“ประพันธ์” ระบุ ล็อบบี้คว่ำโหวต ผบ.ตร.“มาร์ค” ได้ใจ ปชช.เต็มๆ หนุนใช้สิทธิผู้บังคับบัญชา ปลดลูกน้องเย้ยอำนาจ แนะเดินหน้าเสนอ “ปทีป” อย่าให้อำนาจมืดครอบงำ ขณะที่ “พิภพ” บอก “มาร์ค” ประชาชนเชียร์ ย้าย “พัชรวาท” ระบุ หากยังหน่อมแน้มจะหมดโอกาสทางการเมือง จวกคณะ ก.ต.ช.ควรเคารพสิทธิ์นายกฯ เหตุถ้า ตร.ฝืนคำสั่ง นายกฯต้องรับผิดชอบ
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย”
รายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ทางเอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-21.30 น.วันที่ 21 สิงหาคม 2552 โดยมี “แอน” จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ดำเนินรายการ ได้รับเกียรติจาก นายประพันธ์ คูณมี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมวิเคราะห์ถึงท่าทีนายกฯควรจะเป็น หลังถูกคว่ำโหวต ผบ.ตร
นายประพันธ์ กล่าวว่า การที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดประชุมโหวต ผบ.ตร. ตามปกติ แม้จะรู้ตัวมาก่อนว่า มีคนล็อบบี้ ก.ต.ช.ให้คว่ำโหวตไม่รับ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ตามที่นายกฯนำเสนอ แต่ที่เปิดให้มีการโหวตตามกำหนดอาจเป็นเพราะต้องการวัดใจคณะกรรมการ ก.ต.ช.หรือคาดไม่ถึงว่าคนใกล้ตัวที่ร่วมรัฐบาลด้วยกัน จะกล้าทำได้ถึงขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม การคว่ำโหวต ผบ.ตร.นี้ หากมองในมุมกลับ ถึงแม้จะต้องเสียภาพพจน์ในฐานะแกนนำฝ่ายบริหาร แต่ขณะเดียวกัน ประชาชนส่วนใหญ่กลับเห็นใจ และสนับสนุนให้ใช้อำนาจตามแนวทางของผู้บริหารอย่างเด็ดขาด
“ตนมั่นใจว่า นายกฯจะเดินหน้าเสนอ พล.ต.อ.ปทีป ขึ้นมาอีกแน่นอน แต่อาจจะเดินหน้าด้วยวิธีการของท่าน เช่น รอให้ ป.ป.ช.ชี้มูลเสร็จก่อน เพราะความที่เป็นคนไม่กล้าหาญในเชิงรุก จึงไม่กล้าแตกหัก อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ประชาชนอยากเห็นความเด็ดขาดมากกว่าที่จะใช้วิธีนุ่มนวล ดังนั้น หากนายกฯอยากได้ใจทางการเมืองจากประชาชน ต้องกล้าปลด พล.ต.อ.พัชรวาท” นายประพันธ์ กล่าว
นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ถ้าปล่อยให้สถานการณ์ทางการเมืองเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ นายกฯจะหมดอนาคตทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ถ้าหากตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าจะทำให้หลุดจากการเป็นนายกรัฐมนตรี สักวันประชาชนจะทำให้ท่านกลับมาอย่างสง่างาม ทั้งนี้ ถ้าไม่กล้าใช้ความชอบธรรมตามอำนาจที่มีอยู่ในมือ เมื่อพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว หากคิดที่จะหวนคืนการเมืองอีกก็เป็นเรื่องยาก
นายประพันธ์ กล่าวว่าหมดเวลาแล้วที่ นายกฯจะมัวแต่พูดอ้อมค้อม ต้องถามจี้เป็นรายตัวไปเลย โดยเฉพาะ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ยังคิดจะร่วมรัฐบาลด้วยกันอีกหรือไม่ เมื่อครั้งที่คุณเสนอแต่งตั้ง นายมานิต วัฒนเสน ถ้านับตามลำดับอาวุโสถือว่าอยู่ในลำดับที่ห่างอย่างมากที่จะได้เป็น ปลัดกระทรวงมหาดไทย แต่ก็ยังฝืนจารีตประเพณียอมรับ เนื่องจากเห็นว่า เป็นบุคคลที่ รมว.มหาดไทย เสนอมา น่าจะทำงานร่วมกันได้ดี แล้วพอมาวันนี้ตนเสนอ พล.ต.อ.ปทีป ขึ้นมาเป็น ผบ.ตร.มันมีเหตุขัดข้องอย่างไรที่จะมาคัดค้าน
“การจะเป็นวีรบุรุษหรือไม่ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ตัดสินใจด้วย เรื่องบางเรื่องควรใช้เวลาในการตัดสินใจที่รวดเร็ว แล้วไม่ทำ ก็จะเป็นการทำลายต้นทุน ลดเครดิตของตัวเอง การตัดสินใจที่ไม่ถูกที่ถูกเวลาแล้วทำให้เกิดปัญหายืดเยื้ออย่างในปัจจุบัน โดยที่ตนเองก็ไม่ได้รับประโยชน์อะไร แต่คนที่ได้ประโยชน์เต็มๆคือพรรคร่วม ดังนั้นอย่าได้เกรงใจใคร ให้ยื่นคำขาดว่าเห็นด้วยกับ ผบ.ตร. ที่ตนนำเสนอหรือไม่ หากยังไม่เห็นด้วยก็ปรับ ครม.ไปเลย” นายประพันธ์ กล่าว
นายพิภพ กล่าวเสริมว่า เห็นด้วยกับช่วงเวลาที่ต้องสัมพันธ์กับการใช้อำนาจ เมื่อประชาชนเห็นว่ามีความชอบธรรม ดังนั้น หากนายกฯ จะเสนอ พล.ต.อ.ปทีป อีกครั้ง แล้ว ผบ.ตร.และกระทรวงมหาดไทย ไม่เอาด้วย ก็นับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่จะ สั่งปลด หรือปรับ ครม.ใหม่ อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าถ้านายกใช้ไม้แข็งอย่างนี้ทั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท และ นายชวรัตน์ ต้องยอมอ่อนตามแน่นอน
นายประพันธ์ กล่าวว่า ทั้ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร.มีคุณสมบัติเป็น ผบ.ตร.ได้ทั้งคู่ แต่ปัญหามันอยู่ที่นายกฯ จะไว้วางใจใครมากกว่า ดังนั้น เมื่อนายกฯ ตัดสินใจแล้ว หลังการตรวจสอบ ตนเห็นว่าโดยคุณสมบัติของ พล.ต.อ.ปทีป น่าจะเหนือกว่าเพราะ มีความซื้อสัตย์ โปร่งใส ไม่มีประวัติด่างพร้อย จึงไม่มีเหตุใดที่คณะ ก.ต.ช.จะค้าน เว้นแต่คนที่คัดค้านจะมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง
นายพิภพ กล่าวว่าการคว่ำโหวตไม่เห็นด้วยในการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอชื่อไปนั้น ถือได้ว่าเป็นการเสียหน้าอย่างแรง ส่อให้เห็นว่าข้าราชการประจำและพรรคร่วมรัฐบาล มีท่าทีแข็งขืน อย่างไรก็ตามบนด้านเสียก็ยังมีสิ่งดีอยู่ ที่จะทำให้นายกฯรู้ตัว ว่า ใครน่าจะให้ความไว้วางใจ มากน้อยแค่ไหนในการบริหารบ้านเมือง
นายพิภพ กล่าวต่อว่า นายกฯยังอ่านการเมืองและตัวเองไม่ขาด ว่า ตอนนี้ได้เปรียบทางการเมืองอย่างมาก เพราะประชาชนยืนอยู่ข้างท่าน ด้วยเหตุที่เป็นคนซื่อสัตย์ มีวิสัยทัศน์ที่ดี ดังนั้น หากย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้สมตามเจตนารมณ์ของประชาชน ที่อยากเห็นความชอบธรรมเสียตั้งแต่ทีแรก ประชาชนและสื่อมวลชน ก็จะสรรเสริญ แต่ปัญหาคือท่านไม่กล้า ดังนั้น ถ้ายังหน่อมแน้มอยู่อย่างนี้ ไม่นานท่านจะหมดอนาคตทางการเมือง เพราะทุกวันนี้ประชาชนก็เริ่มถามแล้ว ว่า ตกลงนายกฯ เล่นการเมืองเป็นหรือไม่
“นายกฯยังได้ใจอยู่ เพราะที่ผ่านมาทำให้โครงการอัปยศหลายโครงการ ไม่สามารถผ่านมติคณะรัฐมนตรีได้ ทั้งนี้ตนมั่นใจว่านายกฯ ยังยึดมั่นในสิ่งที่พูดว่าจะคืนความเป็นธรรมให้ประเทศ และตั้งใจและแน่วแน่ในสิ่งที่ทำ แต่ติดตรงที่กระบวนการตัดสินใจมักจะเป็นแบบประนีประนอม” นายพิภพ กล่าว
นายพิภพ กล่าวแสดงความเห็นด้วยที่ นายกฯ เสนอเพียงรายชื่อเดียว เพราะต้องเลือก ผบ.ตร.ที่ตัวเองไว้วางใจมากที่สุด ด้วยเหตุที่ว่าหากตำรวจกระทำผิดนอกเหนือจากคำสั่ง สุดท้ายนายกฯต้องรับผิดชอบ ต้องเข้าไปชี้แจงในสภา ดังนั้น กฎหมายจึงได้ให้อำนาจนายรัฐมนตรีในการเสนอ อย่างไรก็ตามการคว่ำโหวตครั้งนี้ ตนเห็นว่า เป็นการท้าทายนายกรัฐมนตรี จากผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาด้วยในระดับหนึ่ง