ตำรวจนครบาลซื้อเครื่องแอลแรด ที่มีอานุภาพบีบแก้วหูจนผู้ชุมนุมไม่สามารถทนได้ไหว มาใช้รวม 4 เครื่อง เผยเครื่องใหญ่ 2 เครื่องๆ ละ 2 ล้าน เครื่องเล็ก 2 เครื่องๆ ละ 7 แสน เผยเหตุ “วรัญชัย” หางจุกตูด เผ่นออกจากหน้าบ้านป๋า หลังไปรวมตัวจับกลุ่มก่อกวน ด้วยกิตติศัพท์ “มือปราบหูดำ” สั่งการผ่านโทรศัพท์ถึง ผกก.สน.สามเสนให้ไล่จอมป่วนออกนอกพื้นที่บ้านป๋า ไม่เช่นนั้นจะไปไล่เอง จนตัวตัวต้องรีบเผ่น
วันนี้ (26 ส.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวภายในกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้เรียกนายตำรวจระดับ รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงและดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยและ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) เข้ารายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบระบุว่า สถานการณ์โดยรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเหตุการณ์ปกติไม่มีการรวมตัวของกลุ่มคนเสื้อแดงแต่งชุดดำแต่อย่างใด
ส่วนที่บริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ซึ่งเป็นบ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นไปด้วยความเงียบเหงาไม่มีผู้ชุมนุมมาเคลื่อนไหว มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 100 นายตรึงกำลังอยู่หน้าบ้านพักและพื้นที่โดยรอบอย่างแน่นหนามีการนำแผงเหล็กมาปิดกั้นพื้นที่บริเวณประตูทางเข้าหน้าบ้าน รวมถึงชุดปฏิบัติการ “ปะฉะดะ” ได้ออกตรวจความสงบเรียบร้อยพื้นที่ถนนพญาไท ราชวิถี พิษณุโลก ที่คาดว่าจะใช้เป็นเส้นทางในการเคลื่อนขบวนแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ
สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยครั้งนี้ ผบช.น.มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิชัย เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ควบคุมสั่งการกำลังพลบริเวณหน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ และพื้นที่เขตดุสิตทั้งหมด ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่มีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่เขตดุสิต ใช้กำลังจำนวน 2 กองร้อย 300 นายจากชุดปราบปรามจราจล เตรียมการ ณ ที่ตั้ง ชุดเคลื่อนที่เร็ว บก.น.1 ท้องที่ สน.นางเลิ้ง สน.สามเสน สน.ชนะสงคราม และ สน.ดุสิต และฝ่ายสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบ คุมเข้มพื้นที่อย่างแน่นหนา
ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. มีกลุ่มเคลื่อนไหวของนายวรัญชัย โชคชนะ พร้อมพวกประมาณ 10 คนเดินทางมาบริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ พร้อมตะโกนขับไล่ พล.อ.เปรม และต้องการยื่นหนังสือข้อเรียกร้อง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องไว้แทน ระหว่างนั้น พ.ต.อ. สรเสริญ ใช้สถิตย์ ผกก.สน.สามเสน ได้รายงานสถานการณ์ไปยัง พล.ต.ต.วิชัย ให้รับทราบ ทำให้ พล.ต.ต.วิชัย ฉุนเฉียวและสั่งให้ ผกก.ไปไล่นายวรัญชัยออกไปจากบริเวณดังกล่าวภายใน 10 นาทีทันที มิฉะนั้นจะออกมาจัดการด้วยตัวเอง เมื่อได้ยินดังนั้นนายวรัญชัย ถึงกับหวาดกลัวเพราะกิตติศักดิ์ฉายามือปราบหูดำของ พล.ต.ต.วิชัย จึงชักชวนพรรคพวกที่มาด้วยสลายตัวในที่สุด
พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึง สถานการณ์ในภาพรวมบริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์วันนี้ว่า ไม่มีปัญหาอะไรมีผู้ชุมนุมบางกลุ่มทำกิจกรรมเพียงเล็กน้อยระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น และยังไม่มีรายงานผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวในจุดอื่นๆ ส่วนการดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยบริเวณดังกล่าวนั้นยังคงใช้กำลังตำรวจ 3 กองร้อย 450 นายผลัดเปลี่ยนกันดูแลอย่างต่อเนื่องเชื่อว่าไม่มีอะไรรุนแรง
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1 ) กล่าวว่า ได้รับการยืนยันจากนายสุพร อัตถาวงศ์ แกนนำผู้ชุมนุมเสื้อแดงว่า วันนี้จะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆและยังไม่มีการนัดหมายการมาชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาฯ และจากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากความเดิมที่กลุ่มของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิ.ย. จะเดินทางมาเคลื่อนไหวที่บ้านสี่เสาฯนั้นได้แจ้งยกเลิกแล้ว ดังนั้นสถานการณ์ขณะนี้อยู่ในความสงบเรียบไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแต่อย่างใด ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกหรือวิตกกังวลสามารถใช้เส้นทางการจราจรถนนพญาไทต่อเนื่องสี่เสาเทเวศรืและเส้นทางโดยรอบได้อย่างปกติ อย่างไรก็ตามหากมีการชุมนุมเกิดขึ้นตำรวจก็พร้อมควบคุมสถานการณ์และหากพบว่ากากระทำใดที่ผิดหรือขัดต่อกฎหมายจะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปฏิบัติในการดูแลความสงบเรียร้อยรักษาความปลอดภัยการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงวันที่ 30 ส.ค.นี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้นำเครื่องแอลแรด (LRAD) ที่ย่อมาจาก Long Range Acoustic Device นำมาใช้ในการควบคุมฝูงชน เป็นอุปกรณ์ส่งเสียงพูด เสียงที่บันทึกเป็น MP3/WMA ได้ระยะไกล 300 ถึง 3,000 เมตร กำหนดทิศทางของเสียงได้ หลังจากก่อนหน้านี้ประสบความล้มเหลวในการดูแลผู้ชุมนุมมาหลายครั้ง จนกลายเป็นเหตุบานปลายตั้งแต่เหตุการณ์ “7 ตุลา” เหตุการณ์"เสื้อแดงบุกหน้าบ้านป๋า" รวมถึงเหตุการณ์"สงกรานต์เดือด" ที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายในภาพรวมอย่างหนัก
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ตำรวจนครบาลจึงนำอุปกรณ์ชนิดนี้มาทดลองใช้อย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังจากที่เคยขอยืมหน่วยงานอื่นมาใช้ชั่วคราว เพราะเป็นเครื่องมือสากลที่ต่างประเทศใช้ในการควบคุมฝูงชนและสลายการชุมนุม และไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บถาวร ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน มีใช้แพร่หลายไปทั่วโลก โดยเครื่องดังกล่าวมีลักษณะคล้ายลำโพงขยายเสียง โดยใช้เพื่อประกาศ, เปิดเพลง, เจรจาต่อรอง ภารกิจจราจร และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรบกวนกลุ่มผู้ชุมนม โดยเครื่องที่ใช้มี 2 ขนาด ขนาดใหญ่ใช้กับเครื่องปั่นไฟ มีระยะส่งคลื่นเสียงประมาณ 3 กิโลเมตร มีราคา 2 ล้านบาท และขนาดเล็กใช้สำหรับติดตัว มีระยะส่งคลื่นเสียงประมาณ 300-500 เมตร มีราคา 7 แสนบาท ซึ่งทาง บช.น.ซื้อมาแล้ว 2 เครื่อง ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เพื่อใช้สำหรับการชุมนุม โดยมีหลายหน่วยงานซื้อใช้แล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ บช.น.เคยยืมเครื่องแอลแรดตัวใหญ่มาใช้ในการปฏิบัติภารกิจแล้ว 2 เครื่องและครั้งนี้เป็นการซื้อมาใช้เอง
ส่วนผลในการใช้เสียงสลายการชุมนุมของแอลแรด จะก่อให้เกิดเสียงความถี่สูงที่มีผลต่อโสตประสาทในลักษณะดังนี้ 1.โดยธรรมชาติของคน จะต้องเป็นห่วงสวัสดิภาพความปลอดภัยของตัวเองเป็นหลัก เมื่อได้ยินเสียงจะมีอาการเจ็บปวดแก้วหู จนต้องหลีกเลี่ยงให้พ้นแนวเสียง (บางรายอาจคลื่นไส้ อาเจียน) แต่จะหายสนิท เมื่อออกไปพ้นแนวทิศทางของเสียง 2.บางรายอาจหาวัสดุมาอุดหู ซึ่งสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดหูได้ในระยะหนึ่ง แต่ถ้าอยู่ในแนวคลื่นเสียงพิเศษเป็นเวลานานก็ไม่สามารถทนได้ นอกจากนี้ ผู้ที่อุดหูก็จะสูญเสียการได้ยินทั้งหมด ทั้งจากแกนนำของเขาเองและจากพรรคพวกของเขาที่อยู่รอบๆ ตัว
วันนี้ (26 ส.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวภายในกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้เรียกนายตำรวจระดับ รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงและดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยและ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) เข้ารายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบระบุว่า สถานการณ์โดยรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเหตุการณ์ปกติไม่มีการรวมตัวของกลุ่มคนเสื้อแดงแต่งชุดดำแต่อย่างใด
ส่วนที่บริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ซึ่งเป็นบ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นไปด้วยความเงียบเหงาไม่มีผู้ชุมนุมมาเคลื่อนไหว มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 100 นายตรึงกำลังอยู่หน้าบ้านพักและพื้นที่โดยรอบอย่างแน่นหนามีการนำแผงเหล็กมาปิดกั้นพื้นที่บริเวณประตูทางเข้าหน้าบ้าน รวมถึงชุดปฏิบัติการ “ปะฉะดะ” ได้ออกตรวจความสงบเรียบร้อยพื้นที่ถนนพญาไท ราชวิถี พิษณุโลก ที่คาดว่าจะใช้เป็นเส้นทางในการเคลื่อนขบวนแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ
สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยครั้งนี้ ผบช.น.มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิชัย เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ควบคุมสั่งการกำลังพลบริเวณหน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ และพื้นที่เขตดุสิตทั้งหมด ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่มีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่เขตดุสิต ใช้กำลังจำนวน 2 กองร้อย 300 นายจากชุดปราบปรามจราจล เตรียมการ ณ ที่ตั้ง ชุดเคลื่อนที่เร็ว บก.น.1 ท้องที่ สน.นางเลิ้ง สน.สามเสน สน.ชนะสงคราม และ สน.ดุสิต และฝ่ายสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบ คุมเข้มพื้นที่อย่างแน่นหนา
ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. มีกลุ่มเคลื่อนไหวของนายวรัญชัย โชคชนะ พร้อมพวกประมาณ 10 คนเดินทางมาบริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ พร้อมตะโกนขับไล่ พล.อ.เปรม และต้องการยื่นหนังสือข้อเรียกร้อง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องไว้แทน ระหว่างนั้น พ.ต.อ. สรเสริญ ใช้สถิตย์ ผกก.สน.สามเสน ได้รายงานสถานการณ์ไปยัง พล.ต.ต.วิชัย ให้รับทราบ ทำให้ พล.ต.ต.วิชัย ฉุนเฉียวและสั่งให้ ผกก.ไปไล่นายวรัญชัยออกไปจากบริเวณดังกล่าวภายใน 10 นาทีทันที มิฉะนั้นจะออกมาจัดการด้วยตัวเอง เมื่อได้ยินดังนั้นนายวรัญชัย ถึงกับหวาดกลัวเพราะกิตติศักดิ์ฉายามือปราบหูดำของ พล.ต.ต.วิชัย จึงชักชวนพรรคพวกที่มาด้วยสลายตัวในที่สุด
พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึง สถานการณ์ในภาพรวมบริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์วันนี้ว่า ไม่มีปัญหาอะไรมีผู้ชุมนุมบางกลุ่มทำกิจกรรมเพียงเล็กน้อยระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น และยังไม่มีรายงานผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวในจุดอื่นๆ ส่วนการดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยบริเวณดังกล่าวนั้นยังคงใช้กำลังตำรวจ 3 กองร้อย 450 นายผลัดเปลี่ยนกันดูแลอย่างต่อเนื่องเชื่อว่าไม่มีอะไรรุนแรง
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1 ) กล่าวว่า ได้รับการยืนยันจากนายสุพร อัตถาวงศ์ แกนนำผู้ชุมนุมเสื้อแดงว่า วันนี้จะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆและยังไม่มีการนัดหมายการมาชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาฯ และจากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากความเดิมที่กลุ่มของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิ.ย. จะเดินทางมาเคลื่อนไหวที่บ้านสี่เสาฯนั้นได้แจ้งยกเลิกแล้ว ดังนั้นสถานการณ์ขณะนี้อยู่ในความสงบเรียบไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแต่อย่างใด ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกหรือวิตกกังวลสามารถใช้เส้นทางการจราจรถนนพญาไทต่อเนื่องสี่เสาเทเวศรืและเส้นทางโดยรอบได้อย่างปกติ อย่างไรก็ตามหากมีการชุมนุมเกิดขึ้นตำรวจก็พร้อมควบคุมสถานการณ์และหากพบว่ากากระทำใดที่ผิดหรือขัดต่อกฎหมายจะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปฏิบัติในการดูแลความสงบเรียร้อยรักษาความปลอดภัยการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงวันที่ 30 ส.ค.นี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้นำเครื่องแอลแรด (LRAD) ที่ย่อมาจาก Long Range Acoustic Device นำมาใช้ในการควบคุมฝูงชน เป็นอุปกรณ์ส่งเสียงพูด เสียงที่บันทึกเป็น MP3/WMA ได้ระยะไกล 300 ถึง 3,000 เมตร กำหนดทิศทางของเสียงได้ หลังจากก่อนหน้านี้ประสบความล้มเหลวในการดูแลผู้ชุมนุมมาหลายครั้ง จนกลายเป็นเหตุบานปลายตั้งแต่เหตุการณ์ “7 ตุลา” เหตุการณ์"เสื้อแดงบุกหน้าบ้านป๋า" รวมถึงเหตุการณ์"สงกรานต์เดือด" ที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายในภาพรวมอย่างหนัก
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ตำรวจนครบาลจึงนำอุปกรณ์ชนิดนี้มาทดลองใช้อย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังจากที่เคยขอยืมหน่วยงานอื่นมาใช้ชั่วคราว เพราะเป็นเครื่องมือสากลที่ต่างประเทศใช้ในการควบคุมฝูงชนและสลายการชุมนุม และไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บถาวร ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน มีใช้แพร่หลายไปทั่วโลก โดยเครื่องดังกล่าวมีลักษณะคล้ายลำโพงขยายเสียง โดยใช้เพื่อประกาศ, เปิดเพลง, เจรจาต่อรอง ภารกิจจราจร และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรบกวนกลุ่มผู้ชุมนม โดยเครื่องที่ใช้มี 2 ขนาด ขนาดใหญ่ใช้กับเครื่องปั่นไฟ มีระยะส่งคลื่นเสียงประมาณ 3 กิโลเมตร มีราคา 2 ล้านบาท และขนาดเล็กใช้สำหรับติดตัว มีระยะส่งคลื่นเสียงประมาณ 300-500 เมตร มีราคา 7 แสนบาท ซึ่งทาง บช.น.ซื้อมาแล้ว 2 เครื่อง ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เพื่อใช้สำหรับการชุมนุม โดยมีหลายหน่วยงานซื้อใช้แล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ บช.น.เคยยืมเครื่องแอลแรดตัวใหญ่มาใช้ในการปฏิบัติภารกิจแล้ว 2 เครื่องและครั้งนี้เป็นการซื้อมาใช้เอง
ส่วนผลในการใช้เสียงสลายการชุมนุมของแอลแรด จะก่อให้เกิดเสียงความถี่สูงที่มีผลต่อโสตประสาทในลักษณะดังนี้ 1.โดยธรรมชาติของคน จะต้องเป็นห่วงสวัสดิภาพความปลอดภัยของตัวเองเป็นหลัก เมื่อได้ยินเสียงจะมีอาการเจ็บปวดแก้วหู จนต้องหลีกเลี่ยงให้พ้นแนวเสียง (บางรายอาจคลื่นไส้ อาเจียน) แต่จะหายสนิท เมื่อออกไปพ้นแนวทิศทางของเสียง 2.บางรายอาจหาวัสดุมาอุดหู ซึ่งสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดหูได้ในระยะหนึ่ง แต่ถ้าอยู่ในแนวคลื่นเสียงพิเศษเป็นเวลานานก็ไม่สามารถทนได้ นอกจากนี้ ผู้ที่อุดหูก็จะสูญเสียการได้ยินทั้งหมด ทั้งจากแกนนำของเขาเองและจากพรรคพวกของเขาที่อยู่รอบๆ ตัว