ASTVผู้จัดการ-“สาทิตย์” กรี๊ด! ผ่าน “ทวิตเตอร์” ชี้งานเข้า อสมท.แน่ สั่งสอบข้อเท็จจริง เหตุ นช.แม้ว โฟนอินจ้อถึง “อดีตคนข่าวไอทีวี” ผ่านรายการเอ๊กคลูซีฟวิทยุ คลื่น 100.5 เมกกะเฮิร์ต “จอม เพชรประดับ” อ้างทำหน้าที่สื่อ ไม่ได้เข้าข้างใคร แหล!ไม่กลัวถูกปลด อ้างชีวิตถูกย้ายมาหลายที่แล้ว “มุขใหม่แม้ว” พร้อมเจรจาทุกคนสร้างสมานฉันท์ เย้ย"มาร์ค"แก้ปัญหาไม่ได้เพราะไม่มีอิสระ อ้างถ้าก่อนหน้าบอกดีๆให้หยุดเพราะชนะมากไปก็จะวางมือ ด้าน“ปธ.วิป” ไม่เชื่อขี้ปาก อยากวางมือ
หลังจากประกาศชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 ก.ย.แทน แดงตัวพ่ออย่าง นช.ทักษิณ ชินวัตร กลับเร่งสร้างภาพสร้างกระแสให้ตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงขั้นจะทำธุรกิจสร้างเฮลิคอปเตอร์ ข่าวของนช.ทักษิณส่วนใหญ่ที่ผ่านมามักจะมีการนำเสนอผ่านสื่อของคนเสื้อแดง เช่นรายการวิทยุชุมชนของขวัญชัย ไพรพณา ที่จ.อุดรธานี หรือผ่านเวปไซด์ทวิตเตอร์แบบรายวัน
แต่เมื่อเวลา 10.30 น. วานนี้ (6 ก.ย.) นช.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมีโอกาสที่ให้สัมภาษณ์แบบสดๆ กับนายจอม เพชรประดับ อดีตคนข่าวไอทีวีสมัยรัฐบาลไทยรักไทย ผ่านสถานีวิทยุ อสมท. คลื่น 100.5 เมกกะเฮิร์ต ในรายการเอ๊กคลูซีฟ เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของเขา เหมือนกับคำถามจะออกมาแรงแต่กลับเป็นคำถามเสมือนว่า เป็นการฟอกความผิดหรือฟอกข่าวลือให้กับตัว นช.ทักษิณ
อาทิเช่น นายจอม ถามว่า ในการนำเงินจากมาดำเนินกิจการเหมืองเพชร หรือมีการฟอกเงินไว้ในรัฐบาลที่แล้วเป็นอย่างไร นช.ทักษิณ ตอบว่า หลังจากที่เขาได้ออกจากประเทศไทย ก่อนปฏิวัติ มีคนลือว่า เขาขนเงินออกมา 30 กระเป๋าเดินทาง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มีใครทำได้ ขอให้อย่าหลงประเด็น อย่าหลงเชื่อกลุ่มคน ที่ปล่อยข่าว หากจำได้ ก่อนหน้านี้ตนเคยซื้อทีมฟุตบอล แล้วก็ขายทีมฟุตบอล แล้วนำผลกำไรมาลงทุนเหมืองเพชร
นายจอม ยังถามว่า ที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกอายัดเงินที่ประเทศอังกฤษนั้น นช.ทักษิณ ระบุว่า ตนไม่มีเงินฝากที่ประเทศอังกฤษ ทั้งหมดเป็นการปล่อยข่าวทำร้ายกัน เมื่อขายทีมฟุตบอลได้เงินมาจำนวนหนึ่งก็เพียงพอจะลงทุนในเหมือง เพราะราคาเองก็ไม่ได้สูงมากมายอะไร
แหล! ไม่มีเครื่องบินส่วนตัว
นายจอม ถามต่อว่า การที่ท่านเดินทางเข้าประเทศต่างๆ นั้น ผู้นำต่างประเทศรู้สึกกระอักกระอ่วนใจบ้างหรือไม่เกี่ยวกับสถานะท่าน นช.ผู้นี้บอกว่า เขาไม่กระอักกระอ่วนตัวผม แต่เขากระอักกระอ่วนรัฐบาลไทยมากกว่า เขามีอธิปไตยในดินแดนของเขาจะให้ใครอยู่หรือจะให้ใครไปมันเป็นสิทธิ์ของเขา แต่รัฐบาลไทย ทำจดหมายถึงทุกประเทศ ต่างประเทศเขาบอกเขารำคาญ และก็ยังบอกอีกว่า เขารำคาญรัฐบาลไทยยังไม่ต้องมาประเทศเขาก็ดี
นายจอมยังถามย้ำว่า มีประเทศใดที่เขาบอกว่าท่านไม่ทำตามคำสั่งศาลหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่มี เขาเห็นคำพิพากษากรณีที่ดินรัชดาเขาก็ขำแล้ว มีอย่างที่ไหน คนซื้อไม่ผิดคนขายไม่ผิด แต่มันตลกตรงที่นายกรัฐมนตรีเอาบัตรประชาชนไปรับรอง ให้เมียซื้อที่ดินเขาบอกผิด แต่ที่บุกรุกที่ดินป่าสงวนไม่เป็นไร การเมืองไทยตอนนี้ มุ่งแต่ทำลายฝ่ายตรงข้าม
นายจอม ยังซักว่ามีข่าวว่าท่านมีเครื่องบินส่วนตัว มีบอร์ดี้การ์ดชั้นดี นช.ทักษิณ กล่าวว่า ตนไม่มีเครื่องบิน บอร์ดี้การ์ดก็ไม่มี ตนไม่กลัว เกิดมาหนเดียวตายหนเดียว เรื่องอย่างนี้โดนมาไม่รู้กี่รอบแล้ว ไม่เป็นไร
แม้วจ้อเอิ๊กอ๊าก! อยากคุยกับ “มาร์ค”
จากนั้นหลังจากที่นายจอม สอบถามเรื่องข่าวลือต่างๆรวมถึงเรื่องส่วนตัวไปแล้วเขาไปหันมาถามเรื่องการเมืองในประเทศไทยโดยเฉพาะ โดยเริ่มคำถามเรื่องของการทำสมานฉันท์ ซึ่งนายจอม ถามว่า จะหันมาร่วมมือกันเพื่อสร้างความสมานฉันท์ปรองดองได้หรือไม่นั้น ซึ่งนช.ทักษิณ กล่าวว่า ผมพร้อมเจรจากับทุกคน คิดดูขนาดคนอย่างคุณจอมยังติดต่อผมได้ แล้วคนที่มีอำนาจในประเทศจะติดต่อผมไม่ได้หรือ ขนาดคนขับแท็กซี่ ตำรวจชั้นผู้น้อยยังมีเบอร์ผม โทรมาผมผมก็คุยผมคุยกับทุกคน แต่คนเดียว ที่ไม่มีเบอร์ผมก็คือ คนในทำเนียบรัฐบาล ยืนยันผมคุยกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรี แม้ว่าจะหน้าดำผมก็คุย
ถึงตรงนี้ นายจอม ยิงคำถามไปว่า หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โทรฯมาหาท่านขอ ความร่วมมือให้ท่านหยุดเคลื่อนไหว แล้วทุกอย่างจบ ตรงนี้นช.ทักษิณ ได้หัวเราะและกล่าวว่า จะร่วมมือกันอย่างไรบอกมา ตนยินดี จะให้ทำอะไร และรัฐบาลต้องบอกว่าจะทำอย่างไรด้วย เพื่อให้เกิดความปรองดองทุกฝ่าย ไม่ใช่ปรองดองเพียงฝ่ายเดียว ต้องหาจุดร่วม ที่เหมาะสมด้วย
นายจอม ถามอีกว่า หากนายกฯบอกว่าท่านต้องกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อน นช.ทักษิณ กล่าวว่า ต้องถามว่ากระบวนการตอนนี้มันยุติธรรมจริงหรือไม่ และจะกำหนดความยุติธรรมอย่างไร ตนเชื่อว่า ศาลส่วนใหญ่ยุติธรรม แต่ก็มีบางส่วนเท่านั้นที่ถูกแทรกแซง และนายอภิสิทธิ์ก็เข้าไปแก้ไขตรงนี้ไม่ได้ เพราะไม่ใช่รัฐบาลที่มีอิสระอย่างแท้จริง แต่มีคนที่มีอิสระเหนือรัฐบาลเข้าไปแทรกแซง ที่จริงเรื่องที่ถ้าบ้านเมือง มีความสมดุล มีการถ่วงดุลที่ดีบ้านเมืองจะเดินไปได้ แต่ที่มันเป็นอย่างนี้ก็เพราะเพียงต้องการจะล้มตนเท่านั้น
“ที่จริงเมื่อครั้งนั้นถ้าพูดกับผมดีๆ บอกให้หยุด ให้เลิกเพราะชนะมากไปแล้ว ก็หยุดก็จะวางมือ ไม่ใช่ว่าผมอยากจะอยู่ เพียงแต่ว่าต้องการทำภาระกิจที่ค้างอยู่ ให้เสร็จสิ้น ตอนนี้ผมอยู่เมืองนอกก็มีความสุขดี ไม่มีความเครียดอะไร มีคนหาว่าผมไปทำคีโม แต่หน้าผมตอนนี้ใสมาก”อดีตนายกฯที่กลายมาเป็นนักโทษชายกล่าวในที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างการให้สัมภาษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรีมีน้ำเสียงตอบคำถามอย่างสบายใจ บางช่วงงหัวเราะยินดีกับคำถามของนายจอมไปด้วย
”น้องเดียว” กรี๊ด!! อสมท.งานเข้า
ขณะที่เวลา 15.00 น. วันเดียวกัน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความลงเวปไซด์ เฟสบุ๊ก และเวปไซด์ ทวิสเตอร์ หลังมีการสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผ่านวิทยุของ อสมท.เช้านี้ว่า "เช้านี้งานเข้าที่ อสมท.ครับ คาดว่าเป็นข่าวแน่ พรุ่งนี้จะมีคำชี้แจง ตอนนี้กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง”
ขณะที่ทางด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ผ่านเวปไซด์โทวิสเตอร์ลเช่นกันหลังจากออกรายการดังกล่าว ว่า “วันนี้เช้าได้ให้สัมภาษณ์สดทางวิทยุของคุณจอม เพชรประดับ คำถามแรงดีมาก แต่ก็สบายใจที่มีโอกาสได้อธิบายเรื่องที่ถูกปล่อยข่าวผิดๆ ด้านเดียวมาตลอด”
ทั้งนี้ เกิดภายหลัง เวลา 10.30 น. ที่นายจอม เพชรประดับ ผู้ดำเนินรายการรายการเอ๊กคลูซีฟ ได้สอบถามถึงการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกอากาศทางวิทยุอสมท. คลื่น 100.5 เมกกะเฮิร์ต ขณะเดียวกัน ยังเกิดขึ้นในช่วงที่นายธนวัฒน์ วันสม มาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT เพียง 1 วันทำการเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีของนายจอม ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกก่อนหน้า อดีตผู้ดำเนินรายงาน 'ตัวจริง/ชัดเจน' ผู้นี้ทางสถานีโทรทัศน์ ทีไอทีวีขณะนั้น ได้เดินทางไปสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.50 ในสมัยรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ซึ่งเดิมทีจะออกอากาศในรายงาน ตัวจริง ชัดเจน ในคืนวันที่ 2 ม.ค.51 แต่เนื่องจากอยู่ในช่วงงานสำคัญทางกรมประชาสัมพันธ์ อ้างว่า ได้ขอให้งดออกอากาศ
อย่างไรก็ตาม ทางสถานีเตรียมที่จะออกอากาศในวันที่ 16 ม.ค.51 แต่เนื่องจากกรมประชาสัมพันธ์ได้สั่งยุติการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ ทีไอทีวี เพื่อเปลี่ยนเป็นสถานี ไทยพีบีเอส เทปนี้จึงไม่สามารถออกอากาศได้
“เอ็มดี อสมท.” เรียก ผช.ผอ.สายวิทยุพบ
ช่วงบ่ายนายสมจิต ชินสมบูรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักวิทยุและกิจกรรมพิเศษ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) ได้เดินทางเข้าชี้แจงต่อกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กรณี ปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ สัมภาษณ์ในรายการ เอ๊กคลูซีฟ FM 100.5 ซึ่งดำเนินรายการโดย นายจอม เพชรประดับ
โดยภายหลังเข้าพบกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ นายสมจิต กล่าวว่ายังไม่ทราบที่มาที่ไปของเรื่องนี้ แต่ที่ผ่านมาการเชิญแขกเข้ารายการจะไว้วางใจผู้ดำเนินรายการ
“จอม” อ้างทำหน้าที่สื่อ ไม่ได้เข้าข้างใคร
ด้านนายจอม เพชรประดับ ยอมรับว่า เขาเป็นผู้ติดต่อขอสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ มาหลายเดือนแล้วแต่เรื่องก็เงียบหายไป จนกระทั่งพ.ต.ท.ทักษิณ โทรกลับมาตอบรับเมื่อช่วงเช้าก่อนเข้ารายการ ตนจนจึงให้เข้ารายการทันที่ ซึ่งยืนยันว่าตนไม่ได้ตั้งคำถามเอาใจ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมกันนี้ขอชี้แจงว่าตนได้ทำหน้าที่ของสื่อที่ต้องการให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ครบถ้วนสมบูรณ์ และรอบด้าน โดยไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายฝ่ายหนึ่ง แต่หากการทำหน้าที่ของตนเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่มองว่าไม่ถูกต้อง ตนก็พร้อมยอมรับ และไม่กลัวว่าจะถูกปลดจากรายการ เพราะชีวิตตนนั้นถูกย้ายมาหลายที่แล้ว ขณะที่รัฐบาลชุดนี้ก็เคยบอกว่าจะเปิดกว้างเรื่องการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน
ขณะเดียวกัน นายจอม ยังได้กล่าวว่าในสมัยรัฐบาลของพรรคพลังประชาชน ตนก็เคยเชิญ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ สมัยเป็นผู้นำฝ่ายค้านสัมภาษณ์ออกทีวีเหมือนกัน
“ปธ.วิปฯ” ไม่เชื่อขี้ปากแม้วหยุด
อีกด้านหนึ่ง นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่าการที่อดีตนายกฯ พร้อมเจรจากับทุกคน หากต้องการให้วางมือก็ยอมนั้น หากเจรจาจริงก็เป็นสิ่งที่ดีเพราะปัญหาที่เกิดจากบุคคลกลุ่มหนึ่งในขณะนี้มีส่วนเกี่ยวข้องตัวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ส่วนตัวไม่ค่อยมีความเชื่อถือในคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเวลาที่ตนเองได้เปรียบก็มักพูดอย่าง แต่เวลาเสียเปรียบก็พูดอีกอย่าง
อย่างเหตุการณ์ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณก็พูดอยู่เสมอว่า หากมีเลือดสักหยดจะกลับมานำผู้ชุมนุมด้วยตัวเอง แต่พอมีการปราบปรามผู้ก่อเหตุจลาจล พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ได้กลับมา หรืออย่างกรณีคลิปเสียงนายกฯก็เช่นเดียวกัน พอ พ.ต.ท.ทักษิณเห็นว่าการที่ ส.ส.เพื่อไทยนำไปเคลื่อนไหว เป็นสิ่งที่เพลี่ยงพล้ำ ก็รีบออกมาปฏิเสธว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทันที
นายชินวรณ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องออกมาพูดเช่นนี้ น่าจะมาจากการที่นักธุรกิจและภาคเอกชนหลายส่วนออกมาเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณและกลุ่มคนเสื้อแดงยุติการเคลื่อนไหว เพื่อไม่ให้กระทบกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ พ.ต.ท.ทักษิณจึงต้องออกมาพูดเพื่อให้ภาพลักษณ์ของตัวเองดูดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า วิเคราะห์หรือไม่ว่าเหตุใดจึงต้องออกมาพูดก่อนที่คนเสื้อแดงจะชุมนุมใหญ่วันที่ 19 ก.ย.นี้ นายชินวรณ์ กล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงขณะนี้ถูกมอง 2 แบบ 1.สร้างความปั่นป่วนทางการเมือง จนกระทบกับปากท้องของพี่น้องประชาชน และ2.การเคลื่อนไหวก็ชัดเจนไม่ได้เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย แต่เป็นการทำเพื่อรักษาผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น ขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงอยู่ในช่วงที่เพลี่ยงพล้ำ จึงต้องพูดเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเองเอาไว้ก่อน
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าที่นายกฯหรือรองนายกฯจะไปเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณนายชินวรณ์ กล่าวว่า หากจะเปิดการเจรจาอย่างน้อยคนที่จะมาเจรจาต้องมีความจริงใจ โดย พ.ต.ท.ทักษิณต้องกลับเข้ามาในประเทศและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อน
“แต่ส่วนตัวไม่เชื่อว่าหลังจากคุยแล้วจะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองกลับสู่ความสงบ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณยังมีโทษจำคุก 2 ปีอยู่ ขณะที่คดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาทก็ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ผมจึงไม่คิดว่า คนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณจะยอมยุติการเคลื่อนไหวง่ายๆ”นายชินวรณ์ กล่าว
“นพเหล่” ว๊าก!แทนนาย
ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงวงสัมนาที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นตัวปัญหา ว่า ส่วนตัวคิดว่าการจัดสัมมนาใด ๆ ถ้าเชิญแต่คนที่มีความคิดเห็นเชิงปฏิปักษ์ ผลลัพธ์ก็จะออกมาในรูปแบบนี้ จึงอยากฝากให้ผู้จัดเชิญคนที่มีความเห็นอีกด้านหนึ่งมาร่วมด้วย เพื่อให้เวทีสัมมนามีความสมดุล ไม่ใช่จัดเพื่อถล่มฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
นายนพดล กล่าวว่า การโจมตีว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นตัวปัญหา สร้างความปั่นป่วนนั้น ขอตอบโต้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่ผู้สร้างปัญหา แต่เป็นผู้ถูกกระทำจากฝ่ายที่ไม่ต้องการประชาธิปไตย จึงพยายามเรียกร้องประชาธิปไตย และความเป็นธรรมให้ตนเอง ต้นตอของปัญหาที่แท้จริงคือการยึดอำนาจ กลุ่มอำมาตย์ กระบวนการยุติธรรมที่บิดเบือน และระบบ 2 มาตรฐาน ความจริง พล.อ.สายหยุดเป็นประธานมูลนิธิองค์กรกลาง น่าจะมีความเป็นกลางบ้าง อยากรู้ว่าตอนที่มีการยึดอำนาจ หรือใช้ความรุนแรง พล.อ.สายหยุด ไปอยู่ที่ไหน
ส่วนที่พล.ต.อ.วสิษฐ ระบุว่ามีการฟอกเงินแล้วนำไปซุกไว้ที่ต่างประเทศนั้น ไม่รู้ว่าหมายถึงใคร แต่ยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีแน่ พล.ต.อ.วสิษฐเป็นตำรวจเก่า ถ้ามีข้อมูลควรนำไปยื่นให้ป.ป.ง. และกรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจสอบ หรือจะยื่นที่พรรคเพื่อไทยก็ได้ อย่าพูดแบบตีหัวเข้าบ้าน ทำให้คนอื่นเสียหายโดยที่ตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบอะไร พล.ต.อ.วสิษฐ ชอบเขียนนิยาย แต่ไม่ควรเอานิยายมาปะปนกับเรื่องจริง
หลังจากประกาศชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 ก.ย.แทน แดงตัวพ่ออย่าง นช.ทักษิณ ชินวัตร กลับเร่งสร้างภาพสร้างกระแสให้ตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงขั้นจะทำธุรกิจสร้างเฮลิคอปเตอร์ ข่าวของนช.ทักษิณส่วนใหญ่ที่ผ่านมามักจะมีการนำเสนอผ่านสื่อของคนเสื้อแดง เช่นรายการวิทยุชุมชนของขวัญชัย ไพรพณา ที่จ.อุดรธานี หรือผ่านเวปไซด์ทวิตเตอร์แบบรายวัน
แต่เมื่อเวลา 10.30 น. วานนี้ (6 ก.ย.) นช.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมีโอกาสที่ให้สัมภาษณ์แบบสดๆ กับนายจอม เพชรประดับ อดีตคนข่าวไอทีวีสมัยรัฐบาลไทยรักไทย ผ่านสถานีวิทยุ อสมท. คลื่น 100.5 เมกกะเฮิร์ต ในรายการเอ๊กคลูซีฟ เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของเขา เหมือนกับคำถามจะออกมาแรงแต่กลับเป็นคำถามเสมือนว่า เป็นการฟอกความผิดหรือฟอกข่าวลือให้กับตัว นช.ทักษิณ
อาทิเช่น นายจอม ถามว่า ในการนำเงินจากมาดำเนินกิจการเหมืองเพชร หรือมีการฟอกเงินไว้ในรัฐบาลที่แล้วเป็นอย่างไร นช.ทักษิณ ตอบว่า หลังจากที่เขาได้ออกจากประเทศไทย ก่อนปฏิวัติ มีคนลือว่า เขาขนเงินออกมา 30 กระเป๋าเดินทาง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มีใครทำได้ ขอให้อย่าหลงประเด็น อย่าหลงเชื่อกลุ่มคน ที่ปล่อยข่าว หากจำได้ ก่อนหน้านี้ตนเคยซื้อทีมฟุตบอล แล้วก็ขายทีมฟุตบอล แล้วนำผลกำไรมาลงทุนเหมืองเพชร
นายจอม ยังถามว่า ที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกอายัดเงินที่ประเทศอังกฤษนั้น นช.ทักษิณ ระบุว่า ตนไม่มีเงินฝากที่ประเทศอังกฤษ ทั้งหมดเป็นการปล่อยข่าวทำร้ายกัน เมื่อขายทีมฟุตบอลได้เงินมาจำนวนหนึ่งก็เพียงพอจะลงทุนในเหมือง เพราะราคาเองก็ไม่ได้สูงมากมายอะไร
แหล! ไม่มีเครื่องบินส่วนตัว
นายจอม ถามต่อว่า การที่ท่านเดินทางเข้าประเทศต่างๆ นั้น ผู้นำต่างประเทศรู้สึกกระอักกระอ่วนใจบ้างหรือไม่เกี่ยวกับสถานะท่าน นช.ผู้นี้บอกว่า เขาไม่กระอักกระอ่วนตัวผม แต่เขากระอักกระอ่วนรัฐบาลไทยมากกว่า เขามีอธิปไตยในดินแดนของเขาจะให้ใครอยู่หรือจะให้ใครไปมันเป็นสิทธิ์ของเขา แต่รัฐบาลไทย ทำจดหมายถึงทุกประเทศ ต่างประเทศเขาบอกเขารำคาญ และก็ยังบอกอีกว่า เขารำคาญรัฐบาลไทยยังไม่ต้องมาประเทศเขาก็ดี
นายจอมยังถามย้ำว่า มีประเทศใดที่เขาบอกว่าท่านไม่ทำตามคำสั่งศาลหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่มี เขาเห็นคำพิพากษากรณีที่ดินรัชดาเขาก็ขำแล้ว มีอย่างที่ไหน คนซื้อไม่ผิดคนขายไม่ผิด แต่มันตลกตรงที่นายกรัฐมนตรีเอาบัตรประชาชนไปรับรอง ให้เมียซื้อที่ดินเขาบอกผิด แต่ที่บุกรุกที่ดินป่าสงวนไม่เป็นไร การเมืองไทยตอนนี้ มุ่งแต่ทำลายฝ่ายตรงข้าม
นายจอม ยังซักว่ามีข่าวว่าท่านมีเครื่องบินส่วนตัว มีบอร์ดี้การ์ดชั้นดี นช.ทักษิณ กล่าวว่า ตนไม่มีเครื่องบิน บอร์ดี้การ์ดก็ไม่มี ตนไม่กลัว เกิดมาหนเดียวตายหนเดียว เรื่องอย่างนี้โดนมาไม่รู้กี่รอบแล้ว ไม่เป็นไร
แม้วจ้อเอิ๊กอ๊าก! อยากคุยกับ “มาร์ค”
จากนั้นหลังจากที่นายจอม สอบถามเรื่องข่าวลือต่างๆรวมถึงเรื่องส่วนตัวไปแล้วเขาไปหันมาถามเรื่องการเมืองในประเทศไทยโดยเฉพาะ โดยเริ่มคำถามเรื่องของการทำสมานฉันท์ ซึ่งนายจอม ถามว่า จะหันมาร่วมมือกันเพื่อสร้างความสมานฉันท์ปรองดองได้หรือไม่นั้น ซึ่งนช.ทักษิณ กล่าวว่า ผมพร้อมเจรจากับทุกคน คิดดูขนาดคนอย่างคุณจอมยังติดต่อผมได้ แล้วคนที่มีอำนาจในประเทศจะติดต่อผมไม่ได้หรือ ขนาดคนขับแท็กซี่ ตำรวจชั้นผู้น้อยยังมีเบอร์ผม โทรมาผมผมก็คุยผมคุยกับทุกคน แต่คนเดียว ที่ไม่มีเบอร์ผมก็คือ คนในทำเนียบรัฐบาล ยืนยันผมคุยกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรี แม้ว่าจะหน้าดำผมก็คุย
ถึงตรงนี้ นายจอม ยิงคำถามไปว่า หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โทรฯมาหาท่านขอ ความร่วมมือให้ท่านหยุดเคลื่อนไหว แล้วทุกอย่างจบ ตรงนี้นช.ทักษิณ ได้หัวเราะและกล่าวว่า จะร่วมมือกันอย่างไรบอกมา ตนยินดี จะให้ทำอะไร และรัฐบาลต้องบอกว่าจะทำอย่างไรด้วย เพื่อให้เกิดความปรองดองทุกฝ่าย ไม่ใช่ปรองดองเพียงฝ่ายเดียว ต้องหาจุดร่วม ที่เหมาะสมด้วย
นายจอม ถามอีกว่า หากนายกฯบอกว่าท่านต้องกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อน นช.ทักษิณ กล่าวว่า ต้องถามว่ากระบวนการตอนนี้มันยุติธรรมจริงหรือไม่ และจะกำหนดความยุติธรรมอย่างไร ตนเชื่อว่า ศาลส่วนใหญ่ยุติธรรม แต่ก็มีบางส่วนเท่านั้นที่ถูกแทรกแซง และนายอภิสิทธิ์ก็เข้าไปแก้ไขตรงนี้ไม่ได้ เพราะไม่ใช่รัฐบาลที่มีอิสระอย่างแท้จริง แต่มีคนที่มีอิสระเหนือรัฐบาลเข้าไปแทรกแซง ที่จริงเรื่องที่ถ้าบ้านเมือง มีความสมดุล มีการถ่วงดุลที่ดีบ้านเมืองจะเดินไปได้ แต่ที่มันเป็นอย่างนี้ก็เพราะเพียงต้องการจะล้มตนเท่านั้น
“ที่จริงเมื่อครั้งนั้นถ้าพูดกับผมดีๆ บอกให้หยุด ให้เลิกเพราะชนะมากไปแล้ว ก็หยุดก็จะวางมือ ไม่ใช่ว่าผมอยากจะอยู่ เพียงแต่ว่าต้องการทำภาระกิจที่ค้างอยู่ ให้เสร็จสิ้น ตอนนี้ผมอยู่เมืองนอกก็มีความสุขดี ไม่มีความเครียดอะไร มีคนหาว่าผมไปทำคีโม แต่หน้าผมตอนนี้ใสมาก”อดีตนายกฯที่กลายมาเป็นนักโทษชายกล่าวในที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างการให้สัมภาษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรีมีน้ำเสียงตอบคำถามอย่างสบายใจ บางช่วงงหัวเราะยินดีกับคำถามของนายจอมไปด้วย
”น้องเดียว” กรี๊ด!! อสมท.งานเข้า
ขณะที่เวลา 15.00 น. วันเดียวกัน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความลงเวปไซด์ เฟสบุ๊ก และเวปไซด์ ทวิสเตอร์ หลังมีการสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผ่านวิทยุของ อสมท.เช้านี้ว่า "เช้านี้งานเข้าที่ อสมท.ครับ คาดว่าเป็นข่าวแน่ พรุ่งนี้จะมีคำชี้แจง ตอนนี้กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง”
ขณะที่ทางด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ผ่านเวปไซด์โทวิสเตอร์ลเช่นกันหลังจากออกรายการดังกล่าว ว่า “วันนี้เช้าได้ให้สัมภาษณ์สดทางวิทยุของคุณจอม เพชรประดับ คำถามแรงดีมาก แต่ก็สบายใจที่มีโอกาสได้อธิบายเรื่องที่ถูกปล่อยข่าวผิดๆ ด้านเดียวมาตลอด”
ทั้งนี้ เกิดภายหลัง เวลา 10.30 น. ที่นายจอม เพชรประดับ ผู้ดำเนินรายการรายการเอ๊กคลูซีฟ ได้สอบถามถึงการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกอากาศทางวิทยุอสมท. คลื่น 100.5 เมกกะเฮิร์ต ขณะเดียวกัน ยังเกิดขึ้นในช่วงที่นายธนวัฒน์ วันสม มาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT เพียง 1 วันทำการเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีของนายจอม ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกก่อนหน้า อดีตผู้ดำเนินรายงาน 'ตัวจริง/ชัดเจน' ผู้นี้ทางสถานีโทรทัศน์ ทีไอทีวีขณะนั้น ได้เดินทางไปสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.50 ในสมัยรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ซึ่งเดิมทีจะออกอากาศในรายงาน ตัวจริง ชัดเจน ในคืนวันที่ 2 ม.ค.51 แต่เนื่องจากอยู่ในช่วงงานสำคัญทางกรมประชาสัมพันธ์ อ้างว่า ได้ขอให้งดออกอากาศ
อย่างไรก็ตาม ทางสถานีเตรียมที่จะออกอากาศในวันที่ 16 ม.ค.51 แต่เนื่องจากกรมประชาสัมพันธ์ได้สั่งยุติการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ ทีไอทีวี เพื่อเปลี่ยนเป็นสถานี ไทยพีบีเอส เทปนี้จึงไม่สามารถออกอากาศได้
“เอ็มดี อสมท.” เรียก ผช.ผอ.สายวิทยุพบ
ช่วงบ่ายนายสมจิต ชินสมบูรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักวิทยุและกิจกรรมพิเศษ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) ได้เดินทางเข้าชี้แจงต่อกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กรณี ปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ สัมภาษณ์ในรายการ เอ๊กคลูซีฟ FM 100.5 ซึ่งดำเนินรายการโดย นายจอม เพชรประดับ
โดยภายหลังเข้าพบกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ นายสมจิต กล่าวว่ายังไม่ทราบที่มาที่ไปของเรื่องนี้ แต่ที่ผ่านมาการเชิญแขกเข้ารายการจะไว้วางใจผู้ดำเนินรายการ
“จอม” อ้างทำหน้าที่สื่อ ไม่ได้เข้าข้างใคร
ด้านนายจอม เพชรประดับ ยอมรับว่า เขาเป็นผู้ติดต่อขอสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ มาหลายเดือนแล้วแต่เรื่องก็เงียบหายไป จนกระทั่งพ.ต.ท.ทักษิณ โทรกลับมาตอบรับเมื่อช่วงเช้าก่อนเข้ารายการ ตนจนจึงให้เข้ารายการทันที่ ซึ่งยืนยันว่าตนไม่ได้ตั้งคำถามเอาใจ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมกันนี้ขอชี้แจงว่าตนได้ทำหน้าที่ของสื่อที่ต้องการให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ครบถ้วนสมบูรณ์ และรอบด้าน โดยไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายฝ่ายหนึ่ง แต่หากการทำหน้าที่ของตนเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่มองว่าไม่ถูกต้อง ตนก็พร้อมยอมรับ และไม่กลัวว่าจะถูกปลดจากรายการ เพราะชีวิตตนนั้นถูกย้ายมาหลายที่แล้ว ขณะที่รัฐบาลชุดนี้ก็เคยบอกว่าจะเปิดกว้างเรื่องการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน
ขณะเดียวกัน นายจอม ยังได้กล่าวว่าในสมัยรัฐบาลของพรรคพลังประชาชน ตนก็เคยเชิญ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ สมัยเป็นผู้นำฝ่ายค้านสัมภาษณ์ออกทีวีเหมือนกัน
“ปธ.วิปฯ” ไม่เชื่อขี้ปากแม้วหยุด
อีกด้านหนึ่ง นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่าการที่อดีตนายกฯ พร้อมเจรจากับทุกคน หากต้องการให้วางมือก็ยอมนั้น หากเจรจาจริงก็เป็นสิ่งที่ดีเพราะปัญหาที่เกิดจากบุคคลกลุ่มหนึ่งในขณะนี้มีส่วนเกี่ยวข้องตัวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ส่วนตัวไม่ค่อยมีความเชื่อถือในคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเวลาที่ตนเองได้เปรียบก็มักพูดอย่าง แต่เวลาเสียเปรียบก็พูดอีกอย่าง
อย่างเหตุการณ์ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณก็พูดอยู่เสมอว่า หากมีเลือดสักหยดจะกลับมานำผู้ชุมนุมด้วยตัวเอง แต่พอมีการปราบปรามผู้ก่อเหตุจลาจล พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ได้กลับมา หรืออย่างกรณีคลิปเสียงนายกฯก็เช่นเดียวกัน พอ พ.ต.ท.ทักษิณเห็นว่าการที่ ส.ส.เพื่อไทยนำไปเคลื่อนไหว เป็นสิ่งที่เพลี่ยงพล้ำ ก็รีบออกมาปฏิเสธว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทันที
นายชินวรณ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องออกมาพูดเช่นนี้ น่าจะมาจากการที่นักธุรกิจและภาคเอกชนหลายส่วนออกมาเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณและกลุ่มคนเสื้อแดงยุติการเคลื่อนไหว เพื่อไม่ให้กระทบกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ พ.ต.ท.ทักษิณจึงต้องออกมาพูดเพื่อให้ภาพลักษณ์ของตัวเองดูดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า วิเคราะห์หรือไม่ว่าเหตุใดจึงต้องออกมาพูดก่อนที่คนเสื้อแดงจะชุมนุมใหญ่วันที่ 19 ก.ย.นี้ นายชินวรณ์ กล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงขณะนี้ถูกมอง 2 แบบ 1.สร้างความปั่นป่วนทางการเมือง จนกระทบกับปากท้องของพี่น้องประชาชน และ2.การเคลื่อนไหวก็ชัดเจนไม่ได้เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย แต่เป็นการทำเพื่อรักษาผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น ขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงอยู่ในช่วงที่เพลี่ยงพล้ำ จึงต้องพูดเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเองเอาไว้ก่อน
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าที่นายกฯหรือรองนายกฯจะไปเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณนายชินวรณ์ กล่าวว่า หากจะเปิดการเจรจาอย่างน้อยคนที่จะมาเจรจาต้องมีความจริงใจ โดย พ.ต.ท.ทักษิณต้องกลับเข้ามาในประเทศและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อน
“แต่ส่วนตัวไม่เชื่อว่าหลังจากคุยแล้วจะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองกลับสู่ความสงบ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณยังมีโทษจำคุก 2 ปีอยู่ ขณะที่คดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาทก็ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ผมจึงไม่คิดว่า คนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณจะยอมยุติการเคลื่อนไหวง่ายๆ”นายชินวรณ์ กล่าว
“นพเหล่” ว๊าก!แทนนาย
ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงวงสัมนาที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นตัวปัญหา ว่า ส่วนตัวคิดว่าการจัดสัมมนาใด ๆ ถ้าเชิญแต่คนที่มีความคิดเห็นเชิงปฏิปักษ์ ผลลัพธ์ก็จะออกมาในรูปแบบนี้ จึงอยากฝากให้ผู้จัดเชิญคนที่มีความเห็นอีกด้านหนึ่งมาร่วมด้วย เพื่อให้เวทีสัมมนามีความสมดุล ไม่ใช่จัดเพื่อถล่มฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
นายนพดล กล่าวว่า การโจมตีว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นตัวปัญหา สร้างความปั่นป่วนนั้น ขอตอบโต้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่ผู้สร้างปัญหา แต่เป็นผู้ถูกกระทำจากฝ่ายที่ไม่ต้องการประชาธิปไตย จึงพยายามเรียกร้องประชาธิปไตย และความเป็นธรรมให้ตนเอง ต้นตอของปัญหาที่แท้จริงคือการยึดอำนาจ กลุ่มอำมาตย์ กระบวนการยุติธรรมที่บิดเบือน และระบบ 2 มาตรฐาน ความจริง พล.อ.สายหยุดเป็นประธานมูลนิธิองค์กรกลาง น่าจะมีความเป็นกลางบ้าง อยากรู้ว่าตอนที่มีการยึดอำนาจ หรือใช้ความรุนแรง พล.อ.สายหยุด ไปอยู่ที่ไหน
ส่วนที่พล.ต.อ.วสิษฐ ระบุว่ามีการฟอกเงินแล้วนำไปซุกไว้ที่ต่างประเทศนั้น ไม่รู้ว่าหมายถึงใคร แต่ยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีแน่ พล.ต.อ.วสิษฐเป็นตำรวจเก่า ถ้ามีข้อมูลควรนำไปยื่นให้ป.ป.ง. และกรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจสอบ หรือจะยื่นที่พรรคเพื่อไทยก็ได้ อย่าพูดแบบตีหัวเข้าบ้าน ทำให้คนอื่นเสียหายโดยที่ตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบอะไร พล.ต.อ.วสิษฐ ชอบเขียนนิยาย แต่ไม่ควรเอานิยายมาปะปนกับเรื่องจริง