xs
xsm
sm
md
lg

รัฐเสียวสันหลังนายกฯบินยูเอ็นขอประเมินก่อน หลังข่าวกรองบอก 19 ก.ย.แรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปณิธาน วัฒนายากร
“โฆษกรัฐบาล” เสียวสันหลัง นายกฯ ไป-ไม่ไปยูเอ็น ขอประเมินสถานการณ์ อ้างข่าวกรอง 19 ก.ย.หลายม็อบเตรียมใช้ความรุนแรง หวั่นซ้ำรอย “ทักษิณ” มีคนเตือนไม่ให้ไปแต่ไม่ฟัง สุดท้ายโดนยึดอำนาจ พร้อมถก ครม.พิเศษประกาศ พ.ร.บ.มั่นคง ทำนายข้ามช็อต แดงจัดทัพม็อบใหญ่คว่ำรัฐ “เดือนตุลา” นี้ ใช้แผนเดิมคว่ำประชุมอาเซียน อ้างรัฐบาลสกัดฎีกา

วันนี้ (1 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ในการประชุมครม.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ได้ประเมินสถานการณ์ว่า ขณะนี้กลุ่มเสื้อแดงได้ลดระดับความเข้มข้นลงแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องประกาศควบคุมพื้นที่พิเศษ โดยจะปล่อยให้เป็นการดูแลสถานการณ์ตามปกติ แต่หากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น ครม.โดยรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็สามารถเรียกประชุมนัดพิเศษใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงสามารถประกาศใช้กฎหมายพิเศษได้ทันที และไม่จำเป็นว่าต้องประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น เช่นเดียวกับการดำเนินการในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

นายปณิธาน กล่าวว่า การข่าวของรัฐบาลได้แจ้งให้ทราบว่า ในวันที่ 5 ก.ย.จะยังไม่มีการชุมนุมใหญ่ แต่ก็ต้องระวัง เพราะผู้ชุมนุมไม่ได้ใช้เวลาหลายวันในการเดินทาง แต่สามารถรวมตัวได้อย่างรวดเร็ว เพราะมาจากกรุงเทพฯและปริมณฑล แต่ที่จะมีการชุมนุมใหญ่ คือ วันที่ 19 ก.ย.เนื่องจากเป็นครบรอบการรัฐประหาร โดยจะมีมวลชนจากหลากหลายกลุ่ม และมีรายงานว่า บางกลุ่มต้องการฉวยสถานการณ์ให้ไปสู่ความรุนแรงเพื่อหวังเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลจะใช้แผนที่เคยเตรียมไว้สำหรับสถานการณ์วันที่ 30 ส.ค.มาใช้ใหม่ได้ คาดว่า จะมีการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงล่วงหน้าวันที่ 19 ก.ย.หลายวันเพื่อเตรียมรับมือ

“กลุ่มเสื้อแดงจะเร่งเครื่องในช่วง ก.ย.-ต.ค.ซึ่งเป็นช่วงที่มีปัญหากรณีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ โดยจะกระแทกรัฐบาลหนักที่สุดในช่วงที่ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมอาเซียน ที่ อ.ชะอำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในเดือน ต.ค.เนื่องจากกลุ่มที่คิดว่าล้มการประชุมอาเซียนที่พัทยาได้ก็จะล้มรัฐบาลได้ยังมีความคิดอยู่ แต่คราวนี้จะอ้างว่าถวายฎีกาไม่สำเร็จ เพราะรัฐบาลสกัดกั้น ซึ่งตามจังหวะเวลาแล้วเสื้อแดงต้องล้มรัฐบาลให้สำเร็จก่อนเดือน ธ.ค.เพราะหากเข้าช่วงปลายปีแล้ว จะไม่มีใครสนใจ เพราะจะเข้าสู่ช่วงพักผ่อนและเที่ยวของประชาชน ขณะที่รัฐบาลยืนยันว่านโยบายเศรษฐกิจต่างๆ โดยเฉพาะโครงการไทยเข้มแข็งที่กำลังจะลงไปจะฟื้นเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืนถ้ารัฐหบาลอยู่ถึงต้นปีหน้าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมาย” นายปณิธาน กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายปณิธาน กล่าวว่า สำหรับกำหนดการของนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางไปร่วมประชุมใหญ่สมัชชาองค์การสหประชาชาติ และร่วมประชุมจี 20 ที่สหรัฐฯในวันที่ 20-26 ก.ย. นั้น เบื้องต้นจะไม่มีการเลื่อนหรือยกเลิก แต่หากประเมินสถานการณ์ว่าไม่ค่อยดีก็ต้องว่ากันอีกที เพราะสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ คนรอบข้างประเมินสถานการณ์แล้วก็เตือนไม่ให้ไป แต่อดีตนายกฯไม่ฟัง อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย เนื่องจากจะเป็นการส่งสัญญาณสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาชาติว่าประเทศกำลังเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมทั้งเป็นโอกาสที่จะชี้แจงสถานการณ์การเมืองในประเทศว่ากำลังกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปรณรงค์ว่าไทยยังเป็นเผด็จการ ดังนั้นหากนายกฯไม่เดินทางไปนานาชาติก็จะมองว่าเรามีปัญหา เพราะเมื่อครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปแล้วถูกรัฐประหาร ต่างชาติก็จะคิดว่าวันนี้บ้านเรามีสถานการณ์เช่นเดิม ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

โฆษกรัฐบาล ประเมินศักยภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ขณะนี้ศักยภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ ลดน้อยลงเห็นได้จากไม่สามารถเข้าประเทศใหญ่ๆ ได้แล้ว เหลือเพียงแต่ประเทศขนาดเล็กและกลางที่ต้องการการลงทุนเท่านั้นที่ยังให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เคลื่อนไหวได้ ขณะเดียวกันรัฐบาลได้รับแจ้งจากหลายประเทศเริ่มกังวลที่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ อาศัยเป็นฐานในการเคลื่อนไหวโฟนอินกระตุ้นให้ประชาชนออกมาชุมนุม แต่โดยมารยาททางการทูตไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าประเทศอะไรบ้าง ส่วนการพบปะกับกษัตริย์ สวาซิแลนด์ นั้น ก็เป็นเรื่องอธิปไตยของแต่ละประเทศ มั่นใจว่าจะแยกแยะออกว่ามีความสัมพันธ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะผู้ร่วมลงทุนไม่ใช่ปกป้องนักโทษหนีคดี

“รัฐบาลไทยยืนยันว่า พยายามจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะที่มาเลเซีย หวุดหวิดจะจับตัวได้จากความร่วมมือของทุกหน่วยงาน แต่ติดปัญหาข้อกฎหมายทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หลบหนีออกไปก่อน ผมได้รับแจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาศัยคนรู้จักให้ช่วยพาเข้ามลรัฐต่างๆ ในหลายประเทศ แต่เมื่อรัฐบาลกลางรู้ข่าวก็ต้องรีบหนีออกมา แม้แต่ในประเทศไทยตามผลสำรวจของสำนักต่างๆ พบว่า ทั้งในภาคเหนือและภาคอีสาน นั้นคนที่อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเป็นนายกฯก็ลดน้อยลงมาก ส่วนใหญ่ยอมรับแล้วว่า ยุคทักษิณได้จบลงแล้ว แต่ก็ยังมีบางกลุ่มที่อาจจะได้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวแอบอ้าง พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเป็นนายกฯทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเป็นไปได้น้อยมาก” นายปณิธาน กล่าว

ส่วนประเด็นกลุ่มเสื้อแดงที่แตกแยกกันนั้น นายปณิธาน วิเคราะห์ว่า อาจจะเป็นความต้องการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องการจะใช้ยุทธวิธีแบ่งแยกแล้วปกครอง ที่ผ่านมา คนที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ทะเลาะกันเองมากมายแต่สุดท้ายก็แข่งขันกันเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พอใจ ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จ่ายเงินน้อยลง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดรัฐบาลไทยจึงจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ ขนาดขึ้นเครื่องบินผ่านน่านฟ้าไทยก็ตรวจสอบไม่ได้ นายปณิธาน กล่าวว่า การตรวจสอบคนที่อยู่ในเครื่องบินเป็นเรื่องยาก และ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะใช้ชื่อปลอมหรือใช้พาสปอร์ตของประเทศอื่นเดินทางยิ่งทำให้ตรวจสอบยาก ขนาดสหรัฐฯซึ่งมีเทคโนโลยีมากกว่าเรายังจับบินลาเดนไม่ได้ แม้แต่ประธานาธิบดี ฟูจิโมริ ของเปรู ก็หนีไปหลายปีกว่าจะจับได้
กำลังโหลดความคิดเห็น