ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ เชื่อ “เครือข่ายแม้ว” จะระดมสรรพกำลังทั้งบนดินและใต้ดินหวังโค่นล้มรัฐบาลเต็มที่ แนะฝ่ายความมั่นคงระวังพื้นที่สุ่มเสี่ยง ชี้เป็นภารกิจครั้งสุดท้ายก่อนที่ระบอบทักษิณกำลังล่มสลาย ระบุพลังเสื้อแดงไร้น้ำยาเพราะแกนนำแตกแยกทางความคิด
วันนี้ (13 ก.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในฐานะเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) กล่าวถึงการชุมนุมของ นปช.ในวันที่ 19กันยายนนี้จะไม่มีพลังเพียงพอที่จะโค่นล้มรัฐบาลลงได้ เนื่องจากการชุมนุมของ นปช.มีปัญหาความชอบธรรม ในการนำที่เริ่มแตกแยกกัน และเป้าหมายการต่อสู้ที่ต่างระดับกันเพราะแกนนำอย่าง 3 เกลอต้องการทวงแค้น และทวงคืนอำนาจให้ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ในขณะเดียวกัน กลุ่ม นายจักรภพ เพ็ญแข และฝ่ายซ้ายบางส่วน ต้องการยกระดับการเคลื่อนไหวไปสู่การโค่นล้มระบอบมหาอำมาตย์
สถานการณ์ของ นปช.ที่ขาดเอกภาพแบบนี้ ทำให้การนำมวลชนออกมาเคลื่อนไหวทำได้ยากขึ้น ซึ่งคงจะมีคนเข้าร่วมน้อยกว่าในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา และหากมีการปักหลักยืดเยื้อ ก็จะไม่ยืดเยื้ออย่างที่เคยชุมนุม เพราะอาจทำให้การนำแตกออกเป็นเสี่ยงและมวลชนทะเลาะกันเองในที่สุด
นายสุริยะใสเชื่อว่า การชุมนุมของ นปช.ครั้งนี้คงต้องใช้ยุทธวิธิปิดเกมเร็ว ซี่งอาจมีการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง โดยเฉพาะการปฏิบัติการรุนแรงนอกพื้นที่ชุมนุมอาจเป็นมาตรการหนึ่งที่เครือข่ายระบอบทักษิณเตรียมการไว้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ รู้ดีว่าลำพังการเคลื่อนไหวของ นปช.ไม่สามารถไล่รัฐบาลได้ ซ้ำร้ายยิ่งเคลื่อนไหว ความชอบธรรมยิ่งลดลง
“พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เข้าใจสภาพปัญหานี้ดีว่า ลำพังการเคลื่อนไหวของ นปช.ไม่มีทางที่จะเป็นฝ่ายชนะได้ และยิ่งปล่อยให้เวลาลากยาว ยิ่งตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ การระดมสรรพกำลังและเครือข่ายทั้งหมดทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ ทั้งปฏิบัติการใต้ดินและบนดิน จึงเป็นสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ หลีกเลี่ยงไม่ได้ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่สนใจว่าจะเกิดผลกระทบอะไรต่อสังคม” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวและว่า
การเคลื่อนไหวของ นปช.และเครือข่ายทักษิณครั้งนี้ เป็นโอกาสุดท้ายที่จะเผด็จศึกรัฐบาลชุดนี้ หากพ้นเดือนกันยายนไป เงื่อนไขในการขับไล่รัฐบาลจะยากขึ้น และอาจทำให้พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาลที่อยู่จนครบวาระได้ และจะส่งผลให้คดียึดทรัพย์และคดีความอื่นๆ สร้างปัญหาให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และเครือข่ายจนล่มสลายไปในที่สุด
รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงจึงต้องจับตาเป็นพิเศษ และอย่าพุ่งเป้าไปแค่พื้นที่ที่มีการชุมนุมเท่านั้น แต่ควรระมัดระวังสถานที่สำคัญๆ และบุคคลสำคัญที่อาจตกเป็นเป้าโจมตีได้เช่นกัน