xs
xsm
sm
md
lg

“ลิ่วล้อแม้ว” ยกหลักฐานมั่ว ป้องฆาตกร “7 ตุลา” - จี้ ป.ป.ช.ทบทวนมติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“กานต์ เทียนแก้ว” ยื่น ป.ป.ช.ทบทวนมติชี้มูลความผิด “ชายจืด-จิ๋ว-ป๊อด-สุชาติ” ฐานมีเอี่ยวฆ่า ปชช.7 ตุลา อ้างอยู่ในเหตุการณ์ ยกหลักฐานมั่ว กล่าวหาพันธมิตรฯ ใช้อาวุธร้ายแรง กักขังหน่วงเหนี่ยว แถมอ้างแถลงสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ชี้ “น้องโบว์-สารวัตรจ๊าบ” ไม่ได้ตายเพราะแก๊สน้ำตา

วันนี้ (14 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว อดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชน อ้างตัวเป็นผู้เสียหายและพยาน เหตุการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมปิดล้อมรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ให้ทบทวนมติ ป.ป.ช.วันที่ 7 กันยายน 2552 กรณีชี้มูลความผิด นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น.ฐานกระทำผิดทางอาญาและวินัยร้ายแรง โดยนายกานต์ อ้างว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ได้เป็นการชุมนุมโดยสงบ มีอาวุธร้ายแรงและพฤติกรรมกักขังหน่วงเหนี่ยว ส.ส.และข้าราชการสภา

พ.ต.ท.กานต์ ได้มีการยื่นหลักฐานที่อ้างว่าเป็นหลักฐานใหม่ ประกอบด้วย ภาพถ่ายผู้ชุมนุมถือระเบิดปิงปอง ถืออาวุธปืน และเอกสารแถลงการณ์ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า การเสียชีวิตของ นางสาวอังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือ น้องโบว์ และ พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี หรือ สารวัตรจ๊าบ ไม่ได้เกิดจากสารประกอบในแก๊สน้ำตาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้

พ.ต.ท.กานต์ ยังกล่าวอีกว่า หากคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติทบทวนการชี้มูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ ก็พร้อมที่จะเป็นพยาน เนื่องจากในวันที่เกิดเหตุ ตนเองเป็นหนึ่งในผู้ถูกกักขังอยู่ภายในรัฐสภา นอกจากนี้ ส่วนตัวยังเห็นว่า การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งชอบด้วยกฎหมาย ไม่รุนแรงเกินกว่าเหตุ เพราะแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ได้มีการปลุกระดมให้เกิดความเกลียดชัง และโกรธแค้น ส.ส.ที่เข้าร่วมประชุมรับฟังนโยบายของรัฐบาล ซึ่งการกระทำของผู้ชุมนุมเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายอาญาอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์วัีนที่ 7 ตุลา ได้ผ่านการตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และกรรมาธิการของวุฒิสภาอีก 3 คณะ เช่นเดียวกับการลงมติชี้มูลของ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา ระบุตรงกันว่า เจ้าหน้าที่กระทำการเกินกว่าเหตุ ทำให้มีประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เนื่องจากมีการสลายการชุมนุมโดยผิดขั้นตอน ไม่มีการเจรจาก่อน แต่กลับมีการยิงระเบิดแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมตั้งแต่เวลา 06.00 น.จนสามารถเปิดทางให้ ส.ส.เข้าประชุมสภาได้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายมีการระดมยิงระเบิดแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมอีกครั้งในช่วงบ่ายเพื่อเปิดทางให้ ส.ส.ออกมาจากสภา และในช่วงเย็นเวลาประมาณ 18.00-20.00 น.มีการระดมยิงใส่ผู้ชุมนุมที่หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นเส้นทางที่ผู้ชุมนุมเดินเท้าจากรัฐสภากลับไปทำเนียบรัฐบาล เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้น้องโบว์เสียชีวิต ซึ่งผลพิสูจน์ของคณะแพทย์ ระบุว่า ไม่ใช่ระเบิดที่พกมาเอง แต่เป็นระเบิดที่ยิงเข้าใส่จากระยะไกล โดยผลตรวจสอบของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์พบสารเอดีเอ็กซ์ที่เป็นส่วนผสมสำคัญในระเบิดแก๊สน้ำตาที่สั่งซื้อจากจีน
กำลังโหลดความคิดเห็น