นายกฯ อภิสิทธิ์ ย้ำไม่ประมาท “หางแดง” ชุมนุม ยันรักษาความเรียบร้อยตามกฎหมาย ปัดไม่ล้มการเดินทางไปประชุมยูเอ็น มั่นใจได้กลับประเทศไทยได้ ไม่ซ้ำรอย “ทักษิณ” วอนเจ้าหน้าที่ดูแลม็อบใต้กรอบกฎหมาย ห่วงผู้ชุมนุมที่เขาพระวิหารกระทบสัมพันธ์ ไทย-เขมร
วันนี้ (17 ก.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม กอ.รมน.ว่า ในที่ประชุมได้วิเคราะห์สถานการณ์และไม่ประมาท แต่สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ ยืนยันแนวปฏิบัติของข้อราชการ โดยมีเป้าหมายคือรักษาความสงบเรียบร้อย รักษากฎหมาย ซึ่งในแนวปฏิบัตินั้น จะยึดหลักสิทธิเสรีภาพและพยายามใช้แนวทางเจรจาไม่ให้เกิดการละเมิดกฎหมายและให้ตรวจสอบความพร้อมทุกเรื่องไม่ให้เกิดปัญหา
เมื่อถามว่า จะมีการเพิ่มเจ้าหน้าที่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีการกำหนดโครงสร้างระหว่างอัตรากำลังพลไว้เรียบร้อยแล้ว ถามต่อว่า การที่รัฐบาลวางนโยบายว่าในส่วนบนผู้บังคับบัญชาจะเป็นคนรับผิดชอบสูงสุดคนที่เป็นผู้ปฏิบัติไม่ต้องรับผิดชอบจะกลายเป็นช่องว่างให้เกิดการนอกแถวหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า สิ่งที่ตนย้ำคือว่า การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ทั้งหมดต้องเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย ไม่มีกรณีใดๆ ที่จะไปทำตัวอยู่เหนอกฎหมายได้ ส่วนการปฏิบัติภายใต้กฎหมายถ้ามีปัญหาขึ้นมาเป็นการปฏิบัติตามนโยบาย ฝ่ายนโยบายก็จะรับผิดชอบ ส่วนกฎหมายที่เป็นกฎหมายพิเศษก็จะระดับของการคุ้มครองของเจ้าหน้าที่
เมื่อถามว่า ในการส่งสัญญาณทางรักษาการ ผบ.ตร.บอกว่า ผบ.ชน.จะเป็นคนที่รับผิดชอบเพียงคนเดียว นายกฯ กล่าวว่า จริงๆ แล้วถ้าเกิดว่าใครทำผิดกฎหมายแล้วจะไปโอนความรับผิดไปให้คนอื่นเป็นไปไม่ได้หรอก และการคุ้มครองกฎหมายแม้ในกฎหมายพิเศษก็ต้องเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ตามแนวทางที่ควรจะปฏิบัติ เมื่อถามต่อว่า หลังจากที่ได้วางแนวทางทั้งป้องกันและเผื่อฉุกเฉิน ยังยืนยันว่า จะเดินทางไปต่างประเทศ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเดินทางไปทำหน้าที่ทำสำคัญทั้งในฐานะของหัวหน้ารัฐบาลไทยที่สหประชาชาติ ซึ่งมีทั้งภารกิจเรื่องการประชุมใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการแปรปรวนของภูมิอากาศและตนยังไปทำหน้าที่ประธานอาเซียนในเรื่องของการประชุมจี 20 เพื่อประโยชน์ของการรักษาผลประโยชน์ในกลุ่มอาเซียนและประเทศกำลังพัฒนาและตนก็ไปทำกิจกรรมที่เสริมความเชื่อมั่นเรื่องการค้าการลงทุน ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นทั้งสิ้น และตนคิดว่าการไปต่างประเทศแต่ยังสามารถดูแลที่นี้ให้เรียบร้อยก็จะเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับประเทศ
เมื่อถามว่า จากการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์แล้ว คิดว่า จะมีเหตุให้หยุดการเดินทางหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของเราที่จะดำเนินการทุกอย่างให้เรียบร้อยและเดินทางไปได้ อย่างที่บอกผลประโยชน์ทั้งหมดก็เพื่อประเทศและประชาชน ยืนยันว่า จะเดินทางไปต่างประเทศแน่นอน เพราะว่าต้องการจะให้ทุกอย่างเรียบร้อย เมื่อถามต่อว่าการที่นายกฯไม่อยู่ในประเทศจะเป็นช่องว่างหรือสุญญากาศทางอำนาจที่ต้องกำชับอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่มีเพราะว่ารองนายกฯก็เป็นผู้รับมอบอำนาจปฏิบัติราชการแทน
เมื่อถามว่า มีการประเมินหรือไม่ว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า คงตอบยากเพราะว่าขึ้นอยู่กับผู้ชุมนุมเองขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งผู้ชุมนุมเป็นคนประเมินตัดสินใจเรื่องการเคลื่อนไหว ย้ำอีกครั้งหนึ่งในแง่ของผู้ชุมนุมเรื่องการออกกฎหมายความมั่นคงไม่ได้เป็นไปในลักษณะการละเมิดสิทธิ์ แต่เป็นไปในลักษณะที่จะช่วยดูแลให้การชุมนุมเรียบร้อย อยากจะขอให้การใช้สิทธิ์แสดงออกขอให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม
เมื่อถามว่า ถึงแม้ว่านายกฯจะไม่อยู่ถ้ามีการชุมนุมยืดเยื้อก็สามารถนำ พ.ร.บ.ความมั่นคง เข้าที่ประชุม ครม.ได้ใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ครม.สามารถต่ออายุได้ เมื่อถามว่า เหตุการณ์วันที่ 19 ก.ย.นี้ ไม่ได้มีปัญหาเฉพาะของการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง แต่ว่ามีเรื่องที่ปราสาทเขาพระวิหารด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้มีการหารือไปแล้วในส่วนของผู้ที่มีความรับผิดชอบที่เกี่ยวข้อง ได้วางแนวทางอยู่ ก็พยายามทำความเข้าใจกับผู้ที่มาชุมนุม เพราะว่าไม่ต้องการให้เกิดปัญหาการปะทะกัน ไม่ว่าระหว่างคนของเราเอง และไม่ต้องการสร้างปมเงื่อนไขที่เป็นปัญหาระหว่างประเทศ ซึ่งจะไม่เป็นผลดีกับประเทศไทยเอง
เมื่อถามว่า ทางกัมพูชาได้เตรียมแก๊สน้ำตา นายกฯ กล่าวว่า ตนได้ขอให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานไปทางประเทศกัมพูชา เพื่อทำความเข้าใจและทั้งสองประเทศก็มีผลประโยชน์ร่วมกัน คือ ระมัดระวังไม่ให้เกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่าย เมื่อถามว่า ในขณะเดียวกัน ก็มีการปล่อยใบปลิวปลุกระดมให้คนไทยไปก่อสร้างในพื้นที่ นายกฯ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จะเป็นคนทำความเข้าใจ