xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” ยก “มาร์ค” ไม่ได้เหมือน “นช.แม้ว” โกงชาติจนกลับประเทศไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวนายกรัฐมนตรี
“โฆษกส่วนตัวนายกฯ” เผยรัฐจับตา “หางแดง” ชุมนุม 19 ก.ย. ซัดไร้จุดยืนขัดแย้งกันเองสูง ยัน “มาร์ค” ไม่เดินรอย “แม้ว” คิดทรยศชาติ-ประชาชนจนกลับประเทศไม่ได้ เชื่อไม่มีปฏิวัติ ย้ำรัฐไม่นิยมความรุนแรงสร้างมือที่ 3 ป่วนชุมนุม เหน็บต่างจากรัฐบาล “แม้ว-หมัก-ชายอำมหิต” ชอบลุแก่อำนาจ ชี้เสื้อแดงเรียกร้องรัฐยุติ พ.ร.บ.มั่นคง แนะควรหยุดก่อน จวกแกนนำเสื้อแดงเคลื่อนไหวหวังเงินสร้างตัว

วันนี้ (14 ก.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ว่า รัฐบาลได้จับตามองการเคลื่อนไหว รวมถึงวิเคราะห์สถานการณ์มาโดยตลอด โดยใช้วอร์รูมของพรรคเป็นศูนย์กลางการประเมินสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณใดๆที่น่ากลัว นอกจากความขัดแย้งในแกนนำของกลุ่มคนเสื้อแดงเอง อาทิ แดงสยาม และแดงสยองของสามเกลอ รวมไปถึงความขัดแย้งในจุดยืนของระบอบทักษิณ ที่กลุ่มหนึ่งเป็นลิ่วล้อเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหาร ส่วนกลุ่มเครือญาติ พ.ต.ท.ทักษิณออกมาแสดงความเห็นยุยงให้เกิดการปฏิวัติ ซึ่งเป็นความขัดแย้งในหลักการและจุดยืนชัดเจน แต่เชื่อว่าทั้งหมดในการเคลื่อนไหวมีเป้าหมายให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้ประโยชน์แต่เพียงผู้เดียว

ส่วนกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทยออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะข่มขู่และปล่อยข่าวว่า การเดินทางไปต่างประเทศของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อาจเป็นกงกรรมกงเกวียนเหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ตนอยากชี้แจงว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะพื้นฐานนายกฯ แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งแนวความคิดและการทำงาน โดยนายอภิสิทธิ์ยึดหลักเพื่อชาติบ้านเมือง ยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ มาเกี่ยวข้อง จึงไม่มีจุดอ่อนหรือเงื่อนไขให้อำนาจนอกระบบเข้ามาแทรกแซงการทำงาน

“วิบากกรรมของนายอภิสิทธิ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ แตกต่างกัน นายอภิสิทธิ์ไม่เคยมีวิบากกรรมใดๆ เพราะไม่เคยคิดทรยศ หรือชั่วช้าต่อบ้านเมือง คนที่เจอวิบากกรรมกลับประเทศไม่ได้ เพราะคิดทรยศต่อประชาชนและชาติบ้านเมือง” นายเทพไทกล่าว

นายเทพไทกล่าวต่อว่า การที่โฆษกพรรคเพื่อไทยวิเคราะห์ว่า มีกลุ่มฮาร์ดคอร์ซึ่งเป็นมือที่ 3 จะมาแทรกแซงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจนเกิดความวุ่นวายนั้น อยากทราบว่า กลุ่มมือที่ 3 เป็นกลุ่มใดกันแน่ เพราะสายฮาร์ดคอร์ส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มเสื้อแดงที่นิยมความรุนแรงมาตลอด แม้กระทั่งพวกเดียวกันก็ยังลงมือ อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีการจัดตั้งกลุ่มฮาร์ดคอร์แน่นอน หากรัฐบาลชุดนี้นิยมความรุนแรงจริง ก็คงจะไม่ปล่อยให้กลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวเผาบ้านเผาเมือง ในวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา และถ้ารัฐบาลลุแก่อำนาจ เหมือนสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ นายสมัคร (สุนทรเวช) และนายสมชาย (วงศ์สวัสดิ์) อดีตนายกรัฐมนตรี ก็จะเห็นผู้คนตายเป็นเบือ เพราะการยั่วยุให้ทำลายชาติบ้านเมือง สามารถใช้เป็นเงื่อนไขในการปราบปรามได้ แต่รัฐบาลไม่ทำ เพราะเห็นแก่บ้านเมืองและเคารพสิทธิมนุษยชนเป็นหลัก

ส่วนการเคลื่อนไหวของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่ประกาศชุมนุม “โค่นล้มรัฐบาลอำมาตยาธิปไตย” ภายใต้ยุทธศาสตร์ “เดินด้วยสองขา ทำงานด้วยสองแขน” ว่า เป็นยุทธศาสตร์ที่พูดความจริงไม่หมด เพราะยุทธศาสตร์ที่แท้จริงของกลุ่มคนเสื้อแดง คือ “เดินด้วยสองขา ทำงานด้วยสองแขน เงินเต็มสองกระเป๋า” ทั้งนี้ เชื่อว่าคนเหล่านี้ทำงานด้วยสองขาสองแขน ต้องมีเงินสนับสนุน และเงินทองเก็บไว้สร้างฐานะทางการเงินให้กับตนเองด้วย เพราะการชุมนุมเสื้อแดงยืดเยื้อยาวนานเท่าไหร่ เงินทุนก็เป็นทวีคูณมากเท่านั้น เพราะทัศนคติของคนเหล่านี้ คือ “เงินไม่มา แขนขาไม่เดิน” ส่วนการจะมาเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงนั้น เป็นการเรียกร้องที่ปลายเหตุ เพราะแท้ที่จริงรัฐบาลไม่ต้องการใช้ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว แต่เกรงว่าสถานการณ์จะลุกลามเหมือนวันที่ 13 เม.ย. ซึ่งรัฐบาลไม่อยากให้เกิดพฤติการณ์ทำลายชาติเป็นครั้งที่สอง ทางที่ดีที่สุดคือกลุ่มเสื้อแดงยกเลิกการชุมนุมรัฐบาลก็ไม่ประกาศ จึงไม่จำเป็นต้องเรียกร้องกับรัฐบาล แต่ควรสำนึกตนเองจะดีกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น