xs
xsm
sm
md
lg

“ประทีป”เชื่อเสื้อแดงชุมนุมกร่อย เหตุ “นช.แม้ว”ปรับแผนใช้สภาดันแก้ รธน.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประทีป” เชื่อชุมนุมเสื้อแดงไม่รุนแรง เหตุ “นช.แม้ว”ปรับแผนเดินเกมใช้สภาผลักดันแก้ รธน. บอก “มาร์ค”นอนหลับได้ไม่มีปฏิวัติ หากคุม ตร.-ทหาร อยู่ ชี้จะแก้ความขัดแย้งต้องทำกฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่“ทวี”มั่นใจ รบ.ไม่ยุบสภา ชี้คดีต่างๆในเดือน ก.ย. ไม่มีชนวนถึงขั้นรัฐประหาร แต่ยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน ช่วง ธ.ค.ไม่แน่ ด้าน“สุริยันต์” ระบุหากแก้ รธน. จะนำไปสู่การปฏิวัติ แนะปรับ ครม.เอาคนดีบริหารประเทศ



 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “คนในข่าว”

รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-21.30 น. วันที่ 16 กันยายน 2552 ดำเนินรายการโดย รัตติกรณ์ จารุเกษตรวิทย์ ซึ่งได้รับเกียรติจาก พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ โฆษกพรรคการเมืองใหม่ และนายทวี สุรฤทธิกุล สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พร้อมด้วย นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด รักษาการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย มาร่วมวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง และท่าทีของรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงการเลื่อนเลือก ผบ.ตร.

วิเคราะห์สถานการณ์ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง

พล.ร.ท.ประทีป กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันเสาร์นี้ ว่า ไม่น่าจะมีเหตุร้าย เพราะเกิดการแตกแยกภายใน อีกอย่างจากที่เปิดทีวีเสื้อแดงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โฟนอิน อ้อนเสื้อแดงให้เลือก สส.เพื่อไทยมากๆ เพื่อให้เขากลับไทยได้ จะเห็นว่าขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณ เน้นเป้าหมายใช้นักการเมืองสู้ในรัฐสภา จึงเกิดการขับเคลื่อนอย่างหนักในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม หลังกลุ่มเสื้อแดงยื่นถวายฎีกาได้ประกาศเป้าหมายต่อไป คือ 1.ล้มรัฐบาล 2.ล้มอำมาตย์ แต่ด้วยสถานะไม่เอื้ออำนวย ตอนนี้จึงได้แต่คอยโอกาสสมทบเข้าร่วมกับมือที่สามเท่านั้น หากวิเคราะห์ต่อไป จะมีปรากฏการแทรกซ้อนเข้ามาหรือไม่ ต้องดูขั้วอำนาจเก่าและใหม่ในรัฐ มีผลกระทบอะไรบ้าง คดี 7ต.ค.ทมิฬ คดีกล้ายาง คดีหวยบนดิน ล้วนมีผลกระทบต่อขั้วอำนาจเก่าและใหม่ทั้งสิ้น ด้วยแรงกดดันนี้ อาจทำให้ต้องทุบหม้อข้าวก็เป็นได้

ขณะที่ นายทวี กล่าวว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง สูญสลายไปตั้งแต่ช่วงสงกรานต์แล้ว การจัดองค์กรกลุ่มที่ไม่เป็นรูปเป็นร่าง จุดมุ่งหมายอุดมการณ์ไม่แน่นอน และทรัพย์ยากรที่หล่อเลี้ยงไม่ไหลลื่น องค์ประกอบเหล่านี้ส่งผลให้โครงสร้างกลุ่มหลวม ดังนั้นลำพังการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงวันที่ 19 จึงไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรง จะเป็นการชุมนุมเรียกร้องตามปกติ แต่อาจมีลูกเล่นยั่วยุ ให้เกิดความรำคาญต่อรัฐบาล บ้าง ยกเว้นแต่จะมีการสร้างสถานการณ์ จากมือที่สามหรือมีการโฟนอิน เข้ามา ปลุกระดม

ส่วนกรณีที่พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร พูดว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง อาจจะเป็นต้นเหตุนำไปสู่เงื่อนไขการปฏิวัติ ตนมองว่า ยังห่างไกลเกินไป หมดยุคใช้อำนาจครอบงำกลไกรัฐที่จะเชื่อมโยงไปสู่ความรุนแรง ตอนนี้ประชาธิปัตย์ขึ้นมาเป็นรัฐบาล หากสามารถคุม ตำรวจ ทหาร ไว้ได้ความรุนแรงก็จะไม่เกิด หากจะมีก็จะเป็นการสร้างสถานการณ์เล็กๆน้อยๆ เหมือนเด็กเล่นประทัด

นายทวี กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายกังวล ว่า คดีต่างๆ ที่จะถูกตัดสินในเดือนกันยายน ทั้งคดีกล้ายาง ชี้มูลเงินบริจาคของพรรค จะนำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงนั้น ตนเชื่อว่าหากสถานการณ์คับขัน รัฐบาลคงไม่รอให้ถูกชี้มูลความผิดหรือปล่อยให้เรื่องถึงที่สุด และหากรัฐบาลถึงมุมอับจริงๆ ก็อาจเปิดไพ่ใบสุดท้ายด้วยการยุบสภา เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามหากดูการบริหารของรัฐบาล ยังสามารถทนแรงบีบคั้นได้ เพราะเป้าหมายคือต้องการอยู่ให้ครบเทอม ดังนั้นที่หลายคนคาดว่าจะเกิดเหตุรุนแรงในเดือน กันยายน สำหรับตนคิดว่าไม่น่ากลัว แต่ที่น่าห่วงมากกว่า คือ ช่วงเดือน ธันวาคม ที่จะมีการตัดสินคดีอีกหลายคดี โดยเฉพาะการตัดสินคดีทุจริต 7.6 หมื่นล้าน ของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ด้าน นายสุริยันต์ กล่าวว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง เริ่มแผ่ว หลายฝ่ายไม่ให้การสนับสนุน เพราะไม่เป็นประชาธิปไตย มีเป้าหมายที่เป็นประโยชน์ต่อคนๆ เดียว เห็นชัดเจนว่าที่ผ่านมาเมื่อรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคง คนส่วนใหญ่สนับสนุน เพราะเขาเห็นว่า หากไม่ออกอาจควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ จนนำไปสู่การเผาบ้านเผาเมือง เหมือนช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้สิ่งที่หลายคนจับตาว่าการชุมนุม 19 ก.ย. นี้ จะซ้ำรอยปฎิวัติช่วง 19 ก.ย. 2549 นั้นตรงนี้สังคมต้องทบทวนเหตุผลใหญ่ของการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 เบื้องต้นประชาชนให้การยอมรรับ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากนักการเมือง เพราะสถานการทางการเมืองตอนนั้นไม่มีทางออก เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น องค์กรอิสระถูกแทรกแซง ทำให้การบังคับใช้กฎหมายทำงานไม่ได้ จึงทำให้ต้องมีกระบวนการออกมายับยั้ง ส่วนการเคลื่อนไหวของเสื้อแดง หากจะทำให้เกิดชนวนปฏิวัติ ต้องเข้าใจให้ตรงกันว่า ตลอดเวลาการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงจะมีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารตลอด เช่น เลือกตั้งนายกเทศมนตรี ที่เทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งตนได้ข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเข้ามาให้เลือกคนเสื้อแดง เพี่อที่ตนจะได้กลับมา ทั้งที่จริงสามารถกลับมาได้ตลอด แต่ไม่กลับมาเอง และที่บอกว่าบ้านเมืองไทยมีสองมาตรฐาน ตนถูกกลั่นแกล้ง ที่จริงมีบรรทัดฐานเดียวทุกคนเสมอภาค

ท่าทีของรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

พล.ร.ท.ประทีป กล่าวถึงการอภิปรายในสภาฯ ที่ นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี พูดว่า หากไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญความขัดแย้งจะเกิดขึ้น ทุกข์ร้อนทั่วระแหง ตรงนี้ตนขอชี้แจงให้ประชาชนรับทราบอีกครั้ง มาตรา 93,98 ที่มาของส.ส. ขอแก้ให้เป็นเขตุเล็กคนเดียวเบอร์เดียว ซึ่งจะทำให้ซื้อเสียงได้ง่าย มาตรา 111,121 ที่มาของส.ว. แก้เป็นมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ทำให้ ส.ส. ส.ว. มาจากฐานเดียวกัน เหมือนสภาผัวเมีย สภาล่างสั่งอย่างไรสภาบนก็ต้องทำตาม มาตรา 266 แก้ให้ ส.ส. ส.ว. เข้าไปแทรกแซงชี้นำข้าราชการ นำไปสู่การคอร์รัปชันเชิงนโยบาย มาตรา 190 เจรจาเกี่ยวกับอธิปไตยไม่ต้องผ่านสภา ย้อนมองหากไม่มี 190 ทำให้อดีตนักการเมืองผู้ใหญ่ทำอะไรทิ้งไว้ ส่วนมาตรา 237 แก้ลดความผิดให้ ส.ส. จากเดิมหากกรรมการบริหารพรรค หากทำผิดให้ยุบพรรค จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งหมดเป็นไปเพื่อผลประโยชน์นักการเมือง

พล.ร.ท.ประทีป กล่าวว่าความขัดแย้งในประเทศ ส่วนใหญ่เกิดจากการ ทุจริต คอร์รัปชั่น ข้าราชการขาดสำนึกความชอบธรรม ตรงนี้นายกฯ มีส่วนช่วยอย่างยิ่ง เพราะอย่างน้อยก็มีอำนาจกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นต้นทางของความยุติธรรม น้ำหนักการเขียนสำนวนจะฟังได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตำรวจเป็นด่านแรก

“เราต้องไม่ลืมว่า ภาวะวิกฤติ ของชาติที่ผ่านมา พระองค์ท่าน ยังหวังพึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของศาล โดยพระองค์ทรงตรัสต่อประธานศาล ว่า ให้นำกลับไปคิด ไปดู ไปแล แล้วใช้ปัญญาของท่านในการสร้างความถูกต้องให้กับสังคม จะเห็นได้ว่า กระบวนการนี้สามารถนำมาแก้วิกฤติของชาติขณะนี้ได้อย่างดี” พล.ร.ท.ประทีป กล่าว

นายทวี กล่าวถึงสาเหตุที่รัฐบาลนำเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่สภา เป็นเพราะรัฐบาลไม่มีทางเลือก ตามเจตนารมณ์ต้องการให้เกิดความสมานฉันท์ จากนั้นได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อมาคณะกรรมการสมานฉันท์ได้เสนอทางออกต้องแก้รัฐธรรมนูญ จึงเป็นสาเหตุให้รัฐบาลต้องขับเคลื่อนเรื่องนี้ต่อไป อย่างไรก็ตามท้ายที่สุด ตนคาดว่า รัฐบาลคงไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปโดยง่าย อาจโยนให้รัฐสภา ทำประชามติ ซึ่งก็ต้องใช้เวลาในการพิจารณาอีกนาน

นายสุริยันต์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ 2550 ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการบริการประเทศให้มีประสิทธิภาพ ไม่ได้เป็นอุปสรรคสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในชาติ ที่สำคัญยังทำให้เกิดกระบวนการตรวจสอบทางการเมืองมากขึ้น สิ่งที่นักการเมืองพยายามแก้ ทำไปเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ดังนั้นหากรัฐบาลปล่อยให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ จะนำไปสู่การรัฐประหารอีกครั้งหนึ่ง เพราะนักการเมืองก็จะเขียนไม่ให้มีกระบวนการตรวจสอบการทุจริตเหมือนเดิม

ปัญหากรณีนายกเลื่อนเลือก ผบ.ตร.

พล.ร.ท.ประทีป กล่าวว่าปัญหาการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ส่งสัญญาณให้เห็นว่า อนาคตความมั่นคงของชาติน่าจะมีปัญหา ทั้งนี้หลายคนคาดว่าการโหวตเลือก ผบ.ตร. น่าจะตกลงได้ข้อยุติตั้งแต่วันจันทร์แล้ว ว่าจะเป็นใคร แต่กลับตาลปัตรไม่แน่นอน ต้องเลื่อนออกไปเรื่อยๆ ส่อให้เห็นถึงความไม่มั่นคงของรัฐบาล ซึ่งจะสะท้อนถึงความไม่มั่นคงของรัฐและของชาติ หากความมั่นคงของรัฐไม่ดีแล้ว ความมั่นคงของสถาบันกษัตริย์ ความมั่นคงเรื่องการรักษาอธิปไตย ก็จะไม่ดีด้วย

ส่วนกรณีที่ยังไม่ได้ ผบ.ตร. ตัวจริง จะมีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงวันที่ 19 ก.ย. หรือไม่นั้น พล.ร.ท.ประทีป กล่าวว่า มั่นใจ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ หากยังรักษาราชการอยู่ จะสามารถควบคุมได้ ไม่ต่างจาก ผบ.ตร. ตัวจริง

ขณะที่ นายทวี กล่าวถึงสาเหตุการติดหล่มเลือก ผบ.ตร. ว่า เป็นเพราะนายกฯ ใช้อำนาจความเป็นผู้นำไม่เต็มที่ เนื่องจากพรรคร่วมมีการต่อรองผลประโยชน์ และจะมีการต่อรองไปเรื่อยๆ โดยดูได้จากที่ นายกฯ ออกมาพูดแก้เกี้ยว ว่า ก็ยังมีเวลา ทุกครั้งก็จะเป็นปัญหาอย่างนี้ ส่อให้เห็นถึงการขาดเสถียรภาพอย่างชัดเจน

นายทวี กล่าวอีกว่า ตนแอบเรียกนายอภิสิทธิ์ ว่า มหาตมาร์ค จากลักษณะเป็นคนที่มีความอดทนอย่างมากในการแก้ปัญหา ทนแรงบีบคั้นจากนักการเมืองรอบข้าง ทั้งที่มีอำนาจอยู่มากแต่ยังไม่ใช้ อย่างไรก็ตามหากถึงที่สุดทางออกนอกจากจะยุบสภาแล้ว เพื่อให้รัฐบาลมีเอกภาพยังสามารถเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้อีก แต่เรื่องนี้อาจทำได้ยากเพราะประชาธิปัตย์มีปัญหาเรื่องตัวบุคคล อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าขณะนี้นายกฯ ไม่คิดจะใช้วิธีที่กล่าวมา เพราะดูจากท่าทีพยายามแก้ไขสถานการณ์ด้วยการประคับประคอง ปรับเปลี่ยนแนวคิดพรรคร่วมให้เป็นในทางเดียวกัน

ด้าน นายสุริยันต์ กล่าวว่าขณะนี้อำนาจนายกฯ สามารถบริหารได้ทั้ง กระทรวง กรม กอง แต่แปลกใจว่าทำไม แต่งตั้ง ผบ.ตร. ทำไม่ได้ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงที่มาของรัฐบาล ว่า มีการตกลงอะไรกันก่อนการจัดตั้งรัฐบาล ตรงนี้นายกฯ ต้องตอบสังคม อย่างไรก็ตามประชาชนยังไว้วางในในการบริหารประเทศ แต่หากท่านยังทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไม่มั่นใจว่ากองเชียร์จะทนสนับสนุนได้อีกนานแค่ไหน

นายสุริยันต์ กล่าวอีกว่า นายกฯเป็นคนมีอุดมคติ สิ่งที่พูดตอนที่รับพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ยึดหลัก 9 ข้อในการบริหารประเทศ เพื่อยุติความล้มเหลวทางการเมือง วันนี้ผ่านมา 9 เดือนยังมีจุดด้อย คือ 1.บริหารงานล้าช้า 2.มีกลิ่นการทุจริตในหลายกระทรวง และอำนาจนายกฯถูกสั่นคลอน ซึ่งจะทำให้การสั่งการกระทรวงต่างๆ ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร เมื่อเป็นอย่างนี้ ทางออกต้องปรับ ครม. แล้วเอาคนดีเข้ามาบริหารประเทศ
พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์
นายทวี สุรฤทธิกุล
นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด
กำลังโหลดความคิดเห็น