ASTV ผู้จัดการรายวัน - “เทพไท” ปูด “นช.แม้ว” ถูกยูเออีตะเพิด เหตุใช้เป็นฐานเคลื่อนไหวทางการเมือง ส่วนแก๊งเสื้อแดงแตกยับแบ่งเป็นก๊ก ด้าน “ทักษิณ” แสแสร้ง! โฟนอินสั่งห้ามเสื้อแดงชุมนุม 30 สิงหาฯ นี้ “วีระ” หน้ามืดเดินหน้าก่อม็อบป่วนประเทศต่อ “มาร์ค” ย้ำใช้ กม.ความมั่นคงคุมความสงบ ด้านตำรวจนครบาล เตรียมเครื่องเสียงบีบแก้วหูสลายม็อบแดง
แฉ “แม้ว” ถูกยูเออีตะเพิดพ้นประเทศ!
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สถานการณ์ต่างๆ ในประเทศกำลังดีขึ้นเชื่อว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่ต้องการให้รัฐบาลนี้แก้ปัญหาได้ โดยได้รับความร่วมมือจาก 3 ประสาน คือ 1.การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณจากนอกประเทศเข้ามาในประเทศ 2.ใช้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลในสภาฯ และ 3.ใช้การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง
อย่างไรก็ตาม ตนได้ตรวจสอบข้อมูลไปยังกระทรวงการต่างประเทศทราบว่า รัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เมืองดูไบเป็นที่เคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลไทย จึงขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกจากดูไบไปก่อน ซึ่งทราบว่าได้เดินทางออกไปอยู่ประเทศมอนเตเนโกรตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา
“พ.ต.ท.ทักษิณตีหลายหน้า ดูได้จากข้อความในเว็บไซต์ทวิตเตอร์อวยพรวันเกิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แต่ลับหลังกลับให้ลิ่วล้อกลับมาโจมตี โดยการให้คนเสื้อแดง และสมาชิกพรรคเพื่อไทยแต่งชุดดำในวันคล้ายวันเกิดของพล.อ.เปรม รวมทั้ง สั่งการให้เคลื่อนไหวไปชุมนุมหน้าบ้าน พล.อ.เปรมในวันที่ 30 ส.ค.นี้” นายเทพไท กล่าว
ทนายนักโทษปฏิเสธ “แม้ว” ถูกไล่
นายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ตนได้โทรศัพท์สอบถามจาก พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว ทราบว่าขณะนี้อยู่ในประเทศหนึ่งในทวีปแอฟริกา ยืนยันว่ารัฐบาลยูเออีไม่ได้ขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกนอกประเทศตามที่นายเทพไทกล่าวอ้าง แต่ยอมรับว่าเดินทางไปประเทศมอนเตเนโกรจริง และจะกลับมานอนค้างคืนที่ยูเออี 2 คืนก่อนที่จะเดินทางไปทวีปแอฟริกาตามคำเชิญของรัฐบาล 3 ประเทศในทวีปดังกล่าว เพื่อพูดคุยเรื่องการแก้ปัญหาความยากจน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณได้นำแนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปเผยแพร่ด้วย ส่วนจะเป็นประเทศใดบ้างนั้นตนไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้
ขณะที่ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวยืนยันว่าจะมีการชุมนุมในวันที่ 30 ส.ค.ตามกำหนดการเดิม
“แม้ว” ตีสองหน้า ทำทีเบรกม็อบ 30 สิงหาฯ
วันเดียวกัน นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ได้สัมภาษณ์สด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผ่านคลื่นแอฟเอ็ม 97.50 โดย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอ้างว่า ไม่เห็นด้วยหากคนเสื้อแดงจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯในวันที่ 30 ส.ค.นี้ เพื่อชุมนุม เพราะอาจทำให้ชาวบ้านได้รับอันตราย และตนรู้สึกซาบซึ้งที่ประชาชนร่วมกันถวายฎีกา ขอพระราชทานอภัยโทษ โดยได้พูดคุยกับนายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานกลุ่มคนเสื้อแดง ในเรื่องความเป็นห่วงชาวบ้านด้วย
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ขณะนี้ได้เดินทางไปทวีปแอฟริกาเพื่อดูความคืบหน้า การทำธุรกิจเหมืองเพชร และจะมีการเสนอแนวความคิดไร่นาสวนผสม และเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อให้ประเทศเหล่านั้นนำไปใช้พัฒนาประเทศอีกด้วย
“สุรชัย” แตกก๊กตั้งแก๊งไต่ราคา! 3 เกลอ
นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า ในช่วงของการทำสงครามเช่นนี้ นี่คือการปฏิวัติ มาถึงตอนนี้จึงไม่ไหวแล้ว เพราะ 3 เกลอกำลังพามวลชนออกนอกทางแล้ว การแสดงความเห็น ที่แตกต่างแล้วต้องออกมาตอบโต้ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ นั้นจึงไม่ควรทำ เนื่องจากการร้องขอ หมายถึงการปฏิรูป แต่เรามาถึงแนวของการปฏิวัติ มันแตกต่างกัน ที่กล่าวเช่นนี้ไม่ได้ว่าเราจะแตกแยก แต่มันเป็นความเห็นต่างกันเท่านั้น
นายสุรชัยกล่าวอีกว่า ได้มีการหารือกันแล้ว เรากำลังจะตั้งกลุ่มแดงขึ้นมาอีกกลุ่ม ซึ่งทาง 3 เกลอ ตั้งกลุ่มแดงทั้งแผ่นดิน ส่วนทางเรานั้นจะตั้งกลุ่ม แดงสยาม มาแข่งกันทำงานอีกแนวทาง
“มาร์ค” ใช้ กม.คุมความสงบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อต้องการให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่ได้ห้าม ไม่ให้มีการชุมนุม ทางผู้ชุมนุมถ้ายืนยันว่าจะเคลื่อนไหวด้วยความสงบ ก็ควรจะให้ความร่วมมือ เพราะมีความกังวลว่าจะมีมือที่3 สิ่งที่รัฐบาลทำไม่ได้ต่อต้าน การชุมนุม แต่เป็นการต้องการให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ส่วนจะเป็นเหตุให้เกิดการปลุกปั่นให้ประชาชนเข้าใจผิดหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขอความกรุณาเสนอข่าวสารให้ชัดเจนว่าการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เป็นการ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ ซึ่งไม่ได้บอกว่าเหตุจะเกิดจากใคร คิดว่า ถ้าทุกคนต้องการ ให้เกิดความสงบ ขอให้รัฐบาลได้ใช้เครื่องมือนี้ ส่วนผู้ชุมนุมก็ชุมนุมไป
ผู้สื่อข่าวถามว่ามือที่ 3 ทราบหรือไม่ว่าเป็นใคร นายอภิสิทธิ์หัวเราะก่อนจะตอบว่า มือที่ 3 ก็ไม่ใช่มือที่ 1 และมือที่ 2 ซึ่งรัฐบาลจะจับตาเป็นพิเศษกับทุกกลุ่ม เพราะมีความกังวลว่าการชุมนุมใหญ่ มันมีความละเอียดอ่อน
นายอภิสิทธิ์ปฏิเสธว่า รัฐบาลไม่ได้ตื่นตูม การชุมนุมเมื่อช่วงเดือนเมษายน ที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุการณ์แล้วทำให้เสียหายต่อบ้านเมืองมาก ไม่มีใครต้องการเห็นมันเกิดขึ้นอีก รัฐบาลก็มีหน้าที่ดูแล ส่วนสถานการณ์ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ตนก็ติดตามตลอดแต่ไม่มีอะไรบ่งชึ้ว่าจะเกิดความรุนแรง และถ้าจะมีการชุมนุมกันที่ท้องสนามหลวงเพื่อรอให้ถึงวันที่ 30 ส.ค.ก็ไม่เป็นไร ถ้าหากเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
เตรียมทหารรับมือม็อบถ่อย
วานนี้ (26) เมื่อเวลา 17.00 น.ที่กองบัญชาการกองทัพบก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เรียกประชุมเตรียมโครงสร้างการจัดกำลังพลของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย โดยมีนายสุเทพเป็นผู้อำนวยการศูนย์ นอกจากนี้ ที่ประชุมหารือถึงร่างคำสั่งที่จะประกาศหากมีเหตุการณ์รุนแรงที่จะใช้กำลังเจ้าหน้าที่และประกาศใช้ข้อบังคับในพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรที่ประกาศใช้ในพื้นที่เขตดุสิต กรุงเทพฯ เพื่อที่จะนำเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรีในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ โดยมีผู้ร่วมประชุมอาทิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขานุการ กอ.รมน. พล.ท. คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งที่ประชุมมีการประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั้วโมง 30 นาที
โดยสำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยจะใช้แผนรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน กทม. ซึ่งเบื้องต้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้ พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ รองผู้บัญชาการทหารบก และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก และ พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 รับผิดชอบในการจัดกำลังสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเบื้องต้นได้เตรียมกำลังไว้ในที่ตั้งจำนวน 21 กองร้อย ตามแผนเดิมที่เคยใช้มาก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ยังได้จัดกำลังทหารไปดูแลรักษาความปลอดที่บ้านพัก พล.อ.เปรม ด้วย โดยมีการจัดกำลังจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ จำนวน 2 กองร้อย กองพันทหารสารวัตรที่ 11 (พัน.สห.11) จำนวน 1 หมวด หรือ ประมาณ 50 คน ขณะเดียวกันยังมีการเตรียมกำลังจากกองร้อยรักษาความสงบ จากกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11) จำนวน 2 กองร้อยเพื่อเตรียมความพร้อมหากเกิดกรณีการสลายฝูงชน
ปชป.ปูดมีมือที่ 3 จ้องล้มรัฐบาล
นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 30 ส.ค. ขอเตือนว่าจะมีมือที่ 3 คอยก่อกวน ตามที่นายกรัฐมนตรีระบุไว้จริง เพราะจากการที่ตนเช็คข่าวจากทุกทิศพบว่า กลุ่มมือที่ 3 ที่จะมาป่วนนี้ กำลังซ่องสุมกำลังเตรียมการก่อกวนไว้เรียบร้อยแล้ว
โดยเป็นกลุ่มบุคคลที่ชอบแอบอ้างสถาบัน เพื่อจุดประสงค์สำคัญในการนำไปสู่การตั้งนายกรัฐมนตรีรักษาการ และอ้างเหตุผลของความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง แต่คงไม่ใช่เป็นการปฏิวัติ เป็นการปฏิวัติเงียบที่กลุ่มคนเหล่านี้ จะใช้ความไม่สงบดังกล่าวเสนอและผลักดันให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ไปเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระราชทานนายกรัฐมนตรีรักษาการ ทั้งนี้เพราะมีความต้องการที่จะตัดพรรคประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์ออกจากการเป็นรัฐบาล ยืนยันว่าสิ่งที่ตนพูดทั้งหมดนั้นตนยินดีรับผิดชอบทุกคำพูด
กองทัพจวกแต่งดำวันเกิดป๋าไม่เหมาะ
พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กล่าวถึงการที่กลุ่มคนเสื้อแดง แต่งชุดดำในวันคล้ายวันเกิด พล.อ.เปรม เพื่อต่อต้านว่า “ผมอยากถามสื่อมวลชนว่า ดีหรือไม่ดี ประเทศไทยมีจารีตขนบธรรมเนียมประเพณีเคารพนับถือและให้เกียรติผู้หลักผู้ใหญ่ การกระทำใดๆ ที่ไม่สมควรก็อย่าไปทำ เราเป็นแบบนี้มา 5 ปีแล้วจะให้สถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นแบบนี้ไปอีก 20 ปีหรือ 100 ปี ประเทศไทยมีกฎหมาย มีระบบรัฐสภา และกระบวน การยุติธรรม จะทำให้บ้านเมืองเสียหายไปทำไม ผมไม่ทราบเจตนาการเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่ามีเงื่อนไขอะไร แต่อยากให้คนไทยทุกคน ร่วมกันพัฒนาทำสิ่งที่สร้างสรรค์”
อย่างไรก็ตาม พล.อ.เปรม ไม่ได้ฝากให้ดูแลอะไรเป็นพิเศษ ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่เป็นประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เราจะต้องให้เกียรติท่านที่ทำคุณประโยชน์ ต่อแผ่นดินและประเทศชาติ ท่านเป็นปูชนียบุคคลของประเทศ รวมถึงเป็นนายกรัฐมนตรีมา 2 สมัยมีคุณความดีมาก สิ่งต่างๆ เหล่านี้อยากฝากถึงเยาวชนด้วยวิธีคิด เพราะสังคมจะอยู่ได้ต้องให้เกียรติผู้ใหญ่
ด้าน พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ กล่าวว่า พล.อ.เปรม ยังคงปฏิบัติภารกิจตามปกติ ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหว เพราะเคยผ่านสนามรบมาตั้งแต่ติดยศร้อยตรี ซึ่งหนักหนากว่านี้เยอะ
“วรัญชัย” เผ่นถูกมือปราบหูดำสั่งตะเพิด
วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ได้เรียกนายตำรวจระดับ รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงและดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยและ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เข้ารายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบระบุว่า สถานการณ์โดยรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
แต่ในเวลา 10.00 น. มีกลุ่มเคลื่อนไหวของนายวรัญชัย โชคชนะ พร้อมพวก 10 คนเดินทางมาบริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ พร้อมตะโกนขับไล่ พล.อ.เปรม และต้องการยื่นหนังสือข้อเรียกร้อง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องไว้แทน ระหว่างนั้น พ.ต.อ.สรรเสริญ ใช้สถิตย์ ผกก.สน.สามเสน ได้รายงานสถานการณ์ไปยัง พล.ต.ต.วิชัย ให้รับทราบ ทำให้ พล.ต.ต.วิชัย ฉุนเฉียวและสั่งให้ ผกก.ไปไล่นายวรัญชัยออกไปจากบริเวณดังกล่าวภายใน 10 นาทีทันที มิฉะนั้นจะออกมาจัดการด้วยตัวเอง เมื่อได้ยินดังนั้นนายวรัญชัยถึงกับหวาดกลัวเพราะกิตติศักดิ์ฉายามือปราบหูดำของ พล.ต.ต.วิชัย จึงชักชวนพรรคพวกที่มาด้วยสลายตัวในที่สุด
ซื้อเครื่องบีบหู รอสลายม็อบเสื้อแดง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปฏิบัติในการดูแลความสงบเรียร้อยรักษาความ ปลอดภัย การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงวันที่ 30 ส.ค.นี้ บช.น.ได้นำเครื่องแอลแรด (LRAD) ที่ย่อมาจาก Long Range Acoustic Device นำมาใช้ในการ ควบคุมฝูงชน เป็นอุปกรณ์ส่งเสียงพูด เสียงที่บันทึกเป็น MP3/WMA ได้ระยะไกล 300 ถึง 3,000 เมตร กำหนดทิศทางของเสียงได้ หลังจากก่อนหน้านี้ประสบความล้มเหลวในการดูแลผู้ชุมนุมมาหลายครั้ง ทำให้ บช.น.จึงนำเครื่องแอลแรด มาทดลองใช้อย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังจากที่เคยขอยืมหน่วยงานอื่นมาใช้ชั่วคราว เพราะเป็นเครื่องมือสากลที่ต่างประเทศใช้ในการควบคุมฝูงชนและสลายการชุมนุม และไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน มีใช้แพร่หลายไปทั่วโลก
โดยเครื่องดังกล่าวมีลักษณะคล้ายลำโพงขยายเสียง โดยใช้เพื่อประกาศ, เปิดเพลง, เจรจาต่อรอง ภารกิจจราจร และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อรบกวนกลุ่มผู้ชุมนม โดยเครื่องที่ใช้มี 2 ขนาด ขนาดใหญ่ใช้กับเครื่องปั่นไฟ มีระยะส่งคลื่นเสียงประมาณ 3 กิโลเมตร มีราคา 2 ล้านบาท และขนาดเล็กใช้สำหรับติดตัว มีระยะส่งคลื่นเสียงประมาณ 300-500 เมตร มีราคา 7 แสนบาท ซึ่งทาง บช.น.ซื้อมาแล้ว 2 เครื่อง ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เพื่อใช้สำหรับการชุมนุม โดยมีหลายหน่วยงานซื้อใช้แล้ว เช่นกัน
ทั้งนี้ การใช้เสียงสลายการชุมนุมของแอลแรด จะก่อให้เกิดเสียงความถี่สูงที่มีผลต่อโสตประสาทในลักษณะ ดังนี้ 1.โดยธรรมชาติของคนจะต้องเป็นห่วงสวัสดิภาพความปลอดภัยของตัวเองเป็นหลัก เมื่อได้ยินเสียงจะมีอาการเจ็บปวดแก้วหู จนต้องหลีกเลี่ยงให้พ้นแนวเสียง (บางรายอาจคลื่นไส้ อาเจียน) แต่จะหายสนิท เมื่อออกไปพ้นแนวทิศทางของเสียง
2.บางรายอาจหาวัสดุมาอุดหู ซึ่งสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดหูได้ในระยะหนึ่ง แต่ถ้าอยู่ในแนวคลื่นเสียงพิเศษเป็นเวลานานก็ไม่สามารถทนได้ นอกจากนี้ ผู้ที่อุดหูก็จะสูญเสียการได้ยินทั้งหมด
แฉ “แม้ว” ถูกยูเออีตะเพิดพ้นประเทศ!
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สถานการณ์ต่างๆ ในประเทศกำลังดีขึ้นเชื่อว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่ต้องการให้รัฐบาลนี้แก้ปัญหาได้ โดยได้รับความร่วมมือจาก 3 ประสาน คือ 1.การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณจากนอกประเทศเข้ามาในประเทศ 2.ใช้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลในสภาฯ และ 3.ใช้การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง
อย่างไรก็ตาม ตนได้ตรวจสอบข้อมูลไปยังกระทรวงการต่างประเทศทราบว่า รัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เมืองดูไบเป็นที่เคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลไทย จึงขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกจากดูไบไปก่อน ซึ่งทราบว่าได้เดินทางออกไปอยู่ประเทศมอนเตเนโกรตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา
“พ.ต.ท.ทักษิณตีหลายหน้า ดูได้จากข้อความในเว็บไซต์ทวิตเตอร์อวยพรวันเกิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แต่ลับหลังกลับให้ลิ่วล้อกลับมาโจมตี โดยการให้คนเสื้อแดง และสมาชิกพรรคเพื่อไทยแต่งชุดดำในวันคล้ายวันเกิดของพล.อ.เปรม รวมทั้ง สั่งการให้เคลื่อนไหวไปชุมนุมหน้าบ้าน พล.อ.เปรมในวันที่ 30 ส.ค.นี้” นายเทพไท กล่าว
ทนายนักโทษปฏิเสธ “แม้ว” ถูกไล่
นายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ตนได้โทรศัพท์สอบถามจาก พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว ทราบว่าขณะนี้อยู่ในประเทศหนึ่งในทวีปแอฟริกา ยืนยันว่ารัฐบาลยูเออีไม่ได้ขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกนอกประเทศตามที่นายเทพไทกล่าวอ้าง แต่ยอมรับว่าเดินทางไปประเทศมอนเตเนโกรจริง และจะกลับมานอนค้างคืนที่ยูเออี 2 คืนก่อนที่จะเดินทางไปทวีปแอฟริกาตามคำเชิญของรัฐบาล 3 ประเทศในทวีปดังกล่าว เพื่อพูดคุยเรื่องการแก้ปัญหาความยากจน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณได้นำแนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปเผยแพร่ด้วย ส่วนจะเป็นประเทศใดบ้างนั้นตนไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้
ขณะที่ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวยืนยันว่าจะมีการชุมนุมในวันที่ 30 ส.ค.ตามกำหนดการเดิม
“แม้ว” ตีสองหน้า ทำทีเบรกม็อบ 30 สิงหาฯ
วันเดียวกัน นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ได้สัมภาษณ์สด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผ่านคลื่นแอฟเอ็ม 97.50 โดย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอ้างว่า ไม่เห็นด้วยหากคนเสื้อแดงจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯในวันที่ 30 ส.ค.นี้ เพื่อชุมนุม เพราะอาจทำให้ชาวบ้านได้รับอันตราย และตนรู้สึกซาบซึ้งที่ประชาชนร่วมกันถวายฎีกา ขอพระราชทานอภัยโทษ โดยได้พูดคุยกับนายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานกลุ่มคนเสื้อแดง ในเรื่องความเป็นห่วงชาวบ้านด้วย
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ขณะนี้ได้เดินทางไปทวีปแอฟริกาเพื่อดูความคืบหน้า การทำธุรกิจเหมืองเพชร และจะมีการเสนอแนวความคิดไร่นาสวนผสม และเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อให้ประเทศเหล่านั้นนำไปใช้พัฒนาประเทศอีกด้วย
“สุรชัย” แตกก๊กตั้งแก๊งไต่ราคา! 3 เกลอ
นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า ในช่วงของการทำสงครามเช่นนี้ นี่คือการปฏิวัติ มาถึงตอนนี้จึงไม่ไหวแล้ว เพราะ 3 เกลอกำลังพามวลชนออกนอกทางแล้ว การแสดงความเห็น ที่แตกต่างแล้วต้องออกมาตอบโต้ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ นั้นจึงไม่ควรทำ เนื่องจากการร้องขอ หมายถึงการปฏิรูป แต่เรามาถึงแนวของการปฏิวัติ มันแตกต่างกัน ที่กล่าวเช่นนี้ไม่ได้ว่าเราจะแตกแยก แต่มันเป็นความเห็นต่างกันเท่านั้น
นายสุรชัยกล่าวอีกว่า ได้มีการหารือกันแล้ว เรากำลังจะตั้งกลุ่มแดงขึ้นมาอีกกลุ่ม ซึ่งทาง 3 เกลอ ตั้งกลุ่มแดงทั้งแผ่นดิน ส่วนทางเรานั้นจะตั้งกลุ่ม แดงสยาม มาแข่งกันทำงานอีกแนวทาง
“มาร์ค” ใช้ กม.คุมความสงบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อต้องการให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่ได้ห้าม ไม่ให้มีการชุมนุม ทางผู้ชุมนุมถ้ายืนยันว่าจะเคลื่อนไหวด้วยความสงบ ก็ควรจะให้ความร่วมมือ เพราะมีความกังวลว่าจะมีมือที่3 สิ่งที่รัฐบาลทำไม่ได้ต่อต้าน การชุมนุม แต่เป็นการต้องการให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ส่วนจะเป็นเหตุให้เกิดการปลุกปั่นให้ประชาชนเข้าใจผิดหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขอความกรุณาเสนอข่าวสารให้ชัดเจนว่าการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เป็นการ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ ซึ่งไม่ได้บอกว่าเหตุจะเกิดจากใคร คิดว่า ถ้าทุกคนต้องการ ให้เกิดความสงบ ขอให้รัฐบาลได้ใช้เครื่องมือนี้ ส่วนผู้ชุมนุมก็ชุมนุมไป
ผู้สื่อข่าวถามว่ามือที่ 3 ทราบหรือไม่ว่าเป็นใคร นายอภิสิทธิ์หัวเราะก่อนจะตอบว่า มือที่ 3 ก็ไม่ใช่มือที่ 1 และมือที่ 2 ซึ่งรัฐบาลจะจับตาเป็นพิเศษกับทุกกลุ่ม เพราะมีความกังวลว่าการชุมนุมใหญ่ มันมีความละเอียดอ่อน
นายอภิสิทธิ์ปฏิเสธว่า รัฐบาลไม่ได้ตื่นตูม การชุมนุมเมื่อช่วงเดือนเมษายน ที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุการณ์แล้วทำให้เสียหายต่อบ้านเมืองมาก ไม่มีใครต้องการเห็นมันเกิดขึ้นอีก รัฐบาลก็มีหน้าที่ดูแล ส่วนสถานการณ์ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ตนก็ติดตามตลอดแต่ไม่มีอะไรบ่งชึ้ว่าจะเกิดความรุนแรง และถ้าจะมีการชุมนุมกันที่ท้องสนามหลวงเพื่อรอให้ถึงวันที่ 30 ส.ค.ก็ไม่เป็นไร ถ้าหากเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
เตรียมทหารรับมือม็อบถ่อย
วานนี้ (26) เมื่อเวลา 17.00 น.ที่กองบัญชาการกองทัพบก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เรียกประชุมเตรียมโครงสร้างการจัดกำลังพลของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย โดยมีนายสุเทพเป็นผู้อำนวยการศูนย์ นอกจากนี้ ที่ประชุมหารือถึงร่างคำสั่งที่จะประกาศหากมีเหตุการณ์รุนแรงที่จะใช้กำลังเจ้าหน้าที่และประกาศใช้ข้อบังคับในพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรที่ประกาศใช้ในพื้นที่เขตดุสิต กรุงเทพฯ เพื่อที่จะนำเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรีในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ โดยมีผู้ร่วมประชุมอาทิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขานุการ กอ.รมน. พล.ท. คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งที่ประชุมมีการประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั้วโมง 30 นาที
โดยสำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยจะใช้แผนรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน กทม. ซึ่งเบื้องต้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้ พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ รองผู้บัญชาการทหารบก และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก และ พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 รับผิดชอบในการจัดกำลังสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเบื้องต้นได้เตรียมกำลังไว้ในที่ตั้งจำนวน 21 กองร้อย ตามแผนเดิมที่เคยใช้มาก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ยังได้จัดกำลังทหารไปดูแลรักษาความปลอดที่บ้านพัก พล.อ.เปรม ด้วย โดยมีการจัดกำลังจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ จำนวน 2 กองร้อย กองพันทหารสารวัตรที่ 11 (พัน.สห.11) จำนวน 1 หมวด หรือ ประมาณ 50 คน ขณะเดียวกันยังมีการเตรียมกำลังจากกองร้อยรักษาความสงบ จากกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11) จำนวน 2 กองร้อยเพื่อเตรียมความพร้อมหากเกิดกรณีการสลายฝูงชน
ปชป.ปูดมีมือที่ 3 จ้องล้มรัฐบาล
นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 30 ส.ค. ขอเตือนว่าจะมีมือที่ 3 คอยก่อกวน ตามที่นายกรัฐมนตรีระบุไว้จริง เพราะจากการที่ตนเช็คข่าวจากทุกทิศพบว่า กลุ่มมือที่ 3 ที่จะมาป่วนนี้ กำลังซ่องสุมกำลังเตรียมการก่อกวนไว้เรียบร้อยแล้ว
โดยเป็นกลุ่มบุคคลที่ชอบแอบอ้างสถาบัน เพื่อจุดประสงค์สำคัญในการนำไปสู่การตั้งนายกรัฐมนตรีรักษาการ และอ้างเหตุผลของความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง แต่คงไม่ใช่เป็นการปฏิวัติ เป็นการปฏิวัติเงียบที่กลุ่มคนเหล่านี้ จะใช้ความไม่สงบดังกล่าวเสนอและผลักดันให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ไปเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระราชทานนายกรัฐมนตรีรักษาการ ทั้งนี้เพราะมีความต้องการที่จะตัดพรรคประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์ออกจากการเป็นรัฐบาล ยืนยันว่าสิ่งที่ตนพูดทั้งหมดนั้นตนยินดีรับผิดชอบทุกคำพูด
กองทัพจวกแต่งดำวันเกิดป๋าไม่เหมาะ
พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กล่าวถึงการที่กลุ่มคนเสื้อแดง แต่งชุดดำในวันคล้ายวันเกิด พล.อ.เปรม เพื่อต่อต้านว่า “ผมอยากถามสื่อมวลชนว่า ดีหรือไม่ดี ประเทศไทยมีจารีตขนบธรรมเนียมประเพณีเคารพนับถือและให้เกียรติผู้หลักผู้ใหญ่ การกระทำใดๆ ที่ไม่สมควรก็อย่าไปทำ เราเป็นแบบนี้มา 5 ปีแล้วจะให้สถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นแบบนี้ไปอีก 20 ปีหรือ 100 ปี ประเทศไทยมีกฎหมาย มีระบบรัฐสภา และกระบวน การยุติธรรม จะทำให้บ้านเมืองเสียหายไปทำไม ผมไม่ทราบเจตนาการเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่ามีเงื่อนไขอะไร แต่อยากให้คนไทยทุกคน ร่วมกันพัฒนาทำสิ่งที่สร้างสรรค์”
อย่างไรก็ตาม พล.อ.เปรม ไม่ได้ฝากให้ดูแลอะไรเป็นพิเศษ ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่เป็นประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เราจะต้องให้เกียรติท่านที่ทำคุณประโยชน์ ต่อแผ่นดินและประเทศชาติ ท่านเป็นปูชนียบุคคลของประเทศ รวมถึงเป็นนายกรัฐมนตรีมา 2 สมัยมีคุณความดีมาก สิ่งต่างๆ เหล่านี้อยากฝากถึงเยาวชนด้วยวิธีคิด เพราะสังคมจะอยู่ได้ต้องให้เกียรติผู้ใหญ่
ด้าน พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ กล่าวว่า พล.อ.เปรม ยังคงปฏิบัติภารกิจตามปกติ ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหว เพราะเคยผ่านสนามรบมาตั้งแต่ติดยศร้อยตรี ซึ่งหนักหนากว่านี้เยอะ
“วรัญชัย” เผ่นถูกมือปราบหูดำสั่งตะเพิด
วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ได้เรียกนายตำรวจระดับ รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงและดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยและ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เข้ารายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบระบุว่า สถานการณ์โดยรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
แต่ในเวลา 10.00 น. มีกลุ่มเคลื่อนไหวของนายวรัญชัย โชคชนะ พร้อมพวก 10 คนเดินทางมาบริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ พร้อมตะโกนขับไล่ พล.อ.เปรม และต้องการยื่นหนังสือข้อเรียกร้อง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องไว้แทน ระหว่างนั้น พ.ต.อ.สรรเสริญ ใช้สถิตย์ ผกก.สน.สามเสน ได้รายงานสถานการณ์ไปยัง พล.ต.ต.วิชัย ให้รับทราบ ทำให้ พล.ต.ต.วิชัย ฉุนเฉียวและสั่งให้ ผกก.ไปไล่นายวรัญชัยออกไปจากบริเวณดังกล่าวภายใน 10 นาทีทันที มิฉะนั้นจะออกมาจัดการด้วยตัวเอง เมื่อได้ยินดังนั้นนายวรัญชัยถึงกับหวาดกลัวเพราะกิตติศักดิ์ฉายามือปราบหูดำของ พล.ต.ต.วิชัย จึงชักชวนพรรคพวกที่มาด้วยสลายตัวในที่สุด
ซื้อเครื่องบีบหู รอสลายม็อบเสื้อแดง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปฏิบัติในการดูแลความสงบเรียร้อยรักษาความ ปลอดภัย การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงวันที่ 30 ส.ค.นี้ บช.น.ได้นำเครื่องแอลแรด (LRAD) ที่ย่อมาจาก Long Range Acoustic Device นำมาใช้ในการ ควบคุมฝูงชน เป็นอุปกรณ์ส่งเสียงพูด เสียงที่บันทึกเป็น MP3/WMA ได้ระยะไกล 300 ถึง 3,000 เมตร กำหนดทิศทางของเสียงได้ หลังจากก่อนหน้านี้ประสบความล้มเหลวในการดูแลผู้ชุมนุมมาหลายครั้ง ทำให้ บช.น.จึงนำเครื่องแอลแรด มาทดลองใช้อย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังจากที่เคยขอยืมหน่วยงานอื่นมาใช้ชั่วคราว เพราะเป็นเครื่องมือสากลที่ต่างประเทศใช้ในการควบคุมฝูงชนและสลายการชุมนุม และไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน มีใช้แพร่หลายไปทั่วโลก
โดยเครื่องดังกล่าวมีลักษณะคล้ายลำโพงขยายเสียง โดยใช้เพื่อประกาศ, เปิดเพลง, เจรจาต่อรอง ภารกิจจราจร และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อรบกวนกลุ่มผู้ชุมนม โดยเครื่องที่ใช้มี 2 ขนาด ขนาดใหญ่ใช้กับเครื่องปั่นไฟ มีระยะส่งคลื่นเสียงประมาณ 3 กิโลเมตร มีราคา 2 ล้านบาท และขนาดเล็กใช้สำหรับติดตัว มีระยะส่งคลื่นเสียงประมาณ 300-500 เมตร มีราคา 7 แสนบาท ซึ่งทาง บช.น.ซื้อมาแล้ว 2 เครื่อง ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เพื่อใช้สำหรับการชุมนุม โดยมีหลายหน่วยงานซื้อใช้แล้ว เช่นกัน
ทั้งนี้ การใช้เสียงสลายการชุมนุมของแอลแรด จะก่อให้เกิดเสียงความถี่สูงที่มีผลต่อโสตประสาทในลักษณะ ดังนี้ 1.โดยธรรมชาติของคนจะต้องเป็นห่วงสวัสดิภาพความปลอดภัยของตัวเองเป็นหลัก เมื่อได้ยินเสียงจะมีอาการเจ็บปวดแก้วหู จนต้องหลีกเลี่ยงให้พ้นแนวเสียง (บางรายอาจคลื่นไส้ อาเจียน) แต่จะหายสนิท เมื่อออกไปพ้นแนวทิศทางของเสียง
2.บางรายอาจหาวัสดุมาอุดหู ซึ่งสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดหูได้ในระยะหนึ่ง แต่ถ้าอยู่ในแนวคลื่นเสียงพิเศษเป็นเวลานานก็ไม่สามารถทนได้ นอกจากนี้ ผู้ที่อุดหูก็จะสูญเสียการได้ยินทั้งหมด