในสหรัฐฯ รู้สึกเป็นห่วง และกังวลกรณีที่ตนถูกลอบยิงด้วยอาวุธสงคราม เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เมื่อตนเริ่มหายดีแล้ว ก็อยากจะเจอตัวจริง ตนจึงต้องเดินทางไปเพื่อเล่าเรื่องราวๆ ต่างๆ ให้ฟัง
นอกจากนั้น ได้พูดกับคนไทยในสหรัฐฯเรื่องการเสียดินแดนให้กัมพูชา บริเวณเขาพระวิหาร ซึ่งเกิดจากการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์การสัมปทานในพื้นที่ทางทะเลในอ่าวไทย ระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี กับ นายฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา ซึ่งเริ่มมีการเจรจากันตั้งแต่ปี 2546 แต่ยังไม่สำเร็จ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ถูกขับไล่ออกไปก่อน และมาสานต่อในรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช ในปี 2551 โดยการจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา ซึ่ง นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศขณะนั้น ได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมสนับสนุน เท่ากับยอมรับว่า พื้นที่ 4.6 ตร.กม.เป็นของกัมพูชาด้วย โดยนายสมัครเองก็หลุดปากออกมาว่าต้องช่วยหาเสียงให้นายฮุนเซนได้รับเลือกตั้ง
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ในเวลาต่อมาศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญได้พิพากษาว่าเป็นการกระทำที่ผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 แต่ก็ยังไม่มีการยกเลิกแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว โดย นายเตช บุนนาค อดีต รมว.ต่างประเทศ อ้างว่า ได้แจ้งกัมพูชาแล้วว่าแถลงการณ์นี้ไม่ใช่สนธิสัญญาจึงไม่มีผลใดๆ ขณะที่ทางฝ่ายกัมพูชาตอบกลับมาว่า จะเรียกว่าอะไรก็ช่าง แต่มันมีผลแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลแทนที่จะยกเลิกแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว ก็ไม่ยอมประกาศยกเลิก อ้างแค่ว่า มันไม่มีผลเท่านั้น แม้แต่ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่เคยขึ้นเวทีพันธมิตรฯ เรียกร้องให้ยกเลิกแถลงการณ์ร่วม แต่เมื่อตัวเองได้เป็นรัฐมนตรีแล้ว กลับไม่ประกาศยกเลิก
นายสนธิ กล่าวอีกว่า การเสียดินแดนให้กัมพูชานั้น รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนเปิดประตูไว้ และรัฐบาลประชาธิปัตย์จะทำให้เกิดการเสียดินแดนโดยสมบูรณ์แบบ ทั้งนี้ เชื่อว่า การประกาศยกเลิกแถลงการณ์ร่วมนั้น อาจจะกระทบกับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก และส่งผลต่อข้อตกลงที่เคยทำไว้ในสมัยรัฐบาลทักษิณ และรัฐบาลนี้มาสานต่อ โดยมีประเด็นที่น่าสงสัยคือ เหตุใดจึงให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงไปคุยกับเขมรเรื่องพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย และมีการแอบไปพบกับ นายฮอร์ นัมฮง รมว.ต่างประเทศกัมพูชา ที่ รร.เพนนินซูลา ฮ่องกง ทำไมเรื่องที่สำคัญอย่างนี้ จึงไม่พบกันอย่างเปิดเผย และเปิดให้ผู้สื่อข่าวซักถาม
นายสนธิ ย้ำว่า รัฐบาลนี้ โดยเฉพาะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มัวแต่ท่องนะโมว่า ต้องใช้การเจรจา และไทยยังไม่เสียดินแดน โดยอ้างว่าต้องยึดหลักสันปันน้ำ แต่ในข้อเท็จจริงเขมรเขาไม่ยึดสันปันน้ำ และเข้ามาตั้งวัด ตั้งชุมชนเต็มพื้นที่ 4.6 ตร.กม.แล้ว ซึ่งถ้ายังมัวแต่ท่องนะโมแบบนี้ ไทยก็จะเสียพื้นที่ตรงนี้ในที่สุด อย่าลืมว่าเขมรรุกเราเข้ามามากแล้ว ซ้ำนายฮุนเซนยังข่มขู่เรา ราวกับเราเป็นตัวตลก ขณะเดียวกันก็มีนักการเมืองที่ชั่วเลวทรามบางคนไปจัดตั้งคนที่ศรีสะเกษให้มาตีพันธมิตรฯ ที่ไปประกาศเจตนารมณ์ทวงคืนอธิปไตย
นายสนธิ กล่าวต่อว่า กรณีที่ นายฮุนเซน ขู่จะยิงคนไทย แล้ว นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม รวมทั้ง ผบ.ทบ.ของไทย ยังเฉยถือว่า เป็นการประมาทเกินไป สักวันหนึ่งจะเป็นไฟลามทุ่ง เมื่อประชาชนทุกภาคส่วนทนไม่ได้ แล้วรวมตัวกันบุกไปที่เขาพระวิหารเอง จะคุมไม่อยู่ แล้วบ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ อย่าลืมว่า พรรคประชาธิปัตย์ มักทำให้ประเทศเราเสียที่ดินเสมอ เริ่มตั้งเต่ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นทนายว่าความคดีเขาพระวิหาร มาถึงกรณีที่ดิน ส.ป.ก.4-01, กรณี ปรส.ในสมัย นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ เป็น รมว.คลัง ที่ยกทรัพย์สินคนไทยให้ฝรั่งมารีดไถฟรีๆ และล่าสุด คือ กรณีเขาพระวิหาร
**ลั่นยอมตายในคุก ขจัดนักการเมืองชั่ว
นายสนธิ ได้กล่าวถึงคดีความล่าสุดที่ถูก นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ ฟ้องหมิ่นประมาท และศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ ของคนที่เป็นคนนำในการจุดเทียน คนที่จุดเป็นคนแรกจะต้องยอมเจ็บ ถ้าจะปกป้องเทียนไม่ให้ดับเพื่อให้คนอื่นๆ มาจุดต่อๆ กันไป โดยเฉพาะการเริ่มจุดเทียนในยุคระบอบทักษิณมีอำนาจ ตนในฐานคนจุดคนแรกต้องเจอทุกอย่าง ทั้งอำนาจรัฐ ตำรวจ อัยการ ล่าสุดก็ถูกยิงกว่า 200 นัด และผลคดีความก็ออกมา
นายสนธิ กล่าวต่อว่า เมื่อมีคดีแล้ว ตนมีทางเลือก 2 ทาง คือ เจรจายอมความกันเหมือนปกติทั่วไป หรือ สู้ต่อ แต่สำหรับตนอยู่ในฐานะที่เจรจาไม่ได้แล้ว เพราถ้าเจรจายอมความเลิกแล้วกันไป กระบวนการประชาชนจะล้มทันที และเท่ากับว่า ตนเป็นของปลอม เราไปยอมความไม่ได้ เพราะเรามั่นใจว่าที่เราพูดนั้นถูก ตนสู้ด้วยมือเปล่า มีแต่ปาก ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามเอาอาวุธจริงมาเล่น เอากฎหมายมาเล่น จะสังเกตได้ว่า ฝ่ายตรงข้ามต้องการเล่นงานตนคนเดียว คิดว่าถ้าล้มนายสนธิได้ทุกอย่างจะจบ ยิ่งขณะนี้มีปัจจัยใหม่ขึ้นมา คือ การมีพรรคการเมืองใหม่ พวกพรรคการเมืองเก่า รวมถึงพรรคการเมืองที่อยู่ในกระบวนการลอบสังหารตนนั้น ต้องการฆ่าตนให้ตาย เพราะถ้าปล่อยให้แกนนำเติบโต ภาคประชาชนก็จะเติบโตแล้วนักการเมืองชาติชั่วเลวทรามพวกนี้ก็จะหลอกประชาชนไม่ได้
นายสนธิ กล่าวอีกว่า ในการนำทัพนั้น ถ้าจะให้ทหารเกิดความฮึกเหิม แม่ทัพต้องนำทัพด้วยตัวเอง ถูกหอก ถูกธนู ก็ต้องอึด หักธนูทิ้ง ชูดาบนำทัพด้วยจิตใจที่มั่นคง ถึงแม้ตนต้องลำบากในการทำเอเอสทีวีต่อไป แต่ก็ทำด้วยเงินบริสุทธิ์จากประชาชนที่มีอุดมการณ์บริสุทธิ์ ต่างจากบางคนที่หาเงินมาทำสื่อได้ง่ายเพราะมีเงินจากการโกงมา
นายสนธิ ย้ำอีกว่า เรื่องคดีต่างๆ ให้ศาลตัดสินมาเลย ตนพร้อมจะตายในคุก ถ้ามันสามารถทำให้ภาคประชาชนเข้มแข็งได้ ทำให้ระบบยุติธรรมสามารถพึ่งได้ และไล่พวกนักการเมืองเลวออกไปได้ ก็คุ้มแล้ว ถึงแม้ตนจะถูกลงโทษจำคุกจากคดีหมิ่นประมาทนายนพดล แต่นักการเมืองทำเสียหายในคดีหวยบนดินหลายหมื่นล้าน แค่รอลงอาญา ก็ไม่เป็นไร ชีวิตของตนถ้าจะแลกด้วยการรื้อระบบยุติธรรมก็ยอม กระสุน 200 กว่านัดก็เคยผ่านมาแล้ว เรื่องแค่นี้จะไปหวั่นไหวอะไร
นายสนธิกล่าวถึงนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยว่า ไม่ใช่คนกล้าแต่อย่างใด ที่กล้าไปศาล ก็เพราะรู้ข้อสอบล่วงหน้า และถ้ากล้าจริงต้องไม่ร่วมมือกับ พ.ต.ท.ทักษิณแต่แรก ต้องกล้าบอก พ.ต.ท.ทักษิณว่าการนั่งทำพิธีในวัดพระแก้วนั้นไม่ถูกต้อง และต้องไม่ให้มีการประชุม ครม.บนปราสาทพนมรุ้ง แต่นายเนวินกลับเป็นคนจัดให้เสียเอง นายเนวินออกมาจากกลุ่ม พ.ต.ท.ทักษิณโดยอ้างว่า เพราะไม่เคารพสถาบัน ถือว่าความรู้สึกช้า เพราะอยู่ด้วยกันมา 8 ปี เพิ่งรู้สึกตอนที่มีทหารไปบอกว่าให้ถอนตัวออกมา เพื่อมาร่วมรัฐบาลกับประชาธิปัตย์แล้วจะได้ตำแหน่งในกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม คนแบบนี้ไม่ถือว่ากล้าหาญ แต่เรียกว่าเนรคุณต่างหาก
“ผมสงสารคนพวกนี้ที่ตกอยู่ในราคะ กิเลส หมกมุ่นในทุกอย่าง อยากโกง อยากทำโครงการ 2 หมื่นล้านแล้วเพิ่มงบเป็น 3 หมื่นล้าน แล้วกินส่วนต่าง 8 พันล้าน เพื่อให้ตัวเองมีเงินแล้วเอาไปซื้อประชาชนให้เลือกตัวเองเข้ามาอีก คนพวกนี้นึกว่าเท่ แต่นี่คือการทำบาปกรรมหาศาล นี่คือวิถีของคนชั่ว เปรตนรก อเวจี ผมทำแบบนี้ไม่ได้
“ผมยังไม่เห็นพรรคการเมือง หรือนักการเมือง จากพรรคร่วมรัฐบาลคนไหน ไม่ว่านายบรรหาร ศิลปอาชา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ จะออกมาต่อสู้เพื่อทวงคืนดินแดนประเทศ เห็นอยู่อย่างเดียว ขยันแก้รัฐรัฐธรรมนูญเพื่อตัวเอง นักการเมืองพวกนี้ ไม่ใช่แค่เน่าอย่างเดียว แต่มันเป็นอันตรายต่อประเทศชาติ มันต้องหายสาบสูญไป ถ้าผมตายไปแล้วคนพวกนี้ หายสาบสูญไปมันก็คุ้ม”นายสนธิกล่าว
นายสนธิ กล่าวถึงงานรำลึกเหตุการณ์ 7 ตุลาคม ซึ่งจะจัดขึ้นที่ลานพระบรมรูปทรงม้าในตอนเช้าและที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในตอนเย็นว่า วันที่ 7 ตุลาฯ เป็นวันสำคัญที่สุด ไม่ใช่วันที่จะมาแสดงความสนุกสนาน แต่เป็นวันที่จะรำลึกถึงผู้เสียสละในเหตุการณ์วันนี้ การที่ตนถูกตัดสินจำคุกคดีละ 2 ปี 3 ปี เมื่อนึกถึง “น้องโบว์” หรือ “สารวัตรจ๊าบ”ที่เสียชีวิตแล้ว นึกถึง “ตี๋ ชิงชัย” ที่สูญเสียมือ “เจ๊ก ชุมพร”ที่เสียขา และคนอื่นๆ ที่เสียสละชีวิตและอวัยวะระหว่างการต่อสู้แล้ว ยังรู้สึกว่าคนเหล่านี้เสียสละกว่าตนมากมาย
"วันที่ 7 ตุลาคม เป็นวันที่ระลึกถึงการที่ประชาชนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่ลุกฮือขึ้นมา เพื่อต่อสู้กับสิ่งที่ชั่วร้าย และเป็นการลุกฮือกันทั่วประเทศไทย 7 ตุลาคม เป็นบาดแผลที่ลงไปในใจคนหลายฝ่าย ฝ่ายตำรวจก็เป็นบาดแผลที่รักษาไม่มีวันหาย ฝ่ายทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณอนุพงษ์ เผ่าจินดา คุณประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็เป็นบาดแผลที่ตัวเองอาจจะไม่ยอมรับ แต่ลึกๆ เมื่อตัวเองใกล้วันตาย ตัวเองจะเริ่มรู้สึกเสียใจกับมัน เพราะมันเป็นตราบาป
"ตราบาปของพวกเขา 7 ตุลาฯ ก็เป็นบาดแผลของพวกเรา แต่เป็นบาดแผลที่ให้ระลึกถึงการเสียสละ ของเรากับเขาไม่เหมือนกันนะ ของพวกเขาเป็นบาดแผลที่ฝังอยู่ในใจแล้วทำให้เขานอนไม่หลับ ของเรานี่เป็นบาดแผลที่ทำให้ระลึกถึงการเสียสละ แล้วสร้างพลังขึ้นมา ว่าเขาต้องไม่ตายไปอย่างสูญเปล่า เรามีหน้าที่เอาอุดมการณ์ของเขาเดินหน้าต่อไป"
นายสนธิ กล่าวอีกว่า ประชาชนที่ได้ร่วมต่อสู้ในเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ มีอุดมการณ์บริสุทธิ์ เสียสละ พร้อมเปิดเผยตัว และกล้าหาญ เป็นอุดมการณ์จะคงอยู่ตลอด เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ตนก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพราะภาคประชาชนเติบโตมาขนาดนี้แล้ว ต้องยอมตายเพื่อประชาชน เจ๊งเพื่อประชาชน ไม่มีสิทธิ์พูดเรื่องส่วนตัวอีกแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างต้องทำเพื่อประชาชน และเปลี่ยนแปลงสังคมให้ได้
“เพราะฉะนั้นแล้ว 7 ตุลาฯ พ่อแม่พี่น้องจึงมีความจำเป็นที่จะต้องออกมาแสดง ยิ่งออกมาแสดงพลังระลึกถึง 7 ตุลาฯ มากได้เท่าไร ยิ่งเป็นบทพิสูจน์ให้ฝ่ายชั่วช้า ฝ่ายอธรรม ได้เห็นว่ายังมีพลังของธรรมที่ยิ่งใหญ่ ที่พร้อมที่จะค้ำจุนสังคมไทย ที่พร้อมจะเป็นฐานสำคัญให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สถาบันกษัตริย์ ที่พร้อมจะมาสร้างการเมืองใหม่ให้คนไทยได้อยู่ดีกินดี ให้มีหลักนิติรัฐจริงๆ ไม่ต้องใช้เงิน ที่พร้อมที่จะขจัดการคอร์รัปชั่น”นายสนธิกล่าว
คำต่อคำ “สนธิ ลิ้มทองกุล”
ในรายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ออกอากาศทางเอเอสทีวี เวลา 20.30-22.00 น. วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม 2552 “จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ” ดำเนินรายการ
จินดารัตน์ - สวัสดีค่ะคุณผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนะคะ วันนี้เราเปิดรายการกันด้วยเพลง "เก็บไว้ในความทรงจำ 2" เนื้อร้อง/ทำนอง โดยพี่ตั้ว-ศรัณยู และดนตรีโดยพี่สมิธ เราได้ยินได้ฟังเพลงนี้อาจจะเป็นวันแรกๆ และภาพที่ตัดต่อมาให้คุณผู้ชมดูนั้น แอนเชื่อว่าหลายคนดูแล้วยังอดน้ำตาไหลไม่ได้ เราจะเก็บเอาไว้ในความทรงจำ และเราจะไม่ให้สูญเปล่านะคะ เดี๋ยวกำหนดการงานวันที่ 7 ตุลาคม เราจะร่วมรำลึกถึงผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทั้งหมดที่มาร่วมเรียกร้องความยุติธรรม เรียกร้องสิ่งที่ถูกต้อง เรียกร้องการเมืองใหม่ให้กับบ้านเมืองของเรา เราจะร่วมกันตั้งแต่เช้าตรู่วันที่ 7 เลยทีเดียว
ก่อนที่จะไปดูกำหนดการต่างๆ แอนจะเล่าข่าวให้ฟังสัก 1-2 ข่าว
เมื่อวานนี้มีเสียงออกมาเล่าให้ฟังบอกว่า คุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟนอินพูดคุยกับคนขอนแก่น ซึ่งมาร่วมรับฟังการปราศรัยในเวทีของพรรคเพื่อไทย ในวันนี้ เขาลงพื้นที่กัน ปรากฏว่าคุณทักษิณพูดว่า หากการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.เกินกึ่งหนึ่ง ตัวเองจะเดินทางกลับประเทศไทยทันที แล้วจะมาแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับประชาชน โดยเฉพาะปัญหาหนี้สิน แล้วยืนยันด้วยนะคะว่าตัวเองสบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้ ไม่ได้ป่วยอย่างที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ จริงๆ แล้วไม่มีใครว่าคุณทักษิณป่วยนะคะ มีแต่คนบอกว่า คุณทักษิณเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ไม่ได้ป่วยเป็นไข้นะคะอย่าเข้าใจผิด เพราะฉะนั้นคุณทักษิณตอบไม่ตรงคำถาม อย่างนี้ต้องจัดรายการถามอย่างตอบอย่าง เราก็ฟังกันไป ก็บ้าคลั่งโฟนอินเข้ามาทุกงาน ทุก อบต. ทุก อบจ. หมู่บ้านไหนจัดงาน แม้กระทั่งบ้านไหนมีคนเกิน 5 คน ถ้าโฟนอินได้คงจะโฟนอิน ได้แต่เวทนาสงสารคนที่อยู่เมืองนอกเมืองนา แผ่นดินเกิดก็ยังอยู่ไม่ได้ จริงๆ ถ้าจะกลับมาไม่มีใครห้าม คุณทักษิณกลับมาได้เลย ทุกคนอ้าแขนรอรับอยู่ โดยเฉพาะเสื้อแดงต้องดีใจน้ำตาไหลแน่ๆ เพราะอย่างน้อยที่สุดเขาจะได้ไม่เห็นภาพบาดใจ ไปนั่งให้ผู้หญิงนวดเท้า ตัดเล็บเท้า ตัดผมให้ นวดไหล่ให้อย่างสบาย แต่เสื้อแดงตากฝนทุกงวด มาดูได้เลยนะคะ มาทีไรห่าฝนมาทุกทีค่ะ แหมช่างประจวบเหมาะกันจริงๆ ก็ว่ากันไปทำฝนเทียมหรือเปล่า บ้าหรือเปล่าทำฝนเทียมระบุพื้นที่ได้ขนาดนั้น แล้วตกเฉพาะวงสีแดงเท่านั้น ตกทีไรทำเอาคนฝั่งธนฯ มาฝั่งกรุงเทพฯ ไม่ได้ทุกที วันหลังถ้าจะมาช่วยกรุณาหาคนบริสุทธิ์จริงๆ ไปปักตะไคร้ซะหน่อย ทำเหมือนที่พันธมิตรฯ ทำกัน ตกแป๊บๆ แล้วหยุด ตกแป๊บๆ ให้หายร้อนแล้วหยุด เอาอย่างนั้นดีกว่า หรือถ้าอยากรู้วิชาเหล่านี้มาถามได้ ถามน้องเรย์ได้ น้องเรย์ฝีมือปักตะไคร้อย่างนี้เลยค่ะ แต่จะให้ยืมตัวหรือเปล่านี่ไม่แน่ใจนะคะ
เอาล่ะค่ะ มาดูอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องของคนไม่สำนึกชื่อ นพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ออกมาแถลงการณ์ตอบโต้ที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่านนายกรัฐมนตรีได้ตอบกระทู้ในสภาฯ ที่คุณอภิสิทธิ์บอกว่าปัญหาตามแนวชายแดน บริเวณปราสาทพระวิหาร เกิดจากสมัยรัฐบาล คุณสมัคร สุนทรเวช แล้วคุณนพดลเองก็ไปลงนามคำแถลงการณ์ร่วม นพดลบอกว่า ขอปฏิเสธโดยสิ้นเชิง เขาบอกว่าจริงๆ แล้วปัญหามันเกิดมาจากคน 2 กลุ่ม คนไทย 2 กลุ่ม คือกลุ่มหนึ่งต้องการล้มรัฐบาลคุณสมัครและตัวเอง จึงทำเรื่องเขตแดนให้กลายเป็นเรื่องการเมือง จุดกระแสคลั่งชาติ โดยบิดเบือนข้อมูลทำลายกันทางการเมือง กลุ่มที่ 2 ก็คือกลุ่มพันธมิตรฯ และนักการเมือง ที่คุณอภิสิทธิ์รู้ดี เพราะเมื่อคนของกลุ่มพันธมิตรฯ เดินทางเข้าไปในพื้นที่ ทำให้เขมรโมโห สั่งเพิ่มกำลังทหารเข้ามาในพื้นที่ทับซ้อน นี่คือสาเหตุความตึงเครียด ทั้งที่รัฐบาลสมัครต้องการแก้ปัญหาโดยการเจรจา ที่ผ่านมาเขาบอกว่ารัฐบาลคุณสมัครและตัวเอง ได้ทำการเจรจาให้กัมพูชาตัดพื้นที่ทับซ้อนออกไป ไม่ให้นำขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ก็ทำจนสำเร็จแล้วนะ จนกัมพูชายอมขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหาร เฉพาะตัวปราสาท แต่เลยกลายเป็นว่าพันธมิตรฯ ทำให้เป็นเรื่อง ดู ดู๊ ดู ดูมันทำ พี่น้อง ดูเอาก็แล้วกัน
แต่วันนี้ เดี๋ยวก็จะได้ฟังนะคะ ผู้รู้อีกคนหนึ่ง ผู้รู้ท่านนี้นะจริงๆ อยากจะให้เชิญไปออกรายการช่องฟรีทีวีเสียบ้างนะคะ คนไทยจะได้หูตาสว่าง จะได้ไม่มีใครมาว่าพวกเราว่าคลั่งชาติกันอีก ใจรักชาติมันควรจะมี พี่น้อง แม้กระทั่งทหารเอง อย่าให้พูดเลยนะคะ หลายคนเขาปรามาสกันเหลือเกินว่าปล่อยให้ฮุน เซน ออกมาเหยียบหน้าขนาดนี้ ทำอะไรกันอยู่ ตีกอล์ฟ กินไวน์หรืออย่างไร คุณอย่ากินเงินเดือนประชาชนอีกต่อไปเลย ถ้าทำอะไรไม่เป็นแล้ว แต่มีทหารบางคนนะคะ ยังมีอีกส่วนหนึ่งเลยล่ะที่บอกว่า เขาเกือบจะทนไม่ไหวแล้วนะ นี่มันเป็นการเหยียบจมูกกัน แต่ ผบ.ไม่สั่งเขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร กัดฟันกรอดๆๆ เลยนะคะ อย่าหลงเข้ามานะ ตบกบาลขี้หูไหลเลย บอกอย่างนี้ เขาพูดอย่างนี้นะคะ
ถ้าเป็นเมื่อก่อนแล้วล่ะก็ เขาไม่อยากจะคุย เขาบอก กองทัพแค่ไปส่งไปที่เสียมเรียบครึ่งชั่วโมง ราบเป็นหน้ากลอง จะเอาอย่างนั้นไหม แม้แต่พี่โสภณ องค์การณ์ เองก็บอกว่า เอาอย่างนี้สินักข่าวไทย ฮุน เซน มาประชุมอาเซียนซัมมิท เดินเข้าไปถามเลย น้าๆ ที่น้าพูดอย่างนั้นหมายความว่าอย่างไร หมายความว่าที่พูดจริงหรือเปล่า ที่บอกว่าใครเข้ามาในพื้นที่ทับซ้อน ในพื้นที่เขมร ให้ยิงเลย ยิงทิ้งเลย แล้วก็จะฉีกคำแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรีต่อหน้า ถ้าออกมาอ่านแถลงการณ์ว่า เป็นพื้นที่ทับซ้อนที่ยังมีปัญหาอยู่ ต้องเดินเข้าไปถามนะพี่น้อง ไม่ต้องนักข่าวก็ได้ ถ้าพี่น้องอยู่แถวๆ นั้นถ้ามีโอกาสนะ เข้าประชิดตัวได้ตะโกนถามเลย ฮุน เซน พูดอย่างนั้นหมายความว่าอย่างไร หมายความอย่างที่พูดหรือเปล่า แล้วก็ถามเลยว่า จะกลับด้วยวิธีไหน ถามไปอย่างนี้ก็แล้วกัน
หลายคนโมโห โมโหไปก็เท่านั้นพี่น้อง เพราะเราทำอะไรไม่ได้ เพราะรัฐบาลไม่ทำ คนที่ควรจะทำที่สุดก็คือ รัฐบาล ผบ.ทบ.ออกมาบอกว่า ก็รอฟังคำสั่งรัฐบาลจะเอาอย่างไร ใช้สันติวิธีเจรจาเท่านั้น ถามหน่อยเถอะนะคะ เค้าเจรจากับคุณหรือเปล่า อย่ามัวแต่พูดคำพูดนี้เลย คนไทยเบื่อจะฟังคำพูดนี้แล้ว ใครเคยบอกนะว่า แม้แต่ตางรางเซนเดียวจะไม่ให้เสียพื้นที่ อยากจะหัวเราะให้ท้องคัดท้องแข็ง แต่มันหัวเราะไม่ออก เพราะในอกมันมีแต่เลือด มันมีแต่น้ำตา พี่น้องพันธมิตรฯ ก็ต้องไปโดนพวก ไม่รู้จะบอกว่าอย่างไรนะ หน้าไทยใจเขมร ดูจะแรงเกินไป แต่ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร เพราะคนสั่งไม่รู้ว่าชื่อพม่าแล้วนัยน์ตาเขมรหรือเปล่าไม่รู้นะคะ สั่งมาให้ทำร้ายพี่น้องพันธมิตรฯ ของเราที่ขึ้นไปเรียกร้องดินแดนที่ควรจะเป็นของเรากลับคืนมา
พ่อแม่พี่น้อง 4.6 ตารางกิโลเมตร ฟังดูเหมือนตัวเลขมันน้อยมาก แต่ถ้าคิดเป็นจำนวนไร่ 3,000 ไร่ นะคะ 3,000 ไร่ พี่น้องมีที่นาสัก 5-6 ไร่ ทำมาหากินกันตลอดทั้งปี เลี้ยงได้ทั้งครอบครัว แต่นี้ 3,000 ไร่ เราจะยอมอย่างนั้นหรือ
อีกเรื่องหนึ่งที่พี่น้องพันธมิตรฯ เป็นห่วงกันมากเหลือเกิน เรื่องของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล วันนี้ศาลอาญานั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีที่ นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นโจทก์ฟ้องคุณสนธิหมิ่นประมาท ซึ่งในการดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่สวนลุมพินี ได้พูดถึงโจทก์ คือ นายนพดลได้รับทุนการศึกษาจากมูลนิธิอานันทมหิดล แต่โจทก์ไม่มีความกตัญญูกตเวทีในพระมหากรุณาธิคุณ โดยโจทก์ไปเป็นทนายความให้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แล้วให้สัมภาษณ์ในเชิงประชาสัมพันธ์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ นอกจากนี้ คุณสนธิยังเปรียบเทียบโจทก์กับคุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยง ซึ่งทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายอย่างชัดแจ้ง ศาลตัดสินจำคุกคุณสนธิ 6 เดือน ไม่รอลงอาญาค่ะพี่น้อง และปรับจำเลยที่เหลืออีกคนละ 20,000 บาท ให้ลงหนังสือพิมพ์ขอโทษ
นี่ก็เป็นอีกคดีหนึ่ง เบ็ดเสร็จแล้วในช่วงไม่ถึงเดือนที่ผ่านมา คุณสนธิโดนตัดสินจำคุกไปแล้ว 3 คดี ทั้งหมด 3 ปีค่ะ ก่อนหน้านี้อีก 3 ปี รวมแล้ว 6 ปีนะคะ คงจะไม่เหมือนการตัดสิทธิ์ทางการเมืองว่า ถ้าติดไปแล้วก็ให้ชดเชยกันไป ต่อระยะเวลาที่เหลือ ไม่ใช่นะคะ 3 ปี บวกอีก 3 ปี เป็น 6 ปี เดี๋ยววันนี้เราจะได้คุยกับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ค่ะ คุยกันว่าแล้ววันนี้คุณสนธิคิดอย่างไรกับกระบวนการยุติธรรม คุณสนธิให้สัมภาษณ์ไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่วันนี้ต้องมาเปิดใจกันอีกนิดหนึ่ง รวมไปถึงการประชุมวันที่ 6 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ประชุมสมาชิกพรรคการเมืองใหม่นะคะ หลายคนเรียกร้องให้คุณสนธิเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ คุณสนธิพร้อมไหม แล้วถามว่า ถ้าพร้อม คุณสนธิพร้อมที่จะรับแรงกดดัน หรือวิชามาร จากฝั่งฝ่ายตรงข้าม หรือคนข้างๆ ได้แค่ไหน เราจะได้คุยกันค่ะ
มีข่าวฝากประชาสัมพันธ์นิดหนึ่งนะคะ พี่น้องของเราที่ทำงานอยู่ที่การบินไทย ในนามพันธมิตรฯ รักคุณเท่าฟ้า ได้จัดทำเสื้อรุ่นพิเศษขึ้นมา การเมืองใหม่ และรำลึก 7 ตุลาคม จะนำมาจำหน่าย สีม่วง จะนำมาจำหน่ายที่บ้านเจ้าพระยาในวันเสาร์ คือวันพรุ่งนี้ เวลา 09.30 น.เป็นต้นไป คอกลมจะจำหน่ายในราคา 200 บาท ส่วนคอปก ราคา 250 บาท ส่วนวันที่ 7 ตุลาคม ซื้อได้ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รายได้ทั้งหมดมอบให้ ASTV เช่นเคยนะคะ
และมีข่าวฝากมาจากทนายความ คุณนิติธร ล้ำเหลือ กรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ ฝากข่าวมายังผู้เสียหายในเหตุการณ์ตำรวจฆ่าประชาชน 7 ตุลาคม ที่ประสงค์จะร่วมเป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในคดีละเมิดทางปกครอง ในกรณี 7 ตุลาคมนั้น ขอเชิญทุกท่านร่วมเข้าประชุมในวันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม คือวันพรุ่งนี้ 10.00 น. ที่ลานเวทีบ้านเจ้าพระยา ถ.พระอาทิตย์ โดยขอให้เตรียมหลักฐานสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ใบรับรองแพทย์ ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล หรือจะสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักกฎหมายเคเอที 02-219-2736-7
มีข่าวฝากมาจากพี่พิภพ ธงไชย หนึ่งในแกนนำของเรา ทางศูนย์ช่วยเหลือเยียวยาผู้บาดเจ็บ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะจัดงาน 1 ปีของความทรงจำวีรชน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับการขับเคลื่อนเพื่อการเมืองใหม่ จะจัดขึ้นในวันที่ 4 และ 5 ตุลาคมนี้ วันอาทิตย์และวันจันทร์ ที่โรงแรมรอยัลซิตี้ ถ.บรมราชชนนี จะขอสงวนสิทธิ์ไว้เฉพาะผู้ได้รับบาดเจ็บในการร่วมต่อสู้และที่ติดต่อกับศูนย์เยียวยา ขอเชิญพี่น้องที่ได้รับบาดเจ็บไปร่วมเปิดความทรงจำ และไปดูสิ่งที่เราได้ร่วมต่อสู้กันมา แล้วมาพูดคุยกันถึงปัญหาทุกวันนี้เราจะช่วยกันเยียวยาได้อย่างไร ในวันที่ 4 และ 5 ตุลาคม ที่โรงแรมรอยัลซิตี้
วันที่ 7 ตุลาคม ที่เราจะจัดงานใหญ่กันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ชื่องาน 7 ตุลาฯ ต้องไม่สูญเปล่า นั้น ต้องขออนุญาตฝากประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมนิดหนึ่ง เนื่องจากเราจัดกันวันพุธ ทาง กทม.ไม่อนุญาตให้เราจัดสถานที่ขายของ เพราะฉะนั้นจึงเรียนมายังพ่อค้าแม่ค้าพันธมิตรฯ ทุกท่าน ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย สำหรับความไม่สะดวก เขาห้ามขายของนะคะ แล้วถ้าหากว่าพ่อยกแม่ยกพันธมิตรฯ ท่านใดต้องการบริจาคอาหาร น้ำดื่ม ถุงขยะ ติดต่อดังนี้ ถ้าจะบริจาคอาหาร ติดต่อ คุณปลูกขวัญ ที่หมายเลข 08-6559-6925 ถ้าจะบริจาคน้ำดื่ม ติดต่อคุณต้นฝัน มือถือ 08-5843-1093 ถุงขยะ ติดต่อคุณฝ่าฝัน มือถือ 08-5813-7206 สำหรับผู้ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมในช่วงเช้าวันที่ 7 ตุลาคม ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ถ้าจะเอารถมาเอง มาจอดได้ที่สวนอัมพร ได้ทั้งหมด 200 คัน ที่สนามเสือป่า ได้ 50 คัน สำหรับช่วงบ่าย ถ้าจะไปร่วมกันที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ไปจอดรถที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) ได้ค่ะ ถ้าจะให้ดีขอความกรุณาพ่อแม่พี่น้องนั่งรถบริการสาธารณะมาได้ก็ให้นั่งรถเมล์ รถ ปอ. แท็กซี่กันมาแทนจะสะดวกกว่า
มาดูนิดหนึ่งว่าพิธีการจะมีอะไรกันบ้าง งานจะเริ่มตั้งแต่ 06.00 น. ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า จะเป็นการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 193 รูป แล้วจะมีการอ่านบทกวี ดนตรี และเปิดตัวญาติมิตรวีรชนที่เสียชีวิต ทั้ง 10 ท่าน 09.00 น. ตั้งขบวนที่แยกมิสกวัน เดินไว้อาลัยวีรชนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ประกาศเจตนารมณ์กันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ประมาณ 11.00 น. จากนั้น 13.00 น.ไปเจอกันที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หอประชุมใหญ่ เราจะมีรายการ ดนตรี การรำลึกถึงเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 193 วัน ไปจนถึง 23.00 น. ขอเรียนเชิญพ่อแม่พี่น้องไปร่วมใจกัน ไปร่วมรำลึกถึงวันที่เราต่อสู้ร่วมกัน เราผ่านมาได้จนถึงวันนี้ด้วยแรงใจจากพ่อแม่พี่น้องและวีรชนผู้เสียชีวิต เราพักกันก่อนนะคะ ช่วงหน้ากลับมาพบกับคุณสนธิ ลิ้มทองกุลค่ะ
ช่วงที่ 2
จินดารัตน์ - กลับมาช่วงนี้เราจะคุยกับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ค่ะ สวัสดีค่ะคุณสนธิ
สนธิ - สวัสดีครับคุณแอน สวัสดีครับท่านผู้ชมครับ
จินดารัตน์ - เพิ่งกลับมาจากเดินสายสหรัฐอเมริกาใช่ไหมคะ
สนธิ - กลับมาเมื่อ 2 วันนี้เอง
จินดารัตน์ - วันพุธได้มั้งคะ อังคารหรือพุธนะคะ เหนื่อยไหมคะคุณสนธิ เพราะแอนเห็นตารางเวลา ไปทั้งหมด 8 ที่ ในเวลาเพียงแค่ 10 วัน
สนธิ - เหนื่อยแต่ว่าคุ้มค่า ที่ไปเพราะว่าตั้งแต่ผมโดนยิงมาเนี่ย และผมยังไม่หายดี จนกระทั่งผมเริ่มหายแล้ว พี่น้องประชาชนที่อเมริกาเขาอยากรู้เรื่อง อยากเจอตัว ไม่ใช่เฉพาะพี่น้องประชาชนที่เมืองไทยเท่านั้นที่เป็นห่วง ที่โน่นก็เป็นห่วงอย่างมาก บางคนเขาบอกเป็นแม่ครัวร้านอาหาร ผัดไทให้ฝรั่งอยู่ พอดู ASTV เห็นข่าวผมโดนยิง กระทะตกทั้งกระทะเลย แล้วผัดอะไรไม่ออกแล้ว ไม่ทำเลย เดินออกไปเลย ก็เป็นความซาบซึ้งตราตรึงใจที่มีต่อพ่อแม่พี่น้อง ก็เลยต้องไป ไปให้พ่อแม่พี่น้องเห็นตัวจริงๆ ได้สัมผัส ได้คุยด้วย จะได้สบายใจขึ้นมา
จินดารัตน์ - ว่าปกติดีแล้วนะ
สนธิ - ว่าปกติ ก็ยังมีเล็กๆ น้อยๆ แต่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้ว ที่สำคัญไปเล่าเบื้องหลังให้เขาฟังกัน
จินดารัตน์ - เบื้องหลังเรื่องอะไรคะ
สนธิ - เรื่องการลอบฆ่าผม ซึ่งก็เล่าอย่างที่ไม่ต้องเอ่ยชื่อใคร แต่พี่น้องคนไทยในอเมริกานั้นความรู้เขาสูงนะ เขาติดตาม ASTV พอพูดปั๊บ เขาเอ่ยชื่อเลยว่าใครบ้าง คนโน้นคนนี้บ้าง ไปผมก็บินไปลงนิวยอร์กก่อน พอถึงนิวยอร์ก ตอนเช้า คุณตึ๋งแกก็พาไปพักที่บ้านแก แกเป็นเจ้าของ Warehouse เบ้อเริ่มเลย ที่ส่งอาหารทั่วอเมริกา เป็นคนไทยที่ประสบความสำเร็จมาก แล้วตอนเย็น 5 โมงเย็นก็เริ่มไปแล้ว ที่ร้านของน้องชายของหมี ยุทธิยง (ลิ้มเลิศวาที)
จินดารัตน์ - พี่หมู
สนธิ - ที่นิวยอร์ก เขาเสียสละให้เลย เขาเอาพื้นที่ข้างล่างทั้งหมดให้พันธมิตรฯ เข้าไป ไม่เก็บเงิน ยังแถมข้าวกล่องอีก ข้าวคลุกกะปิให้อีกคนละกล่อง แล้วก็สถานที่ที่เขาให้เราใช้ เขามี 3 ชั้น ค่าเช่าเขาเดือนละ 5 หมื่นเหรียญนะ เดือนละประมาณเกือบ 2 ล้านบาท เขาเสียสละให้เราหมดเลย ก็เลยไปพูดให้เขาฟัง พี่น้องพันธมิตรฯ ก็มากันเต็มเลย ซึ่งนิวยอร์กก็โชคร้ายหน่อย เพราะว่าไปวันธรรมดา
จินดารัตน์ - ส่วนใหญ่จะทำงานกัน แต่เขาก็ลางานกันมา
สนธิ - เขาก็มาครับ เขาลางานกันมา มากันเยอะพอสมควร แล้วเผอิญเขาอยากรู้เรื่อง หลังจากนั้นก็นั่งเช้าตอนกลางคืนก็ไปนอนบ้านคุณตึ๋ง เช้าตรู่เลยแก่อุตส่าห์ไปส่งที่สนามบิน นั่งเครื่องกลับไปบอสตัน ไปเจอ ดร.จอย เพราะคราวที่แล้ว เขาไปที่บอสตันกัน อ.สมเกียรติ ไป แล้วก็มีข้อผิดพลาดตรงที่ว่า อ.สมเกียรติ พยายามโทรเข้ามาในรายการ อ.ปานเทพ แล้ว อ.ปานเทพ เข้าใจอะไรผิดไม่รู้ ไม่ได้ออกเสียง ทางบอสตันก็น้อยใจ หาว่า ASTV ไม่เห็นบอสตัน
จินดารัตน์ - ไม่ให้ความสำคัญ
สนธิ - ไม่ให้ความสำคัญ ก็เลยตัวโต้โผใหญ่ก็ต้องไปเอง เพื่อไปปลอบใจ ที่บอสตันก็ดี เป็นการชุมนุมของพวกกลุ่มนิวอิงแลนด์ นิวอิงแลนด์ ก็คือ บอสตัน ลองไอส์แลนด์ แถวๆ นั้นรวมๆ กัน ถือว่าใช้ได้ เขาชุมนุมที่โรงแรม ก็เหมือนกัน
จินดารัตน์ - นี่เป็นครั้งแรกที่คุณสนธิไปที่บอสตัน
สนธิ - ไปบอสตัน จากบอสตันเสร็จเรียบร้อย เช้าวันรุ่งขึ้นก็บินไป ดี.ซี. ไปเจอคุณจารุณี-คุณธัชพงศ์ (จันทรปรรณิก) ซึ่งเป็นหัวแรงสำคัญ และคุณบรรจบ (เจริญชลวานิช)
จินดารัตน์ - ป้าติ๋ว อาบรรจบ ลุงธัช
สนธิ - คุณบรรจบ เป็นคนที่ดีมาก เป็นนักสู้ เป็นคนปิดทองหลังพระ แกไม่แสดงออกแต่แกทำงานหนักมาก พวก ดี.ซี.โชคดีหน่อย วันนั้นเป็นวันเสาร์
จินดารัตน์ - หยุดงาน
สนธิ - ก็หยุดงาน ทำให้มีคนมาพอสมควร
จินดารัตน์ - คับคั่ง
สนธิ - คับคั่ง ที่ดี.ซี.จัดที่ห้องประชุมของโรงแรมมหาวิทยาลัยจอร์จ ทาวน์ แล้วพักที่นั่นด้วย คนมีความรู้ทั้งนั้นเลย มีคุณหมอคนหนึ่งท่านอยู่ ดี.ซี.มาประมาณ 30 ปี ท่านบอกว่า คุณสนธิ คุณแม่ผม ท่านมีคุณแม่มาด้วย จะ 90 แล้ว เดินขากระเผลก บอกคุณแม่ผมเห็นคุณสนธิถูกยิง 10 วันก่อนถูกยิง เห็นเลือดท่วมตัวเลย ผมก็เข้าไปกราบท่าน ท่านก็บอกว่า เนี่ยแม่เห็นคุณสนธิถูกยิง 10 วัน ท่านเป็นคนปฏิบัติธรรม ท่านจะมีญาณพิเศษ ซึ่งคนบางคนจะมีญาณนี้อยู่ เห็นอะไรล่วงหน้า ผมก็เลยถาม มีคนมากระซิบบอก คุณสนธิถามซิว่า แม่เห็นคุณทักษิณอย่างไรบ้าง ผมเคยถามคุณแม่ไม่ยอมบอก ผมก็เลยตัดสินใจ แล้วคุณแม่เห็นคุณทักษิณอย่างไร แม่ไม่อยากพูด เอานะพูดหน่อยน่ะ เห็นอย่างไร แม่เห็นเขานั่งเรือไปแล้วเขาลงเล่นน้ำท้ายเรือแล้วมีการ์ดอยู่ แล้วเขาลงไปแล้วเขาจมเลย แล้วเขาไม่ขึ้นมาอีกแล้ว ผมก็ไม่รู้นะ นึกว่าเป็นนิมิตของผู้ปฏิบัติธรรมคนหนึ่ง
หลังจาก ดี.ซี.เสร็จ วันรุ่งขึ้นก็เลยไปบินต่อเข้าที่ฟลอริดา ฟลอริดานี่ไปที่ฟอร์ตร็อตเธอร์เดลก่อน ทางพี่คเชนทร์ กับพี่กุลธิดา ซึ่งแกก็เป็นนักธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จมาก พี่คเชนทร์แกไปอยู่เกือบ 40 ปี เป็นคนดี แล้วก็สร้างชื่อสร้างเสียงให้กับคนไทยที่นั่นมากเลย แล้วแกต้องการใช้ฟลอริดาเป็นประตูเปิดเข้าไปสู่อเมริกาใต้ แกก็สารภาพกับผม บอกว่าที่แกรวยขึ้นมาทุกวันนี้เพราะแกฟังผม ผมก็งงว่าเรื่องอะไร บอกแกตามผมตั้งแต่เมืองไทยรายสัปดาห์ พอผมบอกว่าทองจะขึ้น ให้ซื้อทองเก็บ แกซื้อเก็บเต็มไปหมดเลย แกซื้อเก็บตั้งแต่บาทละ 4 พัน จนกระทั่งบาทละหมื่นหก แกบอกแกได้ตรงนี้เยอะ แล้วแกบอกว่าผมพูดอะไรไม่เคยผิดสักเรื่องหนึ่ง แกจะยึดถือตามไปเรื่อยๆ แล้วหลังสุดผมก็เลยบอกแกบอกว่า ให้ระวังเงินดอลลาร์ ระยะยาว ระยะยาวเงินดอลลาร์มูลค่าจะตกมากกว่านี้อีก 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นถ้ามีเงินสดเหลือ ให้คอนเวิร์ตเป็นทอง หรือให้เปลี่ยนเป็นตั๋วน้ำมัน หรือให้เปลี่ยนเป็นเงินยูโรไปเสีย
คุณคเชนทร์ คุณกุลธิดา ก็ไปจัดที่ร้านอาหารไทยร้านหนึ่ง ใหญ่ มีคนไปเยอะ พันธมิตรฯ ที่ฟอร์ตร็อตเธอร์เดลก็มากันเยอะ มากันเยอะมาก คุณกุลธิดา คุณคเชนทร์ พี่ทั้งสองคนก็น่ารักมาก ออกค่าใช้จ่ายให้หมดทุกอย่าง เสร็จเรียบร้อยหลังจากนั้นก็พูดถึง 5 โมงเย็น นั่งเครื่องบินจากไมอามีต่อไปเทมปา ฟลอริดาเหมือนกัน คุณแอน เครื่องบินเล็ก 12 ที่นั่ง 2 เครื่องยนต์ เครื่องมันจะต้องออกทุ่มหนึ่ง ดีเลย์ เพราะว่าอากาศไม่ดี ออก 2 ทุ่ม ไปถึงนั่นประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง คุณแอนเชื่อไหม พันธมิตรฯ
จินดารัตน์ - ในวันเดียวกันเลยเหรอคะ
สนธิ - ในวันเดียวกัน พันธมิตรฯ ที่เทมปาไม่มีใครลุกเลย นั่งรอ เริ่มพูดจริง 4 ทุ่ม พูดถึงตี 1 แต่ไม่ได้เล่าที่สนุกที่สุดก็คือว่า ไอ้เครื่องบินเล็กมันต้องบินฝ่าพายุ มันเหมือนพระเจ้ามีเครื่องบินเล็กเป็นลูกบอล โยนไปโยนมา ท่านเล่นของท่าน ผมเนี่ยเห็นฝรั่งหลายคนนั่งจับอย่างนี้เลยนะ พอดีจิตผมสงบ ผมกำหนดลมหายใจแล้วผมหายใจลึกๆ เข้าออกๆ เพราะฉะนั้นจิตผมไม่ได้อยู่กับอะไรทั้งสิ้นเลย จิตผมอยู่กับลมหายใจ ลงเครื่องไปฝรั่งอ้วกตั้งไม่รู้กี่คน เดินไม่ถูกทางเลยนะ แล้วก็ไปที่โรงแรมเลย เขามารับ ไปที่โรงแรมเลยแล้วก็ขึ้นเวทีพูด
จินดารัตน์ - คุณสนธิไม่มีอาการอะไรเลยเหรอคะ
สนธิ - ไม่มีครับ จิตเป็นเรื่องสำคัญมาก เหมือนกับเขาทะเลาะกันให้ตายเลย คุณกำหนดจิตให้ดีๆ แล้วคุณสงบ แล้วคุณกำหนดลมหายใจ คุณไม่ได้ยินเสียงอะไรหรอก ทะเลาะก็ทะเลาะไป ไม่มีอะไร จากนั้นก็วันรุ่งขึ้นบินอีก ไปชิคาโก คุณฉลาดก็มารับ สนามบินโอแฮร์ มันใหญ่มโหฬารเลย แต่มันโคตรสว่าง แล้วไฟมันใช้น้อยมาก แต่สุวรรณภูมินี่มันก็ใหญ่นะ แต่ทำไมมันโคตรมืด แล้วใช้ไฟเต็มไปหมด
จินดารัตน์ - กำลังจะถามเลย
สนธิ - ผมก็เลยไม่เข้าใจนะครับ เหมือนกับ คือเราไปเห็นแล้วทำให้เรามีความรู้สึกว่าบ้านเมืองเรามันเข้าขั้นที่มันเละหมดแล้ว ไม่มีแม้กระทั่งเมื่อกี้ผมฟังเคาะข่าวริมโขง มันเป็นเรื่องตลก รถเมล์ต้องมี GPS
จินดารัตน์ - ทำไมต้องมี GPS
สนธิ - คือพูดง่ายๆ ว่า ทำไมต้องมี แสดงว่าคนขับรถเมล์คนไทยที่วิ่งสายนี้มันไม่รู้เส้นทางใช่ไหม เลยต้องมี GPS ก็คือต้องเพิ่มอุปกรณ์เพื่อทำมาหากิน มันโกงกิน มันคอร์รัปชั่นกัน นักการเมืองคอร์รัปชั่นกัน
จินดารัตน์ - ทุกเม็ด ทุกช่อง ทุกรู
สนธิ - ทุกเม็ด ทุกช่อง ทุกรู ไอ้พวกพรรคภูมิๆ อะไรนี่นะ
จินดารัตน์ - ภูมิใจ๊ ภูมิใจ
สนธิ - ภูมิใจ๊ ภูมิใจ ที่ได้รับประทานกับทรัพย์สมบัติของประเทศไทย ไอ้พวกนี้ชาติชั่วทั้งนั้น ผมพูดได้เดี๋ยวนี้เลย มันเลวทรามต่ำช้า มันไม่ได้นึกอะไรเลย ปากมันก็บอกว่ามันทำงานเพื่อพระมหากษัตริย์ เพื่อชาติ แต่จริงๆ มันโกงอย่างเดียวเพื่อเอาเงินเข้ากระเป๋ามัน โกงจริงๆ มันเลวจริงๆ แล้วผมเชื่อว่าไอ้พวกนี้ตกนรกแน่นอน
ชิคาโกก็ไปจัดที่วัด วัดพุทธธรรม วัดพุทธธรรมนี่บังเอิญท่านเจ้าอาวาสท่านเป็นคนใต้ เป็นคนใต้ไม่สำคัญเท่ากับเป็นคนมีจิตใจประชาธิปไตย ท่านขอเวลาผมนิดหนึ่ง ท่านอธิบายว่าการเมืองที่ท่านคิดเป็นอย่างไร ดีมาก แต่ผมเอาไว้พูดวันหลังให้ฟังก็แล้วกัน ก็พูด โอ๊ยพันธมิตรฯ ที่ชิคาโกดีมาก นี่ขนาดเป็นวันจันทร์นะ
จินดารัตน์ - วันทำงาน
สนธิ - วันทำงานเนี่ย หมอก็มา พยาบาลก็มา เจ้าของร้านอาหารไทยก็มา ทุกคนมาหมด แล้วก็เป็นคนซึ่งแรง พันธมิตรฯ ชิคาโกแรงมาก
จินดารัตน์ - เปรียบประหนึ่งก็เหมือนคนใต้บ้านเรา
สนธิ - คนใต้หรือคนภาคตะวันออก แรงๆ จริงๆ นะครับพันธมิตรฯ ชิคาโก เสร็จจากชิคาโกวันรุ่งขึ้นก็บินต่อไปที่ลาสเวกัส ก็ไปเจอพี่พันธ์
จินดารัตน์ - ประพันธ์
สนธิ - ประพันธ์นะครับ ไปเจอป้าทิพย์ หลายคน และคุณวาสนา และอีกหลายๆ คน คุณตุ๊กตา แล้วพักที่โรงแรมก็พูดที่โรงแรมนั่นเอง ก็อีกเหมือนกัน คนทำงาน ดีลเลอร์ ลางานมาแล้วก็นั่ง ก็ดีมากครับ แล้ววันรุ่งขึ้นก็บินไปซานฟรานซิสโกต่อเลย บินไปซานฟรานซิสโกไปเจอป้าต้อย ป้าต้อยก็บอกว่า ผมก็บอกป้าต้อยว่าจริงๆ ไม่อยากจะเป็นงานใหญ่ อยากจะ 10-20 คน
จินดารัตน์ - อ๋อ เอากลุ่มเล็กๆ
สนธิ - เอากลุ่มเล็กๆ ป้าต้อยก็ไปนัดให้ 10-20 คน พอโผล่ไปอีกที 50 บอกคุณสนธิ เขาได้ข่าวกัน เขาไม่ยอม เขาจะมากัน
จินดารัตน์ - เดี๋ยวน้อยใจ
สนธิ - เดี๋ยวน้อยใจ ร้านอาหารแทบแตก หลังจากนั้นอีก 2 วันก็มีโอกาสได้พักแค่นั้นเอง แล้วก็ลงไปที่แอลเอ พอลงไปแอลเอ เขาไปจัดที่มหาวิทยาลัยแห่งตะวันตก (University of the West) หอประชุมก็แน่น ล้นออกไปข้างนอก มีจออยู่ข้างนอกเสร็จเรียบร้อยก็กลับ ทั้งหมดนี่เบ็ดเสร็จที่ได้ก็คือ ได้ความตราตรึงใจและซาบซึ้ง พี่น้องพันธมิตรฯ ที่อเมริกานี่เป็นแกนสำคัญ ได้เงินมาแสนกว่าเหรียญครับ
จินดารัตน์ - ไป 10 วันเนี่ยนะคะ
สนธิ - แล้วที่พวกเราที่ได้เงินเดือนไปครึ่งเดือนได้มาจากไหนครับถ้าไม่ใช่เงินก้อนนี้
จินดารัตน์ - กราบขอบพระคุณแทนน้องๆ
สนธิ - ถ้าไม่ใช่นายมันต้องไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย นั่งเครื่องบินกระโดดไปกระโดดมาไปหาเงินเดือนให้มันเนี่ย แล้วใครจะเอาให้มัน
จินดารัตน์ - ก็ยังสงสัยว่า เอ๊ะ คุณสนธินอนบนเครื่องหรือเปล่า ไปแน่นขนาดนี้ สงสัยที่สุดก็คือ คุณสนธิไปพูด นอกจากพูดเรื่องที่โดนลอบฆ่าแล้ว มีอะไรที่คุณสนธิไปพูดแล้วคนไทยที่นี่ยังไม่รับทราบบ้างไหมคะ
สนธิ - ผมพูดเรื่องเขมร คนที่นั่น เรื่องเขมรผมไปเปิดแนวความคิดผมแล้วข้อมูล แล้วก็ตรรกะและกระบวนทัศน์ ว่าทำไมมันถึงต้องมีแถลงการณ์ร่วม ทำไมไม่ยกเลิกแถลงการณ์ร่วม ทุกคนถึงบางอ้อหมดเลย คือเรื่องเขมร คุณแอนต้องตั้งใจฟังนิดหนึ่ง ตั้งแต่ศาลโลกพิพากษา 2505 ว่า ตัวปราสาทเป็นของเขมรแต่พื้นที่รอบด้านเป็นของเรา 2505 มาจนถึง 2546 41 ปี เขมรไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย ไม่สนใจ พิพากษาแล้วพิพากษาเลย ทหารไทยรักษาการณ์อยู่ที่บันไดขั้น 196 ต่อไปเป็นเขมรรักษาการณ์ ปรากฏว่าพอคุณทักษิณเข้ามา สิ่งที่เกิดขึ้น จากที่ไม่เคยพูดมาเป็นเวลา 41 ปี ปี 2546 ประมาณนั้น มีแขกคนหนึ่ง แขกอียิปต์ บินมาเยือนเมืองไทย ชื่อ โมฮัมหมัด อัลฟาเยด พ่อของนายโดดี้ อัลฟาเยด
จินดารัตน์ - อ๋อ เจ้าของห้างแฮร์ร็อดส์
สนธิ - เจ้าของห้างแฮร์ร็อดส์ นายคนนี้เอาแผนที่การขุดเจาะน้ำมันมา ที่อ่าวไทย ก็มาขอรัฐบาลไทยว่าจะขอสัมปทานตรงนี้ รัฐบาลไทยรู้ว่าที่อ่าวไทยเป็นที่ซึ่งจะต้องมีปัญหาโต้เถียงกับฮุน เซน แน่นอนที่สุด นายกฯ ทักษิณ ก็บินไปหาฮุน เซน
จินดารัตน์ - ตรงนั้นเป็นพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล
สนธิ - บินไปหาฮุน เซน พอไปหาฮุน เซนเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุยอีท่าไหนไม่รู้ ทันทีฮุน เซนก็เริ่มออกฤทธิ์ทันที เริ่มบอกแล้วว่า เขาพระวิหารเป็นของเขา
จินดารัตน์ - ทั้งๆ ที่เรื่องนี้ไม่เคยเกิด
สนธิ - ไม่เคยพูดเลย พอเริ่มมีเรื่องน้ำมัน ไปคุยกับฮุน เซน อาจจะตกลงกันได้ว่า ผมจะยอมเรื่องน้ำมันให้คุณ ผมจะจัดการพัฒนาร่วมกัน แต่คุณช่วยผมเรื่องเขาพระวิหารหน่อยได้ไหม เพราะฉะนั้นแล้วนี่คือที่มา
จินดารัตน์ - ผลต่างตอบแทน
สนธิ - ผลต่างตอบแทน ที่มา เพราะฉะนั้นแล้วด้วยเหตุอันนี้ก็ยืดมาเรื่อย แล้วก็มีการพัฒนาไปเรื่อยๆ เปิดเกมไปเรื่อยๆ เปิดเกมเพื่อให้เขมรรุกเขาพระวิหารไปเรื่อยๆ จากบันไดขั้นที่ 196 ทหารไทยต้องร่นมาถึงบันไดขั้นที่ 1 นี่ยุคคุณทักษิณทั้งนั้น
จินดารัตน์ - ตั้งแต่ปี 46
สนธิ - ตั้งแต่ปี 46 คุณทักษิณเป็นคนเริ่มมาตลอดว่าให้ถอยมา ถอยมาอย่าไปปะทะกัน เราควรจะคุยกัน แล้วให้งบประมาณสร้างถนน คุณทักษิณเป็นคนเริ่ม ตลอดเวลา กระทั่งความจริงมันน่าจะจบไปในช่วงปี 2549 แต่เผอิญคุณทักษิณโดนเราไล่ไปก่อน พอโดนเราไล่ไปกระบวนการนี้หยุดแต่มาต่ออีกครั้งหนึ่งหลังจากที่มีการเลือกตั้งแล้ว ด้วยการยื่นมรดกโลก คุณแอนเคยสังเกตไหมว่า มรดกโลกยื่นมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง แล้วไทยก็ยื่นด้วย ไทยบอกที่นี้ก็เป็นที่ของไทย เขาก็โยนกลับออกมา เพราะกติกามรดกโลกเขาบอกว่า ถ้าหากการยื่นมรดกโลกแล้วมีประเทศเพื่อนบ้านยื่นด้วยแล้วบอกพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ทับซ้อนขัดแย้งกันต้องไปคุยกันก่อน
จินดารัตน์ - เป็นข้อพิพาทให้หยุดไว้ก่อนไปคุยกันให้รู้เรื่อง
สนธิ - ไปคุยกันเรียบร้อยแล้วค่อยกลับมายื่นด้วยกัน ด้วยเหตุนี้ยื่นทีไรก็ไม่สำเร็จ มายุคคุณสมัคร นายนพดล ที่เขมรยื่นไปแล้วไทยไม่ยอมยื่น ตามข้อบันทึกของ ป.ป.ช. ที่เล่นงานนายสมัคร นายนพดล ว่าเขามีคนที่คัดค้านว่าต้องยื่นถ้าไม่ยื่นไม่แสดงเจตนารมณ์ แสดงว่าเรายอมรับโดยปริยาย ที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร นายนพดลต้องการเซ็นแถลงการณ์ร่วม ก็เอาคำคัดค้านอันนี้ใส่ลิ้นชัก แล้วย้ายอธิบดีกรมสนธิสัญญา จำได้ไหม เพราะอธิบดีกรมสนธิสัญญาคนเก่าท่านรักชาติ ท่านไม่ยอม ก็ย้ายเลย เอาคุณกฤต ไกรจิตติ แล้วเอาข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศที่ยอมกระทำงานตามนายนพดลโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ชาติบ้านเมือง พวกนี้เลวทรามต่ำช้าบัดซบที่สุด เพราะฉะนั้นแล้วด้วยเหตุนี้ นายนพดลก็เอาเรื่องเข้าลิ้นชักเพื่อจะเซ็นสัญญาแถลงการณ์ร่วม
จินดารัตน์ - ไปลงนาม
สนธิ - เข้า ครม. ให้ยอมรับ เพราะอะไร เพราะการเซ็นแถลงการณ์ร่วมก็คือการที่ไทยยอมรับโดยปริยายว่า ที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นของเขมร หลังจากที่ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2546 โดยคุณทักษิณมาเรื่อยๆ กับฮุน เซน 2 คนต่างตอบแทน เฮ้ย! ฉันจะพัฒนาร่วมพื้นที่บ่อน้ำมันตรงนี้คุณช่วยผมเรื่องนี้หน่อย สมัครถึงกับหลุดปาก ที่ฮุน เซนพูดออกมาบอกว่า ช่วยมันหน่อยเพื่อหาเสียงกับมัน เพื่อให้ฮุน เซนหาเสียงจะได้ชนะใจคนกัมพูชา เพราะเขามีการเลือกตั้ง ด้วยเหตุตรงนี้ พันธมิตรฯ เลยไปฟ้องศาลปกครอง ทนายสุวัตร (อภัยภักดิ์) สุริยะใส (กตะศิลา) เป็นตัวแทนไป ฟ้องศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญ ในที่สุดทั้ง 2 ศาลพิพากษาว่าแถลงการณ์ร่วมนี่ผิด เพราะไม่ผ่าน
จินดารัตน์ - ไม่ถูกต้อง
สนธิ - เพราะเป็นสนธิสัญญา ปรากฏว่า เขาก็มาแก้เกม คุณเตช บุนนาค พยายามปกป้องข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ อ้างว่าได้ไปคุยกับ นายฮอร์ นัม ฮง แล้ว ได้ชี้แจงนายฮอร์ นัม ฮง ว่าแถลงการณ์ร่วมนั้นถือว่าไม่มีผล ก็คือว่าไม่มีอะไรแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นสนธิสัญญา ฮอร์ นัม ฮง ก็ฉลาด ก็ตอบกลับเลย บอกว่า จะคิดอย่างไรก็ช่าง แต่สำหรับเรามีผลเรียบร้อยแล้ว ไม่เป็นสนธิสัญญาไม่ได้ เพราะศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าเป็นสนธิสัญญา ด้วยเหตุนี้แทนที่เรา รัฐบาลชุดพรรคประชาธิปัตย์ ท่านทูตกษิต (ภิรมย์) ผมก็เอาคำพูดที่ท่านไปพูดที่สะพานชมัยมรุเชฐ ก่อนท่านเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ให้พ่อแม่พี่น้องชาวอเมริกาฟัง ท่านพูดว่า ถ้าท่านมีอำนาจ ท่านต้องทำด้วยความโปร่งใส ธรรมาภิบาล ท่านต้องยกเลิกประกาศแถลงการณ์ร่วม มาวันนี้ท่านก็ไม่ยกเลิก ท่านก็พูดคำเดียว ไม่มีผล อย่างเดียว รู้จักคนรู้จักหน้าไม่รู้จักใจ ให้จำคำนี้เอาไว้
จินดารัตน์ - หลายคนเสียใจ
สนธิ - ผมไม่เสียใจ เพราะผมถือว่า รู้จักคนรู้จักหน้าไม่รู้จักใจ ของจริงของปลอม ทองเก๊ทองปลอมมี
จินดารัตน์ - กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
สนธิ - ทีนี้ พอไม่ยกเลิก คือถ้าหากยกเลิกไปเลยโดยอ้างว่าแถลงการณ์ร่วมอันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญของไทยและศาลปกครองมีมติแล้ว พิพากษามาแล้วว่าผิด เมื่อผิดแล้วประเทศไทยไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องยกเลิกแถลงการณ์ร่วมนี้ พอยกเลิกแถลงการณ์ร่วมอันนี้มันก็กระเทือนการเข้ามรดกโลก เราไม่ยอมรับ เมื่อเราไม่ยอมรับแล้วเราก็บอกเขมรออกไป คุณมาอ้างอะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้นแล้ว ทำไมถึงไม่ยกเลิก ก็เพราะว่า ถ้ายกเลิกตรงนี้ น้ำมันตรงนั้นไม่ได้ เข้าใจหรือยัง นี่ไงต่างตอบแทน ต้องดูเกมต้องดูภาพรวม คุณแอนรู้หรือยังทำไมต้องยิงผม
จินดารัตน์ - แสดงว่าผลต่างตอบแทนไม่ได้เฉพาะ ทักษิณ ชินวัตร ซิคะ
สนธิ - มันมีซิ ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วจะไปทำไมล่ะ
จินดารัตน์ - มิน่า ไปกินข้าวบ้านเขาติดใจน้ำพริก ข้าวบ้านเมียฮุน เซน
สนธิ - ก็การไป ที่เจรจาเรื่องผลประโยชน์บ่อน้ำมัน มันเป็นหน้าที่อะไรของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ฝ่ายความมั่นคง แล้วพอบินไปบินกลับมายังไม่ทันอ้าปากลิ้นไก่ออกแล้ว ออกว่า เรื่องเขาพระวิหารจบไปตั้งนานแล้ว ศาลโลกพิพากษามาแล้วเป็นของเขมร แล้ววันที่คุณสุเทพบินไปฮ่องกง ไปที่โรงแรมเพนนินซูลา ไปเจอนายฮอร์ นัม ฮง รัฐมนตรีต่างประเทศ ไปเจอเพื่ออะไร ถ้าคุณจะอ้างว่าไปเจอเพื่อคุยเรื่องพื้นที่ทับซ้อนในทะเล ข้อที่ 1. หน้าที่คุณหรือ คุณเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ข้อที่ 2. ถึงเป็นหน้าที่คุณ มันควรหรือไม่ที่ไปเจรจาลับๆ มันต้องประกาศเป็นทางการ มันต้องเชิญเขมรมาประชุมที่ไทย หรือไทยไปประชุมที่เขมร ประชุมเสร็จทั้ง 2 คน นายสุเทพ นายฮอร์ นัม ฮง มานั่งโต๊ะแถลงว่า ไทยมีจุดยืนอย่างนี้ เขมรมีจุดยืนอย่างนี้ นักข่าวต้องถาม นี่คุณไปนั่งคุยอะไรกันที่โรงแรมเพนนินซูลา นายสุเทพล้มละลายทางการเมือง ในอนาคตถ้าประเทศไทยจะต้องมีการเสียพื้นที่ทางทะเลไป หรือเสียพื้นที่เขาพระวิหาร นายสุเทพจะต้องมีส่วนรับผิดชอบอย่างเต็มที่ แล้วช่วยไม่ได้ พรรคประชาธิปัตย์ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะวันนี้ท่านนายกฯ กับคุณกษิต ท่องนะโมอยู่ทุกวัน นะโมเจรจา นะโมเจรจา ตัสสะเรายังไม่เสียดินแดน นะโมเจรจา ตัสสะเรายังไม่เสียดินแดน ท่านนายกฯ ท่านพูดตลอดเวลา ท่านพูดว่า ท่านยังยึดแผนที่เดิมของไทยตามสันปันน้ำ ท่านพูดอีกถูกอีกเพราะท่านยึดตรงนั้น แต่เขมรไม่ยึด ท่านบอกยังเป็นของเรายังเป็นของเรา
เหมือนคุณแอนมีบ้านอยู่ จู่ๆ เพื่อนบ้าน วันดีคืนดีคุณแอนตื่นมาตอนเช้าเพื่อนบ้านขนพรรคพวกมาปักหลักที่สนามหญ้า
จินดารัตน์ - มากางเต็นท์นอนหน้าบ้าน
สนธิ - มากางเต็นท์นอน เฮ้ยเกิดอะไรขึ้นนี่ที่ของผมนะ มันบอกว่า ทวดเคยแจ้งให้ทราบว่าที่ตรงนี้เป็นของมันมันต้องเข้ามา คุณแอนมีทางเลือก 2 ทาง คุณแอนต้องระดมพรรคพวกในบ้านเอาไม้หน้าสามไล่มันออกไป พอไล่ออกไปพ้นบ้านแล้วก็ยืนริมรั้วแล้วบอก เอาอยากเจรจามาเจรจาตอนนี้ ออกจากบ้านไปก่อน หรือคุณแอนท่องนะโมตัสสะ คุณแอนก็บอก นะโมเจรจา ตัสสะลูกอย่าไปตีเขานะที่นี้ยังเป็นของเราอยู่ คุณแอนท่องนะโมตัสสะไม่ถึง 3 จบเลยมันสร้างส้วมเสร็จแล้ว รอบที่ 2 ลูกมันโตแล้ว รอบที่ 3 ลูกมันเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว คุณแอน ญี่ปุ่นกับรัสเซียพิพาทที่ดินที่หนึ่งตรงแหลม ตรงคาบสมุทรวลาดิวอสต็อก คุณแอนรู้ไหมเจรจามากี่ปีแล้ว 120 ปี
จินดารัตน์ - ยังไม่ได้ข้อสรุปจนกระทั่งวันนี้
สนธิ - ไม่มีใครยอมใคร แต่ว่ารัสเซียไปยึดครอง รัสเซียบอกเจรจามาซิ ร่มเกล้าเจรจากับลาวมากี่ปีก็ยังไม่ยุติ หมู่เกาะสแปรตลีย์ อยู่ในทะเลจีนตอนใต้ มี 5 ประเทศอ้างเป็นเจ้าของ มี จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ไม่มีใครยอมใคร เกาะบ้าๆ บอๆ เล็กๆ ไม่มีใครยอมใคร มีประเทศไทยประเทศเดียวมาท่องนะโมตัสสะ แล้วก็ให้มันสร้างวัด วัดนี่พระก็เป็นทหารเขมร ทุกอย่าง คนไทยขึ้นไป แม้กระทั่งรัฐมนตรีต่างประเทศจะขึ้นไปเขาพระวิหารยังต้องขออนุญาตเขมร เห็นหรือยัง เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ชัด ผมถึงบอกว่าผมเป็นห่วงพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นพรรคการเมืองพรรคแรกที่ในที่สุดแล้วทำให้ไทยต้องเสียดินแดน เป็นเพราะว่าเรามัวแต่นะโมตัสสะอยู่ แล้วที่ผมรู้อยู่ลึกๆ ทหารก็โกรธ เพราะโดนพวกเราด่า ทหารนี่ทำบันทึกถึงรัฐบาล 9 ครั้ง ว่าจะเอายังไง เพราะทหารเขาบอกว่าเขาจะไม่ทำอะไร นอกจากเป็นนโยบายรัฐบาล รัฐบาลก็นะโมตัสสะ นะโมตัสสะ
ที่น่าเสียดาย มีคนบางคนในรัฐบาล ตำแหน่งใหญ่ด้วย หลุดปากออกมา คุณแอน บอกว่าเขาพระวิหารไปทะเลาะกันทำไม มันแค่หญ้าไม่กี่หย่อม ดินสกปรกๆ เล็กๆ น้อยๆ ให้มันไป เพื่อแลกกับผลประโยชน์ทางทะเล
จินดารัตน์ - พูดอย่างนี้เลยเหรอคะ
สนธิ - พูดอย่างนี้เลย นี่แหล่ะคือนักการเมืองไทย
จินดารัตน์ - มิน่า ได้ยินมาเหมือนกันว่าจะมีการเจรจากับเขมรครั้งต่อไปรุ่นเหลนคุณอภิสิทธิ์
สนธิ - ไม่รู้อ่ะ
จินดารัตน์ - คุณสนธิ แล้วอย่างนี้ แล้วจะนะโมตัสสะ แล้วคนไทยที่ไม่อยากจะยอม ทหารที่เขายังรักชาติบ้านเมืองจะทำอย่างไรดีคะ
สนธิ - เราต้องใช้ภาคประชาชนกดดัน เราต้องประกาศไปให้ประชาชนคนไทยทั่วประเทศไทยให้รู้ ว่าที่เขมรเข้ามายึดพื้นที่ในเขาพระวิหารนั้น มายึดเพราะคน 2 คน พรรค 2 พรรค พรรคหนึ่งคือพรรคคุณทักษิณ เป็นคนเปิดประตู พรรคที่ 2 คือพรรคประชาธิปัตย์ ทำไม่รู้เห็นอะไรทั้งสิ้น
จินดารัตน์ - ปิดตาข้างหนึ่ง
สนธิ - ปิดตาข้างหนึ่ง เพราะฉะนั้นแล้ว เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์จะต้องมารับผลอันนี้ ทั้งๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ต่อต้านเรื่องนี้
จินดารัตน์ - ใช่ค่ะ ในยุคที่เป็นฝ่ายค้าน
สนธิ - วันนี้คนละเรื่อง
จินดารัตน์ - เขายังเป็นพรรคเดียวกันอยู่หรือเปล่าคะ
สนธิ - ไม่ทราบครับ
จินดารัตน์ - แอนก็เข้าใจว่าจะไปเปลี่ยนชื่อพรรคไปหรือเปล่า
สนธิ - ไม่รู้ครับ เศร้า
จินดารัตน์ - คุณสนธิ อย่างนี้คนไทยที่สหรัฐอเมริกาเขารู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง
สนธิ - เขาโกรธแค้นมาก คนพวกนี้เป็นคนซึ่งมีการศึกษา ติดตามข่าวการเมืองตลอดเวลา ผมแค่เอาแผนที่ให้เขาดู แล้วอธิบาย คือเวลาเราดูปัญหาของชายแดนไทยเรื่องเขมร เขาพระวิหาร เราต้องดูว่าเวลานั้นมันมีอะไรเกิดขึ้นกับทะเล เวลานั้นใครพบใครบ้าง คุณแอนไม่สังเกตหรือว่า ตั้งแต่คุณทักษิณขึ้นมาเป็นนายกฯ มีความรู้สึกกระเหี้ยนกระรือกระร้น ที่จะไปกินข้าวกับฮุน เซน ตีกอล์ฟกับฮุน เซน ตลอดเวลา ทั้งหมดนี่ก็เพื่อผลประโยชน์ทางทะเล
ผลประโยชน์ทางทะเลใครจะได้ก็ตาม สมมุติว่าไทยได้ร่วมกับเขมร สมมุติจะให้ ปตท.ไปลงทุน ใครได้ล่ะ
จินดารัตน์ - ก็นายทุนสิคะ ถือหุ้น
สนธิ - 49 เปอร์เซ็นต์ของ ปตท. ใครเป็นคนถือล่ะ
จินดารัตน์ - โอ้โห
สนธิ - เข้าใจหรือยัง
จินดารัตน์ - ตระกูลใหญ่ๆ
สนธิ - เพราะฉะนั้น ที่มันแปรรูป ปตท.เพื่อเอามารองรับพวกนี้ด้วยไง เข้าใจหรือยัง มันไม่ต้องเป็นเจ้าของ 100 เปอร์เซ็นต์ มันแค่ถือหุ้นอยู่ 10-20 เปอร์เซ็นต์ ใน ปตท. แล้ว ปตท.ได้สัมปทานตัวนี้เข้าไป มูลค่าหุ้น ปตท.เป็น 2-3 พันบาทต่อ 1 หุ้น เพิ่มอีกประมาณ 10 เท่า ที่มีปัจจุบัน วันนี้มีถือหุ้น ปตท.มีอยู่ประมาณ 4 หมื่นล้าน ก็กลายเป็น 4 แสน-5 แสนล้าน เผลอๆ เป็นล้านๆ เห็นหรือยัง นี่คือวิธีการไง เอาประโยชน์ของประเทศชาติซึ่งสมควรจะตกให้กับประชาชนทั้งประเทศ
จินดารัตน์ - ไปแบ่งกัน
สนธิ - ไปแบ่งกันพวกตัวเอง ที่ร้ายกว่านั้น ตัดแผ่นดินของไทยให้กับฝ่ายตรงกันข้าม เพื่อนบ้าน เพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์จากตรงนี้ คือมันเลวจนไม่รู้จะเลวยังไง มันบัดซบจนไม่รู้จะบัดซบยังไง มันชาติชั่วจนไม่รู้จะชาติชั่วยังไง มันไม่รู้จะใช้คำพูดที่ร้ายกว่านี้แรงกว่านี้ได้ยังไงอีกแล้ว เพราะว่าไม่มีคำพูดอะไรที่แรงที่สุดแล้วจะอธิบายถึงความเลวของเรื่องนี้ได้เลยแม้แต่นิดเดียว คือผมนึกไม่ออกว่าคนไทย ลำพังแค่คนไทย แค่คนขายเฉาก๊วย หรือแม่ค้าขายกล้วยทอด ยังมีความรักชาติมากกว่านี้พวกนี้เลย เฮ้ย ปราสาทพระวิหารไปยอมมันได้ไง เป็นของเรา นอกจากนั้นแล้วยังปล่อยให้มันขู่เช้าขู่เย็น ดูถูกทหารไทย ดูถูกรัฐบาลไทยเป็นตัวตลกโปกฮา
จินดารัตน์ - ก็ที่ฮุน เซน พูด
สนธิ - แล้วก็พูดอยู่ตลอดเวลาเลยว่าผมไม่ต้องการที่จะให้มีความขัดแย้ง ไม่มีความขัดแย้ง ไม่ต้องการให้มีการปะทะกัน เอ๊ะ นี่มันบุกเข้ามาจะถึงกรุงเทพฯ แล้วนะ ไม่ปะทะกันได้ยังไง แล้วที่ (ขอโทษนะครับ) ที่เหี้ยไม่มีหมาปน ก็คือไอ้นักการเมืองพรรคภูมิอะไรเนี่ย ไปจัดตั้งประชาชนมาตีพันธมิตรฯ
จินดารัตน์ - และกลุ่มผู้รักชาติ
สนธิ - ไอ้นักการเมืองที่อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิอะไรเนี่ย คือตัวการ มันเนี่ยขายชาติ คนขายชาติ แล้วผมเนี่ยด่าคนขายชาติอย่างนพดลเนี่ย ผมโดนจำคุก 6 เดือน ไม่มีรอลงอาญา แต่คนซึ่งทำชาติเสียหายเป็นหมื่นๆ ล้าน โดน 2 ปี แต่รอลงอาญา ขอบพระคุณศาล ผมจะติดคุก และผมจะติดให้หัวโตเลย ผมยินดี ถ้าจะเอาผมถึง 100 ปี ผมจะติด แต่ถ้าผมติดแล้วจะทำให้กระบวนการยุติธรรมมันดีขึ้น ผมยินดี
จินดารัตน์ - เรื่องนี้เรื่องยาวคุณสนธิ เดี๋ยวแอนต้องคุยกับคุณสนธิเรื่องคดีนะคะ เพราะหลายคนเป็นห่วงเหลือเกิน เอาเป็นว่า แอนขอคำถามสุดท้ายสำหรับเรื่องของกัมพูชา คุณสนธิรู้สึกอย่างไรที่ ในเมื่อฮุน เซน ออกมาพูดเหยียบหน้าเหยียบจมูก คือเหยียบย่ำหัวใจคนไทยไม่พอ ยังบอกสั่งยิงมันเลย ใคร คนไทยหน้าไหน ล้ำเส้นแดนเข้ามา
สนธิ - คุณแอน คุณมาถามผมทำไม คุณต้องไปถามคุณประวิตร วงษ์สุวรรณ คุณต้องไปถามคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ คุณต้องไปถาม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่สำคัญคุณต้องไปถามอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่ามาถามผม
จินดารัตน์ - แอนคิดว่าถามบุคคลเหล่านี้คงจะไม่ได้คำตอบ เพราะว่าเขาไม่มีหัวใจแล้วค่ะคุณสนธิ แต่อยากจะถามว่าหัวใจคนรักชาติอย่างเราๆ ท่านๆ ถามจริงๆ เถอะ
สนธิ - ผมคิดว่าเขาประมาทเรื่องนี้มาก เรื่องนี้จะเป็นไฟลามทุ่ง คอยดู จะเป็นไฟลามทุ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไอ้ตัวบัดซบที่ไปอยู่เบื้องหลังการจัดคนคอยตีประชาชน คอยดู ถ้าเกิดมีการรวมตัวกันแบบประชาชนแบบทนไม่ไหวจริงๆ แล้วทุกภาคส่วนบุกเข้าไปที่เขาพระวิหารหมดแล้ว คุณจะไปจัดคนมาตีก็ตีไม่ได้แล้ว วันนั้นแผ่นดินจะลุกเป็นไฟ ผมจะบอกให้รู้ แล้วถ้ามันลุกเป็นไฟได้ ความผิดพลาดจะต้องอยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์แต่ผู้เดียว โทษคนอื่นไม่ได้เลย ก็รับไปแล้วกันประวัติศาสตร์ รับไป คุณแอน มีครั้งไหนบ้าง พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ทำให้ไทยสูญเสียดินแดน และสูญเสียทรัพย์สินของชาติไป ข้อที่ 1 คุณเสนีย์ ปราโมช ทนายพรรคประชาธิปัตย์ ถูก/ไม่ถูก ส.ป.ก. 4-01 ที่ดิน สุเทพ เทือกสุบรรณ นิพนธ์ พร้อมพันธุ์ พรรคประชาธิปัตย์ 3. ปรส.ที่ยกให้ฝรั่งมารีดไถคนไทย คุณธารินทร์ นิมมานเหมินท์ พรรคประชาธิปัตย์ งวดนี้เขาพระวิหาร พรรคประชาธิปัตย์
ผมพูดนี่ไม่ได้ว่าใครนะ พี่น้องชาวใต้คิดดีๆ ใช้เหตุใช้ผลคิดหน่อย
จินดารัตน์ - ก็เอาใจช่วยนะคะ พรรคประชาธิปัตย์ก็ท่องนะโมกันต่อไป
สนธิ - ครับ ตั้งนะโมไปเรื่อย นะโมเจรจา นะโมสันติ นะโมเจรจา นะโมสันติ ทำได้แค่เนี้ย
จินดารัตน์ - คุณผู้ชมท่านไหนอยากท่องนะโมกับประชาธิปัตย์ก็ท่องกันไปนะคะ แต่พวกเราคงไม่
สนธิ - ไม่ล่ะครับ พวกเรานี่พาหุงเลย พาหุงสะหัสสะมะภินิม มิตะสาวุธันตัง...
จินดารัตน์ - ค่ะ เดี๋ยวเราจะพักกันก่อนค่ะ ช่วงหน้ากลับมาดูเรื่องของคดีของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล กันบ้าง แหมแอนบอกไป 6 ปีน่ะ ไม่ใช่นะคะ 7 ปี 2 เดือน เดี๋ยวช่วงหน้ากลับมาฟังกันค่ะ
ช่วงที่ 3
จินดารัตน์ - กลับมาช่วงสุดท้ายรายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เราคุยกับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล กลับมาช่วงนี้ คุณสนธิคะวันนี้อีก 1 คดี โดนไปอีก 6 เดือน แต่ว่าก่อนหน้านี้ 2 คดีล่าสุด โดนไปอีก 2 ปีครึ่ง พี่น้องของเราทนไม่ไหวจริงๆ วันนี้โทรศัพท์เข้ามาเยอะ แอนยกตัวอย่างพันธมิตรฯ จากนคร เขาบอกว่า ทำไมคนโกงชาติโกงแผ่นดินแค่รอลงอาญา แต่ทำไมคนสู้เพื่อชาติติดคุกโดยไม่รอลงอาญา ยังมีอีกนะคะ เขาบอกว่า โกงชาติรอลงอาญา หมิ่นโจรติดคุก แล้วก็มีอีกว่า ออกมาเปิดเผยถึงคนขายชาติขายแผ่นดิน ให้ติดคุกไม่รอลงอาญา พวกขายชาติขายแผ่นดิน คอร์รัปชั่น รอลงอาญาปรับแค่ 20,000 บาท
สนธิ - เรื่องนี้ต้องพูดภาพรวม ผมก็อยากจะพูดเรื่องนี้ให้พ่อแม่พี่น้องพันธมิตรฯ และประชาชน ท่านผู้ชมได้ฟัง คุณแอนจำได้ไหมที่ผมพูดเรื่องการจุดเทียน การจุดเทียนเล่มแรกแล้วคนที่จุดติดคนแรกแล้วไม่ให้มันดับต้องเจ็บตัว เพราะว่าการจุดเทียนท่ามกลางพายุร้าย พายุร้ายก็คือ วิชามารต่างๆ ทั้งอำนาจทุกอย่าง เราจุดเทียนสมัยคุณทักษิณมีอำนาจเบ็ดเสร็จหมด มีอำนาจในรัฐบาล มีอำนาจทางตำรวจ ศาล มีอำนาจทางอัยการ แม้กระทั่งคนอย่างคุณเนวิน ชิดชอบ ก็เข้าร่วมขบวนการคุณทักษิณตอนนั้น ก็เป็นส่วนหนึ่งของลมพายุเหมือนกัน สมัยก่อนมีคนพยายามจุดเทียนให้คนเห็น แต่จุดปั๊บลมพายุพัดปุ๊บดับวูบเลย ไม่มีใครกล้าต้านพายุ การจะจุดเทียนได้คนจุดต้องมีความกล้าหาญพอที่จะเอาหลังบังลม เอาหน้าโอบเทียนเอาไว้ให้เทียนมันติด พอเทียนมันติดไฟมันสว่างขึ้นมาในห้อง คนที่ถือเทียนอยู่ก็วิ่งเข้ามาจ่อเทียนถึงจะเป็นเทียนเล่มใหญ่ จุดเทียนเล่มน้อยแล้วเอามาร้อยรวมกัน ทีนี้พายุที่พัดเข้าหาคนจุดเทียน คือผม มันเป็นพายุที่หอบเอาเหล็กมา สังกะสี กระเบื้อง
จินดารัตน์ - ตะปูบ้าง
สนธิ - โดนหัวร้างข้างแตก หลายๆ อย่างเริ่มตั้งแต่ตอนนี้แล้ว การออกหมายจับ การลอบฆ่า ทุกอย่าง จนกระทั่งมาถึงภาพที่ชัดเจนที่สุดก็คือ ผลของมันเริ่มเกิดแล้ว จากวันที่ 17 เมษายน ที่ยิงผม 200 นัด แล้วคดีความซึ่งเริ่มออกมาทีละคดีๆ ผมมีทางเลือก 2 ทาง มีคนถามว่า คดีความมันเจรจาไม่ได้หรอ ผมบอกผม ธรรมดาแล้วการมีคดีความเขาต้องเจรจากัน แต่ผมอยู่ในสถานภาพที่ผมเจรจาไม่ได้
จินดารัตน์ - ทำไมคะ
สนธิ - ถ้าผมเจรจาได้ปังปั๊บ กระบวนการประชาชนล่ม แสดงว่าผมของปลอม เพราะถ้าผมเจรจาแล้วก็ต่างฝ่าย ผมก็ลงหนังสือพิมพ์ขอโทษเขาไป มันไม่ได้ เพราะเรามั่นใจในสิ่งที่เราพูดถูก คุณแอนอย่าลืมว่าตอนที่ผมลุกขึ้นมาสู้ผมสู้ด้วยมือเปล่า ผมมีแต่ปากเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้วเขาเอาอาวุธจริงมาออกกับผม เอาอำนาจทางกฎหมายมาเล่นกับผม ผมมีปากอย่างเดียวผมก็ต้องชกกลับด้วยปาก คุณไม่สังเกตเหรอว่า ทั้งหมดเขาไม่ฟ้องใครฟ้องผมคนเดียว เพื่ออะไร ข้อแรก เขาคิดอย่างผิดๆ ว่า ถ้าล้มผมได้หรือทำให้ผมกลัว มันจะทำให้กระบวนการภาคประชาชน
จินดารัตน์ - ทุกอย่างจบ
สนธิ - ทุกอย่างจบหมด นั่นคือที่มาที่ผมพูดมาตั้งแต่แรก แต่ไหนแต่ไรมาแล้ว ที่ผมบอกว่า ถ้าจะสู้ระบอบทักษิณ 1.เจ๊งต้องไม่กลัวเจ๊ง ตายต้องไม่กลัวตาย เพราะอะไร เพราะเวลาถ้าคุณกลัวเจ๊งคุณกลัวตาย การออกอาวุธคุณก็ออกได้ไม่เต็มที่ ไม่ทรงพลัง ก็เหมือนเด็กแย๊บๆ คนชกต้องชกให้สุดตัว เป็นยังไงเป็นกัน นั่นคือ ตายเป็นตายเจ๊งเป็นเจ๊ง เท่ากับว่าเราต้องตัดใจ เราต้องทำใจให้สงบ แล้วเราต้องมองว่าทุกอย่างเป็นอนิจจัง อนิจจัง ทุกขัง แล้วในที่สุดมันไม่มีอะไร มีวันนี้ก็ไม่มีวันพรุ่งนี้ ไม่มีวันพรุ่งนี้ก็มีวันมะรืน เพราะฉะนั้นไม่ต้องเสียดายทรัพย์สิน เป็นของนอกกาย ตั้งเป้าตั้งจิตอธิษฐานทำเพื่อส่วนรวม พอมาถึงตอนนี้มันมีปัจจัยใหม่เกิดขึ้น ก็คือการเมืองใหม่ หลายคนที่อยู่ในพรรครัฐบาล หลายคนที่อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิๆ อะไร อยู่ในกระบวนการที่ยิงผม 1. ฆ่าผมให้ตายเลย เพราะว่าถ้าผมไม่ตายหรือว่าผมเจริญเติบโตต่อไป เท่ากับแกนนำเขาก็เจริญเติบโตต่อไป เท่ากับภาคประชาชนก็เจริญเติบโตต่อไป เขาจะมาหลอกคนไทยต่อไปได้อย่างไร 2548 กับ 2552 49,50,51 3 ปีกว่า ภาคประชาชนโตขนาดนี้ ให้อีก 3 ปีจะโตขนาดไหน ให้อีก 3 ปีจะโตขนาดไหน แต่ต้องมีคนเจ็บ
ไม่มีครั้งไหนในการนำทัพ แม่ทัพมีทางเลือก 2 ทาง ทางแรกคือยุให้ทหารหาญสู้เพื่อปกป้องแผ่นดิน แล้วก็เอา พี่น้องบุกไปเลยแล้วก็นั่งอยู่ข้างหลัง หรือ ถ้าให้เกิดความฮึกเหิมแม่ทัพต้องนำกองทัพด้วยตัวเอง เมื่อนำด้วยตัวเองแล้ว ถูกหอกถูกธนู เจ็บแค่ไหนต้องอึด เลือดโทรมกายต้องหักธนูทิ้ง ชูดาบตามข้าพเจ้ามา จิตใจถึงไม่เป๋ ความมั่นคงถึงมี เหมือนกับที่มีความพยายามซื้อ ASTV ด้วยเงิน 1,500 ล้านบาท ผมเห็นคุณเนวินแกนึกจะทำสื่อแกทำ เงินแกหาง่ายจัง ผมไม่รู้เงินแกเอามาจากไหน อาชีพแกก็ไม่ได้มีอะไรนอกจากเป็นนักการเมือง แล้วทุกวันนี้ไม่เป็นนักการเมือง แต่เงินทองแกมาหว่านเยอะเหลือเกิน แกนึกจะจ้างคนนู้น แกนึกจะทำทีวี พวกเรานี่จะหาเงินแต่ละบาทมาเลือดตาแทบกระเด็น เงินเราเป็นเงินบริสุทธิ์มาจากประชาชน เพราะว่าเรามีจิตที่บริสุทธิ์ เพราะฉะนั้นจิตของเราที่มีต่อชาติบ้านเมืองมันบริสุทธิ์กว่าจิตของคนอื่นที่อ้างชาติบ้านเมือง แต่เบื้องหลังก็เพื่อเข้ามาโกงกิน ไม่อย่างนั้นไม่ทำอะไรง่ายๆ อย่างนี้หรอก คุณแอนจะทำอะไรแต่ละอย่างของเรานี่ลำบากมากเลยนะ ของเขานึกจะซื้อตึกก็ซื้อ นึกจะตั้งทีวีก็ตั้ง นึกจะออกหนังสือพิมพ์ก็ออก ของเขาหมูมาก เพราะว่าเงินเขาได้มาไม่บริสุทธิ์ เพราะเป็นเงินที่เขาคอร์รัปชั่นมา แล้วเขาก็มาตั้งสื่อ ตั้งวิทยุชุมชน ออกมาด่าพันธมิตรฯ เหมือนกับด่าพันธมิตรฯ ว่า พันธมิตรฯ 7 ตุลาฯ นึกว่าเป็นวีรชน เป็นวีรชนได้อย่างไร เขาทำได้เพียงแค่นี้ เขาทำได้เพียงฉาบฉวย ด้วยเหตุนี้เขาจะไม่มีวันที่มวลชนที่มีคุณภาพ ที่มีปัญญา ที่ติดตามเขาได้
ถ้าผมยอมขาย ASTV 1,500 ล้าน หรือถ้าผมแสดงความกลัวคดีความ ปัญหาไม่เกิดกับผมคนเดียว ปัญหาเกิดขึ้นกับคุณด้วย คุณจะไปมองหน้าเพื่อนฝูงคุณที่ช่อง 3 ได้อย่างไร ที่คุณเคยเชิดใส่เขาบอกว่า เฮ้ยของฉันนักสู้ ทีวีเราทีวีเราสู้เพื่อชาติ สู้เพื่อชาติไงไหนสนธิขายไปแล้วไง 1,500 ล้าน สู้เพื่อชาติไงเห็นไหมสนธิโดนคดี 2-3 คดีหนีหางจุกตูด ลูกชายผมเดินเอาปี๊บคุมหัว ที่สำคัญพี่น้องพันธมิตรฯ เป็นล้านๆ เขาจะมองหน้าตัวเขาเองได้อย่างไร เขาจะมองพวกที่เขาไปด่าเสื้อแดงแถวบ้าน ว่าทักษิณขี้กลัว เขาบอกสนธิต่างกับทักษิณตรงไหน ชีวิตผมไม่ได้เป็นของผมแล้ววันนี้ ชีวิตผมเป็นของพี่น้องพันธมิตรฯ ทุกคน ผมจะทำอะไรก็ได้ที่จะทำให้ผมรอด แต่พี่น้องพันธมิตรฯ ต้องอับอายขายหน้า ถ้าเป็นอย่างนั้นผมยอมตาย ความตายมีอะไรน่ากลัว 200 นัดยังเอาผมไม่ตาย แล้วคุก 2 ปี 4 ปี ให้พิพากษาผม 20 ปีไปเลย เอาทำไม 2 ปี รวมๆ ไปเลย 30 40 ปี ผมจะติดให้ดู แล้วผมจะตายในคุกให้ดู ผมไม่แคร์ ถ้าผมตายในคุก ผมติดคุก ภาคประชาชนเข้มแข็ง ภาคประชาชนขับไล่พวกเลวทรามต่ำช้านี่ออกไปได้ แล้วทำให้กระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาลสถิตยุติธรรม เป็นที่พึ่งได้จริงๆ ในที่สุด มันก็คุ้มที่จะติด
ติดคุกแล้วยังไง ไม่ติดคุกแล้วยังไง วันนี้ทักษิณไม่ติดคุกแล้วเหมือนติดคุกไหม ใครจะไปพบทักษิณทีต้องนั่งเครื่องบินไปเจอที่ดูไบ เดี๋ยวนี้การบินไทยก็ไม่กล้านั่งกลัวแอร์คนไทยจะเห็น นั่งคาเธ่ย์ หรือไม่ก็นั่งเอมิเรตส์ ไปพบ ทักษิณเหมือนอะไร ลูกเมียมีความสุขไหม วันนี้ สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ถึงแม้จะรอลงอาญา มีความสุขไหม แต่ผมมีความสุข พิพากษาผม 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ไม่ให้เหตุผลด้วยว่าทำไมไม่รอลงอาญา ผมก็ไม่ว่า ในขณะซึ่งคดีหวยบนดิน ทำชาติบ้านเมืองเสียหายเป็นหมื่นๆ ล้าน รอลงอาญา แล้วปรับ 20,000 บาท เสียหายหมื่นกว่าล้าน ปรับ 20,000 บาท ของผมหมิ่นนายนพดล ปรับ 20,000 บาทเหมือนกัน ช่างมัน ถ้าถึงเวลาที่จะต้องรื้อกระบวนการยุติธรรม แล้วถ้าชีวิตผมต้องแลกกับการรื้อกระบวนการยุติธรรมด้วยการติดคุกตลอดชีวิต ให้มันติดไป นี่ไม่ได้ท้าทาย
จินดารัตน์ - คุณสนธิไม่รู้สึกหวั่นไหวเลย
สนธิ - ไม่หวั่นไหว มันจะหวั่นไหวได้อย่างไร คุณ คนที่ผ่านมาแล้ว 200 นัด ระเบิดอีก 2 ลูก จะหวั่นไหวอะไรอีกต่อไปนี้
จินดารัตน์ - คุณสนธิ มีหลายคนสงสัยว่าทำไมคดีความถึงรวดเร็วนัก หลายๆ คดีเตรียมจ่อเข้ามา มันเกี่ยวข้องอะไรกับการเมืองใหม่ไหม
สนธิ - เกี่ยวแน่นอน เขาต้องการหยุดยั้งผม แต่ตราบใดที่ศาลฎีกายังไม่มีพิพากษา ผมจะต้องผลักดันภาคประชาชนให้เจริญเติบโตให้ได้ วันไหนศาลฎีกาพิพากษา ถ้าศาลฎีกามีเมตตาธรรมผม ยกฟ้อง หรือให้รอลงอาญาก็โอเค ถ้าไม่มีเมตตาธรรมไม่เป็นไร เพราะว่าผมพูดตลอดเวลา ผมไม่ใช่คุณทักษิณ แล้วผมไม่ใช่เพิ่งพูด เขาบอกว่าคุณเนวินกล้าหาญ ผมกลัวคุณเนวินจะรู้ข้อสอบล่วงหน้าน่ะซิถึงกล้าหาญ แต่ผมแสดงจุดยืนของผมกับพันธมิตรฯ มาตั้งแต่ กี่ปีแล้ว ถ้าคุณเนวินกล้าหาญ คุณเนวินต้องไม่ร่วมคุณทักษิณตั้งแต่ต้น ทำไมมาถีบหัวคุณทักษิณออกเพียงเพราะว่าคุณมีทหารแบ็คหลังคุณ อย่างนี้ไม่เรียกกล้าหาญ เขาเรียกว่า เนรคุณ สื่อมวลชนเข้าใจผิด คุณเนวินก็เข้าใจตัวเองผิดว่าตัวเองกล้าหาญ ตัวเองไม่ได้กล้าหาญอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้ากล้าหาญจริง สมัยคุณทักษิณไปจัดพิธีที่วัดพระแก้ว คุณเนวินจะต้องบอกคุณทักษิณว่า นายทำไม่ถูกผมไม่เห็นด้วย หรือจัดประชุม ครม.ที่ปราสาทพนมรุ้ง คุณเนวินต้องบอกอย่าทำ คุณเนวินเองเป็นคนทำ แต่โอกาสเกิดขึ้น มันเกิดสุญญากาศที่จะทำให้คุณเนวินสร้างตัวเองออกมา ก็อ้างว่า เพราะว่าทนไม่ไหวที่จะเห็นคุณทักษิณและกระบวนการนั้นไม่เคารพสถาบันกษัตริย์ ทำไมความรู้สึกช้านัก 44, 45, 46, 47, 48, 49, 50, 51, 52 แปดปีกว่าทำไมเพิ่งมารู้สึกตอนนี้ มารู้สึกก็ต่อเมื่อทหารบางคนไปบอกคุณเนวินว่า ให้ยกออกมาแล้วจะให้ตำแหน่งพรรคภูมิใจไทย ให้คมนาคม ให้มหาดไทย ถึงออกมา ทีนี้ออกมาก็ต้องมีสาเหตุ สาเหตุก็ง่ายนิดเดียว ก็เพราะคุณทักษิณไม่เคารพสถาบัน พอแล้วนายพอแล้วหยุดได้แล้ว ทำไมไม่พูดคำนี้ มีเวลาตั้ง 8 ปีไม่พูด ดันทะลึ่งมาพูดจังหวะที่จะต้องมาร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์
คุณแอน ของแท้ของปลอมดูให้เป็นดูไม่ยากหรอก ผมไม่ได้ยกยอ หรือยกตัวเอง แต่ผมมีความรู้สึกว่า เมื่อผมสงบ ผมตัดสินใจอะไรแล้ว ความตายก็ผ่านไปแล้วทุกอย่างไม่มีความหมาย ให้ตายไม่มีความหมาย ไม่มีจริงๆ ผมเห็นคุณประวิตร วงษ์สุวรรณ ขับรถพอร์ช คาเยนน์ คันละ 17 ล้าน ขับไปงานสวนสนามของน้องชายตัวเองที่สามพราน แล้วมีมอเตอร์ไซค์ทหารนำ เท่ห์ ผมก็เคยมีพอร์ช คาเยนน์ สีน้ำเงิน จำได้ไหมคุณแอน
จินดารัตน์ - จำได้ค่ะ
สนธิ - แล้วผมทำอะไรกับมัน
จินดารัตน์ - ขาย
สนธิ - ขายเพื่อเอา
จินดารัตน์ - เอาเงินมาต่อสู้
สนธิ - เอาเงินมาจ่ายเงินเดือนลูกน้องต่อสู้กับระบอบทักษิณ ต่างกันคุณแอน
จินดารัตน์ - แอนยังเคยถามคุณสนธิเลยว่าคุณสนธิไม่เสียดายหรอ
สนธิ - มันคือรถ มันคือเรื่องสมมุติ ทุกอย่างอนิจจัง มีการเปลี่ยนแปลงตลอด ผมสงสารคนพวกนี้ คนที่โลภในกิเลส หมกมุ่นอยู่ในราคะ หมกมุ่นอยู่ในทุกอย่าง คนอยากมีอำนาจ อยากจะโกง อยากจะทำโครงการ โครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน 20,000 กว่าล้าน ไปอัพงบประมาณมาเป็น 30,000 กว่า ขอกินส่วนต่าง 8,000 ล้าน สนามบิน ทุกอย่าง เสร็จแล้วเพื่ออะไรเพื่อตัวเองจะได้มีเงินเป็นพันล้านเป็นหมื่นล้าน เอาเงินนั้นไปซื้อประชาชนเพื่อเลือกตัวเองกลับมามีอำนาจ เขาคงนึกว่าเขาเท่ห์ เขาไม่รู้ว่านี่คือบาปกรรมมหาศาล นี่คือวิถีทางของคนชั่ว วิถีทางของเปรตนรกที่อยู่ในอเวจี ผมทำไม่ได้หรอก คุณแอนเข้าใจหรือยังว่าทำไมเขาต้องฆ่าผม ก็นี่ไง เขาต้องฆ่าผมเพราะอันนี้ ผมยังไม่เห็นเลย ไม่เห็นพรรคการเมือง ไม่เห็นรัฐบาลชุดนี้ ผมยังไม่เห็นคุณบรรหาร ศิลปอาชา ยังไม่เห็นพรรคชาติไทยพัฒนา ผมยังไม่เห็นคุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ พรรครวมใจไทยฯ ผมยังไม่เห็นพรรคการเมืองพรรคไหนที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลตอนนี้ ที่ออกมาสู้เพื่อดินแดนของประเทศไทย ผมเห็นอยู่อย่างเดียว ขยันแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตัวเอง แค่นั้นเอง เพราะฉะนั้นนักการเมืองพวกนี้ ความคิดทางการเมืองพวกนี้ มันไม่ใช่เน่าอย่างเดียว มันเป็นอันตรายต่อสังคมไทย มันต้องหายสาบสูญไปจากสังคมไทย ถ้าชีวิตผมต้องตายแล้วพวกนี้หายสาบสูญไปมันก็คุ้ม หรือว่าตายแล้วยังไม่หายสาบสูญ แต่เป็นพลังทำให้ภาคประชาชนเข้มแข็งกว่าเดิมแล้วขับไล่ผีเปรตจัญไร เพลงเทียนแห่งธรรมไง ไม่มีอะไรศักดิ์สิทธิ์เท่าเพลงเทียนแห่งธรรม นัยตรงกับการต่อสู้ของเรามาตลอดเลย
จินดารัตน์ - เหลือเวลาช่วงท้าย คุณสนธิอยากพูดอะไรกับพ่อแม่พี่น้องถึงงานวันที่ 7
สนธิ - วันที่ 7 เป็นวันที่สำคัญที่สุด วันที่ 7 ไม่ใช่เป็นวันที่จะมาแสดงออกถึงความสนุกสนาน บางครั้งผมโดน 3 ปี 2 ปี 6 ปีสุดแล้วแต่ แว้บนึงผมคิดถึงน้องโบว์ สารวัตรจ๊าบ ที่ไม่ได้มีชีวิตอยู่บนแผ่นดินไทยแล้ว ผมมีความรู้สึกว่าเขาเสียสละมากกว่าผมเยอะ แวบหนึ่งผมคิดถึงมือขวาของตี๋ ชิงชัย ที่ขาดไป ผมมีความรู้สึกว่าเขาเสียสละมากกว่าผมเยอะ แวบหนึ่งผมคิดถึงขาคุณเจ๊ก ที่ชุมพร ที่ขาดไปข้างหนึ่ง ผมมีความรู้สึกเขาเสียสละมากกว่าผมเยอะ ผมมีความรู้สึกว่าวันที่ 7 ตุลาคมนั้น มันเป็นนัยที่เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ของภาคประชาชนที่สันติ อหิงสา ที่สันติและอหิงสาจริงๆ
วันที่ 7 ตุลาคม เป็นวันที่ระลึกถึงการที่ประชาชนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่ลุกฮือขึ้นมา เพื่อต่อสู้กับสิ่งที่ชั่วร้าย และเป็นการลุกฮือกันทั่วประเทศไทย 7 ตุลาคม เป็นบาดแผลที่ลงไปในใจคนหลายฝ่าย ฝ่ายตำรวจก็เป็นบาดแผลที่รักษาไม่มีวันหาย ฝ่ายทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณอนุพงษ์ เผ่าจินดา คุณประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็เป็นบาดแผลที่ตัวเองอาจจะไม่ยอมรับ แต่ลึกๆ เมื่อตัวเองใกล้วันตาย ตัวเองจะเริ่มรู้สึกเสียใจกับมัน
จินดารัตน์ - มันเป็นเหมือนตราบาป
สนธิ - ตราบาปของพวกเขา 7 ตุลาฯ ก็เป็นบาดแผลของพวกเรา แต่เป็นบาดแผลที่ให้ระลึกถึงการเสียสละ ของเรากับเขาไม่เหมือนกันนะ ของพวกเขาเป็นบาดแผลที่ฝังอยู่ในใจแล้วทำให้เขานอนไม่หลับ ของเรานี่เป็นบาดแผลที่ทำให้ระลึกถึงการเสียสละ แล้วสร้างพลังขึ้นมา ว่าเขาต้องไม่ตายไปอย่างสูญเปล่า เรามีหน้าที่เอาอุดมการณ์ของเขาเดินหน้าต่อไป 7 ตุลาฯ กับ 14 ตุลาฯ ไม่เหมือนกัน 14 ตุลาฯ มันมีอุดมการณ์ทางการเมืองตามลัทธิต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ 7 ตุลาฯ 2551 เป็นอุดมการณ์ที่บริสุทธิ์ ไม่มีลัทธิใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นอุดมการณ์ที่ใด เป็นจิตที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ด้วยความบริสุทธิ์จริงๆ บริสุทธิ์
พันธมิตรฯ 7 ตุลาฯ มันเกิดขึ้นจากการเสียสละ มีใครไม่เสียสละบ้าง น้องโบว์เสียสละ พ่อน้องโบว์เสียสละลูกสาวไป เมียสารวัตร์จ๊าบเสียสละผัว ตี๋ ชิงชัย เสียสละแขน เจ๊ก ชุมพร เสียสละขา พี่น้องหลายคน คุณหมอบางคนเสียสละอาชีพ เลิกงานแล้วต้องมาร่วมชุมนุม คุณหมอสัตวแพทย์คนที่อยู่จุฬาฯ เสียสละนิ้วเท้า 3 นิ้ว เพียงต้องการมาแสดงความบริสุทธิ์ ประชาชนเจ้าของกิจการ เจ้าของโรงงานเหล็ก เสียสละมานั่งช่วย มาตักข้าวให้ หลายคนเสียสละ เป็นทันตแพทย์เสียสละมาเก็บขยะ ผมถามซิว่าความเสียสละตรงนี้มีพรรคการเมืองไหนที่มีสมาชิกเขาเสียสละอย่างนี้
อย่างคุณเนวิน ชิดชอบ ที่ชอบอ้างว่าเรียกระดมประชาชนได้ เขาระดมประชาชนที่พร้อมจะเสียสละอย่างพวกเราได้ไหม ไม่มีทาง ถ้าเขาไม่ใช้เงินนี่ไม่มีทางหรอก เพราะฉะนั้นคนพวกนี้คือคนของปลอม คนพวกนี้อยู่ได้ด้วยเงิน แต่ของเราเสียสละ เราซื่อสัตย์ไหม เรามาเราไม่ได้มีอะไร ถึงแม้ว่าก่อนมาจะเบี้ยวแชร์เพื่อน จะโกงคน หรือจะทะเลาะกับคน แต่พอเขามานั่งในทำเนียบฯ มาร่วมขบวนการแล้ว เขาซื่อสัตย์แล้ว เขาซื่อสัตย์ต่อชาติบ้านเมือง เขากล้าหาญไหม กล้าหาญโคตรเลย เขาไม่ใช่คนนุ่งผ้าถุงที่ไปแอบอยู่เบื้องหลัง ไปปลุกระดมคนของเขา เอาเงินให้ เพื่อมาตีชาวบ้าน เขาพร้อมที่จะเปิดเผยตัว ลุกขึ้นมา เดินหน้าไป แสดงจิตเจตจำนง บอกว่าเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ด้วยความซื่อสัตย์ เสียสละ กล้าหาญ ครบถ้วน นี่คือ 7 ตุลาคม และต้องดำรงอยู่ตรงนี้ต่อไปตลอด เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ไม่มีวันที่จะเปลี่ยนแปลง ผมก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพราะภาคประชาชนโตมาแบบนี้แล้ว ผมมีอยู่อย่างเดียวที่จะต้องทำได้ คือต้องตายเพื่อภาคประชาชน ติดคุกเพื่อภาคประชาชน เจ๊งเพื่อประชาชน
วันนี้ผมไม่มีสิทธิ์คิดเรื่องของผม ผมไม่ใช่เจ้าของตัวผมอีกต่อไปแล้ว ประชาชนต่างหากที่เป็นเจ้าของผม เราต้องเปลี่ยนแปลงสังคมให้ได้ เราต้องกล้าเปลี่ยน เพราะฉะนั้นแล้ว 7 ตุลาฯ พ่อแม่พี่น้องจึงมีความจำเป็นที่จะต้องออกมาแสดง ยิ่งออกมาแสดงพลังระลึกถึง 7 ตุลาฯ มากได้เท่าไร ยิ่งเป็นบทพิสูจน์ให้ฝ่ายชั่วช้า ฝ่ายอธรรม ได้เห็นว่ายังมีพลังของธรรมที่ยิ่งใหญ่ ที่พร้อมที่จะค้ำจุนสังคมไทย ที่พร้อมจะเป็นฐานสำคัญให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สถาบันกษัตริย์ ที่พร้อมจะมาสร้างการเมืองใหม่ให้คนไทยได้อยู่ดีกินดี ให้มีหลักนิติรัฐจริงๆ ไม่ต้องใช้เงิน ที่พร้อมที่จะขจัดการคอร์รัปชั่น เพราะเดี๋ยวนี้การคอร์รัปชั่นมันทำให้ชาติพังทลายไปหมดแล้ว งบประมาณเราปีละ 1.8 ล้านล้านบาท บวกกับเงินพิเศษอีก 8 แสนล้านบาท 2.6 ล้านล้านบาท คุณอภิสิทธิ์ไปพูดในที่ประชุมสัมมนาเรื่องการคอร์รัปชั่นของโลก คุณอภิสิทธิ์ยอมรับว่าในเมืองไทยคอร์รัปชั่นประมาณ 20-40 เปอร์เซ็นต์ คุณแอน เอาแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ ของ 2.6 ล้านล้านบาท เท่าไรรู้ไหม 5.2 แสนล้านบาท 5.2 แสนล้านบาทนี่เราสามารถทำให้คนหายจนได้ รักษาพยาบาลฟรีอย่างมีคุณภาพได้ ให้การศึกษาได้โดยไม่ต้องเสียเงิน นี่คือภารกิจเรา เราต้องล้างคอร์รัปชั่นให้ได้ และคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นจากไหน ก็พวกนักการเมืองเก่า นักการเมืองชั่วๆ หลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักการเมืองชั่วๆ ที่แอบอยู่เบื้องหลังประชาชนศรีสะเกษที่มาตีพันธมิตรฯ นักการเมืองชั่วๆ ที่แอบไปตั้งสื่อมวลชนแล้วมาโจมตีพวกเรา พวกนี้ต่างหากที่เป็นพวกทำลายชาติ พวกนี้ไม่ได้รักพระมหากษัตริย์จริง
จินดารัตน์ - เพราะฉะนั้นวันที่ 7 ตุลาคม ต้องออกมาร่วมกันแสดงพลัง
สนธิ - ต้องออกมาร่วม
จินดารัตน์ - นี่จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราจะได้ร่วมแสดงพลังให้คนในชาติ ให้นักการเมืองชั่วๆ ได้เห็นกันว่า กลุ่มพลังของประชาชนที่บริสุทธิ์จริงๆ นั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน
วันนี้หมดเวลาแล้วค่ะ กราบขอบพระคุณทุกท่านที่ส่งข้อความเข้ามา ต้องขออภัยจริงๆ ที่ไม่ได้อ่านออกอากาศ หลายคนเป็นห่วงคุณสนธิ แล้วอยากทราบเรื่องความคืบหน้าพรรคการเมืองใหม่ วันที่ 6 นี้เราจะได้ทราบกัน จะมีการประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองใหม่ ส่วนวันที่ 7 อย่าลืม เราจะเริ่มเปิดเวทีการถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 06.00 น.เป็นต้นไป อย่างไรซะไปจับจองที่กันก่อน ที่จอดรถมีน้อย ถ้าไปรถสาธารณะได้จะดีนะคะ วันนี้ขอบพระคุณทุกท่าน และขอบพระคุณคุณสนธิค่ะ ขอบคุณค่ะ ลาไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ
