ASTVผู้จัดการรายวัน- "ลิ่วล้อแม้ว" เล่นเกมสกปรก ตัดต่อเสียงนายกฯ สั่งทหารลุยม็อบเสื้อแดงช่วงสงกรานต์ เพื่อสร้างความชอบธรรมในการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน "มาร์ค" เชื่อตัวการเป็นคนในเครือข่าย"อดีตนายกฯ" สร้างความปั่นป่วน เตือนพวกชอบ"ฟอร์เวิร์ด" ผิดกฎหมายด้วย "เทพไท" ยันสร้าวงหลักฐานเท็จตัดต่อคลิปหวังใส่ร้ายนากยกฯ พัชรวาทเร่งตรวจสอบ ด้านสันติบาลเต้นสั่งกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบแล้ว "วอลล์เปเปอร์"โชว์กราฟคลื่นเสียง ยันตัดต่อชัด แฉบริษัทใกล้ชิด"นช.แม้ว" ตัวการส่งต่อเมล "ไอ้ตู่" ไขสือทำไม่รู้เห็น แหลบอกเห็นใจนายกฯ ภาวนาขอให้เป็นการตัดต่อ ยันไม่นำไปใช้โจมตีในวันชุมนุมใหญ่
จากกรณี สถานีดีสเตชั่น นำคลิปเสียงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม เมือเดือนเม.ย. ที่ผ่านมาเพื่อรัฐบาลจะได้มีความชอบธรรมในการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มาเผยแพร่ และต่อมามีผู้นำมาส่งต่อต่อทางอีเมล รวมทั้งมีการ เผยแพร่ตามเว็บไซต์ต่างๆ โดยเฉพาะเว็บไซต์ ในเครือข่ายของกลุ่มคนเสื้อแดง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้ฟังเสียงดังกล่าวแล้ว และชัดเจนว่าเป็นการตัดต่อ คนที่ทำมีเจตนาที่จะทำร้ายบ้านเมืองอย่างชัดเจน เพราะต้องการยั่วยุให้เกิดความเข้าใจผิด ทำให้เกิดความรุนแรง และอยากจะบอกว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะมีการใช้เทคโนโลยีในการตัดต่อ และมีการเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายที่ว่าด้วย คอมพิวเตอร์ จึงอยากจะขอเตือน เพราะหลายคนอาจจะไม่มีเจตนา แต่มีการส่งคลิปกันต่อๆไป ตรงนี้จะเป็นความผิดตามกฏหมายด้วย และหากมีการนำเอาคลิปเสียงไปเปิดบนเวทีคนเสื้อแดง ถ้าเวทีคนเสื้อแดงทำ ก็แสดงว่ามีเจตนา ก็จะมีความผิดด้วย
" ทุกคนที่รู้จักผม จะทราบดีว่านโยบายที่ผมใช้ในการแก้ไขปัญหาการชุมนุม ความไม่สงบต่างๆ อยู่บนหลักของกฎหมายในการเคารพสิทธิเสรีภาพอย่างชัดเจน และเหนือสิ่งอื่นใดโดยส่วนตัวของผมเองแล้ว ไม่ต้องการที่จะเห็นการทำร้ายใครทั้งสิ้น และนอกจากที่จะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นตอ และคนที่เผยแพร่ จะเป็นวัตถุประสงค์อะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้น หรือเพื่อจะช่วยเหลือคดีของคนที่ตนฟ้องอยู่ อยากจะเตือนว่า ตรงนี้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จะต้องถูกดำเนินการ ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลัง หากจับได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นเรื่องที่จะต้องไม่เกิดขึ้นไม่ว่ากับใครก็ตาม"
**ต้นตอเป็นคนในเครือข่ายแม้ว
อย่างไรก็ตาม ตนจะต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องนี้ และถ้าพิสูจน์ได้ หลายคนต้องรับผิดชอบ
"เท่าที่ทราบ คนที่เผยแพร่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองบ้าง อยู่กับเครือข่ายบริษัทของอดีตนายกฯ บ้าง กับคนที่ทำนั้น ก็กำลังดูข้อกฎหมายอยู่ เพราะมีกฎหมายเฉพาะตรงนี้อยู่ แหล่งที่มาของคนที่ปล่อยคลิปนั้นจริงๆ ก็มีที่อยู่ของคนที่ปล่อยเป็นคนแรก ตามลูกโซ่ของมัน ซึ่งก็ต้องไปตรวจสอบ และต้องให้ความเป็นธรรมกับเขา" นายกรัฐมนตรีกล่าว และว่าจะนัด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. มาหารือ เพื่อให้ไปทำความเข้าใจกับกลุ่มที่จะมาชุมนุม โดยเฉพาะ อยากให้ไปเจรจาเงื่อนไขของการชุมนุม เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจว่า ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น โดยการเจรจานั้นคงจะต้องมีการนัดว่า จะไปเจรจากับใคร
เมื่อถามว่าการดำเนินการฟ้องร้องกับคนที่ทำต้องหาจนถึงต้นตอเลยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ที่จริงแล้วในเรื่องแง่ความผิดที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ คนที่ทำก็มีความผิด คนที่เผยแพร่ก็มีความผิด ตรงนี้ก็จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการและเวลานี้กำลังปรึกษากับทางฝ่ายกฎหมายอยู่
" หากเป็นเรื่องโดยส่วนตัวที่เอาเสียงผมมาเผยแพร่นั้น ผมยอมรับว่าเป็นเสียงผม โดยเป็นการรวบรวมมาจากหลายๆที่ และเท่าที่ฟังดูสังเกตว่า เสียงข้างหลัง และระดับเสียงจะไม่เท่ากัน เพราะผมไม่เคยพูดอะไรอย่างนั้นอยู่แล้ว ไม่อยากจะเชื่อว่า จะมีการใช้วิธีที่สกปรก และเป็นวิธีการที่ล่อแหลมที่ต่อการทำให้เกิดความวุ่นวาย ความรุนแรงในบ้านเมือง ผมคิดว่าอยากจะดำเนินการทางกฏหมายกับคนที่ทำ" นายกรัฐมนตรีกล่าว
**จวกไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม หากยังมีความพยายามทำในลักษณะใต้ดินอย่างนี้เพิ่มเรื่อยๆ ก็จะเป็นตัวบ่งชี้ว่า ถ้าคนที่ทำไปเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนที่มาชุมนุม ก็อยากจะบอกว่า วิธีนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยเลย การใส่ความ การตัดต่อ การพยายามที่จะสร้างเงื่อนไขเพื่อนำไปสู่ความรุนแรง ไม่ใช่ประชาธิปไตย ตนหวังว่าผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เขาไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ใครที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ต้องรู้ว่าตัวเองไม่ใช่นักประชาธิปไตย และทำผิดกฎหมาย และเรื่องนี้ยังอยู่ในวิสัยที่รัฐบาลยังรับมือได้
เมื่อถามว่าทางกระทรวงไอซีที จะเข้ามาดำเนินการอย่างไรได้บ้าง นายกฯ กล่าวว่า คงเกี่ยวข้องด้วยน้อยมาก เพราะการผลิตคงไม่ยากจนเกินไปในแง่การตัดต่อ และการส่งเป็นอีเมล์ต่อๆ ก็ไม่ยากแต่เป็นความผิดทางกฏหมายที่ระบุชัดเจน
**ชี้แผนชั่วหวังดิสเครดิตรัฐบาล
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กำลังให้เจ้าหน้าที่ไปรวบรวมมาให้ และมีรายงานว่าเนื้อหาในคลิปที่นายกฯพูด ไม่ใช่เนื้อหาที่เป็นจริง เป็นเรื่องตลกร้าย นายกฯไม่เคยได้พูดจาอะไรอย่างนั้น เนื่องจากเดี๋ยวนี้มีเทคนิคตัดต่อ ต้องหาผู้เชี่ยวชาญ ต้องเอามาดูว่าใครจะช่วยได้ เพราะตนไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนไตร่ตรองใช้วิจารณญาณ ต้องมีสติ หนักแน่น จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดี ที่พยายามดิสเครดิตรัฐบาล พยายามทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย
หากฝ่ายค้านจะนำคลิปเสียงดังกล่าวมาใช้ในการอภิปรายนายกฯในสภา นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่หน้าที่รัฐบาล ต้องเป็นหน้าที่รับผิดชอบของ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ส่วนตัวคิดว่า เป็นคลิปที่ผิดกฎหมายอยู่แล้ว
**ใช้ กม.คอมพิวเตอร์เอาผิดคนส่งต่อ
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังจากได้ฟังเสียงจากคลิปดังกล่าวว่า ตัดต่อได้ร้ายมาก ตนยืนยันว่า ต้องมีการตัดต่อ มีเจตนามาเผยแพร่เพื่อทำให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งการพูดในลักษณะเช่นนี้ เป็นการพูดโดยใครก็น่าจะทราบ
" เรื่องนี้ได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ นิติวิทยาศาสตร์เข้าไปตรวจสอบอยู่ เพราะต้องดูอย่างเป็นทางการ และ ต้องใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์เสียง ส่วนการใช้ทีมงานของรัฐเข้าไปตรวจสอบ จะเชื่อถือได้มากแค่ไหน อยู่ที่ว่า เราใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์เสียงที่เชื่อถือได้หรือไม่ ถ้าเชื่อถือได้ มันก็เชื่อถือได้ และเข้าใจว่า เครื่องวิเคราะห์เสียง มีของบริษัทเอกชนอยู่ด้วย และ ถ้าเข้าไปดูในเว็บไซต์ พันทิพย์ มีคนทำวิเคราะห์เสียงแล้ว"
ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดง ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ก็คิดอยู่แล้วว่าจะต้องปฏิเสธ ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะถ้าวิเคราะห์เสียงได้ ก็สามารถตามที่มาที่ไปของมันได้ ต้องจัดการโดยเร็ว เพราะไม่อย่างนั้นจะมีการนำไปขยายผลแน่นอน อาจจะในสภาด้วยซ้ำ และ มีการขยายผลข้างนอกด้วย โดยเนื้อหามันชัดมาก ว่าเป็นการผูกโยง ที่จะสร้างเงื่อนไขให้เห็นว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 11-12 เม.ย. เป็นความโกรธแค้นส่วนตัว เป็นการสั่งการให้ใช้ความรุนแรง ซึ่งมันข้ดแย้งโดยสิ้นเชิงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หลังวันที่ 12 เม.ย.
ผู้สื่อข่าวถามว่า อาจมีความเป็นไปได้ว่า คนที่ไม่รู้กฎหมายอาจนำคลิปนี้ไปเผยแพร่ต่อ นายสาทิตย์ กล่าวว่า อันนี้อันตราย ในพ.ร.บ.การกระทำความผิดคอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ... ในกรณีที่มีการดัดแปลงทางคอมพิวเตอร์ กรณี เสียง ถ้ามีการบันทึกด้วยคอมพิวเตอร์ จะเป็นข้อมูลบุคคล และเมื่อมีการนำไปดัดแปลงแล้วทำให้เขาเกิดความเสียงหาย และมีการเผยแพร่ออกไป ไม่ว่าจะเป็นการเผยแพร่ในรูปแบบใดก็ตาม เช่น ถ้ามีการส่งอีเมล์ไป แล้วมีการส่งต่อ คนที่ส่งต่อจะมีความผิด เพราะมีการดำเนินการในสิ่งที่ผิดแล้วมีการขยายต่อ แต่คนที่ได้รับอีเมล์แล้วเปิด โดยที่ตัวเองไม่ได้ส่งต่อ คนนั้นไม่ผิด แต่คนที่ส่งต่อให้เพื่อนผิด อันนี้ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง ซึ่งเรื่องของการฟ้องร้องหมิ่นประมาท และ ความผิดทางอาญา อยู่ที่นายกรัฐมนตรี จะดำเนินการ
** "ชวน"การันตี"มาร์ค"ไม่ทำ
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นคลิปหรือข้อความที่ระบุว่านายกฯ สั่งการทหารให้ใช้ความรุนแรง เพื่อให้เกิดความชอบธรรมในการประกาศใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ขอรับประกันว่า นายกฯ ไม่ใช่คนอย่างนั้น เพราะตนรู้จักมานาน และไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับการปล่อยคลิปดังกล่าว เพราะเชื่อว่าเป็นวิธีการหนึ่งในหลายวิธีที่ทำมาตลอดเวลา เพื่อสร้างสถานการณ์ และเงื่อนไขให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวาย ตนคิดว่าคนที่ทำเรื่องนี้คงไม่ได้สนใจอะไร และคงทำอะไรได้ทุกอย่าง รวมถึงสามารถโกหกได้ เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล
"ผมว่าคนส่วนใหญ่น่าจะเข้าใจ แม้จะไม่ทั้งหมด มันไม่มีทางเป็นไปได้ สำหรับท่านนายกรัฐมนตรี ที่จะพูดอะไรหยาบคายหรือพูดอย่างนั้น อย่าว่าแต่ชีวิตการเมืองเลย ชีวิตธรรมดาทั่วๆไป เราก็ไม่เคยได้ยิน” นายชวนกล่าว
**สร้างหลักฐานเท็จใส่ร้ายนายกฯ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เป็นการพยายามสร้างหลักฐาน เพื่อใส่ร้ายนายกฯ ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. ก็มีการใส่ร้ายนายกฯว่าไม่ได้นั่งอยู่ในรถที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อหาความผิดให้กับรัฐบาลที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คือ
1. เป็นการกระทำที่รุนแรงจนเป็นเหตุให้ประชาชนล้มตาย และจากที่ฟังเสียงพบว่า นายกฯ พูดในที่สาธารณะ และเชื่อว่าพูดในวันที่ 13 เม.ย.
2. คำพูดในคลิป หากเป็นคนที่มีสติสัมปชัญญะ ก็จะไม่พูดในลักษณะเช่นนี้แน่นอน
3.โดยธรรมชาตินายกฯไม่มีบุคลิกแบบนี้ ไม่นิยมใช้ความรุนแรง
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการกล่าวโทษ เพราะเรื่องดังกล่าวมีความผิดตามพ.ร.บ. ว่าด้วยวการกระทำความผิดคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
**"พัชรวาท"สั่งตรวจสอบคลิปเสียง
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวว่า นายกฯได้มอบหมายให้ตนรับผิดชอบเรื่องนี้ แต่ตนไม่เคยฟัง จึงต้องนำคลิปนี้ไปฟังใหม่อีกครั้งว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีระบุว่า คลิปนี้เป็นการตัดต่อ จะสาวไปยังต้นตอได้หรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ขอเวลาหน่อย ส่วนจะให้หน่วยงานไหนตรวจสอบนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ต้องหารือกับฝ่ายกฎหมาย
เมื่อถามว่า หากกลุ่มคนเสื้อแดงนำคลิปนี้ไปเปิดบนเวทีการชุมนุมในวันที่ 30 ส.ค.จะดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ต้องระวังเหมือนกัน เพราะหากนายกฯไม่ได้พูดจริงอาจผิดกฎหมายได้ อย่างไรก็ตาม ต้องไปศึกษากฎหมายก่อน ส่วนเรื่องนี้ละเอียดอ่อนอาจจะนำไปสู่การปลุกระดมได้ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ตนเข้าใจ และกลัวเรื่องนี้อยู่แล้ว และจะพยายามแก้ไข
**สันติบาลพบเผยแพร่ครั้งแรกที่อุดรฯ
พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) กล่าวว่า ทราบว่า คลิปเสียงดังกล่าว พบมีการเผยแพร่ครั้งแรกที่ จ.อุดรธานี จึงได้สั่งการในสันติบาลในพื้นที่ จ.อุดรธานี ตรวจสอบที่มาที่ไปแล้ว รวมทั้งสันติบาลในส่วนอื่นๆ ด้วย
ทั้งนี้ ตนได้ฟังคลิปเสียงดังกล่าวแล้ว และได้ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ โดยได้ส่งกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจไปตรวจสอบ ซึ่งการตรวจสอบต้องมีการนำเสียงของตัวจริง มาเปรียบเทียบกับเสียงในคลิป ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ ทราบว่าจะต้องให้ตัวจริงมาพูดในคำพูดเดียวกัน เรื่องราวเดียวกัน เพื่อเปรียบเทียบการสั่นสะเทือนของเสียง ถ้าผลมาเหมือนกัน อยู่ในระดับเดียวกัน คือ เสียงของคนเดียวกัน เช่นเดียวกับประเด็นว่า เป็นการตัดต่อหรือไม่ ก็ต้องตรวจสอบทางเทคนิค โดยผู้เชี่ยวชาญต้องพิจารณาว่ากองพิสูจน์หลักฐาน สามารถตรวจได้เอง หรือต้องส่งไปต่างประเทศ
"ยังบอกไม่ได้ว่าการตรวจสอบทางเทคนิค จะได้ผลเมื่อไร แต่การตรวจสอบที่มาที่ไป คงได้ในเร็ววันนี้" พล.ต.ท.ธีระเดช กล่าว
**โชว์กราฟคลื่นเสียงยันตัดต่อคลิป
นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี ได้นำภาพคลื่นเสียงที่อ้างว่าได้ผ่านการตรวจสอบจากโปรแกรมสำเร็จรูป sonysound forge จำนวน 2 แผ่น มาให้กับผู้สื่อข่าวดู โดยแผ่นหนึ่งเป็นกราฟคลื่นเสียงการพูดของคนปกติ และอีกแผ่นหนึ่งเป็นกราฟคลื่นเสียงจากคลิป ที่กลุ่มคนเสื้อแดงอ้างว่าเป็นเสียงของนายกฯ ที่สั่งให้ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม
นายศิริโชคกล่าวว่า หลังจากที่ได้ตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป sonysound forge จะพบว่ามีการตัดต่อ 100% เพราะเสียงพูดของคนปกติทั่วไป กราฟคลื่นเสียงจะมีลักษณะเริ่มจากหัวเสียง หางเสียง และมีช่วงเว้นหายใจ แต่จากภาพกราฟคลื่นเสียงที่อ้างว่าเป็นของนายกฯ พบว่าเส้นกราฟคลื่นเสียงไม่มีหัวเสียง แต่มาเริ่มที่หางเสียงเลย มีลักษณะโดนหั่น มีรอยตัด และการเชื่อมต่อของเสียงจะไม่มีการเฟด เหมือนลักษณะแตงกวาเป็นชิ้น ตอนเอามีดไปตัด เป็นแว่นๆ โดยเฉพาะช่วงที่สั่งให้ใช้ความรุนแรงจะเห็นชัดเจนว่า ไม่มีช่วงเริ่มต้นของคลื่นเสียง แต่มาเริ่มที่ช่วงกลางเสียงเลย และไม่มีช่วงเว้นหายใจด้วย จึงเหมือนกับการตัดมาแปะเฉยๆ ซึ่งหลักฐานชิ้นนี้สามารถนำไปพิสูจน์ในศาลได้ด้วย เพราะเป็นการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ กองพิสูจน์หลักฐานก็ได้ผลสอบออกมาในลักษณะเดียวกันว่า เป็นลักษณะการตัดต่อ
"โปรแกรมการตัดต่อ คนทำมีฝีมือพอใช้ได้ คนฟังอาจคล้อยตาม แต่ถ้าดูคลื่นเสียงแล้ว จะเห็นว่าตัดต่อแน่นอน ซึ่งเข้าข่ายความผิดต่อรัฐ สามารถนำไปก่อจลาจลได้ และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะหาคนผิดมาลงโทษได้ ซึ่งจากการตรวจสอบจากการฟอร์เวอร์ดเมล์กันมา พบว่ามีบริษัทที่ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นหนึ่งในบริษัทที่ฟอร์เวอร์ดเมล ดังกล่าว"
**"ไอ้ตู่"แหลเห็นใจ"มาร์ค"ถูกปล่อยคลิป
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ว่า ได้ฟังมาหลายวันแล้ว แต่พยายามไม่เชื่อ และเห็นใจผู้ที่ถูกอ้างว่าเป็นเจ้าของเสียง จึงพยายามไม่พูด อีกทั้งยังภาวนาให้เป็นการตัดต่อ เพราะถ้าเป็นเรื่องจริง ก็ถือว่าไม่ใช่นายกรัฐมนตรีแล้ว เป็นเพียงสัตว์นรกกระหายเลือด นั่งในตำแหน่งนายกฯ ต่อไปไม่ได้ และรัฐบาลชุดนี้ก็อยู่ต่อไปไม่ได้ เพราะเป็นยิ่งกว่าฆาตกรมือเปื้อนเลือด
อย่างไรก็ตาม ต้องมีการพิสูจน์ก่อน ขอให้สบายใจได้ว่าคนเสื้อแดง จะไม่นำเรื่องนี้มาปรักปรำ หรือเคลื่อนไหวโจมตี แต่นายกรัฐมนตรีเองก็ควรย้อนไปดูว่า เคยพูดอะไรไว้บ้าง มีศัตรูอยู่ที่ไหน โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย และจากการให้สัมภาษณ์ของนายกฯ ล่าสุดก็ไม่ได้ปฏิเสธว่า เป็นเสียงตัวเอง ระบุว่าเป็นการตัดต่อ ส่วนตัวฟังแล้วเห็นว่า ถ้าเป็นการตัดต่อจริงก็ทำได้เนียนมาก ไม่น่าจะเป็นการตัดต่อทั้งหมด และการพูด น่าจะเป็นในคราวเดียวกัน
**ส.ว.รับคลิปเสียงนายกฯ ไว้ตรวจสอบ
พล.ต.ต.สุเทพ สุขสงวน ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการรวบรวมเหตุการณ์การชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง แถลงว่า คณะอนุกรรมการฯ ได้รับซีดีบันทึกเสียงของนายอภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นการพูดในช่วงที่มีเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อช่วงกลางเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา เมื่อใครได้ยินก็รู้ว่าเป็นเรื่องใหญ่ คณะอนุกรรมการฯจะรับเรื่องนี้ไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า เสียงพูดที่ได้ยินนั้น เป็นการตัดต่อ หรือเป็นการพูดจริงๆ โดยคณะอนุกรรมการฯจะเชิญนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนมาให้ปากคำด้วย
ด้านนายเฉลิมชัย อุฬารกุล ในฐานะอนุกรรมการฯ กล่าวว่า เสียงที่ได้ยินจากซีดีนั้นชัดเจนว่า เป็นเสียงของนายกรัฐมนตรี แต่ทั้งหมดจะเป็นการตัดต่อหรือไม่ ต้องมีการตรวจสอบทางวิทยาศาตร์ เบื้องต้นกรรมการหลายคนเชื่อว่า น่าจะเป็นการตัดต่อ
อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการฯ จะนำเรื่องนี้เสนอต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองชุดใหญ่ ในวันจันทร์ที่ 31 ส.ค. ว่าจะดำเนินการตรวจสอบต่อไปอย่างไร
ขณะที่ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รองประธานคณะอนุกรรมการฯ กล่าวว่า เรื่องนี้อาจมีผลต่อบุคคลหลายฝ่าย อาจจะก่อให้เกิดความรุนแรงอื่นตามมา ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ จะเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ เพื่อตรวจสอบต่อไป
สำหรับซีดีนี้ ตนเป็นคนนำมาให้คณะอนุกรรมการฯเอง ตนได้รับซีดีนี้ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. เวลา 20.00 น. มีคนขี่มอเตอร์ไซค์มาให้ที่บ้านของตน ซึ่งเมื่อเอามาเปิดดูแล้ว จึงทราบว่าเป็นเสียงบันทึกของนายกรัฐมนตรี
จากกรณี สถานีดีสเตชั่น นำคลิปเสียงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม เมือเดือนเม.ย. ที่ผ่านมาเพื่อรัฐบาลจะได้มีความชอบธรรมในการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มาเผยแพร่ และต่อมามีผู้นำมาส่งต่อต่อทางอีเมล รวมทั้งมีการ เผยแพร่ตามเว็บไซต์ต่างๆ โดยเฉพาะเว็บไซต์ ในเครือข่ายของกลุ่มคนเสื้อแดง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้ฟังเสียงดังกล่าวแล้ว และชัดเจนว่าเป็นการตัดต่อ คนที่ทำมีเจตนาที่จะทำร้ายบ้านเมืองอย่างชัดเจน เพราะต้องการยั่วยุให้เกิดความเข้าใจผิด ทำให้เกิดความรุนแรง และอยากจะบอกว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะมีการใช้เทคโนโลยีในการตัดต่อ และมีการเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายที่ว่าด้วย คอมพิวเตอร์ จึงอยากจะขอเตือน เพราะหลายคนอาจจะไม่มีเจตนา แต่มีการส่งคลิปกันต่อๆไป ตรงนี้จะเป็นความผิดตามกฏหมายด้วย และหากมีการนำเอาคลิปเสียงไปเปิดบนเวทีคนเสื้อแดง ถ้าเวทีคนเสื้อแดงทำ ก็แสดงว่ามีเจตนา ก็จะมีความผิดด้วย
" ทุกคนที่รู้จักผม จะทราบดีว่านโยบายที่ผมใช้ในการแก้ไขปัญหาการชุมนุม ความไม่สงบต่างๆ อยู่บนหลักของกฎหมายในการเคารพสิทธิเสรีภาพอย่างชัดเจน และเหนือสิ่งอื่นใดโดยส่วนตัวของผมเองแล้ว ไม่ต้องการที่จะเห็นการทำร้ายใครทั้งสิ้น และนอกจากที่จะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นตอ และคนที่เผยแพร่ จะเป็นวัตถุประสงค์อะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้น หรือเพื่อจะช่วยเหลือคดีของคนที่ตนฟ้องอยู่ อยากจะเตือนว่า ตรงนี้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จะต้องถูกดำเนินการ ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลัง หากจับได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นเรื่องที่จะต้องไม่เกิดขึ้นไม่ว่ากับใครก็ตาม"
**ต้นตอเป็นคนในเครือข่ายแม้ว
อย่างไรก็ตาม ตนจะต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องนี้ และถ้าพิสูจน์ได้ หลายคนต้องรับผิดชอบ
"เท่าที่ทราบ คนที่เผยแพร่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองบ้าง อยู่กับเครือข่ายบริษัทของอดีตนายกฯ บ้าง กับคนที่ทำนั้น ก็กำลังดูข้อกฎหมายอยู่ เพราะมีกฎหมายเฉพาะตรงนี้อยู่ แหล่งที่มาของคนที่ปล่อยคลิปนั้นจริงๆ ก็มีที่อยู่ของคนที่ปล่อยเป็นคนแรก ตามลูกโซ่ของมัน ซึ่งก็ต้องไปตรวจสอบ และต้องให้ความเป็นธรรมกับเขา" นายกรัฐมนตรีกล่าว และว่าจะนัด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. มาหารือ เพื่อให้ไปทำความเข้าใจกับกลุ่มที่จะมาชุมนุม โดยเฉพาะ อยากให้ไปเจรจาเงื่อนไขของการชุมนุม เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจว่า ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น โดยการเจรจานั้นคงจะต้องมีการนัดว่า จะไปเจรจากับใคร
เมื่อถามว่าการดำเนินการฟ้องร้องกับคนที่ทำต้องหาจนถึงต้นตอเลยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ที่จริงแล้วในเรื่องแง่ความผิดที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ คนที่ทำก็มีความผิด คนที่เผยแพร่ก็มีความผิด ตรงนี้ก็จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการและเวลานี้กำลังปรึกษากับทางฝ่ายกฎหมายอยู่
" หากเป็นเรื่องโดยส่วนตัวที่เอาเสียงผมมาเผยแพร่นั้น ผมยอมรับว่าเป็นเสียงผม โดยเป็นการรวบรวมมาจากหลายๆที่ และเท่าที่ฟังดูสังเกตว่า เสียงข้างหลัง และระดับเสียงจะไม่เท่ากัน เพราะผมไม่เคยพูดอะไรอย่างนั้นอยู่แล้ว ไม่อยากจะเชื่อว่า จะมีการใช้วิธีที่สกปรก และเป็นวิธีการที่ล่อแหลมที่ต่อการทำให้เกิดความวุ่นวาย ความรุนแรงในบ้านเมือง ผมคิดว่าอยากจะดำเนินการทางกฏหมายกับคนที่ทำ" นายกรัฐมนตรีกล่าว
**จวกไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม หากยังมีความพยายามทำในลักษณะใต้ดินอย่างนี้เพิ่มเรื่อยๆ ก็จะเป็นตัวบ่งชี้ว่า ถ้าคนที่ทำไปเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนที่มาชุมนุม ก็อยากจะบอกว่า วิธีนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยเลย การใส่ความ การตัดต่อ การพยายามที่จะสร้างเงื่อนไขเพื่อนำไปสู่ความรุนแรง ไม่ใช่ประชาธิปไตย ตนหวังว่าผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เขาไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ใครที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ต้องรู้ว่าตัวเองไม่ใช่นักประชาธิปไตย และทำผิดกฎหมาย และเรื่องนี้ยังอยู่ในวิสัยที่รัฐบาลยังรับมือได้
เมื่อถามว่าทางกระทรวงไอซีที จะเข้ามาดำเนินการอย่างไรได้บ้าง นายกฯ กล่าวว่า คงเกี่ยวข้องด้วยน้อยมาก เพราะการผลิตคงไม่ยากจนเกินไปในแง่การตัดต่อ และการส่งเป็นอีเมล์ต่อๆ ก็ไม่ยากแต่เป็นความผิดทางกฏหมายที่ระบุชัดเจน
**ชี้แผนชั่วหวังดิสเครดิตรัฐบาล
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กำลังให้เจ้าหน้าที่ไปรวบรวมมาให้ และมีรายงานว่าเนื้อหาในคลิปที่นายกฯพูด ไม่ใช่เนื้อหาที่เป็นจริง เป็นเรื่องตลกร้าย นายกฯไม่เคยได้พูดจาอะไรอย่างนั้น เนื่องจากเดี๋ยวนี้มีเทคนิคตัดต่อ ต้องหาผู้เชี่ยวชาญ ต้องเอามาดูว่าใครจะช่วยได้ เพราะตนไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนไตร่ตรองใช้วิจารณญาณ ต้องมีสติ หนักแน่น จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดี ที่พยายามดิสเครดิตรัฐบาล พยายามทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย
หากฝ่ายค้านจะนำคลิปเสียงดังกล่าวมาใช้ในการอภิปรายนายกฯในสภา นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่หน้าที่รัฐบาล ต้องเป็นหน้าที่รับผิดชอบของ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ส่วนตัวคิดว่า เป็นคลิปที่ผิดกฎหมายอยู่แล้ว
**ใช้ กม.คอมพิวเตอร์เอาผิดคนส่งต่อ
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังจากได้ฟังเสียงจากคลิปดังกล่าวว่า ตัดต่อได้ร้ายมาก ตนยืนยันว่า ต้องมีการตัดต่อ มีเจตนามาเผยแพร่เพื่อทำให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งการพูดในลักษณะเช่นนี้ เป็นการพูดโดยใครก็น่าจะทราบ
" เรื่องนี้ได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ นิติวิทยาศาสตร์เข้าไปตรวจสอบอยู่ เพราะต้องดูอย่างเป็นทางการ และ ต้องใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์เสียง ส่วนการใช้ทีมงานของรัฐเข้าไปตรวจสอบ จะเชื่อถือได้มากแค่ไหน อยู่ที่ว่า เราใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์เสียงที่เชื่อถือได้หรือไม่ ถ้าเชื่อถือได้ มันก็เชื่อถือได้ และเข้าใจว่า เครื่องวิเคราะห์เสียง มีของบริษัทเอกชนอยู่ด้วย และ ถ้าเข้าไปดูในเว็บไซต์ พันทิพย์ มีคนทำวิเคราะห์เสียงแล้ว"
ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดง ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ก็คิดอยู่แล้วว่าจะต้องปฏิเสธ ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะถ้าวิเคราะห์เสียงได้ ก็สามารถตามที่มาที่ไปของมันได้ ต้องจัดการโดยเร็ว เพราะไม่อย่างนั้นจะมีการนำไปขยายผลแน่นอน อาจจะในสภาด้วยซ้ำ และ มีการขยายผลข้างนอกด้วย โดยเนื้อหามันชัดมาก ว่าเป็นการผูกโยง ที่จะสร้างเงื่อนไขให้เห็นว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 11-12 เม.ย. เป็นความโกรธแค้นส่วนตัว เป็นการสั่งการให้ใช้ความรุนแรง ซึ่งมันข้ดแย้งโดยสิ้นเชิงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หลังวันที่ 12 เม.ย.
ผู้สื่อข่าวถามว่า อาจมีความเป็นไปได้ว่า คนที่ไม่รู้กฎหมายอาจนำคลิปนี้ไปเผยแพร่ต่อ นายสาทิตย์ กล่าวว่า อันนี้อันตราย ในพ.ร.บ.การกระทำความผิดคอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ... ในกรณีที่มีการดัดแปลงทางคอมพิวเตอร์ กรณี เสียง ถ้ามีการบันทึกด้วยคอมพิวเตอร์ จะเป็นข้อมูลบุคคล และเมื่อมีการนำไปดัดแปลงแล้วทำให้เขาเกิดความเสียงหาย และมีการเผยแพร่ออกไป ไม่ว่าจะเป็นการเผยแพร่ในรูปแบบใดก็ตาม เช่น ถ้ามีการส่งอีเมล์ไป แล้วมีการส่งต่อ คนที่ส่งต่อจะมีความผิด เพราะมีการดำเนินการในสิ่งที่ผิดแล้วมีการขยายต่อ แต่คนที่ได้รับอีเมล์แล้วเปิด โดยที่ตัวเองไม่ได้ส่งต่อ คนนั้นไม่ผิด แต่คนที่ส่งต่อให้เพื่อนผิด อันนี้ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง ซึ่งเรื่องของการฟ้องร้องหมิ่นประมาท และ ความผิดทางอาญา อยู่ที่นายกรัฐมนตรี จะดำเนินการ
** "ชวน"การันตี"มาร์ค"ไม่ทำ
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นคลิปหรือข้อความที่ระบุว่านายกฯ สั่งการทหารให้ใช้ความรุนแรง เพื่อให้เกิดความชอบธรรมในการประกาศใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ขอรับประกันว่า นายกฯ ไม่ใช่คนอย่างนั้น เพราะตนรู้จักมานาน และไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับการปล่อยคลิปดังกล่าว เพราะเชื่อว่าเป็นวิธีการหนึ่งในหลายวิธีที่ทำมาตลอดเวลา เพื่อสร้างสถานการณ์ และเงื่อนไขให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวาย ตนคิดว่าคนที่ทำเรื่องนี้คงไม่ได้สนใจอะไร และคงทำอะไรได้ทุกอย่าง รวมถึงสามารถโกหกได้ เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล
"ผมว่าคนส่วนใหญ่น่าจะเข้าใจ แม้จะไม่ทั้งหมด มันไม่มีทางเป็นไปได้ สำหรับท่านนายกรัฐมนตรี ที่จะพูดอะไรหยาบคายหรือพูดอย่างนั้น อย่าว่าแต่ชีวิตการเมืองเลย ชีวิตธรรมดาทั่วๆไป เราก็ไม่เคยได้ยิน” นายชวนกล่าว
**สร้างหลักฐานเท็จใส่ร้ายนายกฯ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เป็นการพยายามสร้างหลักฐาน เพื่อใส่ร้ายนายกฯ ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. ก็มีการใส่ร้ายนายกฯว่าไม่ได้นั่งอยู่ในรถที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อหาความผิดให้กับรัฐบาลที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คือ
1. เป็นการกระทำที่รุนแรงจนเป็นเหตุให้ประชาชนล้มตาย และจากที่ฟังเสียงพบว่า นายกฯ พูดในที่สาธารณะ และเชื่อว่าพูดในวันที่ 13 เม.ย.
2. คำพูดในคลิป หากเป็นคนที่มีสติสัมปชัญญะ ก็จะไม่พูดในลักษณะเช่นนี้แน่นอน
3.โดยธรรมชาตินายกฯไม่มีบุคลิกแบบนี้ ไม่นิยมใช้ความรุนแรง
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการกล่าวโทษ เพราะเรื่องดังกล่าวมีความผิดตามพ.ร.บ. ว่าด้วยวการกระทำความผิดคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
**"พัชรวาท"สั่งตรวจสอบคลิปเสียง
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวว่า นายกฯได้มอบหมายให้ตนรับผิดชอบเรื่องนี้ แต่ตนไม่เคยฟัง จึงต้องนำคลิปนี้ไปฟังใหม่อีกครั้งว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีระบุว่า คลิปนี้เป็นการตัดต่อ จะสาวไปยังต้นตอได้หรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ขอเวลาหน่อย ส่วนจะให้หน่วยงานไหนตรวจสอบนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ต้องหารือกับฝ่ายกฎหมาย
เมื่อถามว่า หากกลุ่มคนเสื้อแดงนำคลิปนี้ไปเปิดบนเวทีการชุมนุมในวันที่ 30 ส.ค.จะดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ต้องระวังเหมือนกัน เพราะหากนายกฯไม่ได้พูดจริงอาจผิดกฎหมายได้ อย่างไรก็ตาม ต้องไปศึกษากฎหมายก่อน ส่วนเรื่องนี้ละเอียดอ่อนอาจจะนำไปสู่การปลุกระดมได้ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ตนเข้าใจ และกลัวเรื่องนี้อยู่แล้ว และจะพยายามแก้ไข
**สันติบาลพบเผยแพร่ครั้งแรกที่อุดรฯ
พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) กล่าวว่า ทราบว่า คลิปเสียงดังกล่าว พบมีการเผยแพร่ครั้งแรกที่ จ.อุดรธานี จึงได้สั่งการในสันติบาลในพื้นที่ จ.อุดรธานี ตรวจสอบที่มาที่ไปแล้ว รวมทั้งสันติบาลในส่วนอื่นๆ ด้วย
ทั้งนี้ ตนได้ฟังคลิปเสียงดังกล่าวแล้ว และได้ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ โดยได้ส่งกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจไปตรวจสอบ ซึ่งการตรวจสอบต้องมีการนำเสียงของตัวจริง มาเปรียบเทียบกับเสียงในคลิป ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ ทราบว่าจะต้องให้ตัวจริงมาพูดในคำพูดเดียวกัน เรื่องราวเดียวกัน เพื่อเปรียบเทียบการสั่นสะเทือนของเสียง ถ้าผลมาเหมือนกัน อยู่ในระดับเดียวกัน คือ เสียงของคนเดียวกัน เช่นเดียวกับประเด็นว่า เป็นการตัดต่อหรือไม่ ก็ต้องตรวจสอบทางเทคนิค โดยผู้เชี่ยวชาญต้องพิจารณาว่ากองพิสูจน์หลักฐาน สามารถตรวจได้เอง หรือต้องส่งไปต่างประเทศ
"ยังบอกไม่ได้ว่าการตรวจสอบทางเทคนิค จะได้ผลเมื่อไร แต่การตรวจสอบที่มาที่ไป คงได้ในเร็ววันนี้" พล.ต.ท.ธีระเดช กล่าว
**โชว์กราฟคลื่นเสียงยันตัดต่อคลิป
นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี ได้นำภาพคลื่นเสียงที่อ้างว่าได้ผ่านการตรวจสอบจากโปรแกรมสำเร็จรูป sonysound forge จำนวน 2 แผ่น มาให้กับผู้สื่อข่าวดู โดยแผ่นหนึ่งเป็นกราฟคลื่นเสียงการพูดของคนปกติ และอีกแผ่นหนึ่งเป็นกราฟคลื่นเสียงจากคลิป ที่กลุ่มคนเสื้อแดงอ้างว่าเป็นเสียงของนายกฯ ที่สั่งให้ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม
นายศิริโชคกล่าวว่า หลังจากที่ได้ตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป sonysound forge จะพบว่ามีการตัดต่อ 100% เพราะเสียงพูดของคนปกติทั่วไป กราฟคลื่นเสียงจะมีลักษณะเริ่มจากหัวเสียง หางเสียง และมีช่วงเว้นหายใจ แต่จากภาพกราฟคลื่นเสียงที่อ้างว่าเป็นของนายกฯ พบว่าเส้นกราฟคลื่นเสียงไม่มีหัวเสียง แต่มาเริ่มที่หางเสียงเลย มีลักษณะโดนหั่น มีรอยตัด และการเชื่อมต่อของเสียงจะไม่มีการเฟด เหมือนลักษณะแตงกวาเป็นชิ้น ตอนเอามีดไปตัด เป็นแว่นๆ โดยเฉพาะช่วงที่สั่งให้ใช้ความรุนแรงจะเห็นชัดเจนว่า ไม่มีช่วงเริ่มต้นของคลื่นเสียง แต่มาเริ่มที่ช่วงกลางเสียงเลย และไม่มีช่วงเว้นหายใจด้วย จึงเหมือนกับการตัดมาแปะเฉยๆ ซึ่งหลักฐานชิ้นนี้สามารถนำไปพิสูจน์ในศาลได้ด้วย เพราะเป็นการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ กองพิสูจน์หลักฐานก็ได้ผลสอบออกมาในลักษณะเดียวกันว่า เป็นลักษณะการตัดต่อ
"โปรแกรมการตัดต่อ คนทำมีฝีมือพอใช้ได้ คนฟังอาจคล้อยตาม แต่ถ้าดูคลื่นเสียงแล้ว จะเห็นว่าตัดต่อแน่นอน ซึ่งเข้าข่ายความผิดต่อรัฐ สามารถนำไปก่อจลาจลได้ และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะหาคนผิดมาลงโทษได้ ซึ่งจากการตรวจสอบจากการฟอร์เวอร์ดเมล์กันมา พบว่ามีบริษัทที่ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นหนึ่งในบริษัทที่ฟอร์เวอร์ดเมล ดังกล่าว"
**"ไอ้ตู่"แหลเห็นใจ"มาร์ค"ถูกปล่อยคลิป
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ว่า ได้ฟังมาหลายวันแล้ว แต่พยายามไม่เชื่อ และเห็นใจผู้ที่ถูกอ้างว่าเป็นเจ้าของเสียง จึงพยายามไม่พูด อีกทั้งยังภาวนาให้เป็นการตัดต่อ เพราะถ้าเป็นเรื่องจริง ก็ถือว่าไม่ใช่นายกรัฐมนตรีแล้ว เป็นเพียงสัตว์นรกกระหายเลือด นั่งในตำแหน่งนายกฯ ต่อไปไม่ได้ และรัฐบาลชุดนี้ก็อยู่ต่อไปไม่ได้ เพราะเป็นยิ่งกว่าฆาตกรมือเปื้อนเลือด
อย่างไรก็ตาม ต้องมีการพิสูจน์ก่อน ขอให้สบายใจได้ว่าคนเสื้อแดง จะไม่นำเรื่องนี้มาปรักปรำ หรือเคลื่อนไหวโจมตี แต่นายกรัฐมนตรีเองก็ควรย้อนไปดูว่า เคยพูดอะไรไว้บ้าง มีศัตรูอยู่ที่ไหน โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย และจากการให้สัมภาษณ์ของนายกฯ ล่าสุดก็ไม่ได้ปฏิเสธว่า เป็นเสียงตัวเอง ระบุว่าเป็นการตัดต่อ ส่วนตัวฟังแล้วเห็นว่า ถ้าเป็นการตัดต่อจริงก็ทำได้เนียนมาก ไม่น่าจะเป็นการตัดต่อทั้งหมด และการพูด น่าจะเป็นในคราวเดียวกัน
**ส.ว.รับคลิปเสียงนายกฯ ไว้ตรวจสอบ
พล.ต.ต.สุเทพ สุขสงวน ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการรวบรวมเหตุการณ์การชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง แถลงว่า คณะอนุกรรมการฯ ได้รับซีดีบันทึกเสียงของนายอภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นการพูดในช่วงที่มีเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อช่วงกลางเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา เมื่อใครได้ยินก็รู้ว่าเป็นเรื่องใหญ่ คณะอนุกรรมการฯจะรับเรื่องนี้ไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า เสียงพูดที่ได้ยินนั้น เป็นการตัดต่อ หรือเป็นการพูดจริงๆ โดยคณะอนุกรรมการฯจะเชิญนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนมาให้ปากคำด้วย
ด้านนายเฉลิมชัย อุฬารกุล ในฐานะอนุกรรมการฯ กล่าวว่า เสียงที่ได้ยินจากซีดีนั้นชัดเจนว่า เป็นเสียงของนายกรัฐมนตรี แต่ทั้งหมดจะเป็นการตัดต่อหรือไม่ ต้องมีการตรวจสอบทางวิทยาศาตร์ เบื้องต้นกรรมการหลายคนเชื่อว่า น่าจะเป็นการตัดต่อ
อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการฯ จะนำเรื่องนี้เสนอต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองชุดใหญ่ ในวันจันทร์ที่ 31 ส.ค. ว่าจะดำเนินการตรวจสอบต่อไปอย่างไร
ขณะที่ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รองประธานคณะอนุกรรมการฯ กล่าวว่า เรื่องนี้อาจมีผลต่อบุคคลหลายฝ่าย อาจจะก่อให้เกิดความรุนแรงอื่นตามมา ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ จะเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ เพื่อตรวจสอบต่อไป
สำหรับซีดีนี้ ตนเป็นคนนำมาให้คณะอนุกรรมการฯเอง ตนได้รับซีดีนี้ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. เวลา 20.00 น. มีคนขี่มอเตอร์ไซค์มาให้ที่บ้านของตน ซึ่งเมื่อเอามาเปิดดูแล้ว จึงทราบว่าเป็นเสียงบันทึกของนายกรัฐมนตรี
