xs
xsm
sm
md
lg

บี้อสมทปล่อยแม้วโจมตีรัฐ จอม"อ้างทำหน้าที่สื่อ ก่อนถอยพ้นคลื่น100.5

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายจอม เพชรประดับ ผู้ดำเนินรายการวิทยุ ดิ เอ็กซ์คลูซีฟ ทางคลื่น 100.5 อสมท. เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมาว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นจาก อสมท แล้วว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย. มีการประชุมผู้บริหาร เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และก็มีการรายงานให้ตนทราบในฐานะที่กำกับดูแล อสมท เบื้องต้นต้องบอกว่า ตนเคารพการทำหน้าที่ของสื่อ และไม่เคยเข้าไปแทรกแซง การทำงาน แต่กรณีดังกล่าวนี้แตกต่างจากกรณีทั่วไป เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ มีสถานะเป็นนักโทษหลบหนีอาญาแผ่นดิน และมีหมายจับ รวมถึงหมายจับที่ผ่านตำรวจสากลทั่วโลกด้วย และเป็นบุคคลที่ทางการไทยต้องการตัว เพื่อให้กลับมารับโทษตามกระบวนการ ยุติธรรม
ดังนั้น คำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ให้สัมภาษณ์ จึงไม่ใช่นักการเมืองปกติ แต่เป็นการให้สัมภาษณ์โดยเป็นปฏิปักษ์ต่อกระบวนการยุติธรรมของไทยโดยตรง เป็นการประณามกระบวนการยุติธรรม กระบวนการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นการให้ร้ายประเทศไทย และเป็นการให้ร้ายกับสถาบันองคมนตรีด้วย
นายสาทิตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้แยกออกเป็น 2 ประเด็น โดยตนพูดคุยกับทาง อสมท.ว่า 1. กรณีรายการที่เกิดขึ้นแล้ว มีการให้สัมภาษณ์ไปแล้ว นายจอม ก็ไม่ใช่พนักงานของ อสมท แต่เป็นรายการของ อสมท ดังนั้นก็ขอให้ อสมท ไปดำเนินการภายในว่า จะจัดการอย่างไร
2. เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้อีก เพราะกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นกรณีมีผลต่อสถานการณ์ของประเทศโดยตรง และเป็นเรื่องที่อาจทำให้สถานการณ์ซึ่งสงบเรียบร้อยอยู่แล้ว เกิดลุกลามบานปลายได้
ต่อข้อถามว่า จะถือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะแบนไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ใช่หรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ไม่ใช่ ตนใช้คำว่าต้องป้องกัน และใช้ความระมัดระวัง ไม่ให้กรณีนี้เกิดขึ้นมาอีก เพราะอย่าลืมว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีใครรู้ที่อยู่แน่นอน การติดต่อเข้ามา การรู้ที่อยู่นั้น จะมีคำถามต่อมาอีกเยอะในทางกฎหมาย ว่ารู้และติดต่อกันได้อย่างไร และการมาพูดให้ร้ายประเทศไทย และกระบวนการยุติธรรม สถาบันองคมนตรี โดยผ่านคลื่นความถี่ของรัฐไทย ตนคิดว่าทุกฝ่ายทราบดีอยู่แล้วว่าไม่สามารถทำได้
"ยืนยันว่า กรณีนี้ไม่ใช่การเข้าไปแทรกแซงสื่อแต่อย่างใด แต่เราจะปล่อยให้พ.ต.ท.ทักษิณ แทรกแซงความสงบสุขของประเทศไทย โดยใช้สื่อของรัฐมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง คงปล่อยอย่างนั้นไม่ได้" นายสาทิตย์ กล่าว และว่า ช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา การที่พ.ต.ท.ทักษิณ วีดีโอลิงก์ และโฟนอิน เข้ามานั้น ทำให้สถานการณ์มีความรุนแรงบานปลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเราจะปล่อยให้สถานการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้นไม่ได้อีก เพราะเรื่องนี้ก็ใกล้เคียงกับที่มีการชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 19 ก.ย.นี้
เมื่อถามว่ามองว่าการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในลักษณะนี้สวนทางกับการที่ระบุว่า พร้อมเจรจากับรัฐบาลหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ข้อนี้พิสูจน์ได้ชัดเจนอยู่แล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความประสงค์ที่จะเคลื่อนไหวต่อไป เพราะถ้อยคำที่ให้สัมภาษณ์ ก็เป็นปฏิปักษ์กับรัฐ กับ กระบวนการยุติธรรม สถาบันองคมนตรี อย่างชัดเจน
"จากการสืบทราบข้อเท็จจริงภายใน ทราบว่า มีผู้หญิงโทรมาจากประเทศดูไบ บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้าสาย ซึ่งเรื่องนี้ผู้จัดสามารถใช้ดุลพินิจได้อยู่แล้ว ในเรื่องของความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาได้ เพราะหากโดนคดีหมิ่นศาล จะไม่ใช่แค่ผู้จัดรายการเท่านั้น แต่จะขยายวงไปไกลกว่านั้น และจะมีผลกระทบทางกฎหมายใหญ่มาก ซึ่งผมคิดว่า สื่อรู้อยู่แล้วว่า อะไรควรทำ หรือไม่ควรทำ" รมต.ประจำสำนักนายกฯกล่าว

**กระตุก"สื่อ"รู้จักใช้วิจารณญาณ
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองการสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวว่า ขอให้สื่อมวลชนได้ใช้วิจารณญาณให้ถ้วนถี่ ในการพิจารณาบุคคลที่จะถูกสัมภาษณ์ด้วย กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับมอบโอนคดีจาก คตส. มา 6 เรื่อง โดยแบ่งการพิจารณาเป็นดังนี้ คือ 1. ลงโทษแล้วคือ คดีที่ดินรัชดา โทษจำคุก 2 ปี ศาลออกหมายจับ และอยู่ระหว่างติดตามตัวมารับโทษ
นอกจากนี้ ยังมีคดีออกหมายจับแล้ว 3 คดี คือ ให้พม่ากู้เงิน 4,000 ล้าน ของเอ็กซิมแบงก์ คดีหวย 3 ตัว 2 ตัว คดีแปลงสัมปทานภาษีสรรพสามิต และคดีสุดท้ายอยู่ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คือ คดียึดทรัพย์ 76,621 ล้าน และ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังถูกออกหมายจับในฐานะเป็นผู้บงการในเหตุการณ์จลาจล ในเดือนเม.ย. 52 ที่ผ่านมาด้วย
"พ.ต.ท.ทักษิณได้มีโอกาสที่จะอธิบายความต่างๆ ต่อศาลแล้ว แต่ก็ไม่ยอมขึ้นศาล และกระบวนการยุติธกรรม ก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว จึงขอถามว่า จะมาใช้สื่อตอนนี้เพื่ออธิบายในข้างของตัวเองอีก จะเป็นธรรมต่อสังคมและกระบวนการยุติธรรมหรือไม่" นายบุญยอดกล่าว

**แฉเว็บมติชนแพร่คลิปตัดต่อมาร์ค
นอกจากนี้นายบุญยอด ยังให้ข้อมูลอีกด้วยว่า ในเว็บไซต์มติชนออนไลน์ ได้เผยแพร่คลิปตัดต่อเสียงของนายกฯอภิสิทธิ์ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางนั้น นำมาเผยแพร่ในเว็บไซต์ของตน ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย ซึ่งหมิ่นเหม่ต่อการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง และพ.ร.บ.ความผิดที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์
"การทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ต้องถามตัวเองอยู่เสมอว่า ทำแล้วสังคมได้อะไร หรือจะเป็นเครื่องมือให้กับใครบางคน ซึ่งสุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินถึงความน่าเชื่อถือในการทำหน้าที่สื่อมวลชนเอง ซึ่งผม จะนำทั้ง 2 เรื่อง เข้าสู่ที่ประชุมของกรรมาธิการฯ ในวันพุธนี้ เพื่อดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้ต่อไป" นายบุญยอดกล่าว

**"จอม"ยอมถอนตัวจาก อสมท
นายธนวัฒน์ วันสม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีนายจอมได้สัมภาษณ์พิเศษพ.ต.ท. ทักษิณ ผ่านรายการวิทยุ ดิ เอ็กซ์คลูซีฟ เมื่อเวลา10.10-11.00 น.ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่าตนได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งระดับ ผอ.คลื่น และรองกก. อสมท
เพื่อหาข้อสรุปในเรื่องที่เกิดขึ้น และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้อีก
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ได้ข้อสรุปเบื้องต้นแล้ว คือนายจอม ได้ยุติบทบาทการดำเนินรายการนี้ลงแล้ว ดังนั้นเรื่องนี้จึงอยากให้เรื่องนี้ยุติลง และไม่อยากให้อสมท ถูกโยงไปเป็นเรื่องของการเมือง หรือองค์กรถูกโยงไปอยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จึงต้องมีการแจงข้อสงสัยทั้งหมด
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ตนมีหน้าที่รายงานผลกับผู้บังคับบัญชาโดยตรงคือ บอร์ด อสมท ซึ่งทาง บอร์ดเองก็ไม่ได้ติดใจ เพียงแต่ต้องการทราบความจริง และแนวทางแก้ไขป้องกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก
ด้านนายวิรัตน์ นาคชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายคลื่นวิทยุ เอฟเอ็ม 100.5 กล่าวว่า ตามหลักการการทำงานของคลื่นวิทยุ เราให้เกียรติผู้ร่วมงาน และให้สิทธิเสรีภาพเต็มที่ ขณะเดียวกันที่ผ่านมา จากที่เคยร่วมงานกับนายจอม ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แต่เมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ทางนายจอม ก็ได้แสดงความรับผิดชอบ ยุติบทบาทการจัดรายการลงด้วยตนเองแล้ว และหลังจากนี้ทางสถานีคลื่น จะมีการปรับผังรายการใหม่ หลังจากรายการที่นายจอม ได้ถอดออกไป
ทั้งนี้นายจอม ได้เข้ามาร่วมงานกับ คลื่นเอฟเอ็ม 100.5 ตั้งแต่ปี 2551 โดยได้เข้ามาร่วมจัดรายการวิทยุ “สังคมพิพาท” ร่วมกับ นางจันทร์แรม สัมพันธ์วิวัฒน์ ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.00-11.00น. และในช่วงต้นปี 2552 เป็นต้นมา ได้เข้ามาจัดรายการ “ดิ เอ็กซ์คลูซีฟ” ซึ่งเป็นรายการสัมภาษณ์สด ทุกวันอาทิตย์ เวลา 10.10-11.00 น. โดยมีสถานะเป็นฟรีแลนด์ รับค่าจ้างเป็นรายชม. ที่จัดรายการ

**อ้างให้"แม้ว"ชี้แจงข้อเท็จจริง
ด้านนายจอม ได้ออกแถลงการณ์ สรุปใจความว่า การสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน ด้วยเจตนาที่จะดำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรม ความถูกต้อง รวมทั้งสร้างความเข้าใจ ในข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านเพื่อให้ประชาชนผู้รับข้อมูลข่าวสาร ได้พิจารณาตัดสินใจในสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น โดยไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงใดๆ ที่หวังจะทำร้าย หรือสร้างความเสียหายแก่รัฐบาล
นายจอม ระบุว่าด้วย ตนเห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นบุคคลที่ถูกมอง และถูกกล่าวหาว่า เป็นสาเหตุแห่งวิกฤตทางการเมืองที่เกิดขึ้นอยู่ในสังคมไทยเวลานี้ ซึ่งควรจะได้มีโอกาสได้ชี้แจงข้อเท็จจริง ( แม้ฝ่ายตรงข้ามจะมองว่า คำพูดของพ.ต.ท. ทักษิณ เป็นเท็จ มากกว่า จริง แต่หน้าที่ของสื่อมวลชน ก็ไม่อาจจะไปตัดสิน หรือสรุปได้เช่นนั้น) และการสัมภาษณ์ก็ไม่ใช่ลักษณะของการโฟนอินเข้ามาด้วยเหตุผลทางการเมือง เหมือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ให้ผู้บริหาร หรือพนักงาน อสมท ต้องมารับผลกระทบกับสิ่งที่ตนได้กระทำลงไป จึงขอขอยุติการจัดรายการทางคลื่นวิทยุ อสมท.เอฟเอ็ม 100.5 ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป

**"แม้ว"ชม"จอม"ถามแรงดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 12.30 น. วานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ Thaksinlive ถึงกรณีให้สัมภาษณ์ นายจอม ว่า "ผมให้สัมภาษณ์คุณ จอม ไปเมื่อเช้านี้ ได้ข่าวว่าตอนนี้รัฐบาลสั่งสอบกันให้วุ่น สั่งเก็บเทปไม่ ให้เผยแพร่ ไหนว่าสื่อมีเสรีภาพ รัฐบาลอย่ากลัวความจริง"
ก่อนหน้านี้พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้โพสต์ชื่มชมการสัมภาษณ์สดทางวิทยุของนายจอม ว่า "คำถามแรงดีมาก แต่ก็สบายใจ ที่มีโอกาสได้อธิบายเรื่องทีถูกปล่อยข่าวผิดๆ ด้านเดียวมาตลอด"
จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ข้อความอีกว่า "มหาตะมะคานธี พูดว่า ทุกครั้งที่สิ้นหวัง ก็จะหวนนึกถึงประวัติศาสตร์ พบว่า ชัยชนะที่ได้มาจากการใช้ความรุนแรง ไม่ยั่งยืน ต้องสู้ด้วยความจริง และความรัก" และได้โพสต์ข้อความว่า "ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง และขอแนะนำผู้ที่หวังอยากให้บ้านเมืองสงบ คนไทยเป็นหนึ่งเดียว ต้องกล้าเผชิญความจริง หันหน้าเข้าหากัน เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน"
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ข้อความล่าสุดด้วยว่า "การพูดข้างเดียวรังแกกันข้างเดียว คือการปฏิเสธหลักแห่งความจริงและความรัก ย่อมไม่สามารถนำมาซึ่งความสันติสุขได้ แต่กลับเพิ่มความเจ็บแค้นชิงชังขึ้น"

**อัด"จอม"ธาตุแท้"ลิ่วล้อแม้ว"
รศ.ดร.สุทธิพงษ์ หกสุวรรณ ประธานสมาพันธ์นักวิชาการเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า จากกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์นายจอมในครั้งนี้ ตนมองว่าไม่เหมาะสม ถึงแม้ว่านายจอมจะอ้างว่าเป็นหน้าที่ของสื่อ ที่ต้องมีการเสนอข่าวทั้ง 2 ด้าน แต่ในฐานะที่วิทยุ อสมท เป็นสื่อของรัฐ ควรพิจาณาความเหมาะสมของเนื้อหาสาระ ของผู้ที่ให้ข้อมูลกับประชาชนว่าเหมาะสมหรือไม่ ในห้วงเวลาที่บ้านเมืองต้องการความสงบสุข
แต่สื่อของรัฐกลับนำคนที่สร้างความแตกแยกในสังคมมานำเสนอผ่านสื่อของรัฐ เท่ากับเป็นการยุยงปลุกปั่นให้การชุมนุมวันที่ 19 ก.ย.ส่อเค้ารุนแรง และเสียหายต่อประเทศชาติ
" ผู้ดำเนินรายการ มีพฤติกรรมชัดเจนที่ฝักใฝ่ในตัวอดีตนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว จึงถือได้ว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่อดีตนายกฯจะมาให้สัมภาษณ์ทางวิทยุกับรายการนี้ ทั้งนี้ ผู้บริหารระดับสูงควรมีมาตรการเด็ดขาด ในการจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้น มิฉะนั้นปรากฏการณ์แบบนี้ก็จะเกิดขึ้นอีก ทั้งในเรื่องของอิทธิพลของตัวอดีตนายกฯ และอำนาจเงิน ที่สามารถทำเรื่องในทำนองเดียวกันนี้ได้อีก" รศ.ดร.สุทธิพงษ์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น