xs
xsm
sm
md
lg

เพราะ “เพลง...เสียงเรียกเข้า” เคล็ดไม่ลับ “มานิต วัฒนเสน” ผงาดนั่งเก้าอี้ปลัดมหาดไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มานิตย์ วัฒนเสน
เสร็จจากโผปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่เนวิน ชิดชอบ ส่งพี่ชายสุดที่รักมานิต วัฒนเสนขึ้นจรวดความเร็วสูงยี่ห้อยี้ห้อย สู่เก้าอี้ปลัดกระทรวงมหาดไทย อันถือเป็นตำแหน่งสูงสุดในชีวิตราชการของมานิต ที่เจ้าตัวคงไม่นึกฝันว่าจะมาไกลถึงเพียงนี้

ก็ถึงคราวต้องจับตามอง “เก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” คนใหม่ที่ล่าสุดอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ได้นัดประชุมกรรมการทั้งหมดในวันนี้ (20 สิงหาคม) เพื่อให้ที่ประชุมลงมติเลือก ผบ.ตร.คนใหม่แทน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ

หลังจากตลอดทั้งวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา อภิสิทธิ์ได้เปิดห้องทำงานให้แคนดิเดตชิงเก้าอี้ ผบ.ตร.แต่ละคน เข้าแสดงวิสัยทัศน์การนำพาองคาพยพสำนักงานตำรวจแห่งชาติในมิติใหม่ให้พ้นไปจากวังวนเรื่องการซื้อขายตำแหน่งและปัญหาตำรวจการเมือง

ต้องรอดูกันว่าสุดท้าย “บิ๊กสีกากี” คนไหนจะเข้าตาอภิสิทธิ์

ที่น่าพิเคราะห์การจัดทัพกลไกอำนาจของรัฐบาล ผ่านสองเก้าอี้สำคัญที่ผู้ใต้บังคับบัญชากำลังจะได้นายใหม่ จะพบว่าแม้เก้าอี้ปลัดกระทรวงมหาดไทยกับเก้าอี้ ผบ.ตร.จะอยู่กันคนละวงการ คนละสี

ทว่าสองเก้าอี้นี้ กลับมีความเกี่ยวข้องกัน อันแลเห็นได้ชัดในรัฐบาลผสมของสองพรรคการเมืองคือประชาธิปัตย์ ที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับกระทรวงมหาดไทย ที่คุมบังเหียนโดยพรรคภูมิใจไทย

เหตุเพราะด้วยกลไกการเมืองการเลือกตั้ง ตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่คุมการเลือกตั้งทั่วประเทศ ตั้งแต่ระดับผู้ว่าราชการจังหวัด จนถึงระดับนายอำเภอ รวมถึงระดับท้องถิ่นที่สามารถสั่งการและขอความร่วมมือได้

ขณะที่ ผบ.ตร.ก็คุมตำรวจสองแสนกว่าคนทั่วประเทศที่กระจายอยู่ทุกอำเภอทั่วประเทศ รวมถึงหน่วยงานเสริมต่างๆ เช่น กองบัญชาการตำรวจสอบสวน กองปราบปราม อันสามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการเมืองได้อย่างดียิ่ง

ดังนั้น พรรคการเมือง นักการเมืองจึงปรารถนาที่จะได้บังคับบัญชาและมีอำนาจสั่งการกลไกการปกครองของมหาดไทย และฝ่ายความมั่นคง ดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาอยู่ในกำมือ แม้จะไม่มีหลักประกันว่าการเป็นรัฐบาลคุมมหาดไทย-ตำรวจ จะทำให้ชนะการเลือกตั้งหรือครองอำนาจได้ยาวนาน

เพราะหลายครั้งก็เห็นอยู่ว่า พรรคที่คุมกลไกทั้งหมดก็ยังแพ้การเลือกตั้งอย่างราบคาบเห็นได้จากการแพ้การเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกลนครและ จ.ศรีษะเกษของภูมิใจไทยและชาติไทยพัฒนาให้กับเพื่อไทยที่ผ่านพ้นไป

แต่อย่างน้อยมันก็ยังมีหลักประกันความมั่นใจว่า มีอำนาจรัฐอยู่ในมือไว้เป็นเครื่องมือขย่มคู่ต่อสู้ย่อมดีกว่าไม่มี

ได้เปรียบย่อมเป็นฐานะที่ดีกว่าแน่

จึงทำให้แม้วันนี้ประชาธิปัตย์จะอยู่ร่วมรัฐบาลกับภูมิใจไทย แต่ทว่าการเมืองเมื่อถึงการแข่งขันหรือต้องสร้างผลงานเพื่อให้คะแนนนิยมในตัวพรรคนำโด่งเหนือคู่แข่งขัน การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้ ก็ไม่ใช่หลักประกันว่าจะต้องอยู่ร่วมหอลงโรงกันเสมอไป

ประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทย จึงมักขบเหลี่ยม เฉือนคมกันตลอดเวลา

หลายต่อหลายเรื่อง เช่นปัญหาการผลักดันโครงการให้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม ครม.ทั้งเรื่องรถเมล์ฉาว 4,000 คันของ ขสมก. ปัญหาการประมูลขายข้าว มันสำปะหลังของกระทรวงพาณิชย์

รวมถึง ความขัดแย้งที่ซ่อนอยู่ระหว่างประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยในกรณีความพยายามของอภิสิทธิ์ในการปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ จากเก้าอี้ ผบ.ตร.ทั้งที่อภิสิทธิ์ก็รู้ว่าพัชรวาทแนบแน่นกับภูมิใจไทย

เพียงแต่อาการขบเหลี่ยมกันหลายต่อหลายครั้ง ยังไม่ถึงจุดแตกหัก เพราะการประสานประโยชน์ภายในรัฐบาล ยังคงไม่มีรอยปริร้าว

อย่างไรก็ดี กลับพบเห็นอาการ อำนาจซ้อนอำนาจ ของประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยได้ชัดเจน ในสองหน่วยงานหลักคือกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งที่มีการแบ่งงานกันเรียบร้อย โดยแต่ละฝ่ายก็อยู่ในสภาพ

หลบให้กันบ้าง

ขอกันกินยังมากกว่านี้


เช่นการตั้งวิชัย ศรีขวัญ เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยแทนพีรพล ไตรทศาวิทย์ ที่ถูกเด้งเข้ากรุ ก็เป็นที่รู้กันดีว่า

งานนี้ สุเทพ เทือกสุบรรณ ขอเอง

แม้จะเป็นการทั้งเซ็นปลดพีรพล และเซ็นตั้งวิชัย จะมาจากมือของชวรัตน์ ชาญวีรกูล มท.1 จากภูมิใจไทย

ทั้งที่วิชัยกับเนวิน ชิดชอบ ก็รู้กันดีว่าไม่ถูกกันมาแต่ไหนแต่ไร เพราะเนวินเคยขอให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย เด้งวิชัยจากอธิบดีกรมการปกครองมาเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย หลังจากเคยล็อบบี้ผ่านเฉลิม อยู่บำรุง ตอนเป็น มท.1 แต่เฉลิมไม่ยอมทำให้ จึงเป็นเฉลิมที่ถูกปรับออกจาก ครม.ไม่ใช่วิชัย ศรีขวัญ

โดยเบื้องลึกการดันวิชัยก็เพราะสุเทพ ต้องการให้วิชัยสมหวัง ในฐานะคนสุราษฏร์ธานี บ้านเดียวกันแถมรู้จักคุ้นเคยกันเหมือนญาติสนิทตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อของทั้งสองคน จึงทำให้ตลอด 5 เดือนกว่าที่ผ่านมา

วิชัย ก็คือปลัดมหาดไทยของสุเทพ รองนายกฯ หาใช่ปลัดมหาดไทยของชวรัตน์ มท.1

นั่นคือการยอมให้เนวิน-ภูมิใจไทย ที่ทำให้เนวินอึดอัดใจยิ่งนัก

แต่ครั้งนี้ เนวินไม่ยอม จึงรีบชิงแต่งตั้งปลัดมหาดไทยโดยเร็ว หลังมีข่าวว่าประชาธิปัตย์ก็พยายามเคลียร์ให้อนุชา โมกขะเวศ อธิบดีกรมป้องกันฯ ที่อาวุโสอันดับหนึ่งขึ้นเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเมื่อเนวินเริ่มรู้ข่าว ก็เลยต้องปิดเกมเร็วเพื่อไม่ให้สุเทพมายุ่งยากกับงานในกระทรวงมหาดไทยอีก

หลังเริ่มมีข่าววงในจากภูมิใจไทยว่า ประชาธิปัตย์จะขอมีเอี่ยวในการจัดทัพใหญ่มหาดไทยอีกสองสัปดาห์หลังจากนี้ โดยจะไม่แตะเก้าอี้อธิบดีตัวใหญ่ๆ เช่นกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมพัฒนาชุมชน เพราะเป็นโควตาภูมิใจไทยแต่จะเข้ามามีส่วนในการทำโผโยกย้ายระดับผู้ว่าราชการจังหวัดหลายพื้นที่โดยเฉพาะภาคกลาง-ใต้ ประมาณ 10 ที่นั่ง

แต่เมื่อเจอหมากสกัดของเนวินในการรีบชิงตั้งมานิต เป็นปลัดมหาดไทย จึงเป็นการบอกให้ประชาธิปัตย์รู้แล้วว่า ครั้งนี้คงยอมให้ได้ไม่เท่าที่ประชาธิปัตย์ต้องการ

หากว่าในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับรองรอง ผบ.ตร.-ผู้ช่วย ผบ.ตร.-ผู้บัญชาการ รวมถึง ผู้กำกับการ-ผู้กำกับ ที่จะมีขึ้นตามสเตปหลังจากมีการตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ที่จะทำให้มีการขยับอีกหลายตำแหน่งตามมา

“อภิสิทธิ์-สุเทพ” ในฐานะดูแล สตช. ไม่ยอมให้เนวิน-ภูมิใจไทยมีเอี่ยวในการส่งคนของตัวเองเติบใหญ่ในยุทธจักรสีกากี

เหมือนกับที่ก่อนหน้านี้ในการแต่งตั้งโผตำรวจระดับนายพล 152 ตำแหน่ง ตามโครงสร้างใหม่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สุเทพเคยให้โควตาภูมิใจไทย-เนวินไปจำนวนมาก จนถูกคนของประชาธิปัตย์เขม่นว่า ยอมให้เนวินมากเกินไปทั้งที่ สุเทพเป็นประธาน ก.ตร.คุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ก็อย่าหวังว่าโผโยกย้ายผู้ว่าฯ-รองผู้ว่าฯ ล็อตใหญ่ที่จะมีขึ้นของกระทรวงมหาดไทยในอีกสองสัปดาห์จากนี้

ภูมิใจไทยจะแบ่งเค้กให้ประชาธิปัตย์เหมือนเช่นในการโยกย้ายกลางปีเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ซึ่งครั้งนั้นไม่เพียงแต่เก้าอี้ปลัดมหาดไทยเท่านั้น แต่ผู้ว่าฯหลายจังหวัดก็เป็นการขอจากสุเทพและประชาธิปัตย์เช่นผู้ว่าฯเชียงใหม่- แพร่-ระยอง

และนี่คืออีกหนึ่งผลประโยชน์ต่างตอบแทนของประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย ที่ใช้ตำแหน่ง เก้าอี้ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการมาเป็นเครื่องต่อรองซึ่งกันและกัน จนทำเสมือนกับข้าราชการ ไม่ใช่ “ข้าของแผ่นดิน” แต่เป็นสมุนพรรคการเมืองอย่างไรอย่างนั้น

สำหรับ เนวิน กับ มานิต ใครจะเป็นข้าใครนั้นยังไม่แน่ เพราะคนให้ก็ใช่ว่าจะเป็น “นาย” เสมอไปเมื่อเจอผู้ใต้บังคับบัญชาระดับจอมยุทธ์วิชาเชลียร์ อาจจะอ่อนยวบไปในทุกกระบวนท่า

เพราะมานิตที่ใครๆ ก็รู้ว่าเนวินหลงใหลได้ปลื้มในตัวเขาอย่างมาก ด้วยเคล็ดลับวิชาไม่ลับของสิงห์ขาวผู้นี้…

เสียงเรียกเข้าและเพลงรอสายโทรศัพท์มือถือของ “ว่าที่ มท.1” ก็ยังเป็นเพลงพรรคภูมิใจไทย

เล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ยังเก็บคะแนนสะสม

จึงไม่น่าแปลกใจที่ “มานิต วัฒนเสน” คว้าเก้าอี้ปลัดมหาดไทยไปได้อย่างไร้คู่แข่งด้วย “เนวิน” จัดให้!

กำลังโหลดความคิดเห็น