อนุ ก.ตร.เรียก “พัชรวาท” สอบข้อเท็จจริงรับประโยชน์แต่งตั้งโยกย้ายโผเล็ก ศุกร์ที่ 21 เจ้าตัวยังไม่รับปาก พร้อมเรียก “วีระ ชื่นกลิ่นธูป” ให้ข้อมูลเชิงลึกเรียกรับจ่ายตังค์ซื้อเก้าอี้ตามที่ร้องเรียนเพิ่มเติม ย้ำวิกฤตครั้งนี้เป็นโอกาสปรับระบบคนที่อาวุโส-ทำงานดีได้รับความเป็นธรรม
วันนี้ (19 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิในฐานะโฆษก อนุ ก.ตร.ชุดพิเศษสืบสวนการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ กล่าวภายหลังประชุมคณะอนุฯร่วม 4 ชั่วโมงว่า วันนี้ไม่ได้มีอะไรใหม่ ซึ่งในวันที่ 21 สิงหาคม จะเรียก พ.ต.ท.วีระ ชื่นกลิ่นธูป รอง ผกก.ป.สภ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี สังกัด บช.ภ.7 ที่ร้องเรียนเรื่องนี้ และยินดีจะมาให้การ ขณะที่จะเชิญ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.มาให้ข้อมูล ซึ่งจะสอบหลายประเด็น แต่ ผบ.ตร.ยังไม่รับปากว่าจะมา
พล.ต.อ.นพดล กล่าวว่า จะเชิญสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด บช.ภ.2-3 มาให้ข้อมูลด้วย ซึ่งจากข้อมูลที่นายศิริโชคให้มาส่วนใหญ่เป็นตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายก็จะพยายามเรียกมาสอบ เช่น กลุ่มที่อยู่ดีๆ ก็ถูกย้ายออกไป มีการมาเรียกเงินแล้วไม่จ่ายหรือไม่ จะเรียกมาสอบถามกัน ซึ่งพบว่าการแต่งตั้งปี 2551 มีการร้องเรียนเยอะมาก กรณีโดนโยกย้ายอย่างที่รู้มา
“ข้อมูลที่ได้ในวันนี้จะมีประโยชน์เกี่ยวกับการแต่งตั้ง เมื่อปี 2551 ที่การร้องเรียนเข้ามา ส่วนการแต่งตั้งปี 2552 นั้นต้องรอดูบัญชีที่นำเข้าพิจารณาในช่วงแต่งตั้ง ที่เป็นอำนาจของ ผบ.ตร. เพราะฉะนั้นการพิจารณาต้องอยู่ที่บัญชีว่ามีเหตุผลเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และความเห็นที่กองบัญชาการเสนอมาหรือไม่ ซึ่งขณะนี้เรามีแต่บัญชีที่ บช.เสนอ แต่ยังไม่ทราบว่ามีเด็กเส้นเด็กฝากหรือไม่ ก็ต้องรอบัญชีแต่งตั้งระดับรอง ผบก.ที่ ตร.ทำมาเปรียบ ซึ่งตอนนี้เรายังไม่เห็นต้องรอให้มีการพิจารณาก่อนแล้วจะเห็นว่าบัญชีแตกต่างกันตรงไหนอย่างไร มีเหตุมีผลหรือไม่” พล.ต.อ.นพดล กล่าว
เมื่อถามว่าข้อมูลที่ได้จากการสอบครั้งนี้พบการซื้อขายตำแหน่งหรือไม่ พล.ต.อ.นพดล กล่าวว่า ยังไม่ดูถึงขนาดนั้น ข้อมูลยังไม่ถึง มีแต่เพียงว่าปี 2552 มีการเสนอบัญชีมาในแต่ละบช.มีการประชุมพิจารณาของรอง ผบช.ในรูปแบบคณะกรรมการ บาง บช.เรียกรอง ผบก.ขึ้นมาให้ข้อมูล เพื่อร่วมกันพิจารณาบุคคลที่เหมาะสม ควรได้เลื่อนตำแหน่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับอำนาจของ ตร.ว่าจะพิจารณาอย่างไร และ บช.ก็ยังไม่มั่นใจว่าบัญชีที่เสนอมานั้น เมื่อผ่านระดับ ตร.แล้วจะเป็นไปตามเสนอมาหรือไม่ เพราะว่าต้องมีการเกลี่ยตำแหน่งจากตำแหน่งประจำสำนักงานผู้บังคับบัญชาลงไปอีกจำนวนมาก หากการเกลี่ยมีเหตุมีผล มีหลักการก็ไม่น่ามีปัญหา
“ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการซื้อขายตำแหน่ง ซึ่งจะสรุปได้ต้องมีพยานหลักฐานด้วย ต้องมีคนมาให้การ แต่ที่แน่ๆ วิกฤตครั้งนี้เป็นโอกาสปรับระบบการแต่งตั้งที่ถูกร้องเรียนกันมากให้เข้ารูปเข้าร่างให้คนที่อาวุโส ที่ทำงานดีได้รับความเป็นธรรม” พล.ต.อ.นพดล กล่าว
เมื่อถามว่ามีตำรวจบางรายที่ไม่กล้ามาร้องเรียนเพราะเป็นผู้ให้ และมีผู้รับซึ่งผิดกฎหมาย พล.ต.อ.นพดล กล่าวว่า ก็มีปัญหาตรงนั้น แต่อาจใช้วิธีการชี้เบาะแสทำให้ทราบเส้นทางได้
จ่อเรียก “พัชรวาท-คนใกล้ชิด” สอบซื้อเก้าอี้ตั้งนายตำรว