เคาะข่าวริมโขง เปิดเวทีเต็มปัญญาคนอีสาน "เจ๊ปอง" หยิบยกประเด็นเด่น "มนต์รักคอกม้าร้อยล้าน" เสมือนหนังฮอลีวูดชื่อก้องโลก เผย รังรัก "พัชรวาท" ใช้พักผ่อนยามเกษียณอายุ พร้อมขุดคุ้ยกลรัฐ ยกคดี "สนามกอล์ฟอัลไพน์" ขึ้นขู่พรรคร่วม ไม่ให้แข็งข้อ "มาร์ค" เลือก ผบ.ตร.คนใหม่ ด้าน "น้าชัช" ออกโรงเตือนสติ หาก "อภิสิทธิ์" ปล่อย "จุมพล" ผงาด จะเป็นนายกฯต่อไม่ได้ แนะเขี่ย "สุเทพ-นิพนธ์" ทิ้ง ฐานปันใจให้ศัตรู แอบกู้ "ระบอบทักษิณ" ให้กลับมาเรืองอำนาจ
คลิกที่จอภาพเพื่อรับชมรายการ เคาะข่าวริมโขง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทางช่องอีสานทีวี-ทีวีเพื่อคนอีสาน วันที่ 4 กันยายน มี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก เป็นผู้ดำเนินรายการหลัก โดยวันนี้มีการขุดคุ้ยประเด็นข่าวเด่นที่น่าสนใจ มาตีแพร่ และวิเคราะห์ถึงที่มาที่ไปให้พี่น้องชาวอีสานได้เต็มอิ่มกับเนื้อหาสาระ ที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี สำหรับประเด็นข่าวที่น่าสนใจ กรณี คอกม้า “รุ่งโรจน์รุ่งพัชร” มูลค่านับร้อยล้าน ที่ อ.ปากช่อง จ.สระบุรี ที่มีชื่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.เป็นหุ้นส่วนร่วมกับนายตำรวจคนสนิท หรือจะเป็นกรณี จับตาการโหวตเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ ในที่ประชุม ก.ต.ช.ซึ่งมีผู้สื่อข่าวพยายามเชื่อมโยง ว่า เกี่ยวข้องกับกรณีเพิกถอนสิทธิ์ที่ดิน หมู่บ้าน และสนามกอล์ฟอัลไพน์ ที่รัฐบาลจะใช้เป็นเครื่องมือต่อรองไม่ให้พรรคร่วมรัฐบาลแข็งข้อ และยกมือโหวตสวน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
น.ส.อัญชะลี เปิดประเด็นร้อนแรงอย่าง คอกม้า “รุ่งโรจน์รุ่งพัชร” มูลค่านับร้อยล้านบาท ที่ อ.ปากช่อง จ.สระบุรี ซึ่งมีชื่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.เป็นหุ้นส่วนกับนายตำรวจคนหนึ่งที่มีความสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ เสมือนหนังรักฮอลลีวูดชื่อดังก้องโลก ที่เรียกเสียงฮือฮาสั่นสะท้านวงการ ทั้งนี้ จากการสอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ดูแลคอกม้าดังกล่าว ทำให้ทราบว่า พล.ต.อ.พัชรวาท จะเดินทางมาพักผ่อนที่นี่เดือนละหนึ่งครั้ง เพื่อพักผ่อน โดยจะใช้เวลาทั้งหมดคลุกคลีอยู่กับเพื่อนนายตำรวจคนสนิทดังกล่าว ทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ การขี่ม้าออกกำลังกาย
น.ส.อัญชะลี กล่าวต่อประเด็นนี้ ว่า จากการที่ทีมข่าวเอเอสทีวี ทำการลงพื้นที่ พบว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวก่อนที่จะมาเป็นคอกม้านั้น ได้เป็นเรือกสวนไร่นาของชาวบ้านมาก่อน แต่ได้ถูกซื้อที่ดินเพื่อปรับเปลี่ยนเป็นคอกม้า ที่นำม้าแข่งพันธุ์ดี ราคาตัวละเป็นแสนเป็นล้านบาท มาดูแล และมีจำนวนทั้งหมด 70 ตัว มีการจ้างคนดูแล 75 คน มีพื้นที่โดยรอบนับร้อยไร่ ซึ่งถูกนำมาจัดสรรแบ่งไปสร้างคฤหาสน์หรูขนาดใหญ่ ที่คล้ายจะเป็นสโมสรระดับสูง ที่มีความโอ่อ่า และมีรสนิยม นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจแก่งคอย มาคอยดูแลรักษาความปลอดภัยให้
นายชัชวาลย์ กล่าวเสริมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปดูแลรักษาความปลอดภัยในคอกม้าหรูนี้ อ้างว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นทางผ่านไปผ่านมาของผู้ค้ายาบ้า ที่มักจะใช้เส้นทางนี้หลบหนีขึ้นภูเขา
น.ส.อัญชะลี กล่าวเสริมว่า ชาวบ้านให้ข้อมูลกับทีมงานเอเอสทีวี ว่า ขณะนี้ เจ้าของคอกม้า ซึ่งเท่าที่ทราบเป็นนายตำรวจใหญ่ ที่ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว เพื่อสร้างเป็นสนามม้าเอาไว้พักผ่อนในตอนเกษียณอายุ โดยตอนนี้มีความพยายามจะกว้านซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียงอีกประมาณ 100-200 ไร่ เพื่อเอาที่ดินไปปลูกหญ้าให้ม้ากิน
จากนั้น มีการหยิบยกกรณี เพิกถอนสิทธิ์ที่ดิน หมู่บ้าน และสนามกอล์ฟอัลไพน์ ซึ่ง น.ส.อัญชะลี กล่าวว่า จากเดิม คุณยายเนื่อง เป็นคนยกที่ให้วัด และต่อมามีการขายต่อให้แก่ นายเสนาะ เทียนทอง เพื่อนำไปสร้างหมู่บ้านและสนามกอล์ฟ รวมทั้งได้ขายต่อให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องนี้เคยมีการเรียกร้องให้คืนธรณีสงฆ์ หรือที่ดินวัด แต่เรื่องเงียบหายไปในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยล่าสุด เรื่องเพิ่งมามีความเคลื่อนไหวในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งได้มีการส่งเรื่องมาให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยกเลิกคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม และดำเนินการเพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงดังกล่าว ทั้งนี้ กรณีนี้ผู้สื่อข่าวได้พยายามเชื่อมโยงความเป็นไปได้ และเอาไปถาม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ว่า กรณีการเพิกถอนสิทธิ์ที่ดิน หมู่บ้าน และสนามกอล์ฟอัลไพน์ เป็นกลที่รัฐบาลวางไว้เพื่อขู่พรรคร่วมรัฐบาล ไม่ให้ยกมือโหวตสวน นายอภิสิทธิ์ ในการเลือก ผบ.ตร.ใช่หรือไม่ โดย นายสุเทพ ได้กล่าวปฏิเสธเรื่องดังกล่าว
น.ส.อัญชะลี กล่าวต่อว่า เพิ่งเจอ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ได้พูดเปรยๆ กับตนว่า ได้ใช้ความคิดทบทวนเรื่องราวหลายอย่าง เห็นว่า บ้านเมืองไทยขณะนี้ที่วุ่นวาย ก็เพราะคนไม่กี่คน มีคู่พ่อลูกป่วนเมือง นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา บิดาของ นายเนวิน ชิดชอบ ผู้อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจไทย หรือจะเป็น นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บิดาของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หรือคู่พี่น้องใหญ่คับเมือง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พี่ชายของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.โดย พล.อ.ประวิตร ได้ออกมาปกป้องและคุ้มครองน้องชายตลอด กล่าวหาว่าผู้อื่นรังแก พล.ต.อ.พัชรวาท ที่ไม่ได้กระทำความผิดใดๆ ดังนั้น คนเพียงไม่กี่คน สามารถทำให้ชาติบ้านเมืองเป็นเช่นนี้ได้
น.ส.อัญชะลี กล่าวต่อว่า เรื่องเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ ตนไม่เข้าใจว่า ทำไม นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ถึงชอบไปกินข้าวกับแกนนำพรรคอื่น ทั้งๆ ที่เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมทั้ง นายนิพนธ์ และ นายสุเทพ ถึงพยายามดัน พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ ทั้งที่ นายอภิสิทธิ์ ซึ่งถือเป็นเจ้านายต้องการเลือก พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ขึ้นเป็น ผบ.ตร.ซึ่งเหตุใด นายนิพนธ์ และ นายสุเทพ ถึงค้าน รวมทั้งพยายามล็อบบี้ให้เลือกคนอื่น เพื่อหักหน้านายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าว หาก ผบ.ตร.ไม่ใช่คนที่ นายอภิสิทธิ์ ต้องการ ถือเป็นการหักหน้า นายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคด้วย
นายชัชวาลย์ กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมา นายนิพนธ์ พยายามเอาสถาบันมาอ้างตลอด ว่า ต้องการให้ พล.ต.อ.จุมพล เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ โดยขู่ นายอภิสิทธิ์ ว่า หากไม่ใช่ พล.ต.อ.จุมพล บ้านเมืองจะพัง ซึ่งเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรี รอบคอบ ฟังหูไว้หู เพราะรู้ดีว่า พล.ต.อ.จุมพล เป็นคนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พยายามวางเอาคนของตนเองขึ้นมา เพื่อตอกย้ำระบอบทักษิณ ให้กลับคืนมาอีกครั้ง ดังนั้น ตนถาม นายนิพนธ์ ว่าใช้เหตุผลใด ถึงสนับสนุน พล.ต.อ.จุมพล อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูการประชุม ก.ต.ช.ที่ นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าจะมีขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้า ว่า ผู้ใดจะได้เป็น ผบ.ตร.คนใหม่
“ถ้า พล.ต.อ.จุมพล ได้ขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ นายอภิสิทธิ์ จะอยู่ไม่ได้เลย ดังนั้น หากต้องการผู้ที่เหมาะสมที่สุดเป็น ผบ.ตร.นายกรัฐมนตรี ต้องไม่ฟังเสียงผู้อื่น นอกจากนี้ ยังฝากถึงนายสุเทพ และ นายนิพนธ์ ว่ากำลังลุ่มหลงอะไรอยู่ในพรรคเพื่อไทยหรือเปล่า ทำไมถึงพยายามจ้องหาวิธีหักหน้า นายอภิสิทธิ์ ตลอด หากให้แนะนำนายกรัฐมนตรี มี 2 วิธีแก้ปัญหาเรื่องนี้ คือ ปรับคณะรัฐมนตรี เอา นายสุเทพ และ นายนิพนธ์ ออก หรืออีกวิธีให้ นายนิพนธ์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เสียเอง เพราะดูเหมือนมีอำนาจเหนือกว่า นายอภิสิทธิ์” นายชัชวาลย์ กล่าว
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทางช่องอีสานทีวี-ทีวีเพื่อคนอีสาน วันที่ 4 กันยายน มี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก เป็นผู้ดำเนินรายการหลัก โดยวันนี้มีการขุดคุ้ยประเด็นข่าวเด่นที่น่าสนใจ มาตีแพร่ และวิเคราะห์ถึงที่มาที่ไปให้พี่น้องชาวอีสานได้เต็มอิ่มกับเนื้อหาสาระ ที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี สำหรับประเด็นข่าวที่น่าสนใจ กรณี คอกม้า “รุ่งโรจน์รุ่งพัชร” มูลค่านับร้อยล้าน ที่ อ.ปากช่อง จ.สระบุรี ที่มีชื่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.เป็นหุ้นส่วนร่วมกับนายตำรวจคนสนิท หรือจะเป็นกรณี จับตาการโหวตเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ ในที่ประชุม ก.ต.ช.ซึ่งมีผู้สื่อข่าวพยายามเชื่อมโยง ว่า เกี่ยวข้องกับกรณีเพิกถอนสิทธิ์ที่ดิน หมู่บ้าน และสนามกอล์ฟอัลไพน์ ที่รัฐบาลจะใช้เป็นเครื่องมือต่อรองไม่ให้พรรคร่วมรัฐบาลแข็งข้อ และยกมือโหวตสวน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
น.ส.อัญชะลี เปิดประเด็นร้อนแรงอย่าง คอกม้า “รุ่งโรจน์รุ่งพัชร” มูลค่านับร้อยล้านบาท ที่ อ.ปากช่อง จ.สระบุรี ซึ่งมีชื่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.เป็นหุ้นส่วนกับนายตำรวจคนหนึ่งที่มีความสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ เสมือนหนังรักฮอลลีวูดชื่อดังก้องโลก ที่เรียกเสียงฮือฮาสั่นสะท้านวงการ ทั้งนี้ จากการสอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ดูแลคอกม้าดังกล่าว ทำให้ทราบว่า พล.ต.อ.พัชรวาท จะเดินทางมาพักผ่อนที่นี่เดือนละหนึ่งครั้ง เพื่อพักผ่อน โดยจะใช้เวลาทั้งหมดคลุกคลีอยู่กับเพื่อนนายตำรวจคนสนิทดังกล่าว ทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ การขี่ม้าออกกำลังกาย
น.ส.อัญชะลี กล่าวต่อประเด็นนี้ ว่า จากการที่ทีมข่าวเอเอสทีวี ทำการลงพื้นที่ พบว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวก่อนที่จะมาเป็นคอกม้านั้น ได้เป็นเรือกสวนไร่นาของชาวบ้านมาก่อน แต่ได้ถูกซื้อที่ดินเพื่อปรับเปลี่ยนเป็นคอกม้า ที่นำม้าแข่งพันธุ์ดี ราคาตัวละเป็นแสนเป็นล้านบาท มาดูแล และมีจำนวนทั้งหมด 70 ตัว มีการจ้างคนดูแล 75 คน มีพื้นที่โดยรอบนับร้อยไร่ ซึ่งถูกนำมาจัดสรรแบ่งไปสร้างคฤหาสน์หรูขนาดใหญ่ ที่คล้ายจะเป็นสโมสรระดับสูง ที่มีความโอ่อ่า และมีรสนิยม นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจแก่งคอย มาคอยดูแลรักษาความปลอดภัยให้
นายชัชวาลย์ กล่าวเสริมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปดูแลรักษาความปลอดภัยในคอกม้าหรูนี้ อ้างว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นทางผ่านไปผ่านมาของผู้ค้ายาบ้า ที่มักจะใช้เส้นทางนี้หลบหนีขึ้นภูเขา
น.ส.อัญชะลี กล่าวเสริมว่า ชาวบ้านให้ข้อมูลกับทีมงานเอเอสทีวี ว่า ขณะนี้ เจ้าของคอกม้า ซึ่งเท่าที่ทราบเป็นนายตำรวจใหญ่ ที่ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว เพื่อสร้างเป็นสนามม้าเอาไว้พักผ่อนในตอนเกษียณอายุ โดยตอนนี้มีความพยายามจะกว้านซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียงอีกประมาณ 100-200 ไร่ เพื่อเอาที่ดินไปปลูกหญ้าให้ม้ากิน
จากนั้น มีการหยิบยกกรณี เพิกถอนสิทธิ์ที่ดิน หมู่บ้าน และสนามกอล์ฟอัลไพน์ ซึ่ง น.ส.อัญชะลี กล่าวว่า จากเดิม คุณยายเนื่อง เป็นคนยกที่ให้วัด และต่อมามีการขายต่อให้แก่ นายเสนาะ เทียนทอง เพื่อนำไปสร้างหมู่บ้านและสนามกอล์ฟ รวมทั้งได้ขายต่อให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องนี้เคยมีการเรียกร้องให้คืนธรณีสงฆ์ หรือที่ดินวัด แต่เรื่องเงียบหายไปในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยล่าสุด เรื่องเพิ่งมามีความเคลื่อนไหวในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งได้มีการส่งเรื่องมาให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยกเลิกคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม และดำเนินการเพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงดังกล่าว ทั้งนี้ กรณีนี้ผู้สื่อข่าวได้พยายามเชื่อมโยงความเป็นไปได้ และเอาไปถาม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ว่า กรณีการเพิกถอนสิทธิ์ที่ดิน หมู่บ้าน และสนามกอล์ฟอัลไพน์ เป็นกลที่รัฐบาลวางไว้เพื่อขู่พรรคร่วมรัฐบาล ไม่ให้ยกมือโหวตสวน นายอภิสิทธิ์ ในการเลือก ผบ.ตร.ใช่หรือไม่ โดย นายสุเทพ ได้กล่าวปฏิเสธเรื่องดังกล่าว
น.ส.อัญชะลี กล่าวต่อว่า เพิ่งเจอ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ได้พูดเปรยๆ กับตนว่า ได้ใช้ความคิดทบทวนเรื่องราวหลายอย่าง เห็นว่า บ้านเมืองไทยขณะนี้ที่วุ่นวาย ก็เพราะคนไม่กี่คน มีคู่พ่อลูกป่วนเมือง นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา บิดาของ นายเนวิน ชิดชอบ ผู้อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจไทย หรือจะเป็น นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บิดาของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หรือคู่พี่น้องใหญ่คับเมือง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พี่ชายของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.โดย พล.อ.ประวิตร ได้ออกมาปกป้องและคุ้มครองน้องชายตลอด กล่าวหาว่าผู้อื่นรังแก พล.ต.อ.พัชรวาท ที่ไม่ได้กระทำความผิดใดๆ ดังนั้น คนเพียงไม่กี่คน สามารถทำให้ชาติบ้านเมืองเป็นเช่นนี้ได้
น.ส.อัญชะลี กล่าวต่อว่า เรื่องเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ ตนไม่เข้าใจว่า ทำไม นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ถึงชอบไปกินข้าวกับแกนนำพรรคอื่น ทั้งๆ ที่เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมทั้ง นายนิพนธ์ และ นายสุเทพ ถึงพยายามดัน พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ ทั้งที่ นายอภิสิทธิ์ ซึ่งถือเป็นเจ้านายต้องการเลือก พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ขึ้นเป็น ผบ.ตร.ซึ่งเหตุใด นายนิพนธ์ และ นายสุเทพ ถึงค้าน รวมทั้งพยายามล็อบบี้ให้เลือกคนอื่น เพื่อหักหน้านายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าว หาก ผบ.ตร.ไม่ใช่คนที่ นายอภิสิทธิ์ ต้องการ ถือเป็นการหักหน้า นายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคด้วย
นายชัชวาลย์ กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมา นายนิพนธ์ พยายามเอาสถาบันมาอ้างตลอด ว่า ต้องการให้ พล.ต.อ.จุมพล เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ โดยขู่ นายอภิสิทธิ์ ว่า หากไม่ใช่ พล.ต.อ.จุมพล บ้านเมืองจะพัง ซึ่งเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรี รอบคอบ ฟังหูไว้หู เพราะรู้ดีว่า พล.ต.อ.จุมพล เป็นคนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พยายามวางเอาคนของตนเองขึ้นมา เพื่อตอกย้ำระบอบทักษิณ ให้กลับคืนมาอีกครั้ง ดังนั้น ตนถาม นายนิพนธ์ ว่าใช้เหตุผลใด ถึงสนับสนุน พล.ต.อ.จุมพล อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูการประชุม ก.ต.ช.ที่ นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าจะมีขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้า ว่า ผู้ใดจะได้เป็น ผบ.ตร.คนใหม่
“ถ้า พล.ต.อ.จุมพล ได้ขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ นายอภิสิทธิ์ จะอยู่ไม่ได้เลย ดังนั้น หากต้องการผู้ที่เหมาะสมที่สุดเป็น ผบ.ตร.นายกรัฐมนตรี ต้องไม่ฟังเสียงผู้อื่น นอกจากนี้ ยังฝากถึงนายสุเทพ และ นายนิพนธ์ ว่ากำลังลุ่มหลงอะไรอยู่ในพรรคเพื่อไทยหรือเปล่า ทำไมถึงพยายามจ้องหาวิธีหักหน้า นายอภิสิทธิ์ ตลอด หากให้แนะนำนายกรัฐมนตรี มี 2 วิธีแก้ปัญหาเรื่องนี้ คือ ปรับคณะรัฐมนตรี เอา นายสุเทพ และ นายนิพนธ์ ออก หรืออีกวิธีให้ นายนิพนธ์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เสียเอง เพราะดูเหมือนมีอำนาจเหนือกว่า นายอภิสิทธิ์” นายชัชวาลย์ กล่าว
