“นายกฯอภิสิทธิ์” มั่นไม่กลัวอาถรรพ์นายกรัฐมนตรีบินประชุมนอก แต่ไม่ได้กลับไทย ยันร่วมประชุมยูเอ็นด้วยตนเอง ชี้ คนละเงื่อนไขไม่เหมือน “แม้ว-สมชาย” กลับไทยไม่ได้ ไว้ใจ “เทพเทือก” รักษาการนายกฯ ดูแลแทน ย้ำไม่ประมาทเตรียมพร้อมประชุม ครม.นัดพิเศษประกาศพื้นที่ความมั่นคง ยันแนวทางชัดเจนไม่ปะทะทำแตกแยก ขอร้องอย่าไปตัดต่อต้องบริหารด้วยความระมัดระวัง
วันนี้ (1 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.45 น.ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินลงจากห้องประชุมเพื่อมอบรางวัล “ผัดไทยชิงแชมป์โลก” และได้แวะชมบูทต่างๆ พร้อมกับชิมผัดไทย ก่อนจะขึ้นไปบนตึกสำนักงานเลขาธิการครม.อีกครั้งเพื่อร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับ ครม.
ต่อมาเวลา 14.00 น.ที่ตึกนารีสโมสร นายอภิสิทธิ์ แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร ที่ได้ประกาศเอาไว้เมื่อวันที่ 29 ส.ค.- 1 ก.ย.ที่ได้ประกาศในพื้นที่เขตดุสิตนั้นจะสิ้นสุดวันนี้ โดยทางศูนย์อำนวยการรายงานมาว่า สำหรับการติดตามสถานการณ์ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ยังมีความเคลื่อนไหวอยู่ แต่ยังไม่มีข่าวที่สามารถเป็นข้อสรุปชัดเจนได้ว่า ความรุนแรงของการเคลื่อนไหวจะเป็นลักษณะใด สิ่งที่ ครม.ให้ความเห็นชอบ คือ ในกรณีที่มีข่าวว่า การชุมนุมอาจจะทำมีผลกระทบต่อความมั่นคง จะได้นัดประชุม ครม.ได้เพื่อประกาศพื้นที่ความมั่นคงในกรณีที่จำเป็น ในชั้นนี้ยังไม่มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมที่ต้องมีการประกาศใช้เร็วๆ นี้ ทาง ครม.ไม่ประมาท และได้สอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ ปัจจุบันนักลงทุน และชาวต่างประเทศมีความเข้าใจถึงลักษณะธรรมชาติของกฎหมายฉบับนี้ จากการประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวในการประชุมที่ภูเก็ต และช่วง 3-4 วันที่ผ่านมาไม่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจ ในทางตรงกันข้าม หลายๆ ส่วนกลับมีความเห็นว่า การใช้มาตรการป้องกันเอาไว้จะทำให้คนมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นต่อเสถียรภาพและความสงบของบ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงที่กลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันจะเดินทางมาชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นช่วงที่นายกฯ ต้องเดินทางไปเข้าปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศกว่าสัปดาห์ ยืนยันหรือไม่ว่านายกฯจะทำหน้าที่ตรงนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคงต้องไปทำหน้าที่ของตนที่สหประชาชาติ และเป็นตัวแทนอาเซียนเข้าร่วมประชุม จี20 ถือเป็นภารกิจสำคัญ ส่วนหน้าที่ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงนั้น ทาง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะรักษาการก็จะเป็นผู้ดูแลในส่วนนั้น
เมื่อถามว่า นายกฯกลัวอาถรรพ์ อะไรหรือไม่ เพราะ 2 อดีตนายกฯเดินทางออกประเทศไปแล้วมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่กลัวครับ เพราะเงื่อนไขมันต่างกันเยอะ ส่วนจะเงื่อนไขอะไรนั้น คิดว่าคงไม่ต้องอธิบายจะดีกว่า เมื่อถามว่า เหตุการณ์ขณะนี้ยังไม่สงบขึ้น และยังมีการชุมนุมที่อาจจะเกิดความหวั่นไหวเกิดขึ้นด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้ย้ำไปแล้วว่า แนวทางการทำงานของรัฐบาลพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าหรือปะทะ แต่เมื่อมีแนวโน้มจะเกิดการกระทำที่ผิดกฎหมาย เราก็ใช้วิธีการที่จะรักษากฎหมายและทำด้วยความนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ และได้ใช้แนวทางนี้มาตลอด และจะยึดถือต่อไป คิดว่า เป็นแนวทางซึ่งสอดคล้องกับประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ปกครองด้วยหลักนิติรัฐ นิติธรรม ฉะนั้นคิดว่าน่าจะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีสำหรับทุกคน
“รองนายกฯสุเทพ รับผิดชอบเรื่องความมั่นคงมาโดยตลอด และได้รับมอบหมายให้ทำงานนี้อยู่และเข้าใจแนวทางที่รัฐบาลใช้มาโดยตลอดเป็นอย่างดี ไม่น่าจะมีปัญหา แนวของผมชัดเจนอยู่แล้ว อย่าไปตัดต่อเท่านั้นเอง ส่วนเป็นช่วงระยะเวลาเปราะบางหรือไม่นั้น เราต้องบริหารด้วยความระมัดระวัง เพราะเราทราบว่าสถานการณ์อย่างนี้มีความละเอียดอ่อน ยืนยันอีกครั้งว่า ขณะนี้บ้านเมืองเราขณะนี้เดินมาไกลพอสมควรจากสภาพปีที่แล้ว จากสภาพบอบช้ำด้านการเมือง และวิกฤติเศรษฐกิจเข้ามา วันนี้ผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ ทำอย่างไรให้สามารถเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่องได้ ผมเข้าใจดีว่ามีคนที่ยังมีความไม่พอใจการทำงานของรัฐบาล และมีคนที่อยากจะแสดงออกเช่นกรณี 19 ก.ย. ต้องการแสดงออกการต่อต้านรัฐประหาร ซึ่งเราเคารพต่อการแสดงออกความคิดเห็นเช่นนั้น แต่ขอย้ำว่าการแสดงความคิดเห็นถ้าเป็นนักประชาธิปไตย ต้องไม่ผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น และที่สำคัญที่สุดอยากให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ที่ต้องการเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า” นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงความไว้วางใจที่ให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ดูแลสถานการณ์ทั้งหมดในช่วงที่เดินทางไปต่างประเทศ