ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ป.ป.ส.ภ.4 เผยพื้นที่ชายแดน 20 อำเภอ ในภาคอีสานยังมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดรุนแรง ยาบ้ายังครองแชมป์แพร่ระบาดสูงสุด ขณะที่การจับกุมยังแตะไม่ถึงผู้ค้ารายใหญ่รวบได้แต่รายเล็กรายน้อย พฤติกรรมยอดฮิตซ่อนยาบ้าในรูทวาร-ช่องคลอด วิตกกลุ่มนักเรียน-นักศึกษา-ผู้ว่างงาน มีแนวโน้มเข้าสู่กระบวนการค้ามากขึ้น
นายไมตรี วิรยะ ผู้อำนวยการสำนักงานปราบปรามยาเสพติดภาค 4 กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดในเขตพื้นที่ภาคอีสาน ว่า ถึงแม้สถานการณ์การค้าและการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ 11 จังหวัดภาคอีสานตอนบน โดยภาพรวมยังคงอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ แต่ยังคงมีบางพื้นที่ที่มีแนวโน้มของปัญหายาเสพติดในระดับที่รุนแรง แม้การป้องกันและปราบปรามของหน่วยงานที่รับผิดชอบจะเข้มข้นมากขึ้น แต่กลุ่มขบวนการผู้ค้ายังคงหาวิธีการและช่องทางในการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย
โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอที่มีแนวเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านรวมทั้งพื้นที่อำเภอชั้นใน ซึ่งในการประชุมร่วมระดับแกนนำคณะทำงานทีม ป.ป.ส.ได้ระบุพื้นที่ 20 อำเภอที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดและแนวโน้มที่จะรุนแรง โดยจะร่วมกันกำหนดกรอบและแผนปราบปรามการค้าและการแพร่ระบาดในพื้นที่แบบบูรณาการของทุกฝ่าย โดยเฉพาะแผนสกัดกั้น ที่จะเน้นหนักไปในเรื่องของการปราบปราม ปิดล้อม ตรวจค้น อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจับกุมผู้เสพรายย่อยเพื่อขยายผลไปถึงกลุ่มผู้ค้ารายใหญ่และการเข้าสู่ระบบบังคับบำบัดของผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมดในระหว่างการดำเนินคดี
นายไมตรี ระบุว่า จากสถิติข้อมูลสถานการณ์ยาเสพติด ใน 11 จังหวัดภาคอีสานตอนบน ตั้งแต่เดือน ต.ค.51 - ส.ค.52 ที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดยาบ้าได้รวม 1,595,063 เม็ด กัญหาแห้งอัดแท่ง 17,237 กิโลกรัม ซึ่งถือว่ามีสถิติของการลักลอบนำเขาจากประเทศเพื่อนบ้านที่สูงขึ้น โดยเฉพาะ จ.หนองคาย และนครพนม ที่ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีการจับกุมมากที่สุด
ขณะที่การจับกุมคดียาเสพติดที่สำคัญ สามารถจับกุมได้ 143 คดี ผู้ต้องหา 210 ราย แยกเป็นคนไทย 166 ราย และชาวต่างชาติ 44 ราย โดยคดียาบ้ามีสถิติการจับกุมมากที่สุด และจากการลงพื้นที่สอบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการผู้ค้ายาเสพติด พบว่า พื้นที่ จ.เลย จ.นครพนม และ จ.กาฬสินธุ์ เป็นพื้นที่ต้องจับตาและมีแนวโน้มสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ขณะที่รูปแบบของการซุกซ่อนยาบ้านั้น พบว่า พฤติกรรมยอดนิยมคือซ่อนยาบ้าไว้ในทวารหนัก-ช่องคลอด-รองเท้า-ห่อแหนม-ข้าวกล่อง
โดยเฉพาะกับข้าวไข่เจียว กล่องนม-กางเกงใน-เสื้อชั้นใน-พันตามร่างกาย หรือการใช้กระเป๋าถือและสะพายซุกซ่อนภายในรถยนต์ ขณะที่ผู้ต้องหาบางรายจะถือติดตัวมาเมื่อพบเจ้าหน้าที่ก็จะโยนของกลางทิ้ง โดยการติดต่อยังคงใช้การซื้อชายทางโทรศัพท์มือถือเช่นเดิม
“แนวโน้มการค้ายาเสพติดในพื้นที่ยังคงเพิ่มขึ้น กลุ่มนักค้าส่วนใหญ่จัดอยู่ในกลุ่มนักค้ารายย่อยที่พัฒนาตัวเองมาจากผู้เสพ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน นักเรียน/นักศึกษาและกลุ่มผู้ว่างงาน ที่จะเดินทางไปรับยาเสพติดมาจากจังหวัดใกล้เคียงหรือประเทศเพื่อนบ้าน นำกลับมาจำหน่ายในพื้นที่”ผู้อำนวยการสำนักงานปราบปรามยาเสพติดภาค 4 ระบุ
