“สุริยะใส” หวั่นสุญญากาศอำนาจนายกฯ ถูกลิดรอนจนเหลือน้อยนิด จี้ “มาร์ค” ทุบโต๊ะตัดสินใจเด็ดขาด ถามหากเลือก “จุมพล” นั่งเก้าอี้ ผบ.ตร.ต้องมีคำอธิบายให้สังคม ชี้เคยเป็นนายพลคู่กาย “ทักษิณ” วิจารณ์ “ภูมิใจไทย” ดัน “จุมพล” หวังสร้างนอมินีแทน “พัชรวาท” ช่วยสานต่อภารกิจทางการเมืองทั้งโผตำรวจ-เลือกตั้งใหญ่
วันนี้ (21 ส.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงปัญหาการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ว่า คิดว่าผลของการประชุมคณะกรรมการ ก.ต.ช.เพื่อพิจารณาคัดเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ เมื่อวานนี้ ชี้ให้เห็นถึงเกมอำนาจของรัฐบาลชุดนี้ที่ยืนอยู่บนเงื่อนไขของผลประโยชน์ และการต่อรองกันตลอดเวลา โดยไม่คำนึงถึงปัญหาใน สตช.และวิกฤตของประเทศที่ควรจะเป็นตัวตั้ง แต่ว่าวันนี้ใน ก.ต.ช.หรือในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลับกลายเป็นเวทีของกลุ่มการเมือง บรรดานักเลือกตั้งที่พยายามเข้าไปสถาปนารัฐตำรวจตลอดเวลา
นายสุริยะใสกล่าวอีกว่า ผลการประชุมที่ไม่สามารถลงมติได้เมื่อวานนั้น ย่อมชี้ให้เห็นถึงอำนาจที่เป็นจริงของนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่ามีเพียงน้อยนิด ซึ่งสภาวะอำนาจขาดแคลนแบบนี้ จะทำให้การขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลโดยเฉพาะนโยบายสำคัญๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ แม้กระทั่งวิสัยทัศน์ของท่านนายกฯ ที่จะไม่บรรลุถึงจุดมุ่งหมายได้ เพราะไม่มีอำนาจขับเคลื่อนที่เป็นจริง และก็ที่สำคัญจะถูกหารหรือถูกเฉลี่ยอำนาจให้กับกลุ่มมุ้งอำนาจต่างๆ ในพรรคร่วมรัฐบาล จนในที่สุด ถ้าสภาพแบบนี้ดำรงอยู่ต่อไปจะเข้าเงื่อนไขสุญญากาศ หากประเทศเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จะทำให้เกิดสภาวะรัฐล้มละลายได้ในที่สุด
ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวว่า มาถึงตอนนี้นายกรัฐมนตรีไม่มีทางเลือกอีกแล้วที่จะไม่ตัดสินใจหรือจะใช้วิธีเจรจาการเฉลี่ยผลประโยชน์ไปเรื่อยๆ แบบเก่าคงไม่ได้แล้ว ลำพังปัญหากรณี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ก็สะท้อนให้เห็นถึงสภาวะไร้อำนาจของนายกฯมากพออยู่แล้ว หากนายกฯปล่อยให้ปัญหาการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่สั่นคลอนอำนาจของนายกฯก็จะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจของประชาชนในระยะยาว ฉะนั้น วันนี้ท่านนายกฯจะต้องเด็ดขาด และส่วนตัวแล้วถ้าให้เลือกระหว่าง พล.ต.อ.ปทีป จันทร์ประเสริฐ จเรตำรวจ กับ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร.แล้ว ภาพของ พล.ต.อ.ปทีป จะอธิบายกับสังคมได้มากกว่า พล.ต.อ.จุมพล เพราะ พล.ต.อ.จุมพล เป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และในสมัยเป็นผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ก็ใกล้ชิดสนิทสนมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชนิดที่ว่าแกะไม่ออก จนคล้ายๆ กับเป็นนายพลคู่กายคุณทักษิณไปแล้ว ฉะนั้น หากนายกฯ ตัดสินใจเลือก พล.ต.อ.จุมพล ก็ต้องมีคำอธิบายกับสังคมว่าเกิดอะไรขึ้น โดยเฉพาะกับฝ่ายที่เห็นว่าระบอบทักษิณเป็นปัญหาต่อประเทศชาติ
นอกจากนี้ นายสุริยะใสกล่าวอีกว่า ไม่แปลกใจที่พรรคภูมิใจไทย เสนอและผลักดัน พล.ต.อ.จุมพล เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ เพราะว่าพรรคภูมิใจไทย ก็คาดหวังที่จะให้ พล.ต.อ.จุมพล มาเป็นนอมินี พล.ต.อ.พัชรวาท เพื่อสานต่อภารกิจสำคัญสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโผโยกย้ายทั่วประเทศที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งเรื่องการบังคับบัญชาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เอื้อประโยชน์ต่อการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่จะมาถึงนี้ และก็เป็นไปได้เช่นกัน ถ้า พล.ต.อ.จุมพล ได้รับแต่งตั้งเป็น ผบ.ตร.พรรคภูมิใจไทย ก็จะบี้ไล่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้ยุบสภาในที่สุด ถึงตอนนั้นตัวเองก็จะได้เปรียบทางการเมือง เพราะว่าได้ทั้งตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย แล้วก็ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นคนของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งก็แน่นอนว่า ต้องมีความได้เปรียบทางการเมืองมากกว่าพรรคอื่นๆ อย่างแน่นอน ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความเละเทะของระบบการเมืองแบบเก่าที่ใช้กลไกรับราชการตำรวจ หรือข้าราชการประจำกลายเป็นเพียงเครื่องมือทางการของนักการเมืองอย่างน่าเวทนา
