เคาะข่าวริมโขง : น้ำตาจะร่วง อ่านจ.ม.ลูกเลิฟ “พัชรวาท” เขียนถึงพ่อ เมินศพผู้สูญเสีย 7 ตุลาฯ ซึ่ง "พัชรวาท" มีส่วนร่วมรู้เห็นยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม จนทำให้ผู้คนบาดเจ็บ-ล้มตาย
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น.วันอังคารที่ 16 ก.ย. น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก และ นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย เป็นผู้ดำเนินรายการ ได้มีการนำประเด็นข่าวสำคัญในรอบวันมานำเสนอให้กับพี่น้องชาวอีสาน โดยวันนี้ มีการหยิบยกกรณี ส.ต.ต.(หญิง) นวพร วงษ์สุวรรณ บุตรสาว พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เขียนจดหมายเปิดใจถึงความรู้สึกกดดันที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ต้องพ้นจากตำแหน่ง
นอกจากนี้ ยังมีกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาหลบคดีทุจริต ได้ส่งทวิสต์เตอร์ให้กำลังใจ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรสาว ที่จะต้องเดินทางไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขึ้นเบิกความเป็นพยานในฐานะผู้ร้องคัดค้านในคดีที่อัยการสูงสุดร้องขอให้ทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ และบุคคลภายในครอบครัว มูลค่ากว่า 76,000 ล้านบาท ได้มาจากการร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดิน
โดยช่วงแรก น.ส.อัญชะลี กล่าวถึงกรณี ส.ต.ต.(หญิง) นวพร วงษ์สุวรรณ บุตรสาว พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เขียนจดหมายเปิดใจถึงความรู้สึกกดดันที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ต้องพ้นจากตำแหน่ง โดยเนื้อหาในจดหมายระบุถึงความรู้สึกลูกที่เพิ่งเรียนจบหลักสูตรตำรวจ แต่ครอบครัวต้องมาพบเจอกับเรื่องน่าเศร้าใจ คือ การที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ถูกสั่งย้ายไปช่วยราชการที่ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และในเวลาต่อมา พล.ต.อ.พัชรวาท ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ผบ.ตร. ซึ่ง ส.ต.ต.(หญิง) นวพร เปิดใจว่า รู้สึกเสียใจมาก ร้องไห้จนแทบไม่มีน้ำตา สำหรับเนื้อหาใจความในจดหมาย น.ส.อัญชะลี ได้อ่านดังนี้
“วันนี้ควรเป็นฤกษ์ดีสำหรับทุกๆ คน รวมทั้งครอบครัว “วงษ์สุวรรณ” แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น วันนี้เป็นวันที่ลูกพ่อเรียนจบหลักสูตรตำรวจ หลักสูตรที่มีแรงกระทบตลอดเวลา ลูกพ่อตื่นมาด้วยความภาคภูมิ ในที่สุดวันนี้ที่พ่ออดทนเรื่อยมาก็มาถึง ทุกคนบอกว่าเป็นฤกษ์ดีที่จัดงานเลี้ยงในวันนี้ ทุกคนจะก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ตอนเช้านักเรียนอบรมทั้งหมดไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงเรียนทั้งสามแห่ง จิตใจของลูกพ่อรู้สึกโล่งใจ ดีใจที่สามารถทำให้พ่อภูมิใจได้ แต่เหตุการณ์กลับพลิกผันเมื่อมีคำสั่งสายฟ้าผ่าให้พ่อไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ไม่มีใครบอกลูกหรอก ลูกรู้จาก SMS พ่อบอกลูกข้าราชการต้องอดทน
พ่อรู้ไหม ลูกแทบล้มทั้งยืน น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว รีบโทรไปหาพ่อ พ่อบอกว่า "ไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไร ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดก็พอ ต้องอดทด อย่าให้ใครรู้ว่าเราเสียใจ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด เราทำถูกทุกอย่าง ถ้าเราร้องไห้ หรือโกรธ เท่ากับเราทำผิด แต่เราไม่ได้ทำอะไรผิด" แต่หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงหลังจากรู้ข่าว ลูกพ่อกลับรู้ข่าวที่สะเทือนใจยิ่งกว่า พ่อประกาศลาออก ลูกพ่อเสียใจมาก ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา นอนไม่มีชีวิตจิตใจ โทร.ไปหาพ่ออีกที พ่อบอกแค่ว่า "พ่อทำดีที่สุดแล้วลูก พ่อว่าเป็นวิธีที่สุดที่ทำให้ประเทศไม่แตกแยกที่สุดที่พ่อจะทำได้ ต่อไปลูกจะเป็นตำรวจ ลูกต้องปกป้องสถาบันและองค์กรให้ดีที่สุดเหมือนกันนะลูก" ถามกลับพ่อไปว่า "ทำไมพ่อไม่ยอมพูดความจริงอะไรบ้าง ทำไมพ่อยอมให้เขาทำกับเราขนาดนี้ ทำไมพ่อต้องยอมอยู่คนเดียว ต้องอดทนอยู่คนเดียว" พ่อบอกแค่ว่า "พ่อเป็นข้าราชการนะลูก ทำงานรับใช้สถาบันและบ้านเมือง เราจะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวไม่ได้ต้องอดทนน่ะลูก”
จากนั้นแม่ก็บอกไก๋ (ชื่อเล่น ส.ต.ต.(หญิง) นวพร) ผ่านสายโทรศัพท์ว่า “ไม่เป็นไรน่ะลูก อดทนน่ะลูก พ่อเขาทำดีแล้ว พ่อเขาบอกแม่ไว้ก่อนแล้ว แม่จะไปร่วมแสดงความยินดีกับลูกน่ะ วันนี้วันดีนะลูก” ทุกคนบอกพ่อลงอย่างสง่างาม ในที่สุดงานเลี้ยงก็เริ่ม มีครอบครัวของนักเรียนอบรม บรรดาครู อาจารย์ ผู้บังคับบัญชา และเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนนายร้อยตำรวจมาร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง พี่ๆ ตำรวจ คุณอาและพี่ๆ ในสำนักงานก็ทยอยมาแสดงความยินดีและให้กำลังใจ บอกว่า “พ่อลงอย่างสง่างามที่สุด” พ่อไม่โกรธ ไม่เคืองใคร คำสุดท้ายที่พ่อพูดก่อนอำลาตำแหน่งคือขอให้ตำรวจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด รักษาสถาบันและองค์กร ในความรู้สึกลูก พ่อทำหน้าที่ในการเป็นข้าราชการตำรวจจนวินาทีสุดท้ายของพ่อ ในชีวิตราชการกว่า 30 ปีของพ่อ พ่อได้ทำตามอุดมคติตำรวจอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด แต่พ่อรู้ไหม วันนี้ลูกต้องยิ้มแสดงความเข้มแข็งแต่ในใจลูกเจ็บช้ำที่สุด ตลอดเวลาสามชั่วโมงกว่าที่งานเลี้ยงดำเนินไป ทั้งที่ๆ ที่วันนี้เป็นวันเริ่มต้นชีวิตข้าราชการของลูก แต่มันอาจเป็นวันสุดท้ายในชีวิตราชการของพ่อในฐานะข้าราชการตำรวจ”
นายชัชวาลย์ กล่าวเสริมประเด็นนี้ว่า ข้อความในจดหมายเปิดใจของ ส.ต.ต.(หญิง) นวพร แสดงให้เห็นความรู้สึกของผู้เป็นลูกที่มีต่อบิดา ซึ่งไม่ใช่สิ่งผิดที่จะแสดงออก เพราะโดยปกติไม่ว่าบุพการีจะเป็นเช่นไร เมื่อเกิดเรื่องขึ้น ก็ต้องอยู่ข้างบิดาหรือมารดา เพราะลูกทุกคนรักบุพการี แต่ตนอยากให้ ส.ต.ต.(หญิง) นวพร ลองทำใจให้เป็นกลาง เนื่องจากสาเหตุที่ทำให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ถูกสั่งย้ายไปประจำที่สำนักนายกรัฐมนตรี ก็เกิดจากที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ ที่หน้าอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 โดยจากเหตุการณ์อันเลวร้ายครั้งนั้น มีประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก ต้องได้รับบาดเจ็บและล้มตายจากการใช้อาวุธร้ายแรงยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุม ทั้งๆที่คนเหล่านั้น ก็มีครอบครัว มีบุคคลอันเป็นที่รักเหมือน ส.ต.ต.(หญิง) นวพร
นายชัชวาลย์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ ส.ต.ต.(หญิง) นวพร พบเจอวันนี้ ที่ออกมาเปิดใจว่ารู้สึกเจ็บปวดและเสียใจมาก หากมองย้อนกลับไป ญาติผู้ได้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ก็รู้สึกสูญเสียไม่แพ้กัน ซึ่งยังนับว่า ส.ต.ต.(หญิง) นวพร โชคดี ที่ พล.ต.อ.พัชรวาท แค่ถูกสั่งย้ายไปช่วยราชการที่อื่น แต่ญาติผู้สูญเสียจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ต้องรู้สึกสะเทือนใจและตายทั้งเป็น กับการจากไปของบุคคลที่รักอย่างไม่มีวันกลับ
ช่วงต่อมาได้มีการหยิบยกกรณี จับตาปฏิวัติ 19 กันยาฯ โดย น.ส.อัญชะลี กล่าวว่า มีหลายกระแสออกมาระบุว่า วันเสาร์ที่ 19 และวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายนนี้ จะเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติในประเทศไทยอีกครั้ง นายชัชวาลย์ กล่าวต่อกรณีนี้ ว่า หากวันที่ 19 หรือ 20 กันยายนนี้ มีการปฏิวัติจริง ก็ถือว่าเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของคนที่ทำ เพราะนายอภิสิทธิ์ ไม่เหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ ถือเป็นนักการเมืองและผู้นำประเทศที่มือสะอาด ไม่มีปัญหาการทุจริต คอร์รัปชัน เช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เมื่อตอนทหารทำการปฏิวัติ มีแต่ผู้คนนำดอกไม้ไปแสดงความยินดีกับทหาร ที่จัดการรัฐบาลทรราช โกงกินชาติบ้านเมืองให้พ้นจากประเทศไทย ดังนั้น ทั้งสองคนนี้ จึงมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
จากนั้น น.ส.อัญชะลี กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ทวิตเตอร์พูดคุยและให้กำลังใจ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรสาวคนกลาง ที่จะเข้าเบิกความต่อสู้คดีที่ครอบครัวถูกฟ้องอายัดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) โดยใจความสำคัญ ดังนี้ “เข้มแข็งนะลูกรัก พรุ่งนี้ขอให้ผ่านพ้นด้วยดีนะลูก อย่าหวั่นไหวต่อพฤติกรรมลูกน้องนายอุดมนะลูก” นอกจากนี้ ในทวิสต์เตอร์ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่แก่ นายอภิสิทธิ์ ด้วยว่า “ท่านนายกฯครับ รีบตั้ง ผบ.ตร.เร็วๆ แล้วกรุณารีบไปดูแลผู้ประสพภัยน้ำท่วมต่างจังหวัดหน่อยเถอะครับ ทราบว่ากำลังลำบากมาก ก่อนที่ท่านจะไปประชุม GA ที่ UN”
น.ส.อัญชะลี กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้ตอบคำถามแฟนคลับถึงกรณี นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ถูกตามล่า ว่าเป็น "ยุทธศาสตร์ตัดกำลังของเขาในที่สุดก็กลายเป็นความบอบช้ำของบ้านเมืองแทนที่พูดคุยกันกลับใช้วิธีทำลายกันเหมือนจับหนูโดยเผาบ้าน" พร้อมกับโพสต์ข้อความที่พาดพิงถึง พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย ว่า “ทราบว่า คุณปฐมพงษ์ ไม่สบายออกมาละเมอผ่านช่อง 11 ว่า คอมมิวนิสต์คืนชีพ จะมาล้มราชบัลลังก์ 19 ก.ย.นี้ โถเขาจะมาต่อต้านการปฏิวัติอย่างสันติครับย้ำ 3 ปีชาติแย่”
“พ.ต.ท.ทักษิณ โจมตีรัฐบาลว่า ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อใช้จัดการกลุ่มคนเสื้อแดงจะนัดชุมนุมกันในวันที่ 19กันยายนนี้ ทั้งที่เป็นเป็นการชุมนุมด้วยความสงบและอหิงสา การที่รัฐบาลทำเช่นนี้ ทำเหมือนกับ พ.ร.บ.ความมั่นคงเป็นกระดาษทิชชู่ ที่มีไว้รองรับสิ่งต่างๆ นอกจากนี้ ยังกล่าวเชื่อมโยงการเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ ไปเกี่ยวกับคดีลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้โอดครวญว่า ตอนอยู่เมืองไทยก็ถูกลอบฆ่ามาตั้งหลายครั้ง จนรู้สึกว่าอยู่ไม่ปลอดภัย ต้องออกมาพักนอกประเทศ เพราะไม่อยากเห็นบ้านเมืองเดือนร้อน” น.ส.อัญชะลี กล่าว
นายชัชวาลย์ กล่าวปิดท้ายรายการด้วยกรณีสำนักข่าวต่างประเทศอย่างรอยเตอร์ ออกมาระบุว่า ในวันที่ 19 กันยายนนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงอาจนำไปสู่ความรุนแรง เพื่อก่อเกิดการปะทะ และเปิดโอกาสให้ทหารเข้ามาควบคุมสถานการณ์ โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อาจต้องประกาศยุบสภา ส่วนถ้าหากผ่านวันที่ 19 กันยายนไปได้ ประเทศไทยก็จะยังไม่สงบอยู่ดี เพราะมีหลายปัจจัยที่ล่อแหลมจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้ตลอด
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น.วันอังคารที่ 16 ก.ย. น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก และ นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย เป็นผู้ดำเนินรายการ ได้มีการนำประเด็นข่าวสำคัญในรอบวันมานำเสนอให้กับพี่น้องชาวอีสาน โดยวันนี้ มีการหยิบยกกรณี ส.ต.ต.(หญิง) นวพร วงษ์สุวรรณ บุตรสาว พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เขียนจดหมายเปิดใจถึงความรู้สึกกดดันที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ต้องพ้นจากตำแหน่ง
นอกจากนี้ ยังมีกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาหลบคดีทุจริต ได้ส่งทวิสต์เตอร์ให้กำลังใจ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรสาว ที่จะต้องเดินทางไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขึ้นเบิกความเป็นพยานในฐานะผู้ร้องคัดค้านในคดีที่อัยการสูงสุดร้องขอให้ทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ และบุคคลภายในครอบครัว มูลค่ากว่า 76,000 ล้านบาท ได้มาจากการร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดิน
โดยช่วงแรก น.ส.อัญชะลี กล่าวถึงกรณี ส.ต.ต.(หญิง) นวพร วงษ์สุวรรณ บุตรสาว พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เขียนจดหมายเปิดใจถึงความรู้สึกกดดันที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ต้องพ้นจากตำแหน่ง โดยเนื้อหาในจดหมายระบุถึงความรู้สึกลูกที่เพิ่งเรียนจบหลักสูตรตำรวจ แต่ครอบครัวต้องมาพบเจอกับเรื่องน่าเศร้าใจ คือ การที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ถูกสั่งย้ายไปช่วยราชการที่ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และในเวลาต่อมา พล.ต.อ.พัชรวาท ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ผบ.ตร. ซึ่ง ส.ต.ต.(หญิง) นวพร เปิดใจว่า รู้สึกเสียใจมาก ร้องไห้จนแทบไม่มีน้ำตา สำหรับเนื้อหาใจความในจดหมาย น.ส.อัญชะลี ได้อ่านดังนี้
“วันนี้ควรเป็นฤกษ์ดีสำหรับทุกๆ คน รวมทั้งครอบครัว “วงษ์สุวรรณ” แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น วันนี้เป็นวันที่ลูกพ่อเรียนจบหลักสูตรตำรวจ หลักสูตรที่มีแรงกระทบตลอดเวลา ลูกพ่อตื่นมาด้วยความภาคภูมิ ในที่สุดวันนี้ที่พ่ออดทนเรื่อยมาก็มาถึง ทุกคนบอกว่าเป็นฤกษ์ดีที่จัดงานเลี้ยงในวันนี้ ทุกคนจะก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ตอนเช้านักเรียนอบรมทั้งหมดไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงเรียนทั้งสามแห่ง จิตใจของลูกพ่อรู้สึกโล่งใจ ดีใจที่สามารถทำให้พ่อภูมิใจได้ แต่เหตุการณ์กลับพลิกผันเมื่อมีคำสั่งสายฟ้าผ่าให้พ่อไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ไม่มีใครบอกลูกหรอก ลูกรู้จาก SMS พ่อบอกลูกข้าราชการต้องอดทน
พ่อรู้ไหม ลูกแทบล้มทั้งยืน น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว รีบโทรไปหาพ่อ พ่อบอกว่า "ไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไร ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดก็พอ ต้องอดทด อย่าให้ใครรู้ว่าเราเสียใจ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด เราทำถูกทุกอย่าง ถ้าเราร้องไห้ หรือโกรธ เท่ากับเราทำผิด แต่เราไม่ได้ทำอะไรผิด" แต่หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงหลังจากรู้ข่าว ลูกพ่อกลับรู้ข่าวที่สะเทือนใจยิ่งกว่า พ่อประกาศลาออก ลูกพ่อเสียใจมาก ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา นอนไม่มีชีวิตจิตใจ โทร.ไปหาพ่ออีกที พ่อบอกแค่ว่า "พ่อทำดีที่สุดแล้วลูก พ่อว่าเป็นวิธีที่สุดที่ทำให้ประเทศไม่แตกแยกที่สุดที่พ่อจะทำได้ ต่อไปลูกจะเป็นตำรวจ ลูกต้องปกป้องสถาบันและองค์กรให้ดีที่สุดเหมือนกันนะลูก" ถามกลับพ่อไปว่า "ทำไมพ่อไม่ยอมพูดความจริงอะไรบ้าง ทำไมพ่อยอมให้เขาทำกับเราขนาดนี้ ทำไมพ่อต้องยอมอยู่คนเดียว ต้องอดทนอยู่คนเดียว" พ่อบอกแค่ว่า "พ่อเป็นข้าราชการนะลูก ทำงานรับใช้สถาบันและบ้านเมือง เราจะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวไม่ได้ต้องอดทนน่ะลูก”
จากนั้นแม่ก็บอกไก๋ (ชื่อเล่น ส.ต.ต.(หญิง) นวพร) ผ่านสายโทรศัพท์ว่า “ไม่เป็นไรน่ะลูก อดทนน่ะลูก พ่อเขาทำดีแล้ว พ่อเขาบอกแม่ไว้ก่อนแล้ว แม่จะไปร่วมแสดงความยินดีกับลูกน่ะ วันนี้วันดีนะลูก” ทุกคนบอกพ่อลงอย่างสง่างาม ในที่สุดงานเลี้ยงก็เริ่ม มีครอบครัวของนักเรียนอบรม บรรดาครู อาจารย์ ผู้บังคับบัญชา และเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนนายร้อยตำรวจมาร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง พี่ๆ ตำรวจ คุณอาและพี่ๆ ในสำนักงานก็ทยอยมาแสดงความยินดีและให้กำลังใจ บอกว่า “พ่อลงอย่างสง่างามที่สุด” พ่อไม่โกรธ ไม่เคืองใคร คำสุดท้ายที่พ่อพูดก่อนอำลาตำแหน่งคือขอให้ตำรวจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด รักษาสถาบันและองค์กร ในความรู้สึกลูก พ่อทำหน้าที่ในการเป็นข้าราชการตำรวจจนวินาทีสุดท้ายของพ่อ ในชีวิตราชการกว่า 30 ปีของพ่อ พ่อได้ทำตามอุดมคติตำรวจอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด แต่พ่อรู้ไหม วันนี้ลูกต้องยิ้มแสดงความเข้มแข็งแต่ในใจลูกเจ็บช้ำที่สุด ตลอดเวลาสามชั่วโมงกว่าที่งานเลี้ยงดำเนินไป ทั้งที่ๆ ที่วันนี้เป็นวันเริ่มต้นชีวิตข้าราชการของลูก แต่มันอาจเป็นวันสุดท้ายในชีวิตราชการของพ่อในฐานะข้าราชการตำรวจ”
นายชัชวาลย์ กล่าวเสริมประเด็นนี้ว่า ข้อความในจดหมายเปิดใจของ ส.ต.ต.(หญิง) นวพร แสดงให้เห็นความรู้สึกของผู้เป็นลูกที่มีต่อบิดา ซึ่งไม่ใช่สิ่งผิดที่จะแสดงออก เพราะโดยปกติไม่ว่าบุพการีจะเป็นเช่นไร เมื่อเกิดเรื่องขึ้น ก็ต้องอยู่ข้างบิดาหรือมารดา เพราะลูกทุกคนรักบุพการี แต่ตนอยากให้ ส.ต.ต.(หญิง) นวพร ลองทำใจให้เป็นกลาง เนื่องจากสาเหตุที่ทำให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ถูกสั่งย้ายไปประจำที่สำนักนายกรัฐมนตรี ก็เกิดจากที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ ที่หน้าอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 โดยจากเหตุการณ์อันเลวร้ายครั้งนั้น มีประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก ต้องได้รับบาดเจ็บและล้มตายจากการใช้อาวุธร้ายแรงยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุม ทั้งๆที่คนเหล่านั้น ก็มีครอบครัว มีบุคคลอันเป็นที่รักเหมือน ส.ต.ต.(หญิง) นวพร
นายชัชวาลย์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ ส.ต.ต.(หญิง) นวพร พบเจอวันนี้ ที่ออกมาเปิดใจว่ารู้สึกเจ็บปวดและเสียใจมาก หากมองย้อนกลับไป ญาติผู้ได้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ก็รู้สึกสูญเสียไม่แพ้กัน ซึ่งยังนับว่า ส.ต.ต.(หญิง) นวพร โชคดี ที่ พล.ต.อ.พัชรวาท แค่ถูกสั่งย้ายไปช่วยราชการที่อื่น แต่ญาติผู้สูญเสียจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ต้องรู้สึกสะเทือนใจและตายทั้งเป็น กับการจากไปของบุคคลที่รักอย่างไม่มีวันกลับ
ช่วงต่อมาได้มีการหยิบยกกรณี จับตาปฏิวัติ 19 กันยาฯ โดย น.ส.อัญชะลี กล่าวว่า มีหลายกระแสออกมาระบุว่า วันเสาร์ที่ 19 และวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายนนี้ จะเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติในประเทศไทยอีกครั้ง นายชัชวาลย์ กล่าวต่อกรณีนี้ ว่า หากวันที่ 19 หรือ 20 กันยายนนี้ มีการปฏิวัติจริง ก็ถือว่าเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของคนที่ทำ เพราะนายอภิสิทธิ์ ไม่เหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ ถือเป็นนักการเมืองและผู้นำประเทศที่มือสะอาด ไม่มีปัญหาการทุจริต คอร์รัปชัน เช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เมื่อตอนทหารทำการปฏิวัติ มีแต่ผู้คนนำดอกไม้ไปแสดงความยินดีกับทหาร ที่จัดการรัฐบาลทรราช โกงกินชาติบ้านเมืองให้พ้นจากประเทศไทย ดังนั้น ทั้งสองคนนี้ จึงมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
จากนั้น น.ส.อัญชะลี กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ทวิตเตอร์พูดคุยและให้กำลังใจ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรสาวคนกลาง ที่จะเข้าเบิกความต่อสู้คดีที่ครอบครัวถูกฟ้องอายัดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) โดยใจความสำคัญ ดังนี้ “เข้มแข็งนะลูกรัก พรุ่งนี้ขอให้ผ่านพ้นด้วยดีนะลูก อย่าหวั่นไหวต่อพฤติกรรมลูกน้องนายอุดมนะลูก” นอกจากนี้ ในทวิสต์เตอร์ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่แก่ นายอภิสิทธิ์ ด้วยว่า “ท่านนายกฯครับ รีบตั้ง ผบ.ตร.เร็วๆ แล้วกรุณารีบไปดูแลผู้ประสพภัยน้ำท่วมต่างจังหวัดหน่อยเถอะครับ ทราบว่ากำลังลำบากมาก ก่อนที่ท่านจะไปประชุม GA ที่ UN”
น.ส.อัญชะลี กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้ตอบคำถามแฟนคลับถึงกรณี นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ถูกตามล่า ว่าเป็น "ยุทธศาสตร์ตัดกำลังของเขาในที่สุดก็กลายเป็นความบอบช้ำของบ้านเมืองแทนที่พูดคุยกันกลับใช้วิธีทำลายกันเหมือนจับหนูโดยเผาบ้าน" พร้อมกับโพสต์ข้อความที่พาดพิงถึง พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย ว่า “ทราบว่า คุณปฐมพงษ์ ไม่สบายออกมาละเมอผ่านช่อง 11 ว่า คอมมิวนิสต์คืนชีพ จะมาล้มราชบัลลังก์ 19 ก.ย.นี้ โถเขาจะมาต่อต้านการปฏิวัติอย่างสันติครับย้ำ 3 ปีชาติแย่”
“พ.ต.ท.ทักษิณ โจมตีรัฐบาลว่า ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อใช้จัดการกลุ่มคนเสื้อแดงจะนัดชุมนุมกันในวันที่ 19กันยายนนี้ ทั้งที่เป็นเป็นการชุมนุมด้วยความสงบและอหิงสา การที่รัฐบาลทำเช่นนี้ ทำเหมือนกับ พ.ร.บ.ความมั่นคงเป็นกระดาษทิชชู่ ที่มีไว้รองรับสิ่งต่างๆ นอกจากนี้ ยังกล่าวเชื่อมโยงการเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ ไปเกี่ยวกับคดีลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้โอดครวญว่า ตอนอยู่เมืองไทยก็ถูกลอบฆ่ามาตั้งหลายครั้ง จนรู้สึกว่าอยู่ไม่ปลอดภัย ต้องออกมาพักนอกประเทศ เพราะไม่อยากเห็นบ้านเมืองเดือนร้อน” น.ส.อัญชะลี กล่าว
นายชัชวาลย์ กล่าวปิดท้ายรายการด้วยกรณีสำนักข่าวต่างประเทศอย่างรอยเตอร์ ออกมาระบุว่า ในวันที่ 19 กันยายนนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงอาจนำไปสู่ความรุนแรง เพื่อก่อเกิดการปะทะ และเปิดโอกาสให้ทหารเข้ามาควบคุมสถานการณ์ โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อาจต้องประกาศยุบสภา ส่วนถ้าหากผ่านวันที่ 19 กันยายนไปได้ ประเทศไทยก็จะยังไม่สงบอยู่ดี เพราะมีหลายปัจจัยที่ล่อแหลมจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้ตลอด