เลื่อนโหวต ผบ.ตร.นายกฯ “หัวเดียวกระเทียมลีบ”

“ผ่าประเด็นร้อน”


ในที่สุด คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่มี นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นประธาน ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวานนี้ (20 สิงหาคม) ก็ต้องเลื่อนการประชุมเพื่อลงมติเลือกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ออกไปก่อน โดยอ้างว่ายังต้องพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติม

อย่างไรก็ดี ได้เห็นบรรยากาศที่หลายคนหยุดรอฟังผลการประชุมดังกล่าว ก็ต้องยอมรับว่าตำแหน่งดังกล่าวมีอิทธิพล และมีความสำคัญไม่น้อยจริงๆ

เป็นที่รับรู้กันในทางสาธารณะแล้วว่า มีระดับนายพลตำรวจเอกเพียง 2-3 คนเท่านั้นที่ได้รับการคาดหมายจะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่สืบแทน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่จะเกษียณอายุราชการในปลายเดือนหน้า

คนแรก คือ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ถัดมาเป็น พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมไปถึง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา (สบ 10)

แต่ที่ชิงดำกันน่าจะมีเพียงสองคนเท่านั้นคือ พล.ต.อ.ปทีป กับ พล.ต.อ.จุมพล

สิ่งที่น่าพิจารณาก็คือ มีรายงานว่านายกรัฐมนตรีได้เสนอชื่อ พล.ต.อ.ปทีป ให้ที่ประชุมได้ลงมติ แต่ปรากฏว่า มีเสียงท้วงติงจาก ก.ต.ช. บางคน ทำให้ต้องเลื่อนการลงมติคัดเลือกออกไปดังกล่าว

เมื่อพิจารณาจากบรรยากาศที่เกิดขึ้นก็ย่อมแสดงให้เห็นว่า มีความผิดปกติเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และเมื่อไปไล่เรียงรายชื่อของ ก.ต.ช.ทั้ง 10 คน ยกเว้นนายกรัฐมนตรี มีดังนี้ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย วิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พีระพันธุ์ สาลิรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรวัต ฉ่ำเฉลิม ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย นพดล อินนา ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิด้านพัฒนาองค์กร ปิยพันธุ์ นิมมานเหมินท์ ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการงบประมาณ และ พล.ต.อ.สุเทพ ธรรมรักษ์ ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการวางแผน หรือการบริหารและจัดการ

เมื่อพิจารณารายชื่อก็น่าจะมองออกไม่ยากว่า การผลักดันผู้บัญชาการตำรวจคนใหม่ของนายกฯ อภิสิทธิ์ ต้องมีอุปสรรคขวางหนามแน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตราบใดที่ยังมี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ยังเป็น ก.ต.ช. และเข้าร่วมประชุมด้วย

นอกเหนือจากนี้ยังมีอีกหลายคนที่แม้ดูเหมือนเป็นพวกเดียวกัน แต่ก็หวังพึ่งพาไม่ได้เลย!!

ขณะเดียวกัน อีกมุมหนึ่งมันก็สะท้อนความจริงให้เห็นว่าตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติแห่งนี้ ที่มีตำรวจอยู่ใต้บังคับบัญชากว่า 2 แสนคน มีความสำคัญยิ่งยวด และเต็มไปด้วยผลประโยชน์มากมายมหาศาลเพียงใด จนสามารถสร้างแรงจูงใจให้มีการวิ่งเต้น ผลักดันคนของตัวเองให้ขึ้นมาให้ได้

หากแยกประเมินเฉพาะผลจากการประชุม ก.ต.ช.เมื่อวานนี้ (20 สิงหาคม) ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่อาจสะท้อนภาพความ “โดดเดี่ยว” ของ นายกฯ อภิสิทธิ์ ได้เป็นอย่างดี เพราะการสั่งให้ต้องเลื่อนการประชุมออกไปก็ย่อมแสดงให้เห็นว่า ยังไม่มีความมั่นใจ เพราะหากยังให้มีการโหวตรายชื่อที่ตัวเองเป็นคนเสนอแล้วไม่ผ่าน ก็จะยิ่งเสียหน้า เสียเครดิตมากไปกว่านี้ก็เป็นได้

ประกอบกับในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา มีรายงานเรื่องการล็อบบี้วิ่งเต้นกันอย่างหนัก มีการปล่อยข่าวแบบใช้ “วิชามาร” กันจนนาทีสุดท้าย ก่อนเข้าห้องประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลด้วยซ้ำไป

แม้จะมีคำพูดของนายกรัฐมนตรีกล่าวในเชิงหลักการจะน่าฟังเพียงใด เช่น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ จะต้องมีผลดีต่อการเมือง สามารถรักษาความสงบเรียบร้อย รวมไปถึงคดีต่างๆสามารถเดินหน้าต่อไปได้ แต่ก็ไม่เป็นผล

เพราะเมื่อเสนอชื่อ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เข้าไป แต่กลับปรากฏว่า ที่ประชุมมีเสียงทักท้วงกันขรม จนต้องถอยมาตั้งหลัก และขณะเดียวกันก็ยังชี้แนวโน้มให้เห็นเป็นสัญญาณว่า หนทางข้างหน้ายังเต็มไปด้วยขวากหนามอีกหลายด่าน

เวลานี้มีสภาพเหมือน “หัวเดียวกระเทียมลีบ” พึ่งพาใครไม่ได้จริงๆ!!