แก๊งหัวขวดเดินหน้าเปิดเทปโฟนอิน “แม้ว” ซ้ำ อ้างไม่หมิ่นเบื้องสูง

แก๊งหัวขวด ย้ำ มีความคิดนำเทป “แม้ว” โฟนอินออกอากาศ “ความจริงวันนี้” อีกรอบ อ้างหน้าตาเฉย ไม่ได้หมิ่นศาล-พาดพิงเบื้องสูง ชี้ มีสิทธิ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมได้ แย้มมีสัญจรครั้งที่ 3 อีก เย้ยกองทัพให้ไปจับตาพันธมิตรฯแทน

วันนี้ (4 พ.ย.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการนำเทปบันทึกภาพการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาออกอากาศในรายการความจริงวันนี้ ในคืนนี้ ว่า ตนไม่ทราบยังไม่ได้คุยกับพรรคพวกที่จัดรายการ แต่เขามีความคิดที่จะนำมาออกอากาศอยู่แล้ว แต่ต้องดูว่าถึงเวลาจริงจะออกอากาศหรือไม่

เมื่อถามว่า หากออกอากาศจริง จะมีผลกระทบอะไรต่อภาพลักษณ์ของกระบวนการยุติธรรมของไทยหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ส่วนตัวตนเห็นว่าเนื้อหาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดมาไม่ได้กระทบ หรือสร้างความแตกแยกวุ่นวายอะไรในบ้านเมือง รวมทั้งการจัดงานวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมาด้วย ส่วนที่มีการบอกว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมนั้น ตนคิดว่า ต้องแยกให้ชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ วิพากษ์กระบวนการยุติธรรมหรือวิพากษ์ศาลสถิตยุติธรรม เพราะถ้าวิพากษ์ศาลสถิตยุติธรรมคิดว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะไม่ควร

“แต่ถ้าพูดถึงกระบวนการยุติธรรมที่ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือว่าท่านเป็นคนที่จะมีสิทธิ์ที่จะพูดได้ เพราะกระบวนการยุติธรรมที่ดำเนินการของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นกระบวนการพิเศษที่แตกต่างจากคนอื่นๆ เพราะคนอื่นๆ เขาจะมีตำรวจเป็นพนักงานสอบสวน แล้วก็ไปอัยการ ไปศาล ถ้าผิดก็ไปราชทัณฑ์ แต่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ พนักงานสอบสวนเป็นของ คตส.แล้วมาอัยการ มาศาล แล้วก็อาจจะไปราชทัณฑ์ ซึ่งถ้าต้นทางมีปัญหาปลายทางก็ย่อมมีผลสูงที่อาจจะมีปัญหาด้วย” นายณัฐวุฒิ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่หลายฝ่ายเตรียมฟ้องดำเนินคดีหากมีการนำเทปมาออกอากาศ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนคิดว่าคนที่ไปนั่งในรายการเลยจุดที่จะกลัวการฟ้องร้องนานแล้ว เพราะเขาพร้อมจะนำเสนอข้อมูลที่เขาเชื่อว่าจริง และพร้อมที่จะรับผิดชอบเมื่อมีการพิสูจน์ อย่างไรก็ตาม หากเห็นว่าไม่เหมาะสมก็สามารถดำเนินการตามช่องทางทางกฎหมายได้ แต่ไม่ใช่ว่าทีวีทุกช่องไม่ออกอากาศ ส่วนผู้จัดรายการเองก็ไม่มีสิทธิ์เอามาออก ตนก็คิดว่าแปลก ทั้งนี้ ตนคิดว่าไม่ต้องรอดูในรายการความจริงวันนี้ เพราะ 2-3 วันที่ผ่านมาอ่านหนังสือพิมพ์ก็รู้หมดแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ พูดว่าอะไรบ้าง

เมื่อถามว่า แต่ไม่ใช่เแค่ความเป็นห่วงเรื่องกระบวนการยุติธรรม แต่ยังห่วงถึงบางคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่หลายฝ่ายระบุว่า เป็นการพาดพิงถึงเบื้องสูง โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า โดยส่วนตัวเห็นว่า การระลึกถึงบารมีขององค์พระมหากษัตริย์ หรือสถาบันเบื้องสูง ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยมาตลอดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้สำหรับคนไทยหลายๆ คน ไม่ว่ายามที่มีสุขหรือมีทุกข์ก็ตามก็มักที่จะระลึกถึงและแสดงความเทิดทูนในบารมีแห่งพระองค์ท่าน ฉะนั้น คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะมีความหมายเช่นนี้ที่เหมือนกับคนไทยทั่วไป อย่างไรก็ตาม การวิจารณ์เรื่องนี้ก็อย่ามีมุมมองและความรู้สึกทางการเมืองเจือปน

เมื่อถามว่า รายการความจริงวันนี้สัญจรครั้งที่ 3 จะมีอีกหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เห็นว่าจะมีเพราะช่วงจบงานวันที่ 1 พ.ย.มีการประกาศว่าจะจัดอีกครั้งส่วนจะจัดเมื่อไหร่ที่ไหนตนไม่ทราบ รวมทั้งตอบไม่ได้ว่าจะมีการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ แต่จะมีการจัดงานแน่นอน

เมื่อถามถึงการจับตาเทปของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่อาจจะมีการหมิ่นเหม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า กองทัพก็รับผิดชอบในสิ่งที่อะไรที่สังคมไม่สบายใจ อะไรที่อาจจะเกิดความไม่เข้าใจกันหรือละเมิดกฎหมายดังนั้นกองทัพก็ต้องดูแล ซึ่งเป็น ปรากฏการณ์ที่ไม่ได้วิตกกังวลอะไร

“แต่ผมคิดว่ากองทัพก็น่าจะมีเวลาในการพิจารณาปรากฏการณ์บางปรากฏการณ์ในสังคมเพิ่ม เมื่อกองทัพแสดงความเป็นห่วงกังวลต่อความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อใด และ พ.ต.ท.ทักษิณ ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี สังคมก็อบอุ่นว่ากองทัพดูแลสอดส่อง เพียงแต่ว่ากองทัพก็ต้องแสดงความสนใจกับความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย เพราะวันนี้คนที่ยึดทำเนียบรัฐบาลกำลังตั้งตัวเองเป็นกองกำบังติดอาวุธ พื้นที่นั้นกลายเป็นพื้นที่ต้องห้ามสำหรับสุจริตชนโดยทั่วไปที่อาจจะเห็นต่างจากพันธมิตรฯ เพราะวันนี้ใครพูดไม่เข้าหูพันธมิตรฯก็ถูกโจมตีอย่างสาดเสียทีเสีย ใครพูดผิดหูโดนด่า คนแปลกหน้าโดนยิง ผมคิดว่ากองทัพหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องหยิบยกมาพูดคุยกันเหมือนกัน แต่กองทัพก็เหมือนกันพอพูดผิดหูพันธมิตรก็โดนด่า เพราะถ้าแปลกหน้าเผลอๆ เขาก็อาจจะยิง เพราะนี้คือกลุ่มพันธมิตรฯ” นายณัฐวุฒิ กล่าว

ส่วนกรณีที่รัฐบาลมีมติ ครม.ให้สถานีโทรทัศน์ดูแลรูปแบบรายการทีวีให้เหมาะสมเพื่อไว้ทุกข์งานพระราชทานเพลิงพระศพในระหว่างวันที่ 14-16 พ.ย.นั้น รายการที่วิจารณ์การเมืองร้อนแรงนั้นควรจะเข้าไปขอความร่วมมือหรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หมายถึงรายการทุกรูปแบบทุกประเภทว่าจะเป็นรายการสาระ หรือบันเทิงก็จะต้องมีการพิจารณาเนื้อหาสาระด้วย จึงคิดว่าทุกช่องทุกสถานีควรให้ความร่วมมือ

ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ในฐานะผู้จัดรายการความจริงวันนี้ ยืนยันว่า จะนำเทปบันทึกการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาออกอากาศในรายการความจริงวันนี้เช่นเดิม ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พูดถึงพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่คนไทยทุกคนต้องนึกถึงพระบารมีของพระองค์ เมื่อต้องตกอยู่ในความลำบาก โดยไม่ได้ต้องการหมิ่นหรือกดดันสถาบันเบื้องสูงแต่อย่างใด และขณะนี้ก็ยังไม่มีการหารือกันถึงแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน

นายจตุพร เปิดเผยด้วยว่า จะมีการจัดรายการความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 3 ภายหลังจากพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพเสร็จสิ้น โดยจะจัดขึ้นในต่างจังหวัดอาจจะเป็น จ.เชียงใหม่ จ.อุดรธานี หรือ จ.ขอนแก่น เพื่อตอกย้ำจุดยืนในการต่อต้านรัฐประหารและเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ