“ปานเทพ” ย้อนถาม “เหลิม” แหกกฎนิติรัฐ ส่งเสื้อแดงล่าชื่อถวายอภัยโทษ “แม้ว”

โฆษกพันธมิตรฯ ตอกหน้า ปธ.ส.ส.พรรคเพื่อไทย คิดอย่างไรเสื้อแดงล่ารายชื่อ “อภัยโทษ” แต่กลับแหกกฎนิติรัฐ ด้าน “เป็ดเหลิม” รีบปัดสวะ ขอให้ลืมเรื่องการเมือง แล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ ยอมรับ ทรท.-พปช.-พท.พันธุกรรมเดียวกัน จำเป็นต้องใช้ภาพ “แม้ว” เป็นจุดขาย ลำเลิกบุญคุณ “ป๋า” อดีตเคยปราศรัยช่วย

วันนี้ (24 ส.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นักศึกษาหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง (พตส.) รุ่น 1 นำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.ในฐานะประธานรุ่น นายวัชระ กรรณิกา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสมาชิกพรรคชาติไทย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายมุข สุไลมาน โฆษกพรรคมาตุภูมิ พร้อมด้วย นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.และคณะกลุ่มนักศึกษา เดินทางมาเยี่ยมชมที่ทำการพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักสูตร ส่วนบรรยากาศพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ช่วงเช้า บริเวณชั้นโถงของอาคาร มีกลุ่มเสื้อแดงประมาณ 30 คน มารวมตัวอยู่ก่อนแล้ว

ก่อนเวลาที่คณะนักศึกษาจะเดินทางมาถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรค ได้พูดคุยกับกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า เรามีอะไรก็เก็บไว้ในใจ บางเรื่องก็ลืมๆ กันไปบ้าง อย่าไปนั่นเลยไม่ดีหรอก ช่วงเช้าพรรคพวกเราก็ไปพรรคประชาธิปัตย์ เขาก็ต้อนรับดี กลุ่มเสื้อแดงที่มาส่วนใหญ่เป็นหญิงวัยกลางคน แม้มีท่าทีคัดค้านบ้าง แต่ก็รับฟังคำร้องขอ ร.ต.อ.เฉลิม

เวลา 14.00 น.คณะนักศึกษาเดินทางมาถึงพรรค โดยมี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคและคณะ ส.ส.ให้การต้อนรับกลุ่มนักศึกษา พตส.โดยไม่มีการคัดค้านจากกลุ่มคนเสื้อแดง จากนั้นคณะทั้งหมดได้พาขึ้นไปยังห้องประชุมชั้น 12 ต่อมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวบรรยายการเมืองและยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ว่า คำพูดฝรั่งบอกว่าเราควรลืมความหลังแล้วเริ่มต้นใหม่ทุกอย่างก็จะราบรื่น แม้แนวคิดทางการเมืองพวกเราอาจไม่ตรงกับพรรคที่ท่านสังกัดอยู่ ถือเป็นเรื่องธรรมดาทางการเมือง แต่พอถึงช่วงเลือกตั้งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ ยอมรับว่า ยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย พันธุกรรมและดีเอ็นเอ มาจากพรรคไทยรักไทยเดิม โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้คิดวางนโยบายเอาไว้ มันตกผลึกมาจากพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนมาถึงพรรคเพื่อไทย มีนโยบายสำคัญ ส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เห็นได้จากนโยบาย กองทุนหมู่บ้าน โอทอป โครงการเอสเอ็มอี เป็นต้น

ครั้งหนึ่งก่อนหาเสียงเลือกตั้งเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ดูไบ ท่านบอกว่า อยากให้พูดถึงนโยบายการล้างหนี้ให้ประชาชน และสร้างรายได้เอาความสุขของประชาชนกลับคืนมาตนก็เห็นด้วย

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าตนจะเสนอพรรคให้สัมมนาที่อุดรธานี ขณะนี้ได้เขียนแผนการไว้ 5 แนวทาง ทั้งการแก้ปัญหาการเมือง สังคม เศรษฐกิจ พลังงาน และการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาการเมืองวันนี้ ความไม่เข้าใจกัน ถือเป็นเรื่องปกติ นายปานเทพ ที่มาวันนี้สมัยอยู่พรรคความหวังใหม่ ก็คุ้นเคยกันดี นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ พ.ศ.2517 กินกาแฟมาด้วยกันที่แอมบาสซาเดอร์ สมัยบ้าน นายสนธิ ยังอยู่ราชวัตร ผมคิดว่าเคยทานข้าวร่วมกันไม่ต่ำกว่า 2,000 มื้อ วันนี้มีความเห็นการเมืองต่างกัน ก็ไม่เป็นอะไร เอาไว้ไปสู้กันในสนามเลือกตั้ง

“พรรคเพื่อไทย เราพร้อมเลือกตั้ง ภาคอีสานคนขอสมัครล้น คนที่ออกไปอยากกลับมาก็เยอะ ภาคใต้ก็มีคนอาสาอยากลง เขาคิดว่าสังคมเปลี่ยนกฎหมายเปลี่ยน แต่สังคมเปลี่ยนอย่างไร ผู้แทนภาคใต้ไม่ค่อยเปลี่ยน ที่ผ่านมา เห็น พล.อ.สนธิ ไปร่วมกิจกรรมพรรคมาตุภูมิ รู้สึกดีใจ สมมติเลือกตั้งครั้งหน้าท่านได้ 20 ที่นั่ง เพื่อไทยได้ 10 ที่นั่ง ถือเป็นการลิดรอนพรรคประชาธิปัตย์ แต่สมมติเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาธิปัตย์ได้ที่ 1 เพื่อไทยได้ที่ 2 เราก็เป็นฝ่ายค้านต่อ ยังมั่นใจรอบหน้าจะได้มากกว่าครั้งนี้ ส่วนภาคอีสาน 19 จังหวัด 137 ที่นั่ง เราพร้อม มีปัญหาอยู่ที่เดียว คือ จ.บุรีรัมย์ ทุกพื้นที่เราพร้อมลงไปปราศรัย ยึดแนวทางล้างหนี้ประเทศ เอาความสุขประชาชนคืนมา จะไม่โจมตีผู้สมัคร พรรคคู่แข่ง” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า มีคนเขาบอกว่า รัฐธรรมนูญ 2550 ไม่ดี รธน.2540 ดี แต่ตนเห็นว่า มันดีทั้งนั้น แต่ปี 2550 มันยุ่งยากกว่านิดหน่อย ถึงอย่างไรเลือกตั้ง สกลนคร ศีรสะเกษ เราชนะก็เพราะรัฐธรรมนูญ 2550 ขณะนี้เขียนแผนรณรงค์หาเสียง 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง เตรียมเสนอต่อพรรคก่อน ไม่รู้ว่าเห็นด้วยหรือไม่ ถ้าเห็นด้วยก็เริ่มเลย

จากนั้นเป็นช่วงซักถาม โดย นายปานเทพ ถามว่า วันนี้มีคนทั้งสนับสนุนและไม่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ แต่การหาเสียงของพรรคเพื่อไทย เหตุใดยังชูภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนเดิม ทำไมพรรคเพื่อไทย ไม่พัฒนาไปสู่สถาบันการเมือง โดยไม่อิงกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม ตอบว่า พรรคการเมืองแต่ละพรรคมีปฐมบทที่มาแตกต่างกัน พรรคประชาธิปัตย์ นายควง อภัยวงศ์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสียชีวิตนานแล้ว แต่ก็มีอาคารอภัยวงศ์ ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นการซึมซับ เป็นบริบทที่สำคัญอย่างหนึ่งทางการเมือง ในภาคใต้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ปชป.พ้นจากหัวหน้าพรรคไปแล้ว แต่ใครไปหาเสียง ไม่เอ่ยชื่อนายชวน ไม่บอกว่า เป็นลูกศิษย์รับรองแพ้ทุกคน แต่หากบอกว่าไม่เป็นลูกศิษย์นายสุเทพ ยังมีโอกาสชนะ การเคารพคน ที่เราเคารพทางการเมืองถือเป็นสิ่งสำคัญ ช่วงเป็นพรรคไทยรักไทยนั้น คนนำพรรค แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคมีแนวคิดอยากให้พรรคนำคน แต่อยู่ในขั้นตอนเท่านั้น แม้แต่ตอนไปปราศรัยหาเสียง บางคนในพรรคยังไม่เห็นด้วยที่ตนไปพูดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ตนก็บอกไม่เป็นไร เมื่อท่านไม่เห็นด้วย ก็ไม่ต้องมาเวทีที่ตนปราศรัยก็แล้วกัน การพูดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นวิธีในการหาเสียง แต่การจะเปลี่ยนต้องค่อยเป็นค่อยไป เลือกตั้งรอบหน้าชนะเกินครึ่งไม่ต้องเอ่ยชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้ แต่เวลานี้ไม่ได้ คงไม่มีใครฟัง แต่การหาเสียงของเรา ต่อไปจะไม่โจมตีคู่แข่ง ผู้สมัครพรรคอื่น เราจะพูดแต่เรื่องที่ทำในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต จะทำอะไรเท่านั้น

“ผมเคยปราศรัยให้ป๋า (พล.อ.เปรม) เป็นนายกฯ และเป็นคนเดียวที่ไม่เคยให้สัมภาษณ์ 3-4เดือน ก็อยู่ได้ แต่ถ้าเป็นวันนี้ นายกฯไม่ให้สัมภาษณ์ 2-3 วัน ก็เป็นเรื่องแล้ว ขนาดป๋าเคยไปดื่มกาแฟ ท่านจะจ่ายเงิน ผมบอกไม่ต้อง เพราะแกไม่เคยออกไปกินกาแฟที่ห้องในสภาเลย ครั้งหนึ่งท่านเคยถาม เหลิม ทำไมวิจารณ์ ป๋า ผมบอกท่านก็ท่านเป็นฝ่ายค้าน ผมเป็นรัฐบาล ที่นายปานเทพ ถามนั้น ยอมรับว่า ที่ผ่านมา มีคนถามเยอะ แต่ต้องบอกว่าปัจจุบันถ้าไม่ขาย ทักษิณ จบ ผมพูดไม่อายหรอก เป็นอย่างนี้” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

นายปานเทพ ยังตั้งคำถามอีกว่า จุดยืนของพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ปรองดอง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นอย่างไร ส่วนพันธมิตรฯนั้นไม่เห็นด้วย แต่กระบวนการตัดสินของศาลในนามพระปรมาภิไธย เรายอมรับ แต่พรรคเพื่อไทยใครทำผิดก็ระดมคน พรรคเพื่อไทยจะก้าวผ่านตรงนี้อย่างไร คิดจะเอา พ.ต.ท.ทักษิณ กลับ ไม่ว่าวิธีการใดๆ ก็ตาม อยากถามจุดยืนพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับหลักนิติรัฐ

ร.ต.อ.เฉลิม ตอบว่า พ.ร.บ.ปรองดอง ที่พรรคภูมิใจไทย เป็นผู้เสนอ เชื่อว่า หากมีการโหวตจะแพ้แน่นอน พรรคเพื่อไทย ก็ไม่เห็นด้วย ส่วนตัวเห็นว่า เป็นการออกมาในลักษณะเหวี่ยงแหเป็นกลุ่ม ไม่ชัดเจน คนออกยังไม่รู้ว่าจะเสนอเพื่ออะไร พรรคเพื่อไทย ถ้าโหวตก็ไม่เห็นด้วย แต่อาจไม่ทั้ง 187 คน สำหรับเรื่องการถวายฎีกา เรื่องนี้ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก เป็นพระบรมราชวินิจฉัย แล้วแต่พระองค์ท่าน แต่จะสมัครสมานสามัคคีหรือไม่ ต้องบอกได้ก่อนเลือกตั้ง ที่จะออกแคมเปญเลยว่า หากพี่น้องอยากเห็นไม่มีใครผิดไม่มีใครถูกเลือกพรรคเพื่อไทย ให้นิรโทษกรรมทุกภาคส่วน ไม่มีสีเสื้อ ได้หมด แต่ถ้าเราได้ไม่ถึงครึ่ง เราก็ไม่ทำ ส่วนคดีอดีตนายกฯซื้อที่ดินรัชดา นั้น ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย เพียงแต่ท่านทำสิ่งที่กฎหมายห้ามเท่านั้น ศาลตัดสินออกมา 5:4 ขนาดกฎบัตรสหประชาชาติ คดีตัดสินศาลเดียวเขาไม่ยอมรับ แต่ผลการตัดสินออกมาเราก็ต้องเคารพ ไม่เคารพไม่ได้ อย่างไรก็ดี จำคำพูดตนไว้เลย เชื่อว่า ไม่เกินเดือน มี.ค.-เม.ย.2553 มีเลือกตั้งแน่นอน

ร.ต.อ.เฉลิม ให้สัมภาษณ์อีกว่า เหตุที่มั่นใจว่า ไม่เกินเดือน มี.ค.-เม.ย.2553 จะมีการเลือกตั้งเนื่องจาก 1.รัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ 2.ไม่สามารถแก้ปัญหา 3 จังหวัดใต้ได้ 3.พรรคร่วมรัฐบาลอยู่ในฐานะไม่เกรงใจ เห็นได้จากการเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ ที่ รมว.มหาดไทย ที่อยู่ใต้บังคับบัญชา นายกฯไม่เห็นด้วย ในทางการเมืองนั้น จะอยู่ร่วมกันได้หรือไม่ ทั้งที่ รมว.มหาดไทย ต้องอยู่ภายใต้การบังคับบัญชานายกฯ แค่นี้ภาวะผู้นำก็หมดแล้ว ส่วนเรื่องแนวคิดรัฐบาลจะประกาศ พ.ร.บ.มั่นคง การชุมนุมคนเสื้อแดงวันที่ 30 ส.ค.นี้ นั้น ไม่ขอออกความเห็น ต้องดูว่าเขาจะทำอย่างนั้นหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ สำหรับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.ในอนาคตท่านจะเล่นการเมืองหรือไม่นั้น ไม่ทราบ เพราะไม่ได้พูดคุยกับท่าน แต่การมาร่วมงานนี้ ถือว่าเฉียดๆ การเมืองแล้ว และอนาคตจะมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ ไม่ขอวิจารณ์