xs
xsm
sm
md
lg

เคาะข่าวริมโขง “เจ๊ปอง” แฉ “นช.แม้ว” ทวิตเตอร์รำพึงถึง “ลูกโอ๊ค” ห่วงไปศาลคดีหุ้นชินฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เคาะข่าวริมโขง 3 พิธีกร เปิดเวทีถกประเด็นเด่น ปมร้อน เติมปัญญาคนอีสาน “ประพันธ์” จั่วที่มา “สนามกอล์ฟอัลไพน์” ส่อเค้าถูกเพิกถอนสิทธิ์ เหตุเป็นที่ดินวัด แต่ “ป๋าเหนาะ” ใช้อำนาจตะครุบซื้อ สร้างบ้าน-ทำสนามกอล์ฟ ก่อนขายให้ “นช.แม้ว” ด้าน “เจ๊ปอง” แฉพฤติกรรม “เป็ดเหลิม” วาดลวดลายยียวน ป่วนสภา จนโดน “มาร์ค” โต้ตอบกลับ เสียมวย ขณะที่ “นช.แม้ว” ทวิตเตอร์รำพึงถึง “ลูกโอ๊ค” ห่วงเดินทางไปศาล คดีขายหุ้นชินฯ ไม่เสียภาษี สำหรับช่วงสนทนา เชิญ “คุณหญิงกัลยา” คอมเฟิร์ม ใช้หลักวิทย์ ตรวจสอบคลิปเสียงนายกฯ ยันตัดต่อชัวร์ พร้อมชี้แจงผลงานในฐานะเป็นเจ้ากระทรวงวิทย์

คลิกที่จอภาพเพื่อรับชม รายการ “เคาะข่าวริมโขง”


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง” 

รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทางช่องอีสานทีวี-ทีวีเพื่อคนอีสาน วันที่ 3 กันยายน มี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก และ นายประพันธ์ คูณมี เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการเล็กน้อย โดยจากเดิมจะเริ่มรายการด้วยนำเสนอสกู๊ปเรื่องราวประเพณีวิถีชีวิตคนอีสาน แต่คราวนี้ ได้มีการเปิดรายการด้วยพูดคุยประเด็นข่าวที่น่าสนใจ อาทิ กรณี ข้อพิพาทปราสาทเขาพระวิหารและความเป็นไปได้ในการเสียพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม.ให้แก่กัมพูชา รวมไปถึงกรณี เพิกถอนสิทธิ์ที่ดิน หมู่บ้านและสนามกอล์ฟอัลไพน์ แอนด์สปอร์ตคลับ

สำหรับในช่วงสนทนา 3 พิธีกรคนเก่ง ได้เชิญ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาร่วมพูดคุยถึงบทบาทการทำงานในแวดวงการเมือง รวมไปถึงผลงานต่างๆ และกรณีการตรวจสอบคลิปเสียงตัดต่อ นายอภิสิทธิ์ ที่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม

นายประพันธ์ กล่าวเริ่มรายการด้วยการหยิบยกประเด็นข้อพิพาทปราสาทเขาพระวิหารและความเป็นไปได้ในการเสียพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม.ให้แก่กัมพูชา ว่า ประเด็นนี้ รัฐบาลต้องไปชี้แจงให้ชัดเจนว่าไปทำข้อตกลงเรื่องเขตแดนอะไรกับกัมพูชา ทั้งที่จากเดิมไทยยึดถือแนวสันปันน้ำเป็นหลัก ขณะที่กัมพูชายึดถือแผนที่ฝรั่งเศส ดังนั้น กรณีนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการทวงคืนปราสาทเขาพระวิหารแล้ว แต่อยู่ที่พื้นทีทับซ้อน 4.6 ตร.กม.ที่อยู่ในเขตแดนไทย ฉะนั้น การที่ทหารกัมพูชานำประชาชนมาตั้งรกรากอยู่ในบริเวณดังกล่าว ผู้ใดเป็นคนอนุญาต ทั้งนี้ ทางรัฐบาลต้องแสดงท่าทีชัดเจนในการขับไล่ออกนอกพื้นที่ แต่ติดอยู่ตรงที่ทางกระทรวงการต่างประเทศ พยายามท้วงติงว่า หากเรื่องดังกล่าวเผยแพร่ออกไปเป็นวงกว้าง จะทำให้ไทยเสียดินแดนอีกครั้ง ซึ่งในความคิดตน เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากมีการยืนยันอย่างชัดเจนว่า พื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม.เป็นของไทย ถ้าหากกัมพูชาไปฟ้องศาลโลก ไทยยืนยันในท่าทีของตัวเอง ทางกัมพูชาก็ไม่สามารถทำอะไรได้

นายชัชวาลย์ กล่าวเสริมประเด็นนี้ ว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศ ให้ข้อมูล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จนทำให้ไขว้เขวกันไปหมด โดยเฉพาะในพื้นที่ เท่าที่ตนทราบก็มีเจ้าหน้าที่ทหารรู้เห็นเป็นใจให้ทหารกัมพูชาตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว เนื่องจากมีการนำของไปจำหน่าย อีกทั้งยังไปปลูกสร้างที่พักให้ทหารและประชาชนกัมพูชาอยู่ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนทางอ้อม

ต่อมา นายประพันธ์ กล่าวถึงประเด็น การเพิกถอนสิทธิ์ที่ดิน หมู่บ้าน และสนามกอล์ฟอัลไพน์ แอนด์สปอร์ตคลับ ว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตนมาตั้งแต่แรก หลังจากที่ตนได้รับข้อมูลจาก นายอนันต์ อนันตกูล เรื่องนี้ ตนได้เผยแพร่ออกไปให้สาธารณชนรับทราบ จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง เพราะเกี่ยวข้องกับบุคคลมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักหลายคน โดยจากเดิมที่ดินที่ถูกนำไปสร้างเป็นหมู่บ้าน และสนามกอล์ฟอัลไพน์ นั้น เจ้าของตัวจริงคือ คุณยายเนื่อง ที่ใจบุญ บริจาคที่ดินให้แก่วัดธรรมมิการาม ซึ่งระหว่างนั้นยังไม่มีแผนก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ บนที่ดินแปลงดังกล่าว ทางวัดจึงนำไปให้ชาวบ้านเช่าทำไร่ ทำนา ต่อมา นายเสนาะ เทียนทอง ใช้อำนาจหน้าที่ของตนเองในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสมัยนั้น ยักย้ายถ่ายเทจนได้ถือครองที่ดินดังกล่าว

นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นได้มีการนำไปปลูกสร้างเป็นหมู่บ้าน และสนามกอล์ฟอัลไพน์ และได้ขายให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในราคา 500 ล้านบาท พอเรื่องนี้เผยแพร่ไปสู่สาธารณชน ทำให้ประชาชนออกมาเรียกร้องให้มีการนำที่ดินดังกล่าวถวายคืนแก่ทางวัด เนื่องจากเป็นที่ดินของสงฆ์ จากนั้น ในสมัย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยในสมัยดังกล่าว ได้มีการใช้อำนาจหน้าที่ช่วยเหลือนักการเมือง ไม่ให้มีการทวงคืนที่ดินแปลงนี้ได้สำเร็จ

นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ในทางกฏหมาย สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านและเป็นสมาชิกสนามกอล์ฟดังกล่าว ต้องไปไล่เบี้ยกันเอง ถ้าหากมีการเพิกถอนสิทธิ์ที่ดิน โดยผู้รับโอนไม่ถือสิทธิ์ได้เปรียบกว่าผู้โอน จึงต้องไล่ตามขั้นตอน ตั้งแต่แรกว่าใครเป็นคนซื้อที่ดินแปลงนี้มา แล้วขายต่อให้แก่ใคร

ต่อมา น.ส.อัญชะลี กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาเรียกร้องให้เปิดคลิปเสียงตัดต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายรัฐมนตรี ในที่ประชุมสภา ซึ่ง นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ได้ใช้ความเก๋าทางการเมือง ถ่วงเวลาจน ร.ต.อ.เฉลิม หงุดหงิด โดย น.ส.อัญชะลี กล่าวว่า วันนี้บรรยากาศการประชุมสภาค่อนข้างดุเดือด เนื่องจากเกิดการโต้คารมกันระหว่าง ร.ต.อ.เฉลิม กับ นายอภิสิทธิ์ ในกรณีคลิปเสียงตัดต่อ ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม แสดงความยียวนและเจ้าเล่ห์ อภิปรายพุ่งประเด็นไปที่ เสียงในคลิปดังกล่าวเป็นของนายกรัฐมนตรีจริงหรือไม่ โดย นายอภิสิทธิ์ ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่าเป็นเสียงของตนจริง แต่ต้องระบุให้ชัดว่าเป็นการตัดต่อคลิปเสียง อีกทั้งเรียกร้องให้ ร.ต.อ.เฉลิม เลิกหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาโจมตีอีก เนื่องจากเป็นเรื่องไร้สาระ หากมีคนอื่นตัดต่อคลิปเสียงหาว่า ร.ต.อ.เฉลิม เป็นหมาจะรู้สึกอย่างไร ทันทีที่ ร.ต.อ.เฉลิม ได้ยินก็ลุกขึ้นตอบโต้ด้วยความโมโห ต่อว่านายกรัฐมนตรีว่า ดีแต่เป็นลูกผู้ดี ถูกตามใจจนนิสัยเสีย

ต่อจากนั้น น.ส.อัญชะลี กล่าวต่อถึงประเด็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทวิสเตอร์มาถึง นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ในโอกาสที่ในวันพรุ่งนี้ (4 ก.ย.) จะต้องเดินทางไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อเบิกความคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว มูลค่า 76,000 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย ให้ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากทรัพย์สินที่ได้มาเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม โดยเนื้อหาในทวิสเตอร์รำพึงรำพันถึงความรักและห่วงใยในตัวบุตรชายคนเดียว อีกทั้งยังยืนยันว่า ทรัพย์สินทุกอย่างได้อย่างสุจริตและบริสุทธิ์ ยุติธรรม ดังนั้น จึงขอให้ นายพานทองแท้ สู้เพื่อความถูกต้อง

น.ส.อัญชะลี กล่าวต่อว่า จากนั้น นายพานทองแท้ ได้ทวิตเตอร์ตอบกลับไปหาผู้เป็นบิดาว่า ตื่นเต้นนิดหน่อยที่จะเดินทางไปขึ้นศาลในวันพรุ่งนี้ เพราะไม่ค่อยได้เจอผู้คนมากหน้าหลายตา แต่จะทำให้ดีที่สุด ขอให้บิดาไม่ต้องกังวลใดๆ

จากนั้น ในช่วงสนทนาได้มีการเชิญ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขึ้นเวทีเพื่อร่วมพูดถึงบทบาททางการเมือง ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีหญิงที่สร้างผลงานให้แก่กระทรวงมากมาย โดย คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า ตนเป็นคนอีสาน และภาคภูมิใจที่ได้นำความรู้ ความสามารถที่มีอยู่มาทำประโยชน์ให้แก่สังคม ซึ่งการรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถือว่าตรงกับใจและความถนัดของตนเอง ทั้งนี้ เมื่อวันรับตำแหน่ง นายอภิสิทธิ์ ได้มอบนโยบายและกล่าวกับตนว่า อยากเห็นกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มีบทบาทใน 2 เรื่อง คือ 1.ช่วยให้ประชาชนรู้จักใช้หลักเหตุและผลในการตัดสินใจแก้ปัญหา มากกว่าหลักไสยศาสตร์ ที่พิสูจน์ความจริงไม่ได้ อีกทั้ง อยากให้สนับสนุนเยาวชนในด้านวิทยาศาสตร์ เพื่อเพิ่มจำนวนบุคลากรด้านนี้ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ และ2.อยากเห็นความเชื่อมโยงในการนำหลักการทางวิทยาศาสตร์ มาสร้างมูลค่าทางด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดความคิดในเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งจะนำไปสู่การต่อยอดราคาของสินค้าได้

คุณหญิงกัลยา กล่าวต่อถึงกรณีตัดต่อคลิปเสียง นายอภิสิทธิ์ ว่า กรณีนี้ เพื่อความชัดเจน ตนขอนำภาพที่แสดงคลื่นเสียงมาอธิบายในรายการ ซึ่งโดยปกติแล้วเสียงของคนเราจะไม่สม่ำเสมอกัน เพราะมีการพูดเสียงสูง เสียงต่ำ แต่คลื่นเสียงในคลิปตัดต่อ เห็นได้ชัดเจนว่า คลื่นเสียงราบเรียบ เสมอกัน มีการนำคำพูดบางคำของนายกรัฐมนตรีมาตัดต่อ เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด แต่เป็นการกระทำที่ไม่แนบเนียน เนื่องจากมีพิรุธหลายอย่างให้จับได้ มีทั้งคำพูดซ้ำๆ หลายครั้ง หรือจะเป็นการขยายช่องเสียงด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น เรื่องนี้สามารถยืนยันได้ทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้นักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ถึง 7 คน เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งปัจจุบันมีความชัดเจนแล้ว ว่าเป็นคลิปเสียงตัดต่อ
กำลังโหลดความคิดเห็น