ASTVผู้จัดการรายวัน - ดัน 3 ปลัดใหม่ให้ ครม.พิจารณาวันนี้ "วิทยา"ชงปลัด สธ.เผยไต๋ไม่เน้น “อาวุโส” แต่ต้องสามารถ วงในยัน “หมอไพจิตร์” เต็งหาม เผยผลงานเด่นปราบหวัดใหญ่ 2009 ไม่มีประวัติด่างพร้อย ขณะที่“ยรรยง”เจ้าเก่าจ่อปลัดพาณิชย์ “เจ๊วา” บินด่วนกลับจากแอฟริกาใต้ ส่งชื่อ ครม.วันนี้ พร้อมปลัดคมนาคม ที่ "โสภณ" ดัน "สุพจน์" แรงหนุนจากแกนนำภูมิใจไทย
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงการแต่งตั้งตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่ว่า ผู้ที่ตนเห็นว่าเหมาะสมผ่านการพิจารณาและการประเมินจากผู้ใหญ่หลายคน และเห็นพ้องต้องกันว่า เป็นผู้ที่มีความเหมาะสม มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ ส่วนเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมนั้น บุคลากรใน สธ. ได้ผ่านการกลั่นกรองเรื่องนี้มามากพอแล้ว โดยวันนี้(15 ก.ย.) จะนำเรื่องเข้าครม.แน่นอน
“กระบวนการคัดเลือกปลัด สธ. นั้น ได้พิจารณาในทุกด้าน สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีความรู้ความสามารถ เป็นผู้นำองค์กรที่ดีได้ ซึ่งภารกิจงานของสธ. ในอีก 3 ปีข้างหน้าถือว่ามีภาระหนักมาก โดยเฉพาะโครงการขยายโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล การปรับปรุงระบบการรักษาพยาบาลครั้งใหญ่ รวมถึงการผลิตบุคลาการทางการแพทย์ และสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องวัยวุฒิ หรืออาวุโสเป็นหลัก เพราะผู้บริการสธ. ส่วนใหญ่อยู่ในวัยใกล้เคียงกัน แตกต่างที่อายุราชการเพียง 1-3 ปีเท่านั้น” นายวิทยา กล่าว
ทั้งนี้ ในจำนวนนแคนดิเดตว่าที่ปลัด สธ. มีนพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดสธ.เกิดปี 2495 อายุ 57 ปี เหลืออายุราชการ 3 ปี นพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ เกิดปี 2494 อายุ 58 ปี เหลืออายุราชการ 2 ปี นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เกิดปี 2493 อายุ 59 ปี แต่เป็นช่วงปลายปีทำให้อายุราชการเหลือ 2 ปี และนพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัด สธ. เกิดปี 2493 อายุ 59 ปี เหลืออายุราชการ 1 ปี
******"ไพจิตร์" ขึ้นเป็นปลัด สธ. คนใหม่
รายงานข่าวระดับสูงจาก สธ. แจ้งว่า นายวิทยา จะเสนอ นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัด สธ. เข้าสู่การพิจารณาของครม. เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัด สธ. คนต่อไป แทนนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดสธ. ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ซึ่งในการเจรจาต่อรองตำแหน่งปลัด สธ. ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ครั้งสุดท้ายได้มีการเสนอรายชื่อผู้เหมาะสมเป็นปลัด สธ. ถึง 3 คน คือ นพ.ไพจิตร์ นพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ และนพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
แหล่างข่าวรายเดิมกล่าวว่า นายชวรัตน์ ชาญวีระกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสนับสนุนให้ นพ.เรวัต ขึ้นเป็นปลัด สธ. เพราะตอบสนองฝ่ายการเมืองได้ดี มีความสามารถในการบริการมากกว่านพ.ไพจิตร์ แต่ติดปัญหาที่ไม่มีผลงานเด่นชัด ทำให้สุดท้ายนายวิทยาได้ตัดสินใจเสนอชื่อ นพ.ไพจิตร์ แทน โดยให้เหตุผลว่า หากนพ.ไพจิตร์ ได้ขึ้นเป็นปลัด สธ. จะไม่มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ หรือคัดค้านได้ เพราะเป็นผู้ที่มีผลงานดี การทำงานที่ผ่านมาโดยเฉพาะการบริการจัดการแก้ปัญหาโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระบาดหนัก
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ส่วนนพ.มานิต มีนพ.ปราชญ์ เป็นผู้สนับสนุน แต่เนื่องจากยังมีคดีทุจริตจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินติดค้างอยู่ที่สตง. และป.ป.ช. จึงไม่เหมาะสม และพรรคภูมิใจไทย มองว่า หากนพ.มานิต ได้ขึ้นเป็นปลัด สธ. จะเป็นคนต่อสายป่านถึงนพ.ปราชญ์ ทั้งโครงการเมกะโปรเจกต์ และแก้ไขข้อระเบียบต่างๆ ให้นพ.ปราชญ์ และตัวเองหลุดจากคดีทุจริตได้ อย่างไรก็ตาม นพ.ปราชญ์ ได้ต่อรองกับวิทยาว่า หากนพ.มานิตไม่ได้ขึ้นเป็นปลัดตามที่เสนอ ก็ขอตำแหน่งรองปลัด สธ. ที่ยังว่างอีก 2 ตำแหน่ง หรือตำแหน่งอธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้กับนพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเขต 1 คนใกล้ชิดของนพ.ปราชญ์แทน
*******หมอเรวัตนั่งอธิบดีกรมควบคุมโรค
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ส่วนตำแหน่งสำคัญอื่นๆ คาดว่านพ.เรวัตจะถูกโยกย้ายไปเป็นอธิบดีกรมควบคุมโรค แทนนพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ ที่จะเกษียณอายุราชการ และวางตัวให้ นพ.ทนงสรรค์ สุธาธรรม ผู้ตรวจราชการ อดีตผู้อำนวยการรพ.ราชวิถี และรองอธิบดีกรมการแพทย์ ขึ้นเป็นอธิบดีการกรมแพทย์ และอาจจะมีการโยกย้ายนพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กลับมาเป็นรองปลัด สธ. เพื่อเปิดทางให้กับนพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัด สธ. กลับไปเป็นเลขาธิการ อย. เหมือนเดิม ส่วนนพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จะถูกโยกย้ายไปเป็นกรมที่ใหญ่ขึ้น เช่น กรมอนามัย หรือกรมการแพทย์
******"พาณิชย์"ยันต้อง"ยรรยง"เท่านั้น
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า วันนี้ (15 ก.ย.) นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อแต่งตั้งนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ แทนนายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์คนปัจจุบันที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ซึ่งถือเป็นการเสนออย่างเป็นทางการเป็นครั้งที่ 2หลังจากที่ครั้งแรก เมื่อวันที่ 25 ส.ค. มีปัญหาจนไม่สามารถเสนอครม.ได้
สาเหตุที่การแต่งตั้งปลัดกระทรวงพาณิชย์มีปัญหา เพราะเป็นเกมการต่อรองระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยในเรื่องการแต่งตั้งตำแหน่งผบ.ตร. เพราะพรรคภูมิใจไทยไม่สนับสนุนบุคคลที่พรรคประชาธิปัตย์เลือก ทำให้การเสนอแต่งตั้งตำแหน่งปลัดกระทรวงของพรรคภูมิใจไทย ถูกดึงให้ช้าไปด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ก่อนหน้านี้ นางพรทิวาได้เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศแอฟริกาใต้ระหว่างวันที่ 8-15 ก.ย. ได้บินด่วนกลับมาก่อนกำหนด เพื่อให้ทันการประชุมครม. ในวันนี้ (15 ก.ย.) เพื่อทำการเสนอแต่งตั้งปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ พร้อมกับการแต่งตั้งปลัดกระทรวงคมนาคม ในคราวเดียวกัน โดยนางพรทิวาได้ยืนยันว่าจะเสนอชื่อนายยรรยงให้เป็นปลัดกระทรวงเหมือนเดิม และขอให้ตำแหน่งนี้ผ่านไปก่อน ถึงค่อยไปว่ากันถึงตำแหน่งอธิบดีที่ว่างลง
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะมีตำแหน่งอธิบดีว่างลง 2 ตำแหน่ง ได้แก่ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่เกษียณอายุราชการ และอธิบดีกรมการค้าภายใน หลังจากที่นายยรรยง ถูกแต่งตั้งให้เป็นปลัดกระทรวง อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ว่างลงอีก 1 ตำแหน่ง หลังจากที่นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ได้เสนอให้มีการโยกย้ายอธิบดีคนเดิมออกจากตำแหน่ง ทำให้ต้องมีการแต่งตั้งคนใหม่แทน
**********คนประชาธิปัตย์ไม่ปลื้ม"ยรรยง"
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวถึงการเสนอชื่อนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายในขึ้นเป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่
ต้องมีความล่าช้ามาหลายสัปดาห์ เนื่องจากมีปัญหาการเมืองและการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ที่ยังไม่ลงตัว ซึ่งนายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรีอยู่ระหว่างการแก้ปัญหา จึงยังไม่ตัดสินใจให้มีการแต่งตั้งนายยรรยง เพราะ นายกรัฐมนตรีและนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เห็นว่าในช่วงที่ผ่านมานายยรรยง ไม่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการแก้ปัญหาในโครงการประกันราคาสินค้าเกษตรซึ่งเป็นนโยบายใหม่ของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งเดิมทางกรมการค้าภายในเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องสินค้าเกษตรและไม่เห็นด้วยที่จเะเปลี่ยนแปลงนโยบายการรับจำนำข้าวมาเป็นการประกันราคาแทน เพราะในช่วงที่ผ่านมามีปัญหาการทุจริตในการรับจำนำข้าวมาโดยตลอดและก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้
นอกจากนี้ยังมีความวิตกกังวลว่านายยรรยง จะสามารถรองรับปัญหาอาฟตาในปีหน้าที่ซึ่งไทยจะต้องนำมาใช้กับต่างประเทศและมีการลดภาษีสินค้ากว่าหมื่นรายการซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐก็จะทำให้เกิดปัญหาทางการค้ากับต่างประเทศได้
"นายยรรยง เคยเข้าไปชี้แจงกลางครม.ในเรื่องราคาข้าว และยังไม่โต้เถียงและมีความคิดเห็นที่แตกต่างจากนายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี จนกระทั่งให้เชิญนายยรรยง ออกจากห้องประชุมของ ครม. ทำให้คนในรัฐบาลไม่ค่อยพอใจการทำงานของนายยรรยงเท่าที่ควร แถมยังมีความคิดเห็นสวนความคิดในเรื่องลิขสิทธิ์ที่แตกต่างจากนายอภิสิทธิ์อีกด้วย จึงทำให้การแต่งตั้งเกิดความลังเลและไม่แน่ใจเกิดขึ้น "แหล่งข่าจากทำเนียบรัฐบาล กล่าว
******"โสภณ" เสนอ ครม.ตั้ง "สุพจน์"
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (15 ก.ย.) จะเสนอแต่งตั้งปลัดกระทรวงคมนาคมคนใหม่ แทนนายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ที่จะเกษียณอายุในวันที่ 30 ก.ย. 2552 นี้แน่นอน
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้หารือกันล่าสุดสรุปว่าจะเสนอนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม เป็นปลัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งนายสุพจน์นั้นเป็นตัวเต็งตั้งแต่แรก เนื่องจากมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับแกนนำพรรคภูมิใจไทย แต่ยังไม่ได้เสนอเข้าคณะรัฐมนตรีเพราะฝั่งกระทรวงคมนาคมเห็นว่า นายสุพจน์เหลืออายุราชการนานถึง 4 ปี และมีแรงหนุนนายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เข้ามาเป็นตัวเต็งแทน เพราะนอกจากนายชัยรัตน์จะเหลืออายุราชการอีกเพียงปีเดียวแล้ว ยังถือว่าเเป็นบุคคลที่สามารถสนองนโยบายของพรรคภูมิใจไทยอย่างดีคนหนึ่ง โดยเฉพาะโครงการเช่ารถโดยสารปรับอากาศที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง หรือ รถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 4,000 คัน ของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งเป็นโครงการสำคัญของพรรคภูมิใจไทย
แหล่งข่าวกล่าวว่า สาเหตุหนึ่งที่มีผลทำให้นายสุพจน์ กลับมาเป็นตัวเต็งเหนือนายชัยรัตน์อีกครั้ง คือ การลงนามสัญญางานบำรุงรักษาทางหลวงและโครงการบูรณะทางหลวงสายหลักพร้อมกันทั่วประเทศ ตามงบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ในแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 (SP2) เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2552 ที่ผ่านมา ล็อตแรก จำนวน 462 โครงการ งบประมาณ 6,120 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 335 โครงการ งบประมาณ 3,932 ล้านบาท จะทยอยลงนามในสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย. 2552 ส่วนโครงการบูรณะสายหลัก ได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว จำนวน 6 โครงการ งบประมาณ 445 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาได้ ภายในวันที่ 30 ก.ย. 2552 โดยในส่วนงานบำรุงทางหลวงกำหนดให้การก่อสร้างทุกสัญญาต้องดำเนินการแล้วเสร็จ และสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ภายในเดือนธ.ค. 2552
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีการเจรจาต่อรองกันโดยตลอดเนื่องจากนายสุพจน์ซึ่งเป็นตัวเต็งตั้งแต่แรก มั่นใจและยืนยันที่จะชิงเก้าอี้ปลัดกระทรวงคมนาคมเพราะถือเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต แม้ว่าหลายฝ่ายจะเห็นว่าอายุราชการที่เหลืออยู่ถึง 4 ปี ควรเปิดโอกาสให้คนอื่นแต่ไม่เป็นผล
อย่างไรก็ตาม ประเด็นหนึ่งที่ทำ ให้ยังไม่มีการเสนอชื่อปลัดกระทรวงคมนาคมเนื่องจากต้องการจัดสรรตำแหน่งหังหน้าส่วนราชการอื่นๆ ให้เรียบร้อยไปพร้อมกันด้วย โดยในส่วนของกรมทางหลวงคาดว่า นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง ฝ่ายบริหาร ขึ้เนป็นอธิบดีกรมทางหลวงแทนนายสุพจน์ แต่งตั้งนายอร่าม ก้อนสมบัติ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคมเป็นรองปลัดกระทรวงคมนาคมแทนนายไมตรี ศรีนราวัฒน์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ที่จะเกษียณอายุ เป็นต้น.
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงการแต่งตั้งตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่ว่า ผู้ที่ตนเห็นว่าเหมาะสมผ่านการพิจารณาและการประเมินจากผู้ใหญ่หลายคน และเห็นพ้องต้องกันว่า เป็นผู้ที่มีความเหมาะสม มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ ส่วนเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมนั้น บุคลากรใน สธ. ได้ผ่านการกลั่นกรองเรื่องนี้มามากพอแล้ว โดยวันนี้(15 ก.ย.) จะนำเรื่องเข้าครม.แน่นอน
“กระบวนการคัดเลือกปลัด สธ. นั้น ได้พิจารณาในทุกด้าน สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีความรู้ความสามารถ เป็นผู้นำองค์กรที่ดีได้ ซึ่งภารกิจงานของสธ. ในอีก 3 ปีข้างหน้าถือว่ามีภาระหนักมาก โดยเฉพาะโครงการขยายโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล การปรับปรุงระบบการรักษาพยาบาลครั้งใหญ่ รวมถึงการผลิตบุคลาการทางการแพทย์ และสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องวัยวุฒิ หรืออาวุโสเป็นหลัก เพราะผู้บริการสธ. ส่วนใหญ่อยู่ในวัยใกล้เคียงกัน แตกต่างที่อายุราชการเพียง 1-3 ปีเท่านั้น” นายวิทยา กล่าว
ทั้งนี้ ในจำนวนนแคนดิเดตว่าที่ปลัด สธ. มีนพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดสธ.เกิดปี 2495 อายุ 57 ปี เหลืออายุราชการ 3 ปี นพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ เกิดปี 2494 อายุ 58 ปี เหลืออายุราชการ 2 ปี นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เกิดปี 2493 อายุ 59 ปี แต่เป็นช่วงปลายปีทำให้อายุราชการเหลือ 2 ปี และนพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัด สธ. เกิดปี 2493 อายุ 59 ปี เหลืออายุราชการ 1 ปี
******"ไพจิตร์" ขึ้นเป็นปลัด สธ. คนใหม่
รายงานข่าวระดับสูงจาก สธ. แจ้งว่า นายวิทยา จะเสนอ นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัด สธ. เข้าสู่การพิจารณาของครม. เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัด สธ. คนต่อไป แทนนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดสธ. ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ซึ่งในการเจรจาต่อรองตำแหน่งปลัด สธ. ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ครั้งสุดท้ายได้มีการเสนอรายชื่อผู้เหมาะสมเป็นปลัด สธ. ถึง 3 คน คือ นพ.ไพจิตร์ นพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ และนพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
แหล่างข่าวรายเดิมกล่าวว่า นายชวรัตน์ ชาญวีระกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสนับสนุนให้ นพ.เรวัต ขึ้นเป็นปลัด สธ. เพราะตอบสนองฝ่ายการเมืองได้ดี มีความสามารถในการบริการมากกว่านพ.ไพจิตร์ แต่ติดปัญหาที่ไม่มีผลงานเด่นชัด ทำให้สุดท้ายนายวิทยาได้ตัดสินใจเสนอชื่อ นพ.ไพจิตร์ แทน โดยให้เหตุผลว่า หากนพ.ไพจิตร์ ได้ขึ้นเป็นปลัด สธ. จะไม่มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ หรือคัดค้านได้ เพราะเป็นผู้ที่มีผลงานดี การทำงานที่ผ่านมาโดยเฉพาะการบริการจัดการแก้ปัญหาโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระบาดหนัก
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ส่วนนพ.มานิต มีนพ.ปราชญ์ เป็นผู้สนับสนุน แต่เนื่องจากยังมีคดีทุจริตจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินติดค้างอยู่ที่สตง. และป.ป.ช. จึงไม่เหมาะสม และพรรคภูมิใจไทย มองว่า หากนพ.มานิต ได้ขึ้นเป็นปลัด สธ. จะเป็นคนต่อสายป่านถึงนพ.ปราชญ์ ทั้งโครงการเมกะโปรเจกต์ และแก้ไขข้อระเบียบต่างๆ ให้นพ.ปราชญ์ และตัวเองหลุดจากคดีทุจริตได้ อย่างไรก็ตาม นพ.ปราชญ์ ได้ต่อรองกับวิทยาว่า หากนพ.มานิตไม่ได้ขึ้นเป็นปลัดตามที่เสนอ ก็ขอตำแหน่งรองปลัด สธ. ที่ยังว่างอีก 2 ตำแหน่ง หรือตำแหน่งอธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้กับนพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเขต 1 คนใกล้ชิดของนพ.ปราชญ์แทน
*******หมอเรวัตนั่งอธิบดีกรมควบคุมโรค
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ส่วนตำแหน่งสำคัญอื่นๆ คาดว่านพ.เรวัตจะถูกโยกย้ายไปเป็นอธิบดีกรมควบคุมโรค แทนนพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ ที่จะเกษียณอายุราชการ และวางตัวให้ นพ.ทนงสรรค์ สุธาธรรม ผู้ตรวจราชการ อดีตผู้อำนวยการรพ.ราชวิถี และรองอธิบดีกรมการแพทย์ ขึ้นเป็นอธิบดีการกรมแพทย์ และอาจจะมีการโยกย้ายนพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กลับมาเป็นรองปลัด สธ. เพื่อเปิดทางให้กับนพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัด สธ. กลับไปเป็นเลขาธิการ อย. เหมือนเดิม ส่วนนพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จะถูกโยกย้ายไปเป็นกรมที่ใหญ่ขึ้น เช่น กรมอนามัย หรือกรมการแพทย์
******"พาณิชย์"ยันต้อง"ยรรยง"เท่านั้น
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า วันนี้ (15 ก.ย.) นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อแต่งตั้งนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ แทนนายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์คนปัจจุบันที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ซึ่งถือเป็นการเสนออย่างเป็นทางการเป็นครั้งที่ 2หลังจากที่ครั้งแรก เมื่อวันที่ 25 ส.ค. มีปัญหาจนไม่สามารถเสนอครม.ได้
สาเหตุที่การแต่งตั้งปลัดกระทรวงพาณิชย์มีปัญหา เพราะเป็นเกมการต่อรองระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยในเรื่องการแต่งตั้งตำแหน่งผบ.ตร. เพราะพรรคภูมิใจไทยไม่สนับสนุนบุคคลที่พรรคประชาธิปัตย์เลือก ทำให้การเสนอแต่งตั้งตำแหน่งปลัดกระทรวงของพรรคภูมิใจไทย ถูกดึงให้ช้าไปด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ก่อนหน้านี้ นางพรทิวาได้เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศแอฟริกาใต้ระหว่างวันที่ 8-15 ก.ย. ได้บินด่วนกลับมาก่อนกำหนด เพื่อให้ทันการประชุมครม. ในวันนี้ (15 ก.ย.) เพื่อทำการเสนอแต่งตั้งปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ พร้อมกับการแต่งตั้งปลัดกระทรวงคมนาคม ในคราวเดียวกัน โดยนางพรทิวาได้ยืนยันว่าจะเสนอชื่อนายยรรยงให้เป็นปลัดกระทรวงเหมือนเดิม และขอให้ตำแหน่งนี้ผ่านไปก่อน ถึงค่อยไปว่ากันถึงตำแหน่งอธิบดีที่ว่างลง
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะมีตำแหน่งอธิบดีว่างลง 2 ตำแหน่ง ได้แก่ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่เกษียณอายุราชการ และอธิบดีกรมการค้าภายใน หลังจากที่นายยรรยง ถูกแต่งตั้งให้เป็นปลัดกระทรวง อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ว่างลงอีก 1 ตำแหน่ง หลังจากที่นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ได้เสนอให้มีการโยกย้ายอธิบดีคนเดิมออกจากตำแหน่ง ทำให้ต้องมีการแต่งตั้งคนใหม่แทน
**********คนประชาธิปัตย์ไม่ปลื้ม"ยรรยง"
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวถึงการเสนอชื่อนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายในขึ้นเป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่
ต้องมีความล่าช้ามาหลายสัปดาห์ เนื่องจากมีปัญหาการเมืองและการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ที่ยังไม่ลงตัว ซึ่งนายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรีอยู่ระหว่างการแก้ปัญหา จึงยังไม่ตัดสินใจให้มีการแต่งตั้งนายยรรยง เพราะ นายกรัฐมนตรีและนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เห็นว่าในช่วงที่ผ่านมานายยรรยง ไม่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการแก้ปัญหาในโครงการประกันราคาสินค้าเกษตรซึ่งเป็นนโยบายใหม่ของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งเดิมทางกรมการค้าภายในเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องสินค้าเกษตรและไม่เห็นด้วยที่จเะเปลี่ยนแปลงนโยบายการรับจำนำข้าวมาเป็นการประกันราคาแทน เพราะในช่วงที่ผ่านมามีปัญหาการทุจริตในการรับจำนำข้าวมาโดยตลอดและก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้
นอกจากนี้ยังมีความวิตกกังวลว่านายยรรยง จะสามารถรองรับปัญหาอาฟตาในปีหน้าที่ซึ่งไทยจะต้องนำมาใช้กับต่างประเทศและมีการลดภาษีสินค้ากว่าหมื่นรายการซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐก็จะทำให้เกิดปัญหาทางการค้ากับต่างประเทศได้
"นายยรรยง เคยเข้าไปชี้แจงกลางครม.ในเรื่องราคาข้าว และยังไม่โต้เถียงและมีความคิดเห็นที่แตกต่างจากนายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี จนกระทั่งให้เชิญนายยรรยง ออกจากห้องประชุมของ ครม. ทำให้คนในรัฐบาลไม่ค่อยพอใจการทำงานของนายยรรยงเท่าที่ควร แถมยังมีความคิดเห็นสวนความคิดในเรื่องลิขสิทธิ์ที่แตกต่างจากนายอภิสิทธิ์อีกด้วย จึงทำให้การแต่งตั้งเกิดความลังเลและไม่แน่ใจเกิดขึ้น "แหล่งข่าจากทำเนียบรัฐบาล กล่าว
******"โสภณ" เสนอ ครม.ตั้ง "สุพจน์"
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (15 ก.ย.) จะเสนอแต่งตั้งปลัดกระทรวงคมนาคมคนใหม่ แทนนายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ที่จะเกษียณอายุในวันที่ 30 ก.ย. 2552 นี้แน่นอน
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้หารือกันล่าสุดสรุปว่าจะเสนอนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม เป็นปลัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งนายสุพจน์นั้นเป็นตัวเต็งตั้งแต่แรก เนื่องจากมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับแกนนำพรรคภูมิใจไทย แต่ยังไม่ได้เสนอเข้าคณะรัฐมนตรีเพราะฝั่งกระทรวงคมนาคมเห็นว่า นายสุพจน์เหลืออายุราชการนานถึง 4 ปี และมีแรงหนุนนายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เข้ามาเป็นตัวเต็งแทน เพราะนอกจากนายชัยรัตน์จะเหลืออายุราชการอีกเพียงปีเดียวแล้ว ยังถือว่าเเป็นบุคคลที่สามารถสนองนโยบายของพรรคภูมิใจไทยอย่างดีคนหนึ่ง โดยเฉพาะโครงการเช่ารถโดยสารปรับอากาศที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง หรือ รถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 4,000 คัน ของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งเป็นโครงการสำคัญของพรรคภูมิใจไทย
แหล่งข่าวกล่าวว่า สาเหตุหนึ่งที่มีผลทำให้นายสุพจน์ กลับมาเป็นตัวเต็งเหนือนายชัยรัตน์อีกครั้ง คือ การลงนามสัญญางานบำรุงรักษาทางหลวงและโครงการบูรณะทางหลวงสายหลักพร้อมกันทั่วประเทศ ตามงบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ในแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 (SP2) เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2552 ที่ผ่านมา ล็อตแรก จำนวน 462 โครงการ งบประมาณ 6,120 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 335 โครงการ งบประมาณ 3,932 ล้านบาท จะทยอยลงนามในสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย. 2552 ส่วนโครงการบูรณะสายหลัก ได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว จำนวน 6 โครงการ งบประมาณ 445 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาได้ ภายในวันที่ 30 ก.ย. 2552 โดยในส่วนงานบำรุงทางหลวงกำหนดให้การก่อสร้างทุกสัญญาต้องดำเนินการแล้วเสร็จ และสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ภายในเดือนธ.ค. 2552
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีการเจรจาต่อรองกันโดยตลอดเนื่องจากนายสุพจน์ซึ่งเป็นตัวเต็งตั้งแต่แรก มั่นใจและยืนยันที่จะชิงเก้าอี้ปลัดกระทรวงคมนาคมเพราะถือเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต แม้ว่าหลายฝ่ายจะเห็นว่าอายุราชการที่เหลืออยู่ถึง 4 ปี ควรเปิดโอกาสให้คนอื่นแต่ไม่เป็นผล
อย่างไรก็ตาม ประเด็นหนึ่งที่ทำ ให้ยังไม่มีการเสนอชื่อปลัดกระทรวงคมนาคมเนื่องจากต้องการจัดสรรตำแหน่งหังหน้าส่วนราชการอื่นๆ ให้เรียบร้อยไปพร้อมกันด้วย โดยในส่วนของกรมทางหลวงคาดว่า นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง ฝ่ายบริหาร ขึ้เนป็นอธิบดีกรมทางหลวงแทนนายสุพจน์ แต่งตั้งนายอร่าม ก้อนสมบัติ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคมเป็นรองปลัดกระทรวงคมนาคมแทนนายไมตรี ศรีนราวัฒน์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ที่จะเกษียณอายุ เป็นต้น.