ASTVผู้จัดการรายวัน-"มาร์ค" รอ 1 ก.ย. ตัดสินใจใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงรับมือการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 5 ก.ย. ขณะที่กองทัพพร้อมสนองนโยบาย หากมีการบังคับใช้ต่อ "สุริยะใส" เตือนรัฐบาลระวังปฏิบัติการจรยุทธ์ ตามแผนป่าล้อมเมืองของกลุ่มแดงถ่อย หลังสูญเสียความชอบธรรมในการชุมนุมจากเรื่องคลิปนายกฯ ด้าน ส.ว.เตือนอาจมีการระดมคนมาชุมนุมใหญ่ 19 ก.ย. โดยใช้เงื่อนไขต้านรัฐประหาร ด้าน "เด็จพี่" ปล่อยข่าวกลุ่มอำนาจใหม่ ใช้ “บูรพาพยัคฆ์” ป่วนเสื้อแดงหวังกระทบเก้าอี้นายกฯ
จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 29 ส.ค.ถึง1ก.ย. 52 เพื่อควบคุมสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 30ส.ค. แต่เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงหลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศเลื่อนการชุมนุมไปวันที่ 5 ก.ย.นั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่บ้านพักซอยสุขุมวิท 31 ถึงการจะยกเลิกการบังคับใช้พ.ร.บ. ความมั่นคงในช่วงนี้หรือไม่ว่า จะต้องหารือกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) อีกครั้ง หลังจากที่นายสุเทพ ประชุม ศอ.รส.ว่าจะคงการบังคับใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯไว้จนถึงวันที่ 1 ก.ย. หรือจะยกเลิกก่อน ซึ่งถ้าที่ประชุม ศอ.รส.ในวันนี้(31 ส.ค.)เห็นว่ามีเหตุผลที่จะยกเลิกก่อน ก็ทำได้ แต่เท่าที่ดำเนินการไปจะเห็นว่าเราไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร แต่เป็นการให้ความมั่นใจว่า ถ้ามีการชุมนุมเกิดขึ้น การชุมนุมนั้นจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คนที่จะเข้าไปทำงานในทำเนียบรัฐบาล สามารถเข้าไปได้
ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะชุมนุมในวันที่ 5 ก.ย.นี้ ยังจำเป็นที่ต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯอีกหรือไม่นั้น จะมีการตัดสินใจกันในที่ประชุมครม. ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ แต่ผู้ชุมนุมต้องตอบคำถามว่ามีปัญหาอะไรกับการที่รัฐบาลต้องการให้ชุมนุมโดยสงบ ซึ่งผู้ชุมนุมควรให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการทำให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดย พ.ร.บ.ความมั่นคงฯไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใคร แต่เป็นเพียงการจัดวางกำลังเพื่อดูแลให้การใช้สถานที่สำคัญเป็นไปได้ปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะมาชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.นี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีปัญหากับการเคลื่อนการชุมนุม แต่อย่าทำผิดกฎหมาย ถ้าร่วมมือกันได้ ไม่ต้องประกาศกฎหมาย ตนไม่มีปัญหาอะไร แต่อยากให้แสดงออกสักนิดว่า ต้องการชุมนุมภายใต้กฎหมาย
เมื่อถามต่อว่า วันดังกล่าวเป็นวันเชิงสัญลักษณ์ คิดว่าจะเกิดการแตกหักหรือเป็นชนวนให้เกิดความรุนแรงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราจะไม่ให้เป็นอย่างนั้น และเรามีหน้าที่ดูแลให้เกิดความเรียบร้อย แต่ถ้าเขาอยากแสดงจุดยืนวันไหน อย่างไร ก็ทำได้
**เปรยในรายการ 31 ส.ค.ก็รู้
ก่อนหน้านั้นนายอภิสิทธิ์ กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ในช่วงสุดท้าย ว่า พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ไม่เหมือนกับพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ ทั้งนี้ ขอรอดูสถานการณ์อีกระยะ เพราะการออกกฎหมายฉบับนี้ ไม่กระทบสิทธิ์ของประชาชน แต่เป็นการบูรณาการให้เจ้าหน้าที่แต่ละฝ่ายมาทำงานร่วมกัน เมื่อหมดเงื่อนไขหรือเหตุการณ์ ก็สามารถยกเลิกได้ ซึ่งเรื่องนี้จะมีความชัดเจนในวันนี้ (31 ส.ค.)ทั้งนี้ได้ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไปคุยกับผู้ชุมนุม ถ้าชุมนุมอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ก็ไม่ขัดข้อง แต่ไม่อยากเห็นเหมือนเดือนเม.ย.
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้จัดกิจกรรมมาหลายครั้ง แต่เรื่องปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ศาลก็เคยมีคำสั่งเอาไว้ อยากให้คุยกันได้ด้วยดี อยากตั้งเวทีตรงไหน แต่อย่าสร้างเงื่อนไขหรือความเสี่ยง ให้เกิดการปะทะกันขึ้น เพราะมีทั้งการไม่ตั้งใจ แต่ก็มีอุบัติเหตุหรือมือที่สาม จึงต้องป้องกันไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ให้ ผบ.ตร.เป็นผู้เจรจา เนื่องจากเหตุการณ์เมื่อเดือน เม.ย.เคยเจรจากันมาก่อน ทางผู้ชุมนุมก็ยินยอม จึงเห็นว่ามีความคุ้นเคยกับแกนนำ แต่หากเกินเลย กฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมาย นอกจากนี้ แกนนำหลายท่านยังมีคดีติดตัวด้วย
**คุยกับ“ทักษิณ” เรื่องเสื้อแดง ต้องระวัง
นายอภิสิทธิ์ ยังตอบคำถามที่ว่า “ปัญหานี้สามารถพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณได้หรือไม่” ว่า คืออดีตนายกฯ มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีความต่าง ๆ ซึ่งตรงนี้เราก็ต้องระมัดระวัง เพราะถ้าหากว่าเราไม่รักษากฎหมายมันก็จะเป็นปัญหา แต่ถ้าคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมตรงไหน ก็มีสิทธิ์ที่จะร้อง เหมือนอย่างเช่นที่มีการพูดถึงเรื่องการถวายฎีกา ความจริงไม่ต้องใช้คนเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน ในระบบของเราการจะฎีกาก็สามารถทำได้ ถ้าเจ้าตัว ถ้าครอบครัว ผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องโดยตรงทำ แต่เป็นการทำในลักษณะที่ยอมรับกระบวนการในระดับหนึ่ง ไม่ใช่บอกว่าไม่พอใจกับการตัดสิน แล้วไม่ยอมรับโทษ ไม่ยอมรับผิด ถ้าอย่างนี้ต่อไปก็จะลำบาก เหมือนกับตอนนี้มีการเถียงกันเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมก็เหมือนกัน คือมองในมุมหนึ่งอาจจะบอกว่ามันดีไหม ถ้าหากว่าเหมือนกับลืม ๆ กันไป แต่อย่าลืมว่าพอทำอย่างนี้แล้ว อาจจะกลายเป็นว่าต่อไปวันข้างหน้า คนก็คิดว่าก็ทำผิดก็ได้ ผิดเสียแล้วก็ไปเรียกร้องให้เลิกแล้วกันไป ซึ่งอันนี้ก็อันตราย เพราะฉะนั้นเราต้องหาความพอดี
**ทหารไม่เสียหน้า ชี้เหมือนกางมุ้งกันยุง
พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ทหารยังคงตรึงกำลังบริเวณทำเนียบรัฐบาล และสถานที่สำคัญ รวมทั้งเส้นทางโดยรอบ แม้กลุ่มคนเสื้อแดงจะประกาศยกเลิกการชุมนุมในวันเดียวกันนี้ออกไปเป็นวันที่ 5 ก.ย. โดยทหารเพียงแต่ปรับลดกำลังเหลือเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ทั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องเสียหน้าป้องกันไว้ดีกว่าแก้ เหมือนกับการกางมุ้งเพื่อป้องกันยุง ถึงแม้ไม่ถูกยุงกัดก็ไม่เสียหายอะไร
**ทหารพร้อมหากใช้กม.ความมั่นคงต่อ
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ให้สัมภาษณ์ถึงการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ ต่อกรณีการปรับลดกำลังภายหลังจากกลุ่มเสิ้อแดงเลื่อนการชุมนุมไปวันที่ 5 ก.ย. ว่า การปรับลดกำลังเป็นการสั่งการจาก ศอ.รส.ไม่ใช่ พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 หรือ ผอ.รมน. ภาค 1 ส่วนที่บริเวณใด เหมาะสมแค่ไหนเท่าที่จำเป็นเป็นดุลยพินิจของ ผอ.รมน. ภาค1 ในแต่ลพื้นที่ แต่ละจุดที่เหมาะสม ซึ่งจะเหลือกำลังไว้เฉพาะที่จำเป็น อย่างไรก็ตามสามารถเพิ่มกำลังได้ หากมีสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
ส่วนกรณี พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ที่มีผลบังคับใช้อยู่จนถึงวันที่ 1 ก.ย. และจะประกาศบังคับใช้ต่อไปหรือไม่ อยู่ ที่นายกรัฐมนตรี จะต้องนำเรื่องผ่านความเห็นชอบจาก ครม. หากจะให้บังคับใช้ต่อไปอีก ทาง ศอ.รส. ก็สามารถปฎิบัติภารกิจ โดยใช้แผนการปฎิบัติเดิมต่อเนื่องไปได้เลย
**ชี้แผนแตกแดงถ่อยเลื่อนชุมนุม
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า การประกาศเลื่อนการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง นอกจากความเพลี่ยงพล้ำในประเด็นการตัดต่อคลิปเสียงนายกฯ แล้ว ยังมีปัญหาเรื่องการนำที่ขาดเอกภาพ ขาดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงที่ผ่านมา สะเปะสะปะ ขาดความชอบธรรม และมวลชนเริ่มหดหายมากขึ้น
"การประกาศเลื่อนชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงครั้งนี้ เท่ากับเป็นการยอมจำนนต่อหลักฐาน เพราะเดิมทีหวังใช้คลิปเสียงเป็นบิ๊กเซอร์ไพร้ส เพื่อแตกหักกลับรัฐบาล แต่แผนแตกเสียก่อน จึงเลื่อนชุมนุมออกไปเพื่อหามุกใหม่มาโจมตีรัฐบาล แต่ก็คงเป็นเรื่องยาก เพราะกลุ่มเสื้อแดง กำลังเผชิญกลับปัญหาความชอบธรรม ที่ผ่านมา มีการตั้งธงไล่รัฐบาล แต่ขณะนี้ กลุ่มเสื้อแดงกลับกำลังถูกสังคมขับไล่เสียเอง จึงตัดสินใจเลื่อนการชุมนุมไปก่อน"
**จับตาแก๊งแดงถ่อยเล่นแผนใต้ดิน
นายสุริยะใสกล่าวด้วยว่า จากนี้ไปมีความเป็นไปได้ที่ นปช.จะปรับแผนและให้ความสำคัญกับงานใต้ดิน โดยเฉพาะสงครามแบบจรยุทธ์ ที่อาจเน้นปฏิบัติการรุนแรงกับบุคคลสำคัญๆ หรือสถานที่สำคัญๆ ของประเทศ ซึ่งอาจปฏิบัติการณ์การก่อความไม่สงบในขอบข่ายชนบทแทน หรือที่เรียกว่าป่าล้อมเมือง เพราะงานเปิด หรือการเคลื่อนไหวมวลชนเพื่อหวังผลกดดันรัฐบาลนั้น ถือว่าทำได้ยากมากขึ้น เพราะแกนนำเริ่มสูญสียความชอบธรรม และต้องตกเป็นจำเลยเสียเอง โดยเฉพาะการกล่าวหารัฐบาลแบบไร้หลักฐานรองรับ หรือพูดแล้วไม่มีสัจจะ ไม่ว่าจะเป็นกรณีกล่าวหาว่า ทหารฆ่าประชาชน กรณีที่เคยระบุว่า ยื่นถวายฎีกาแล้วจะยุติการชุมนุม หรือกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าจะเลิกยุ่งการเมือง ฯลฯ
**ห่วงเสื้อแดงชุมนุมใกล้งานอาเซียน
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลื่อนชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงไปวันที่ 5 ก.ย.ว่า แสดงว่า แกนนำกลุ่มเสื้อแดงยังมีความพยายามที่จะระดมเรียกประชาชนให้มาชุมนุม ภายหลังจากที่ไม่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งสิ่งนี้ส่อเจตนาว่า ไม่ใช่การใช้สิทธิชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ แต่ส่อว่า มีเจตนาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ที่ใช้ความไม่สงบในบ้านเมืองเป็นสาเหตุผล
"เรื่องนี้ทางพรรคอยากจะเรียกร้องแกนนำส่วนอื่น ที่ออกมาสอดรับการเลื่อนการชุมนุมโดยการกล่าวอ้างถึงการเปลี่ยนแปลงแนวทางการชุมนุม โดยคำว่า ตีป่าล้อมเมือง ซึ่งเป็นวาทะกรรมของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เคยใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองในอดีต" นพ.บุรณัชย์ กล่าว
นอกจากนี้ หากมีการเลื่อนการชุมนุมออกไปโดยไม่มีกำหนด ก็มีความสุ่มเสี่ยง ที่จะให้การชุมนุมใหญ่ขยับเข้าใกล้การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ในเดือนต.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์ที่จะทำให้ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ และภาพลักษ์ของประเทศไทยในสายตาชาวโลก
ดังนั้นจึงอยากให้ทุกฝ่ายใช้โอกาสนี้ ในการที่จะเข้าร่วมกระบวนการปฏิรูปการเมือง ตามที่คณะกรรมการสมานฉันท์ ได้ส่งเรื่องเข้าสู่การประชุมของสภาฯ ผ่านประธานรัฐสภา ซึ่งคิดว่าในช่วงเดือนที่จะถึงนี้ จะได้มีการหารือร่วมกันในเรื่องดังกล่าว และหากกลุ่มเสื้อแดง มีความบริสุทธิ์ใจ และต้องการเห็นบ้านเมืองพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นจริง ก็อยากให้ใช้โอกาสนี้ เข้าร่วมการปฏิรูปการเมือง เพื่อสร้างความสมานฉันท์ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
** หวั่นแดงถ่อยใช้ 19 ก.ย.เป็นเงื่อนไขก่อเหตุ
นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า หากรัฐบาลสามารถกุมสภาพทางการเมืองได้ หลังจากกลุ่มเสื้อแดงประกาศเลื่อนการชุมนุม ตนอยากให้ยกเลิกประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในช่วงนี้ เพราะเกรงว่าจะสะท้อนว่าบ้านเมืองเราขณะนี้ยังไม่มีความปลอดภัย จึงอยากให้รัฐบาลค่อยๆคิด และแก้ปัญหาบ้านเมืองไปทีละประเด็น
อย่างไรก็ตาม แม้กลุ่มคนเสื้อแดง จะยุติการชุมนุม แต่ต้องจับตาการชุมนุมครั้งต่อไป ซึ่งขณะนี้เขาจะเริ่มระดมคนให้ได้มากที่สุด เพราะจุดมุ่งหมายเขาต้องการให้คนมาชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย. โดยจะใช้วันนั้น เป็นเงื่อนไขในการชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร
"ความจริงการปล่อยคลิปตัดต่อเสียงนายกฯ สั่งการให้ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงสงกรานต์นั้น เป็นเพราะอยากระดมคนให้มาชุมนุมตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค.เป็นต้นไป เพื่อจุดมุ่งหมายใหญ่ คือวันที่ 19 ก.ย. และจะเรียกร้องแบบเดิมๆ คงหนีไม่พ้นเรื่องให้ นายกฯ ลาออก หรือว่ายุบสภา เพราะเขาคิดว่าเมื่อยุบสภา แล้วเลือกตั้งใหม่เขาจะได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก" นายประสารกล่าว
**เจ้ามูลเมือง แหล!! ถ่ายรูปคู่กษัตริย์สวาซิแลนด์
ภายหลังกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศเลื่อนการชุมนุมใหญ่ไปเป็นวันที่ 5 กันยายน และมีท่าทีจะเลื่อนออกไปอีกจนถึงวันที่ 19 ก.ย. ซึ่งครบ 3 ปี รัฐบาลพรรคไทยรักไทยถูกยึดอำนาจจาก คมช. โดยกลุ่มคนเสื่อแดงตั้งเป้าว่า จะเดินหน้าชุมนุมใหญ่ในวันดังกล่าว หากรัฐบาลยังประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ขณะเดียวกันกระแสข่าวคลิปตัดต่อเสียงนายอภิสิทธิ์ ที่หลายฝ่ายพุ่งเป้าไปยังบริษัทน้องสาวอดีตนายกรัฐมนตรี คนใกล้ชิดจากบ้าน 111 และพรรคเพื่อไทย
ท่ามกลางกระแสข่าวพุ่งเป้าไปยังคนใกล้ชิด แต่วานนี้ (30 ส.ค.) เวลา 11.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เขียนข้อความลงบนเวปไซด์ twitter.com โดยมีใจความว่า “หลังจากที่กลับออกมาจากเหมืองเพชร ผมก็ได้เข้าเฝ้าฯ H. E. King Mswati III พระมหากษัตริย์ของสวาซิแลนด์ http://bit.ly/2g9pEg” (ลิงค์ รูปถ่าย) ซึ่งเมื่อคลิกเข้าไปดูภายในลิงค์ที่มีการโพสไว้บนเวปไซด์นั้น ปรากฎว่าเป็นภาพของพ.ต.ท.ทักษิณขณะกำลังเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์ของสวาซิแลนด์ จำนวน 2 ภาพ
**"เด็จพี่"ปล่อยข่าวยี้ห้อยใช้ “บูรพาพยัคฆ์” ป่วนเสื้อแดง
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่านายอภิสิทธิ์น่าจะไปตรวจสอบกลุ่มอำนาจใหม่ว่าเป็นใครบ้าง รวมทั้งตรวจสอบผู้มีบารมีนอกพรรคร่วมรัฐบาลที่เดินทางไปต่างประเทศในขณะนี้เพื่อหาต้นตอที่มา อย่ามองว่าเป็นฝีมือของฝ่ายตรงข้าม แต่น่าจะไปดูกลุ่มอำนาจใหม่และผู้มีบารมีนอกพรรคร่วมรัฐบาลบางท่านที่เดินทางไปต่างประเทศ ที่จะมีการใช้กลุ่มที่ชื่อ “บูรพาพยัคฆ์” แต่งชุดดำ เป็นพวกฮาร์ดคอร์มาสร้างสถานการณ์ป่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยหวังให้กระทบต่อเก้าอี้ของนายกรัฐมนตรี
จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 29 ส.ค.ถึง1ก.ย. 52 เพื่อควบคุมสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 30ส.ค. แต่เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงหลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศเลื่อนการชุมนุมไปวันที่ 5 ก.ย.นั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่บ้านพักซอยสุขุมวิท 31 ถึงการจะยกเลิกการบังคับใช้พ.ร.บ. ความมั่นคงในช่วงนี้หรือไม่ว่า จะต้องหารือกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) อีกครั้ง หลังจากที่นายสุเทพ ประชุม ศอ.รส.ว่าจะคงการบังคับใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯไว้จนถึงวันที่ 1 ก.ย. หรือจะยกเลิกก่อน ซึ่งถ้าที่ประชุม ศอ.รส.ในวันนี้(31 ส.ค.)เห็นว่ามีเหตุผลที่จะยกเลิกก่อน ก็ทำได้ แต่เท่าที่ดำเนินการไปจะเห็นว่าเราไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร แต่เป็นการให้ความมั่นใจว่า ถ้ามีการชุมนุมเกิดขึ้น การชุมนุมนั้นจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คนที่จะเข้าไปทำงานในทำเนียบรัฐบาล สามารถเข้าไปได้
ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะชุมนุมในวันที่ 5 ก.ย.นี้ ยังจำเป็นที่ต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯอีกหรือไม่นั้น จะมีการตัดสินใจกันในที่ประชุมครม. ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ แต่ผู้ชุมนุมต้องตอบคำถามว่ามีปัญหาอะไรกับการที่รัฐบาลต้องการให้ชุมนุมโดยสงบ ซึ่งผู้ชุมนุมควรให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการทำให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดย พ.ร.บ.ความมั่นคงฯไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใคร แต่เป็นเพียงการจัดวางกำลังเพื่อดูแลให้การใช้สถานที่สำคัญเป็นไปได้ปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะมาชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.นี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีปัญหากับการเคลื่อนการชุมนุม แต่อย่าทำผิดกฎหมาย ถ้าร่วมมือกันได้ ไม่ต้องประกาศกฎหมาย ตนไม่มีปัญหาอะไร แต่อยากให้แสดงออกสักนิดว่า ต้องการชุมนุมภายใต้กฎหมาย
เมื่อถามต่อว่า วันดังกล่าวเป็นวันเชิงสัญลักษณ์ คิดว่าจะเกิดการแตกหักหรือเป็นชนวนให้เกิดความรุนแรงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราจะไม่ให้เป็นอย่างนั้น และเรามีหน้าที่ดูแลให้เกิดความเรียบร้อย แต่ถ้าเขาอยากแสดงจุดยืนวันไหน อย่างไร ก็ทำได้
**เปรยในรายการ 31 ส.ค.ก็รู้
ก่อนหน้านั้นนายอภิสิทธิ์ กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ในช่วงสุดท้าย ว่า พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ไม่เหมือนกับพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ ทั้งนี้ ขอรอดูสถานการณ์อีกระยะ เพราะการออกกฎหมายฉบับนี้ ไม่กระทบสิทธิ์ของประชาชน แต่เป็นการบูรณาการให้เจ้าหน้าที่แต่ละฝ่ายมาทำงานร่วมกัน เมื่อหมดเงื่อนไขหรือเหตุการณ์ ก็สามารถยกเลิกได้ ซึ่งเรื่องนี้จะมีความชัดเจนในวันนี้ (31 ส.ค.)ทั้งนี้ได้ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไปคุยกับผู้ชุมนุม ถ้าชุมนุมอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ก็ไม่ขัดข้อง แต่ไม่อยากเห็นเหมือนเดือนเม.ย.
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้จัดกิจกรรมมาหลายครั้ง แต่เรื่องปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ศาลก็เคยมีคำสั่งเอาไว้ อยากให้คุยกันได้ด้วยดี อยากตั้งเวทีตรงไหน แต่อย่าสร้างเงื่อนไขหรือความเสี่ยง ให้เกิดการปะทะกันขึ้น เพราะมีทั้งการไม่ตั้งใจ แต่ก็มีอุบัติเหตุหรือมือที่สาม จึงต้องป้องกันไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ให้ ผบ.ตร.เป็นผู้เจรจา เนื่องจากเหตุการณ์เมื่อเดือน เม.ย.เคยเจรจากันมาก่อน ทางผู้ชุมนุมก็ยินยอม จึงเห็นว่ามีความคุ้นเคยกับแกนนำ แต่หากเกินเลย กฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมาย นอกจากนี้ แกนนำหลายท่านยังมีคดีติดตัวด้วย
**คุยกับ“ทักษิณ” เรื่องเสื้อแดง ต้องระวัง
นายอภิสิทธิ์ ยังตอบคำถามที่ว่า “ปัญหานี้สามารถพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณได้หรือไม่” ว่า คืออดีตนายกฯ มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีความต่าง ๆ ซึ่งตรงนี้เราก็ต้องระมัดระวัง เพราะถ้าหากว่าเราไม่รักษากฎหมายมันก็จะเป็นปัญหา แต่ถ้าคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมตรงไหน ก็มีสิทธิ์ที่จะร้อง เหมือนอย่างเช่นที่มีการพูดถึงเรื่องการถวายฎีกา ความจริงไม่ต้องใช้คนเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน ในระบบของเราการจะฎีกาก็สามารถทำได้ ถ้าเจ้าตัว ถ้าครอบครัว ผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องโดยตรงทำ แต่เป็นการทำในลักษณะที่ยอมรับกระบวนการในระดับหนึ่ง ไม่ใช่บอกว่าไม่พอใจกับการตัดสิน แล้วไม่ยอมรับโทษ ไม่ยอมรับผิด ถ้าอย่างนี้ต่อไปก็จะลำบาก เหมือนกับตอนนี้มีการเถียงกันเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมก็เหมือนกัน คือมองในมุมหนึ่งอาจจะบอกว่ามันดีไหม ถ้าหากว่าเหมือนกับลืม ๆ กันไป แต่อย่าลืมว่าพอทำอย่างนี้แล้ว อาจจะกลายเป็นว่าต่อไปวันข้างหน้า คนก็คิดว่าก็ทำผิดก็ได้ ผิดเสียแล้วก็ไปเรียกร้องให้เลิกแล้วกันไป ซึ่งอันนี้ก็อันตราย เพราะฉะนั้นเราต้องหาความพอดี
**ทหารไม่เสียหน้า ชี้เหมือนกางมุ้งกันยุง
พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ทหารยังคงตรึงกำลังบริเวณทำเนียบรัฐบาล และสถานที่สำคัญ รวมทั้งเส้นทางโดยรอบ แม้กลุ่มคนเสื้อแดงจะประกาศยกเลิกการชุมนุมในวันเดียวกันนี้ออกไปเป็นวันที่ 5 ก.ย. โดยทหารเพียงแต่ปรับลดกำลังเหลือเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ทั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องเสียหน้าป้องกันไว้ดีกว่าแก้ เหมือนกับการกางมุ้งเพื่อป้องกันยุง ถึงแม้ไม่ถูกยุงกัดก็ไม่เสียหายอะไร
**ทหารพร้อมหากใช้กม.ความมั่นคงต่อ
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ให้สัมภาษณ์ถึงการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ ต่อกรณีการปรับลดกำลังภายหลังจากกลุ่มเสิ้อแดงเลื่อนการชุมนุมไปวันที่ 5 ก.ย. ว่า การปรับลดกำลังเป็นการสั่งการจาก ศอ.รส.ไม่ใช่ พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 หรือ ผอ.รมน. ภาค 1 ส่วนที่บริเวณใด เหมาะสมแค่ไหนเท่าที่จำเป็นเป็นดุลยพินิจของ ผอ.รมน. ภาค1 ในแต่ลพื้นที่ แต่ละจุดที่เหมาะสม ซึ่งจะเหลือกำลังไว้เฉพาะที่จำเป็น อย่างไรก็ตามสามารถเพิ่มกำลังได้ หากมีสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
ส่วนกรณี พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ที่มีผลบังคับใช้อยู่จนถึงวันที่ 1 ก.ย. และจะประกาศบังคับใช้ต่อไปหรือไม่ อยู่ ที่นายกรัฐมนตรี จะต้องนำเรื่องผ่านความเห็นชอบจาก ครม. หากจะให้บังคับใช้ต่อไปอีก ทาง ศอ.รส. ก็สามารถปฎิบัติภารกิจ โดยใช้แผนการปฎิบัติเดิมต่อเนื่องไปได้เลย
**ชี้แผนแตกแดงถ่อยเลื่อนชุมนุม
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า การประกาศเลื่อนการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง นอกจากความเพลี่ยงพล้ำในประเด็นการตัดต่อคลิปเสียงนายกฯ แล้ว ยังมีปัญหาเรื่องการนำที่ขาดเอกภาพ ขาดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงที่ผ่านมา สะเปะสะปะ ขาดความชอบธรรม และมวลชนเริ่มหดหายมากขึ้น
"การประกาศเลื่อนชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงครั้งนี้ เท่ากับเป็นการยอมจำนนต่อหลักฐาน เพราะเดิมทีหวังใช้คลิปเสียงเป็นบิ๊กเซอร์ไพร้ส เพื่อแตกหักกลับรัฐบาล แต่แผนแตกเสียก่อน จึงเลื่อนชุมนุมออกไปเพื่อหามุกใหม่มาโจมตีรัฐบาล แต่ก็คงเป็นเรื่องยาก เพราะกลุ่มเสื้อแดง กำลังเผชิญกลับปัญหาความชอบธรรม ที่ผ่านมา มีการตั้งธงไล่รัฐบาล แต่ขณะนี้ กลุ่มเสื้อแดงกลับกำลังถูกสังคมขับไล่เสียเอง จึงตัดสินใจเลื่อนการชุมนุมไปก่อน"
**จับตาแก๊งแดงถ่อยเล่นแผนใต้ดิน
นายสุริยะใสกล่าวด้วยว่า จากนี้ไปมีความเป็นไปได้ที่ นปช.จะปรับแผนและให้ความสำคัญกับงานใต้ดิน โดยเฉพาะสงครามแบบจรยุทธ์ ที่อาจเน้นปฏิบัติการรุนแรงกับบุคคลสำคัญๆ หรือสถานที่สำคัญๆ ของประเทศ ซึ่งอาจปฏิบัติการณ์การก่อความไม่สงบในขอบข่ายชนบทแทน หรือที่เรียกว่าป่าล้อมเมือง เพราะงานเปิด หรือการเคลื่อนไหวมวลชนเพื่อหวังผลกดดันรัฐบาลนั้น ถือว่าทำได้ยากมากขึ้น เพราะแกนนำเริ่มสูญสียความชอบธรรม และต้องตกเป็นจำเลยเสียเอง โดยเฉพาะการกล่าวหารัฐบาลแบบไร้หลักฐานรองรับ หรือพูดแล้วไม่มีสัจจะ ไม่ว่าจะเป็นกรณีกล่าวหาว่า ทหารฆ่าประชาชน กรณีที่เคยระบุว่า ยื่นถวายฎีกาแล้วจะยุติการชุมนุม หรือกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าจะเลิกยุ่งการเมือง ฯลฯ
**ห่วงเสื้อแดงชุมนุมใกล้งานอาเซียน
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลื่อนชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงไปวันที่ 5 ก.ย.ว่า แสดงว่า แกนนำกลุ่มเสื้อแดงยังมีความพยายามที่จะระดมเรียกประชาชนให้มาชุมนุม ภายหลังจากที่ไม่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งสิ่งนี้ส่อเจตนาว่า ไม่ใช่การใช้สิทธิชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ แต่ส่อว่า มีเจตนาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ที่ใช้ความไม่สงบในบ้านเมืองเป็นสาเหตุผล
"เรื่องนี้ทางพรรคอยากจะเรียกร้องแกนนำส่วนอื่น ที่ออกมาสอดรับการเลื่อนการชุมนุมโดยการกล่าวอ้างถึงการเปลี่ยนแปลงแนวทางการชุมนุม โดยคำว่า ตีป่าล้อมเมือง ซึ่งเป็นวาทะกรรมของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เคยใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองในอดีต" นพ.บุรณัชย์ กล่าว
นอกจากนี้ หากมีการเลื่อนการชุมนุมออกไปโดยไม่มีกำหนด ก็มีความสุ่มเสี่ยง ที่จะให้การชุมนุมใหญ่ขยับเข้าใกล้การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ในเดือนต.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์ที่จะทำให้ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ และภาพลักษ์ของประเทศไทยในสายตาชาวโลก
ดังนั้นจึงอยากให้ทุกฝ่ายใช้โอกาสนี้ ในการที่จะเข้าร่วมกระบวนการปฏิรูปการเมือง ตามที่คณะกรรมการสมานฉันท์ ได้ส่งเรื่องเข้าสู่การประชุมของสภาฯ ผ่านประธานรัฐสภา ซึ่งคิดว่าในช่วงเดือนที่จะถึงนี้ จะได้มีการหารือร่วมกันในเรื่องดังกล่าว และหากกลุ่มเสื้อแดง มีความบริสุทธิ์ใจ และต้องการเห็นบ้านเมืองพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นจริง ก็อยากให้ใช้โอกาสนี้ เข้าร่วมการปฏิรูปการเมือง เพื่อสร้างความสมานฉันท์ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
** หวั่นแดงถ่อยใช้ 19 ก.ย.เป็นเงื่อนไขก่อเหตุ
นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า หากรัฐบาลสามารถกุมสภาพทางการเมืองได้ หลังจากกลุ่มเสื้อแดงประกาศเลื่อนการชุมนุม ตนอยากให้ยกเลิกประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในช่วงนี้ เพราะเกรงว่าจะสะท้อนว่าบ้านเมืองเราขณะนี้ยังไม่มีความปลอดภัย จึงอยากให้รัฐบาลค่อยๆคิด และแก้ปัญหาบ้านเมืองไปทีละประเด็น
อย่างไรก็ตาม แม้กลุ่มคนเสื้อแดง จะยุติการชุมนุม แต่ต้องจับตาการชุมนุมครั้งต่อไป ซึ่งขณะนี้เขาจะเริ่มระดมคนให้ได้มากที่สุด เพราะจุดมุ่งหมายเขาต้องการให้คนมาชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย. โดยจะใช้วันนั้น เป็นเงื่อนไขในการชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร
"ความจริงการปล่อยคลิปตัดต่อเสียงนายกฯ สั่งการให้ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงสงกรานต์นั้น เป็นเพราะอยากระดมคนให้มาชุมนุมตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค.เป็นต้นไป เพื่อจุดมุ่งหมายใหญ่ คือวันที่ 19 ก.ย. และจะเรียกร้องแบบเดิมๆ คงหนีไม่พ้นเรื่องให้ นายกฯ ลาออก หรือว่ายุบสภา เพราะเขาคิดว่าเมื่อยุบสภา แล้วเลือกตั้งใหม่เขาจะได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก" นายประสารกล่าว
**เจ้ามูลเมือง แหล!! ถ่ายรูปคู่กษัตริย์สวาซิแลนด์
ภายหลังกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศเลื่อนการชุมนุมใหญ่ไปเป็นวันที่ 5 กันยายน และมีท่าทีจะเลื่อนออกไปอีกจนถึงวันที่ 19 ก.ย. ซึ่งครบ 3 ปี รัฐบาลพรรคไทยรักไทยถูกยึดอำนาจจาก คมช. โดยกลุ่มคนเสื่อแดงตั้งเป้าว่า จะเดินหน้าชุมนุมใหญ่ในวันดังกล่าว หากรัฐบาลยังประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ขณะเดียวกันกระแสข่าวคลิปตัดต่อเสียงนายอภิสิทธิ์ ที่หลายฝ่ายพุ่งเป้าไปยังบริษัทน้องสาวอดีตนายกรัฐมนตรี คนใกล้ชิดจากบ้าน 111 และพรรคเพื่อไทย
ท่ามกลางกระแสข่าวพุ่งเป้าไปยังคนใกล้ชิด แต่วานนี้ (30 ส.ค.) เวลา 11.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เขียนข้อความลงบนเวปไซด์ twitter.com โดยมีใจความว่า “หลังจากที่กลับออกมาจากเหมืองเพชร ผมก็ได้เข้าเฝ้าฯ H. E. King Mswati III พระมหากษัตริย์ของสวาซิแลนด์ http://bit.ly/2g9pEg” (ลิงค์ รูปถ่าย) ซึ่งเมื่อคลิกเข้าไปดูภายในลิงค์ที่มีการโพสไว้บนเวปไซด์นั้น ปรากฎว่าเป็นภาพของพ.ต.ท.ทักษิณขณะกำลังเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์ของสวาซิแลนด์ จำนวน 2 ภาพ
**"เด็จพี่"ปล่อยข่าวยี้ห้อยใช้ “บูรพาพยัคฆ์” ป่วนเสื้อแดง
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่านายอภิสิทธิ์น่าจะไปตรวจสอบกลุ่มอำนาจใหม่ว่าเป็นใครบ้าง รวมทั้งตรวจสอบผู้มีบารมีนอกพรรคร่วมรัฐบาลที่เดินทางไปต่างประเทศในขณะนี้เพื่อหาต้นตอที่มา อย่ามองว่าเป็นฝีมือของฝ่ายตรงข้าม แต่น่าจะไปดูกลุ่มอำนาจใหม่และผู้มีบารมีนอกพรรคร่วมรัฐบาลบางท่านที่เดินทางไปต่างประเทศ ที่จะมีการใช้กลุ่มที่ชื่อ “บูรพาพยัคฆ์” แต่งชุดดำ เป็นพวกฮาร์ดคอร์มาสร้างสถานการณ์ป่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยหวังให้กระทบต่อเก้าอี้ของนายกรัฐมนตรี