เจาะขุมข่าย “ขรก.เนวิน”พวกหมอผีเขมรครองเมือง

ผ่านพ้น 19 กันยาฯ ไปอย่างโล่งอก และสลดใจไปพร้อมๆกันกับสองเหตุการณ์ใหญ่ในวันระทึกขวัญ ฝ่าด่านอันตราย สำหรับความเป็นอยู่เป็นไปของประเทศไทย

การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่หลงงมงายอยู่กับ “นายใหญ่”พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ที่ยังมอมเมาชวนเชื่อ ฝังหัวชาวบ้านว่า ตัวเองคือนักประชาธิปไตย ทั้งที่เปลือยเปลือกห่มคลุมกายออกมาก็จะเห็นเนื้อแท้

เผด็จการทุนนิยมสามานย์

“ปีศาจทักษิณ”ปลุก“กระแสต้านอำมาตย์”สร้างภาพให้เป็นผู้ร้ายในโครงสร้างอำนาจของประเทศไทย โชว์ตอแหลเสร็จก็จบรอสถานการณ์สุกงอมเดือนตุลาฯ มีอีเวนซ์“สู้แล้วรวย”ให้สามเกลอหัวขวดพุงปลิ้นกันอีกรอบ

กับเหตุการณ์วันเดียวกัน แต่บนเป้าหมายและอุดมการณ์ที่แตกต่าง และคนละสถานที่กัน ภาพการปะทะของ “ขบวนคนไทยรักชาติ ทวงคืนแผ่นดินเขาพระวิหาร” กับชาวบ้านจากหมู่บ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษณ์ ถึงขั้นหัวร้างข้างแตกเลือดตกยางออกไปตามๆกัน

เห็นแล้วสลด หดหู่สิ้นดี!

ทั้งที่กลุ่มคนที่หวังดีต่อประเทศชาติบ้านเมือง “คนไทยรักชาติ”รวมตัวกันปกป้องรักษาสมบัติของประเทศ พื้นที่ดินแดนไทย ที่รัฐบาลไม่เคยแลเห็น

น่าผิดหวัง กับคนที่เคยตั้งความหวังไว้ ทั้งนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ

จะไม่โทษชาวบ้านในพื้นที่ ที่มารวมตัวกันต่อต้าน แต่ต้องโทษที่รัฐบาล และหน่วยงานภาครัฐที่ไม่คอยดูแลรักษาความปลอดภัย และไม่เคยนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงให้ชาวบ้านรับรู้

จนมองกันแค่ประโยชน์เฉพาะหน้า ทั้งๆที่โจรจะปล้นบ้านอยู่แล้ว

และก็ไม่แน่ว่าต่อไป ชาวอ.กันทรลักษณ์ คนในหมู่บ้านภูมิซรอล อาจต้องเปลี่ยนสัญชาติ กลายไปเป็นประชาชนในปกครองของเขมร ที่อาจรุกขยายการยึดพื้นที่มาถึงเข้าสักวัน!

ที่ติดใจก็คือกลุ่มคนเลือดร้อนที่ทั้งขี่จักรยานยนต์ เอาหนังสติ๊กไล่ยิง เอามีดไล่ฟัน ดิบ เถื่อน ถ่อย ต่อหน้าตำรวจ ที่ซ่อนตัวอยู่ในสุมทุมพุ่มไม้ มองกลุ่มวัยรุ่นเลือดร้อน กระทำกับคนไทยด้วยกัน

ไม่แน่ใจว่าคนกลุ่มนี้ เป็นคนในพื้นที่จริงหรือไม่ เพราะเหมือน“จัดตั้ง”มาด้วยรูปแบบคล้ายหน่วยจรยุทธ์ “คนชุดสีน้ำเงิน” กลุ่มคนที่แผลงฤทธิ์มาหลายรอบ ทั้งคราวป่วนเสื้อแดงที่พัทยา และออกปฏิบัติการล้อมกรอบคนเสื้อแดงที่จะบุกต่อต้านนายกฯที่จังหวัดบุรีรัมย์

ตำรวจคุมเชิง ปล่อยวัยรุ่นเลือดร้อนบุกลุย หรือจะเป็นแผน “พ่อมดหมอผี”??

ก็ย่อมคิดไปในทางนั้นได้ อีกทั้งท่าทีของ ระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่แม้จะเล่นบทไกล่เกลี่ยทั้ง แต่ก็ปฏิเสธความรับผิดชอบเหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้

ชวนสงสัย โดยเฉพาะพ่อเมือง“ระพี” คือ เพื่อนรักสมัยเรียนคณะรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ก๊กเดียวกับนาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ น้องชายเนวิน ชิดชอบ ผู้มีบารมีเหนือพรรคภูมิใจไทยคนนั้น

เป็นสิงห์แดง ที่รุ่งโรจน์ในชีวิตราชการ เลื่อนขั้นขึ้นชั้นเป็นผู้ว่าฯหนุ่ม แบบติดจรวด ในยุคกระทรวงมหาดไทย อยู่ภายใต้การครอบครองของนักการเมืองขั้วสีน้ำเงิน

ยังไม่รวมข้อสงสัย ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มีเพียงระดับรองผู้บัญชาการภาค3 และผู้การจังหวัดมาดูแลในพื้นที่ แต่ พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 นายตำรวจขวัญใจของดาราพิธีกรกระดังงาลนไฟ หายไปไหน

อาจจะอ้างว่าไปคอยคุมกลุ่มคนเสื้อแดง ที่บุกโคราช ก็อาจจะอ้างได้ แต่อย่างไรเสีย ถ้าเชื่อมโยงความสัมพันธ์กับบิ๊กสีน้ำเงิน กับ บิ๊กตำรวจอีสานใต้รายนี้ หรือ“หมอผีปากห้อย” จะเปลี่ยนแผน จากเสื้อแดงเมืองกรุง หันมาล่อสีเหลือง?

หรือข่าวลือ คนเนรคุณ สำนึกผิดกับนายเก่าจะเป็นจริง??

อย่างไรก็ดี ถ้าข้อสงสัยในแผนป่วน ระดมคนมาต่อต้านกลุ่มคนไทยรักชาติที่จังหวัดศรีสะเกษ มีนายเนวิน ชิดชอบ ผู้ยิ่งใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย เป็นจริงก็ไม่แปลก เพราะนับตั้งแต่ หักหลังนายเก่ามาเสียบร่วมรัฐบาลใหม่

คนชื่อเนวิน ยิ่งทวีความยิ่งใหญ่ ใหญ่ยิ่งขึ้นทุกวันรักชาติที่จังหวัดศรีสะเกษ ่แห่งแดนอีสานใต้ กับ บิ๊กตำรวจในพื้นที

สร้างเฉดสีน้ำเงินเป็นของตัวเอง จับมือสีเขียว สีกากี เป็นขั้วอำนาจใหม่ ขยายเครือข่ายในระบบและนอกระบบไปอย่างกว้างขวาง ที่เห็นชัดคือวงข้าราชการ

รวมทั้งการจัดส่งกองกำลัง “เพื่อนเนวิน” เข้าเป็นบอร์ด คุม “ขุมทรัพย์รัฐวิสาหกิจ”เรียบวุธ

แตกต่างจากหุ้นส่วนการเมือง สีน้ำเงินในสายสมศักดิ์ เทพสุทิน แค่ปลัดกระทรวงพาณิชย์คนเดียวยักติดกึกติดกัก ที่สาเหตุคงไม่แค่เพราะว่าที่ปลัดพาณิชย์ ยรรยง พวงราช เคยซ่ากับผู้นำจนต้องโดนสั่งสอน

แต่เพราะความหลังระหว่าง “เจ้าพ่อวังน้ำยม”กับ ผู้นำหน้าหล่อ สมัยที่สมศักดิ์ เคยจะเข้าไปไปร่วมค่ายชายคาสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ยุค พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นเลขาธิการพรรคโดยสมัยนั้น อภิสิทธิ์ ค้านแหลก ส่วนปมคาใจคือเรื่องใด สองรายคู่กรณีเท่านั้นที่รู้!

อย่างไรก็ดี ล่าสุด ยรรยง คงไปถึงเก้าอี้ที่หมายปอง หลังยอมศิโรราบ ได้รับสัญญาณไฟเขียวนายกฯ ขั้วเนวิน ก็ยินดีปรีดาไปด้วย เพราะสเปก“มือชง”ที่เคยรับรู้สมัยนั่งเก้าอี้รมช.พาณิชย์

ส่วนขุมข่ายของเนวินใน สตช. เกี่ยวโยงกับการแต่งตั้งผบ.ตร.คนใหม่ แม้จะส่งซิกให้บิ๊กๆ และลูกหาบพรรคภูมิใจไทยประสานเสียง ปล่อยข่าวว่า พรรคสีน้ำเงินไม่เกี่ยวเกมสหบาทานายกฯ โดยออกตัวว่า ตำรวจที่เป็นตัวจริงในใจ คือ พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ รอง ผบ.ตร.มากกว่า พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย

ทั้งที่ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.วัชรพล ที่อาวุโสโหล่รั้งท้ายในระนาบรอง ผบ.ตร.ทั้งหมดที่ไม่น่าจะด่วนขึ้นมาใหญ่ได้ หรือจะเป็น พล.ต.อ.จุมพล ก็คือคนในขั้วอำนาจใหม่ ที่เนวิน อยากให้ขึ้นเป็นเบอร์1 แห่งรั้วปทุมวันทั้งคู่

เพราะไม่ว่าใครขึ้นมา ก็จะเป็นผลดีต่อบรรดานายตำรวจสีกากี ที่ติดฉลากน้ำเงินคาดอก ตำรวจในเครือข่ายของเนวิน ทั้ง พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผช.ผบ.ตร.ที่กำลังรอขึ้นชั้น พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา

พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบก.ปดส. ที่ส่งตำรวจตามอารักขาเนวินแบบเซเว่นอีเลฟเว่น ผลัดเวร 24 ชั่วโมงมาแล้ว และที่พลาดไม่ได้ พล.ต.ต. เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กรุงเทพฯ ที่เป็นปูเป็นตาเฝ้าประตูเมืองกทม.ให้พี่ชาย

สำหรับกระทรวงมหาดไทย “เพื่อนเนวิน”ตัวเอ้ มานิต วัฒนเสน นั่งเก้าอี้ปลัดกระทรวงเรียบร้อยไปแต่เนิ่นๆแล้ว เป็นบำเหน็จรางวัลตั้งแต่การเลือกตั้งปี2548 สมัยมานิตนั่งเก้าอี้พ่อเมืองจังหวัดสตูล เนวินเป็นแม่ทัพแดนใต้ของระบอบทักษิณ

ปลัดมท.คนใหม่ก็เด้งรับฉับไว ร่วมชงโผ จัดทัพข้าราชการระดับ อธิบดี และผู้ว่าราชการจังหวัด เรียบร้อยโรงเรียนห้อยไปแล้ว

ขณะที่กระทรวงคมนาคม การดันสุพจน์ ทรัพย์ล้อม จากอธิบดีกรมทางหลวง นั่งเก้าอี้ปลัดกระทรวงคนใหม่ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นคาดกันว่าจะเป็น ชัยรัตน์ สงวนชื่อ ที่เป็นตัวเต็งขึ้นชั้น

ที่ต้องเปลี่ยนตัว แหกโผเล็กน้อย เพราะ“คุณพ่อขอร้อง”

การขยับเอาสุพจน์ขึ้นชั้น ถือว่าได้หลายเด้ง หนึ่ง สุพจน์เองก็ได้โบนัส จากผลงานที่เข้าตาจากที่ชงโปรเจกต์สารพัด ทั้งถนนดำ ถนนปลอดฝุ่น ขณะที่ชัยรัตน์เอง ก็แฮปปี้กับอธิบดีกรมใหญ่อยู่แล้ว

รวมทั้งได้โอกาสอุ้มคนบ้านเดียวกัน ที่ ชัย ชิดชัย ผู้เป็นพ่อ สะกิดลูกรักให้ดัน วีระ เรืองสุขศรีวงศ์ จากรองอธิบดี ขึ้นเป็นอธิบดีกรมทางหลวง เพราะเป็นลูกชายของคหบดีพ่อค้าขายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างเจ้าใหญ่ในบุรีรัมย์ หัวคะแนนใหญ่ของตระกูลชิดชอบ

ที่เหนือความคาดหมาย บารมีของเนวิน เบ่งบานแม้กระทั่งในกระทรวงเกษตรฯ แม้จะมีศุภชัย โพธิ์สุ เป็น รมช.เกษตรฯ แต่กระทรวงนี้อยู่ในโควตาครอบครองของ หลงจู๊พรรคชาติไทยพัฒนา

ยุคล ลิ้มแหลมทอง ที่เบียดคู่แข่งกระจุย ขึ้นนั่งเก้าอี้ปลัดกระทรวงเกษตรฯคนใหม่ โดย “เนวิน”เคลียร์เปิดทางดันสุดแรง เพราะสมัยเป็นอธิบดีกรมปศุสัตว์ ร่วมจัดการหวัดนกมาด้วยกัน

ที่สำคัญ ยุคล นับว่าเป็นสมาชิกแก๊งออฟโฟร์ หรือเอฟ 4 กระทรวงเกษตรฯในยุค เนวิน คุมกระทรวงพญานาค อันประกอบไปด้วย ยุคล -ฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ อำพน กิตติอำพน และสิทธิ บุณยรัตผลิน อดีตอธิบดีกรมประมง

วันนี้แก๊งออฟโฟร์ ยกเว้น สิทธิ ที่เกษียณอายุราชการไป ที่เหลือต่างได้ดิบได้ดี นอกจากยุคลเป็นเบอร์1กระทรวงเกษตรฯ ฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ เป็นอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ขณะที่ อำพน ไปเป็นเลขาธิการสภาพัฒน์ และประธานบอร์ดการบินไทยอยู่ในเวลานี้

ยุคล-ฉกรรจ์-อำพล ที่ว่า หากวันใดวันหนึ่ง เนวิน กราฟชีวิตขึ้นสู่จุดสูงสุด สามรายนี้ย่อมเฟื่องฟูรุ่งเรืองตามไปด้วย เช่นเดียวกันยามใดที่ชีวิตเนวินต้องลุ้นระทึก บรรดาเพื่อนเนวินกลุ่มนี้ก็ต้องสุ่มเสี่ยงไปตามๆ กัน

ตัวอย่างจากกรณีของฉกรรจ์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมือขวา และติดบ่วงร่วมกับเนวิน
ในหลายปม โดยเฉพาะคดีกล้ายาง ที่ยังไม่รู้จะพ้นบ่วงกรรมไปพร้อมกับผู้เป็นนายได้หรือไม่?

รวมทั้งสมาชิก“แก๊งออฟโฟร์”ที่เหลือ ก็ใช่จะพ้นทุกข์พ้นเคราะห์ ทั้ง ยุคล-อำพน-สิทธิ-ฉกรรจ์ ต่างก็มีชื่ออยู่ใน 53 ผู้ถูกกล่าวหา โครงการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ บริษัทห้องปฏิบัติการกลางตรวจสอบผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรและอาหาร

คดี เซ็นทรัลแล็บ ที่ต้องรอลุ้นผลการพิจารณาของป.ป.ช. เชือด-ไม่เชือด

ฝากชีวิต ระทึกใจไปกับลูกพี่ใหญ่“เนวิน”