“สาทิตย์” บอกพอใจ อสมท เคลียร์ปัญหาปล่อย “แม้ว” จ้อ ปัดแทรกแซงสื่อ

“รัฐมนตรีคุมสื่อ” ระบุพอใจอสมท.เคลียร์ปัญหาปล่อย “แม้ว” พล่าม หลังเหยียบหน้ารัฐสัมภาษณ์ ยกจิตสำนึก อ้างสถานะ “ทักษิณ”เป็นนักโทษหลบหนีอาญาแผ่นดินไม่เหมาะสมจะสัมภาษณ์ ฟาดหางยุครัฐบาล “แม้ว” มีพฤติกรรมแทรกแซงสื่อมากสุด เชื่อต่อยอดสุ่มไฟต่อชุมนุม 19 กันยาฯ


คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ให้สัมภาษณ์

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายจอม เพชรประดับ ขอรับผิดชอบด้วยการไม่จัดรายการทางวิทยุของอสมท.จากกรณีการสัมภาษณ์พล.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านสื่อของรัฐว่า ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวใน อสมท.เป็นผู้จัดการเอง เท่าที่ อสมท.ดำเนินการก็ถือว่าน่าพอใจ เพราะอสมท.ก็เป็นองค์กรวิชาชีพสื่อที่เป็นมืออาชีพ และมีความเป็นอิสระ ยืนยันรัฐบาลไม่ได้เข้าไปแทรกแซงอย่างไร แต่อสมท.ในฐานะที่ใช้คลื่นความถี่ที่เป็นสาธารณะก็ต้องมีสำนึกความรับผิดชอบ ต่อสาธารณะ ดังนั้นการที่คุณจอมลาออกก็ถือเป็นข้อตกลงภายใน อสมท. อย่างไรก็ตามทาง อสมท.ก็ยืนยันว่า จะมีมาตรการป้องกัน ไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์ใครก็ตามที่เป็นการให้ร้ายต่อกระบวนการยุติธรรม ให้ร้ายสถาบัน ให้ร้ายองคมนตรี หรือเป็นการให้ร้ายประเทศไทย ผ่านทางรายการ อสมท.ที่เป็นคลื่นความถี่ของรัฐ ตนก็เห็นด้วย

“รัฐบาล ยืนยันว่า ให้เสรีภาพในการทำหน้าที่ของสื่อ ถ้าจะสัมภาษณ์การทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน หรือแม้แต่คนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล อย่างร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย หรือนายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยก็ได้ แต่กรณีของพ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากมีสถานะที่แตกต่างจากนักการเมืองปกติที่อยู่ในประเทศไทย เป็นนักโทษที่หลบหนีอาญาแผ่นดิน และมีหมายติดตามตัวอยู่ และคำที่ใช้ก็ให้ร้ายกระบวนการยุติธรรม ให้ร้ายประเทศไทยตลอด ดังนั้นจะให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกไม่ได้ และถ้ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่อื่นอีก แต่ละส่วนที่รับผิดชอบก็ต้องไปดำเนินการ” นายสาทิตย์ กล่าว

เมื่อ ถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณโพสข้อความในทวิสเตอร์ว่า การกระทำเช่นนี้ของรัฐบาลเป็นการแทรกแซงสื่อ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ความจริงในยุคพ.ต.ท.ทักษิณ มีการแทรกแซงสิทธิเสรีภาพของสื่อสูงสุด นับแต่เคยมีมา นับแต่เคยมีมาในยุคเผด็จการของไทย

“ในทำเนียบเองเท่าที่ผมจำได้ก็เคยมีการสวมเสื้อต่อต้านการคุกคามสิทธิเสรีภาพของสื่อ แต่ในยุคนี้รัฐบาลทำงานมา 8 เดือนไม่มีการย้ายผู้สื่อข่าวปากกล้า ที่ถามนายกฯคนใดออกจากทำเนียบแม้แต่คนเดียว รัฐบาลให้สิทธิเสรีภาพอย่างเต็มที่ ซึ่งการถามนายกฯ หลายครั้งก็มีคำถามแรงๆ แต่เราก็ถือเป็นเรื่องปกติที่สามารถสอบถามได้ รัฐบาลไม่มีความพยายามแม้แต่จะเข้าไปซื้อสื่อเหมือนกับยุคคุณทักษิณ หรือพฤติกรรมที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ซึ่งในส่วนของสื่อก็พบว่ามีการโยงใยกับพ.ต.ท.ทักษิณจริง แต่ตราบใดยังไม่ผิดกฎหมายก็ไม่เป็นไร ที่สุดแล้วเรื่องของสื่อรัฐธรรมนูญรับรองอยู่แล้ว แต่ทั้งหมดอยู่ที่สำนึกความรับผิดชอบ” นายสาทิตย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายจอมยุติการดำเนินรายการถือว่าเป็นที่น่าพอใจแล้วใช่ไหม นายสาทิตย์ กล่าวว่า รัฐบาลถือเป็นเรื่องที่คุณจอมจะต้องรับผิดชอบการดำเนินรายการของตนเองอยู่ แล้ว ตนเข้าใจดีว่านายจอมต้องการสัมภาษณ์คนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล แต่ไม่ตรงกับความเห็นของตน และการจะยืนยันว่า สื่อมีเสรีภาพก็ถูกต้อง แต่ความรับผิดชอบต่อประเทศเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า เมื่อถามต่อว่า จากตรงนี้จะเป็นตัวอย่างให้กับสื่ออื่นๆ ด้วยหรือไม่ว่าห้ามสัมภาษณ์พ.ต.ท.ทักษิณ รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ถ้าเป็นการให้สัมภาษณ์ที่ให้ร้ายต่อประเทศก็คงทำไม่ได้

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่เรื่องนี้จะกลายเป็นชนวนเหตุให้กลุ่มเสื้อแดงนำไปกล่าวอ้างได้ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนคิดว่าความพยายามที่นำคุณทักษิณมาออกรายการ อสมท.ได้ ก็เป็นความพยายามที่จะรองรับการชุมนุมวันที่ 19 ก.ย.อยู่แล้ว เพราะเสื้อแดงได้ประกาศอยู่แล้วว่า วันที่ 19 ก.ย.จะต้องพิชิตให้ได้ ฉะนั้นเป็นธรรมดาที่เขาจะหยิบยกมาเป็นเงื่อนไขอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าเงื่อนไขตรงนี้จะไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม เพราะสังคมไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายเหมือนช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ดังนั้นการดำเนินการของ อสมท.ครั้งนี้จึงเหมือนกับเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้บริหาร อสมท.ต้องมีความรับผิดชอบอะไรอีกหรือเปล่า นายสาทิตย์ กล่าวว่า ทางผู้บริหารเห็นว่า การลาออกของนายจอมก็เท่ากับเป็นการรับผิดชอบอยู่แล้ว ส่วนผู้ที่อยู่สูงกว่านั้นก็เป็นเรื่องที่ อสมท.จะไปพูดกันเอง ส่วนรายการเกี่ยวกับปัญหาภาคใต้ทางช่อง 11 ที่ ทางนายจอมจัด ก็ไม่มีผลกระทบอะไร เพราะไม่เกี่ยวกัน เมื่อถามต่อว่า จากนี้ไปแสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณห้ามออกอากาศสื่อของรัฐเลยใช่ไหม นายสาทิตย์ กล่าวว่า ต้องดูที่เนื้อหา โดยเฉพาะการสัมภาษณ์สด การที่จะควบคุมไม่ให้กระทบต่อสถาบันอื่นๆ เป็นเรื่องทำได้ยาก ซึ่งตนก็ได้ขอให้แต่ละฝ่ายไปควบคุมดูแลกันเอง ที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีแบล็คลิสต์ห้ามสัมภาษณ์ใครขึ้นอยู่กับเนื้อหามากกว่า บังเอิญคุณทักษิณอยู่ในสถานะที่แตกต่าง อย่าลืมว่า หมายจับพ.ต.ท.ทักษิณหลังสงกรานต์ เกิดเพราะคุณทักษิณมีส่วนอย่างสำคัญในการโฟนอินและวีดิโอลิงค์เข้ามาและทำ ให้สถานการณ์มันปั่นป่วนและรุนแรงขึ้น จึงเป็นที่มาของเหตุการณ์ ดังนั้นการสัมภาษณ์สดพ.ต.ท.ทักษิณเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังใช้วิจารณญาณ กันเอาเอง