ที่ประชุม กปร.เผยผลติดตามโครงการในหลวง พบ 1.7 ล้านครัวเรือน ได้ประโยชน์จากโครงการพระราชดำริ ปี 52 ใน 3 พันโครงการ เผยได้ประโยชน์จากโครงการเกี่ยวกับแหล่งน้ำมากสุด ร้อยละ 56.09 พร้อมเตรียมดำเนินการจัดการน้ำ อีก 84 โครงการใน 9 จังหวัด เพื่อถวายเป็นมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในปี 54
วันนี้ (31 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (31 ส.ค.) การประชุมคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) ที่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ร่วมกับ นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี ในฐานะที่ปรึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย อาทิ สำนักราชเลขาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และผู้บัญชาการทหารบก
โดยที่ประชุมรับทราบ ผลการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในช่วงปี 2552 ถึงปัจจุบัน มีจำนวนโครงการกว่า 3,000 โครงการ โดยการพัฒนาด้านแหล่งน้ำมีมากที่สุดถึงร้อยละ 56.09 ของโครงการทั้งหมด รองลงมา ได้แก่ การพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมอาชีพ การพัฒนาคุณภาพชีวิตอื่นๆ โดยมีผลสำเร็จเป็นพื้นที่รับประโยชน์จำนวน 34,713,193 ไร่ และมีราษฎรได้รับประโยชน์กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคจำนวน 21,252 หมู่บ้าน 1,751,423 ครัวเรือน
ทั้งนี้ รับทราบผลการดำเนินงานศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่กระจายอยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ จำนวน 6 ศูนย์ มีการศึกษาทดลองวิจัยเรื่องต่างๆ เพื่อหาตัวอย่างความสำเร็จรวมแล้วทั้งสิ้น 834 เรื่อง และได้ขยายผลไปสู่เกษตรกรเป็นเครือข่ายกว่า 177 ราย มุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร พลังงาน ทางเลือก และการลดต้นทุนการผลิต รวมทั้งสนับสนุนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลตามโครงการฝึกอบรมต้นกล้าอาชีพ ซึ่งได้ดำเนินการอบรมอาชีพให้กับเกษตรกรไปแล้วจำนวน 489 คน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาแหล่งน้ำ การพัฒนาการเกษตรและอาชีพ และการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งการใช้ประโยชน์ที่ส่งผลต่อประชาชนเป็นสำคัญ อาทิ โครงการเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก โครงการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จังหวัดพิษณุโลก โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช โครงการศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
โครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลจังหวัดปัตตานีและนราธิวาส (ปะการังเทียม) โครงการพัฒนาและรณรงค์การใช้หญ้าแฝก ตลอดจนการดำเนินโครงการฯ ที่แขวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว คือ โครงการส่งเสริมกิจกรรมวัฒนธรรมเด็กกำพร้า (หลัก 67) เมืองโพนโฮง และโครงการพัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน-ห้วยซั้ว (หลัก 22) เมืองนาทรายทอง เป็นต้น
ส่วนความก้าวหน้าของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่จะมุ่งเน้นการดำเนินงานในระยะต่อไปนั้น ได้แก่ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวม 84 โครงการใน 9 จังหวัด ซึ่งจะมุ่งพัฒนาการบริหารจัดการน้ำโดยเกษตรกร ผ่านกลุ่มผู้ใช้น้ำ โครงการประกวดผลงานตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ครั้งที่ 2 และการจัดงานเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษาในปี 2554
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการขยายผลของโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริในระยะต่อไป เพื่อให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการขยายผลการดำเนินงานไปสู่ประชาชน การบริหารจัดการด้านงบประมาณ ด้านบุคลากรที่ปฏิบัติงาน และด้านอื่นๆ ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวส่งผลประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง
วันนี้ (31 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (31 ส.ค.) การประชุมคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) ที่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ร่วมกับ นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี ในฐานะที่ปรึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย อาทิ สำนักราชเลขาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และผู้บัญชาการทหารบก
โดยที่ประชุมรับทราบ ผลการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในช่วงปี 2552 ถึงปัจจุบัน มีจำนวนโครงการกว่า 3,000 โครงการ โดยการพัฒนาด้านแหล่งน้ำมีมากที่สุดถึงร้อยละ 56.09 ของโครงการทั้งหมด รองลงมา ได้แก่ การพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมอาชีพ การพัฒนาคุณภาพชีวิตอื่นๆ โดยมีผลสำเร็จเป็นพื้นที่รับประโยชน์จำนวน 34,713,193 ไร่ และมีราษฎรได้รับประโยชน์กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคจำนวน 21,252 หมู่บ้าน 1,751,423 ครัวเรือน
ทั้งนี้ รับทราบผลการดำเนินงานศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่กระจายอยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ จำนวน 6 ศูนย์ มีการศึกษาทดลองวิจัยเรื่องต่างๆ เพื่อหาตัวอย่างความสำเร็จรวมแล้วทั้งสิ้น 834 เรื่อง และได้ขยายผลไปสู่เกษตรกรเป็นเครือข่ายกว่า 177 ราย มุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร พลังงาน ทางเลือก และการลดต้นทุนการผลิต รวมทั้งสนับสนุนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลตามโครงการฝึกอบรมต้นกล้าอาชีพ ซึ่งได้ดำเนินการอบรมอาชีพให้กับเกษตรกรไปแล้วจำนวน 489 คน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาแหล่งน้ำ การพัฒนาการเกษตรและอาชีพ และการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งการใช้ประโยชน์ที่ส่งผลต่อประชาชนเป็นสำคัญ อาทิ โครงการเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก โครงการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จังหวัดพิษณุโลก โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช โครงการศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
โครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลจังหวัดปัตตานีและนราธิวาส (ปะการังเทียม) โครงการพัฒนาและรณรงค์การใช้หญ้าแฝก ตลอดจนการดำเนินโครงการฯ ที่แขวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว คือ โครงการส่งเสริมกิจกรรมวัฒนธรรมเด็กกำพร้า (หลัก 67) เมืองโพนโฮง และโครงการพัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน-ห้วยซั้ว (หลัก 22) เมืองนาทรายทอง เป็นต้น
ส่วนความก้าวหน้าของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่จะมุ่งเน้นการดำเนินงานในระยะต่อไปนั้น ได้แก่ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวม 84 โครงการใน 9 จังหวัด ซึ่งจะมุ่งพัฒนาการบริหารจัดการน้ำโดยเกษตรกร ผ่านกลุ่มผู้ใช้น้ำ โครงการประกวดผลงานตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ครั้งที่ 2 และการจัดงานเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษาในปี 2554
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการขยายผลของโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริในระยะต่อไป เพื่อให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการขยายผลการดำเนินงานไปสู่ประชาชน การบริหารจัดการด้านงบประมาณ ด้านบุคลากรที่ปฏิบัติงาน และด้านอื่นๆ ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวส่งผลประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง