"วิเชียร"โยน"ปทีป" ดูโผโยกย้ายตำรวจตามโครงสร้างใหม่ ย้ำจะทำใด้ดีที่สุด "สนธิ" เชื่อการซื้อขายเก้าอี้มีจริง แนะให้ผบ.ตร. คนใหม่เป็นคนจัดโผโยกย้าย ด้าน"ศิริโชค" พร้อมให้ข้อมูล กก.สอบ แต่ไม่ไปให้ซัก จะส่งจดหมายไปแทน "โกวิท" แฉซ้ำตำรวจซื้อเก้าอี้กันตั้งแต่จบรร.นายร้อย ถึงวันนี้ระดับผู้บังคับการพุ่งถึง 10 ล้าน บางคนให้หลังบ้านรับแทน ทั้งเงิน-พระเครื่อง
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา (สบ.10) รักษาราชการแทนผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ถึงโครงสร้างตำรวจใหม่ที่จะเลื่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปเป็นวันที่ 7 ก.ย. ขั้นตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร ทั้งการวางกำลังพล และการโยกย้ายประจำปี ในส่วนตัวท่านจะต้องเข้าไปดูการแต่งตั้งโยกย้ายตามโครงสร้างใหม่หรือไม่ ว่า เรื่องนี้จะมีคณะทำงานอยู่โดยมีพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รอง ผบ.ตร. จะเป็นผู้ดูแลและนำเข้าบอร์ดที่มีระดับรอง ผบ.ตร. ขึ้นไป ส่วนไหนที่เป็นข้อยกเว้นที่จะเข้า ก.ตร.ก็จะนำเข้าหารืออีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าคณะทำงานที่ พล.ต.อ.ปทีป เป็นประธาน จะมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ทำหน้าที่พิจารณาจัดวางกำลังพลลงในโครงสร้างใหม่ ตำแหน่งตั้งแต่รองผู้บังคับการไปจนถึงสารวัตร ส่วนใหญ่จะเป็นการปัดเกลี่ยตำแหน่งในระดับเดียวกัน แต่ถ้าเป็นตำแหน่งระดับสูง ถ้าจำเป็นต้องทำ ก็จะพยายามทำให้น้อยที่สุด
เมื่อถามว่ามีขั้นตอนหรือไม่ว่าจะต้องทำให้เสร็จในเวลาเท่าใด ต้องให้ทันในช่วงที่ท่านรักษาการแทน หรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ไม่จำเป็นขนาดนั้น แต่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการที่จะมีผลวันที่ 7 ก.ย. เพราะฉะนั้นก็ต้องทำให้เสร็จภายในกำหนด เมื่อถามว่าจะเสร็จทันในเวลาที่ท่านรักษาราชการ ถึงวันที่ 18 ส.ค.นี้ หรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ใครเป็น ผบ.ตร.ก็ต้องทำหน้าที่นี้ไป ซึ่งไม่ว่าใครมาเป็น ก็ต้องทำในหลักการเดียวกันนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่าทาง ผบ.ตร. จะลาต่อไปจนถึงสิ้นเดือน เพื่อเดินทางไปยุโรป รักษาราชการแทน ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่ทราบ เมื่อถามว่าการลาต่อนี้ เป็นการเปิดทางให้ท่านทำตรงนี้ต่อเนื่องไปให้เสร็จสิ้นหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร ไม่ตอบ
ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวเด็กฝาก ในช่วงที่มีการโยกย้ายตำรวจ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะก็ใช้หลักเกณฑ์เดิม ที่มีคณะทำงาน มีการตรวจสอบ เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ที่มีโยกย้ายทีไร ตำรวจก็มักจะถูกพุ่งเป้าว่ามีการตั้งโต๊ะรับเงิน พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า เป็นธรรมดา ซึ่งก็ต้องทำให้ดีที่สุด ถามอีกว่า การที่มีข่าวการซื้อขายตำแหน่งอย่างนี้ขึ้นมา ทำให้เสียความรู้สึกหรือไม่ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ไม่ตอบ และได้ขอตัวขึ้นรถไป
"สนธิ"เชื่อมีการซื้อขายเก้าอี้จริง
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึงการซื้อขายตำแหน่งนายตำรวจ ว่า ในเรื่องนี้ตนยืนยันว่านายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ พูดถูกต้อง เพราะมีการรับเงินในการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจจริง โดยในตำแหน่งผู้กำกับ ผู้บังคับการ ใช้เงิน 5-7 ล้าน ซึ่งการที่ไม่ปรับโผนายพล เพราะผู้ใหญ่รับเงินไปแล้วจะคืนได้อย่างไร
ทั้งนี้คิดว่าควรจะให้เป็นหน้าที่ของ ผบ.ตร. คนใหม่เข้ามาจัดทำโผแต่งตั้งโยกย้าย ไม่เช่นนั้นคนที่ทำหน้าที่ ผบ.ตร.ไม่สามรถดึงคนมาช่วยงานได้ อย่างไรก็ตาม การซื้อขายตำแหน่งมีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องทุกยุคทุกสมัย และเมื่อได้ตำแหน่งก็มารีดไถกับประชาชน แท็กซี่ ผับ บ่อน หวย และของเถื่อน เพื่อเอาเงินคืน
เชิญ"ศิริโชค"ให้ข้อมูลกก.สอบ
นายสมศักดิ์ บุญทอง คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ผู้ทรงคุณวุฒิ ในฐานะประธานสอบการซื้อขายตำแหน่งตำรวจ เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือเชิญ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เข้าให้ข้อมูลในวันที่17 ส.ค.นี้ เวลา13.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังออกมาแฉว่า มีการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการลงไป พร้อมกันนี้ ในวันดังกล่าว คณะกรรมการจะมีการประชุมเพื่อวางกรอบ และแนวทางการทำงานอีกครั้ง
ทั้งนี้ หากนายศิริโชค เข้าให้ข้อมูลตามที่คณะกรรมการประสานไป เชื่อว่าการตรวจสอบที่มาที่ไปจะทำได้ไม่ยาก ว่ามีการซื้อขายตำแหน่งจริงหรือไม่ ซึ่งคณะกรมการฯ จะพยายามดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จ และรายงานให้ ก.ตร. ทราบตามกรอบที่ขีดเส้นไว้ ภายใน 15 วัน
"ศิริโชค"พร้อมให้ข้อมูลทางจม.
นายศิริโชค โสภา ส.ส. สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการสอบการซื้อขายตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ที่มีนายสมศักดิ์ บุญทอง เป็นประธาน จะเชิญเข้าให้ข้อมูลการซื้อขายตำแหน่งในวันที่ 17 ส.ค.นี้ว่า ยังไม่ได้รับหนังสือเรียกให้ไปให้ข้อมูลดังกล่าว แต่ตนพร้อมให้ข้อมูลด้วยการทำหนังสือชี้แจงไปยังคณะกรรมการฯ โดยจะไม่ไปชี้แจงด้วยตัวเอง เพราะในฐานะส.ส. จะยึดการตรวจสอบของสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก ซึ่งหากพบว่าหลังการโยกย้ายแล้ว ยังมีการซื้อขายตำแหน่งเกิดขึ้น ตนก็พร้อมให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎรทันที
เยัยตั้งกก.ตรวจสอบแค่ปาหี่
นายโกวิทย์ ธารณา ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การให้ตำรวจมาสอบตำรวจเรื่องการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งไม่มีทางที่จะจับได้ เพราะตำรวจย่อมปกป้องศักดิ์ศรีของตำรวจด้วยกันเอง การตั้งคณะกรรมการรชุดนี้มาตรวจสอบ จึงไม่มีความหมาย เพราะการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งในวงการตำรวจมีมาช้านาน เริ่มตั้งแต่ จบรร.นายร้อยตำรวจ ก็เริ่มซื้อขายตำแหน่งแล้ว ยิ่งในยุคนี้แต่ละลำดับชั้น จะมีเรตราคาซื้อขายกันชัดเจน เช่น ระดับผู้บังคับการ จะอยู่ที่ 10 ล้านบาท แต่หากบุคคลนั้นมีคุณสมบัติ มีความสามารถ และใกล้ชิดสนิทสนม ก็จะต่อรองราคาได้เหลือประมาณ 7-8 ล้านบาท
ส่วนระดับรองผู้กำกับ จะลดหลั่นลงมาเรื่อย ๆ และบางคนจะไม่เรียกรับเงินเอง ทำตัวเป็นตำรวจตรงฉิน แต่หลังบ้านจะเปิดรับ ซึ่งอาจจะไม่ใช่เงิน แต่อาจจะเป็นการให้พระ โดยพระยอดนิยมเป็นพระเบญจภาคี อย่างนายตำรวจบางคน มีเงินมากมายแล้ว แต่ไม่มีพระก็อยากจะได้พระสมเด็จมาบูชา
"เด็จพี่"ร้องกกต.เอาผิด"มาร์ค-เทือก"
วานนี้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบ และส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงตามมาตรา 182 (7) จากกรณีที่นายอภิสิทธิ์ มีคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา(สบ10) เป็น รักษาราชการแทนผบ.ตร. ซึ่งขัดต่อ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 72 ขณะที่นายสุเทพได้มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ลงไปปฏิบัติหน้าที่ในภาคใต้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีเจตนาก้าวก่ายแทรกแซงในการบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ โดยอาศัย พล.ต.อ.วิเชียร เป็นผู้ดำเนินการ และพฤติการณ์ดังกล่าว ขัดกับมาตรา 266 (2) ประกอบมาตรา 268 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งทำให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์ นายกฯสิ้นสุดลงมาตรา 182 (7)
ซัด"มาร์ค"เหมือนเด็กเล่นขายของ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการแต่งตั้ง ผู้รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ว่า เมื่อ ผบ.ตร. ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมีอำนาจเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทำตัวเหมือนเด็กเล่นขายของ ไม่เคยเข้าใจระบบระเบียบ และยังผสมผสานเรื่องกับคดีของนายสนธิ ลิ้มทองกุล
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ อาศัยอำนาจอะไรที่อ้างว่าคดีของนายสนธิ มีความคืบหน้าไปมาก และอ้างว่าเจอตอ เพราะหน้าที่ดังกล่าวเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน นายอภิสิทธิ์ ในฐานะนายกฯไม่มีสิทธิ์รับรู้ ทำตัวสะเปะสะปะ เลอะเทอะเปอะเปื้อนไปหมด หรือเป็นการหาข้ออ้างเพื่อต้องการปรับเปลี่ยนโผ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายเรียกร้องให้ นายศิริโชค ออกมาเปิดเผยข้อมูลการซื้อขายเก้าอี้ ในการโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนขอวิเคราะห์ว่า สุดท้ายแล้วนายศิริโชค ก็จะออกมาบอกว่า การแต่งตั้งมีความชอบธรรม ถูกต้อง คนที่มีอาวุโส มีความรู้ความสามารถ เป็นอันรู้กัน และเรื่องนี้ก็จะจบ ทั้งนี้ตนรู้มาว่าที่ นายศิริโชค พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพราะไม่มีอะไรจะพูด พูดแบบไม่รับผิดชอบ และตนก็ไม่เรียกร้องให้นายศิริโชค ออกมาเปิดโปง เพราะเรียกร้องอะไรไปก็คงไม่เป็นผล
สำหรับกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ทำหนังสือไปยังนายศิริโชค เพื่อให้เปิดเผยข้อมูลนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพิ่งเห็นนายสุเทพทำถูกใจตนก็ครั้งนี้
"ไอ้เทพเอ๋ย เอ็งทำดีจริงๆ ก็คราวนี้"
ท้า"มาร์ค" ตอบกระทู้สด-ดีเบต
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงการตั้งกระทู้สดถามเรื่องการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ด้วยว่า ขอท้า นายอภิสิทธิ์ ว่า ในสัปดาห์หน้า ให้มาตอบกระทู้สด ถ้านายอภิสิทธิ์ไม่มาตอบ ตนก็จะไม่ตั้งกระทู้ถาม และจะถอนกระทู้นี้ทันที และขอเรียกร้องไปยังสื่อว่า อย่าอุ้มนายอภิสิทธิ์ มากเกินไป รวมทั้งขอทวงสัญญาที่จะให้ฝ่ายค้านออกโทรทัศน์ด้วย ตนขอท้าให้นายอภิสิทธิ์ มาดีเบตร่วมกัน โดยเฉพาะเรื่องของตำรวจนั้น ตนถนัดมาก
เย้ย"เหลิม"ล้มละลายทางความเชื่อถือ
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ เฝ้ารอว่า ร.ต.อ.เฉลิม จะมีการตั้งกระทูสด มายังนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งปรากฎชัดถึงวันนี้ว่าไม่มี ซึ่งก็ไม่ทราบสาเหตุอันใด ถ้าเกิด ร.ต.อ.เฉลิม เกี่ยงที่จะถามนายกฯ ก็ต้องรอ แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วคำถามของ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่จำเป็นต้องให้นายกฯ ตอบก็ได้ เพราะท่านได้มอบหมายให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ( สตช.)อยู่ ก็ตอบได้ แต่เมื่อเกี่ยงที่จะตั้งกระทู้ก็ เป็นสิทธิ์ของ ร.ต.อ.เฉลิม แต่เท่านั้นยังไม่พอ ร.ต.อ.เฉลิม ยังให้สัมภาษณ์ท้าทาย ว่าจะดีเบตกับนายกฯ ซึ่งไม่ทราบว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่ในฐานะอะไร หรือเอาฐานะอะไรมาท้าทายนายกฯให้ดีเบตด้วย เพราะจริงๆ ถ้า ร.ต.อ.เฉลิม ต้องการดีเบต ก็ไม่จำเป็นต้องดีเบต ในรายการสถานนีโทรทัศน์ก็ได้ แต่ ใช้ช่องทางรัฐสภา ตั้งกระทู้สด ต่อนายกฯ เพราะรัฐบาลใจกว้าง เปิดให้การถ่ายทอดสดการตั้งกระทู้สดประจำอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า ร.ต.อ.เฉลิม จะยื่นกระทู้ถามวันไหนแค่นั้นเอง
นายเทพไท กล่าวด้วยว่า วันนี้บทบาทของ ร.ต.อ.เฉลิม ทำให้คนสงสัยว่า ทำไมจึงมีความรักความห่วงใย สถาบันตำรวจอย่างจับจิตจับใจ เพราะครั้งหนึ่งถ้าจำได้ วันที่ลูกตัวเองถูกจับที่ สน.ทองหล่อ ร.ต.อ.เฉลิมได้ขึ้นไปด่ากราดบนโรงพัก ตนคิดว่าภาพเหล่านั้นยังฝังใจตำรวจทั้งสำนักงานอยู่ หรือว่า ร.ต.อ.เฉลิม ต้องการไถ่บาปตัวเอง ที่ไปประณาม สตช. ตนคิดว่าสังคมขาดความเชื่อถือในคำพูดของร.ต.อ.เฉลิมไปแล้ว เพราะหลายครั้งที่พูดกลับไปกลับมา แม้กระทั่งการปราศรัยหาเสียงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริง แต่เมื่อ กกต. สอบก็บอกว่าพูดเล่น ตนคิดว่าคำพูดประนาม ตำรวจที่ สน.ทองหล่อ ถ้าวันนี้ไปถาม ร.ต.อ.เฉลิม อาจจะแก้ตัวว่า ที่พูดไปเพราะเมา
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา (สบ.10) รักษาราชการแทนผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ถึงโครงสร้างตำรวจใหม่ที่จะเลื่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปเป็นวันที่ 7 ก.ย. ขั้นตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร ทั้งการวางกำลังพล และการโยกย้ายประจำปี ในส่วนตัวท่านจะต้องเข้าไปดูการแต่งตั้งโยกย้ายตามโครงสร้างใหม่หรือไม่ ว่า เรื่องนี้จะมีคณะทำงานอยู่โดยมีพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รอง ผบ.ตร. จะเป็นผู้ดูแลและนำเข้าบอร์ดที่มีระดับรอง ผบ.ตร. ขึ้นไป ส่วนไหนที่เป็นข้อยกเว้นที่จะเข้า ก.ตร.ก็จะนำเข้าหารืออีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าคณะทำงานที่ พล.ต.อ.ปทีป เป็นประธาน จะมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ทำหน้าที่พิจารณาจัดวางกำลังพลลงในโครงสร้างใหม่ ตำแหน่งตั้งแต่รองผู้บังคับการไปจนถึงสารวัตร ส่วนใหญ่จะเป็นการปัดเกลี่ยตำแหน่งในระดับเดียวกัน แต่ถ้าเป็นตำแหน่งระดับสูง ถ้าจำเป็นต้องทำ ก็จะพยายามทำให้น้อยที่สุด
เมื่อถามว่ามีขั้นตอนหรือไม่ว่าจะต้องทำให้เสร็จในเวลาเท่าใด ต้องให้ทันในช่วงที่ท่านรักษาการแทน หรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ไม่จำเป็นขนาดนั้น แต่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการที่จะมีผลวันที่ 7 ก.ย. เพราะฉะนั้นก็ต้องทำให้เสร็จภายในกำหนด เมื่อถามว่าจะเสร็จทันในเวลาที่ท่านรักษาราชการ ถึงวันที่ 18 ส.ค.นี้ หรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ใครเป็น ผบ.ตร.ก็ต้องทำหน้าที่นี้ไป ซึ่งไม่ว่าใครมาเป็น ก็ต้องทำในหลักการเดียวกันนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่าทาง ผบ.ตร. จะลาต่อไปจนถึงสิ้นเดือน เพื่อเดินทางไปยุโรป รักษาราชการแทน ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่ทราบ เมื่อถามว่าการลาต่อนี้ เป็นการเปิดทางให้ท่านทำตรงนี้ต่อเนื่องไปให้เสร็จสิ้นหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร ไม่ตอบ
ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวเด็กฝาก ในช่วงที่มีการโยกย้ายตำรวจ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะก็ใช้หลักเกณฑ์เดิม ที่มีคณะทำงาน มีการตรวจสอบ เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ที่มีโยกย้ายทีไร ตำรวจก็มักจะถูกพุ่งเป้าว่ามีการตั้งโต๊ะรับเงิน พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า เป็นธรรมดา ซึ่งก็ต้องทำให้ดีที่สุด ถามอีกว่า การที่มีข่าวการซื้อขายตำแหน่งอย่างนี้ขึ้นมา ทำให้เสียความรู้สึกหรือไม่ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ไม่ตอบ และได้ขอตัวขึ้นรถไป
"สนธิ"เชื่อมีการซื้อขายเก้าอี้จริง
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึงการซื้อขายตำแหน่งนายตำรวจ ว่า ในเรื่องนี้ตนยืนยันว่านายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ พูดถูกต้อง เพราะมีการรับเงินในการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจจริง โดยในตำแหน่งผู้กำกับ ผู้บังคับการ ใช้เงิน 5-7 ล้าน ซึ่งการที่ไม่ปรับโผนายพล เพราะผู้ใหญ่รับเงินไปแล้วจะคืนได้อย่างไร
ทั้งนี้คิดว่าควรจะให้เป็นหน้าที่ของ ผบ.ตร. คนใหม่เข้ามาจัดทำโผแต่งตั้งโยกย้าย ไม่เช่นนั้นคนที่ทำหน้าที่ ผบ.ตร.ไม่สามรถดึงคนมาช่วยงานได้ อย่างไรก็ตาม การซื้อขายตำแหน่งมีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องทุกยุคทุกสมัย และเมื่อได้ตำแหน่งก็มารีดไถกับประชาชน แท็กซี่ ผับ บ่อน หวย และของเถื่อน เพื่อเอาเงินคืน
เชิญ"ศิริโชค"ให้ข้อมูลกก.สอบ
นายสมศักดิ์ บุญทอง คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ผู้ทรงคุณวุฒิ ในฐานะประธานสอบการซื้อขายตำแหน่งตำรวจ เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือเชิญ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เข้าให้ข้อมูลในวันที่17 ส.ค.นี้ เวลา13.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังออกมาแฉว่า มีการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการลงไป พร้อมกันนี้ ในวันดังกล่าว คณะกรรมการจะมีการประชุมเพื่อวางกรอบ และแนวทางการทำงานอีกครั้ง
ทั้งนี้ หากนายศิริโชค เข้าให้ข้อมูลตามที่คณะกรรมการประสานไป เชื่อว่าการตรวจสอบที่มาที่ไปจะทำได้ไม่ยาก ว่ามีการซื้อขายตำแหน่งจริงหรือไม่ ซึ่งคณะกรมการฯ จะพยายามดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จ และรายงานให้ ก.ตร. ทราบตามกรอบที่ขีดเส้นไว้ ภายใน 15 วัน
"ศิริโชค"พร้อมให้ข้อมูลทางจม.
นายศิริโชค โสภา ส.ส. สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการสอบการซื้อขายตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ที่มีนายสมศักดิ์ บุญทอง เป็นประธาน จะเชิญเข้าให้ข้อมูลการซื้อขายตำแหน่งในวันที่ 17 ส.ค.นี้ว่า ยังไม่ได้รับหนังสือเรียกให้ไปให้ข้อมูลดังกล่าว แต่ตนพร้อมให้ข้อมูลด้วยการทำหนังสือชี้แจงไปยังคณะกรรมการฯ โดยจะไม่ไปชี้แจงด้วยตัวเอง เพราะในฐานะส.ส. จะยึดการตรวจสอบของสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก ซึ่งหากพบว่าหลังการโยกย้ายแล้ว ยังมีการซื้อขายตำแหน่งเกิดขึ้น ตนก็พร้อมให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎรทันที
เยัยตั้งกก.ตรวจสอบแค่ปาหี่
นายโกวิทย์ ธารณา ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การให้ตำรวจมาสอบตำรวจเรื่องการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งไม่มีทางที่จะจับได้ เพราะตำรวจย่อมปกป้องศักดิ์ศรีของตำรวจด้วยกันเอง การตั้งคณะกรรมการรชุดนี้มาตรวจสอบ จึงไม่มีความหมาย เพราะการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งในวงการตำรวจมีมาช้านาน เริ่มตั้งแต่ จบรร.นายร้อยตำรวจ ก็เริ่มซื้อขายตำแหน่งแล้ว ยิ่งในยุคนี้แต่ละลำดับชั้น จะมีเรตราคาซื้อขายกันชัดเจน เช่น ระดับผู้บังคับการ จะอยู่ที่ 10 ล้านบาท แต่หากบุคคลนั้นมีคุณสมบัติ มีความสามารถ และใกล้ชิดสนิทสนม ก็จะต่อรองราคาได้เหลือประมาณ 7-8 ล้านบาท
ส่วนระดับรองผู้กำกับ จะลดหลั่นลงมาเรื่อย ๆ และบางคนจะไม่เรียกรับเงินเอง ทำตัวเป็นตำรวจตรงฉิน แต่หลังบ้านจะเปิดรับ ซึ่งอาจจะไม่ใช่เงิน แต่อาจจะเป็นการให้พระ โดยพระยอดนิยมเป็นพระเบญจภาคี อย่างนายตำรวจบางคน มีเงินมากมายแล้ว แต่ไม่มีพระก็อยากจะได้พระสมเด็จมาบูชา
"เด็จพี่"ร้องกกต.เอาผิด"มาร์ค-เทือก"
วานนี้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบ และส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงตามมาตรา 182 (7) จากกรณีที่นายอภิสิทธิ์ มีคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา(สบ10) เป็น รักษาราชการแทนผบ.ตร. ซึ่งขัดต่อ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 72 ขณะที่นายสุเทพได้มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ลงไปปฏิบัติหน้าที่ในภาคใต้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีเจตนาก้าวก่ายแทรกแซงในการบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ โดยอาศัย พล.ต.อ.วิเชียร เป็นผู้ดำเนินการ และพฤติการณ์ดังกล่าว ขัดกับมาตรา 266 (2) ประกอบมาตรา 268 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งทำให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์ นายกฯสิ้นสุดลงมาตรา 182 (7)
ซัด"มาร์ค"เหมือนเด็กเล่นขายของ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการแต่งตั้ง ผู้รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ว่า เมื่อ ผบ.ตร. ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมีอำนาจเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทำตัวเหมือนเด็กเล่นขายของ ไม่เคยเข้าใจระบบระเบียบ และยังผสมผสานเรื่องกับคดีของนายสนธิ ลิ้มทองกุล
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ อาศัยอำนาจอะไรที่อ้างว่าคดีของนายสนธิ มีความคืบหน้าไปมาก และอ้างว่าเจอตอ เพราะหน้าที่ดังกล่าวเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน นายอภิสิทธิ์ ในฐานะนายกฯไม่มีสิทธิ์รับรู้ ทำตัวสะเปะสะปะ เลอะเทอะเปอะเปื้อนไปหมด หรือเป็นการหาข้ออ้างเพื่อต้องการปรับเปลี่ยนโผ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายเรียกร้องให้ นายศิริโชค ออกมาเปิดเผยข้อมูลการซื้อขายเก้าอี้ ในการโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนขอวิเคราะห์ว่า สุดท้ายแล้วนายศิริโชค ก็จะออกมาบอกว่า การแต่งตั้งมีความชอบธรรม ถูกต้อง คนที่มีอาวุโส มีความรู้ความสามารถ เป็นอันรู้กัน และเรื่องนี้ก็จะจบ ทั้งนี้ตนรู้มาว่าที่ นายศิริโชค พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพราะไม่มีอะไรจะพูด พูดแบบไม่รับผิดชอบ และตนก็ไม่เรียกร้องให้นายศิริโชค ออกมาเปิดโปง เพราะเรียกร้องอะไรไปก็คงไม่เป็นผล
สำหรับกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ทำหนังสือไปยังนายศิริโชค เพื่อให้เปิดเผยข้อมูลนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพิ่งเห็นนายสุเทพทำถูกใจตนก็ครั้งนี้
"ไอ้เทพเอ๋ย เอ็งทำดีจริงๆ ก็คราวนี้"
ท้า"มาร์ค" ตอบกระทู้สด-ดีเบต
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงการตั้งกระทู้สดถามเรื่องการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ด้วยว่า ขอท้า นายอภิสิทธิ์ ว่า ในสัปดาห์หน้า ให้มาตอบกระทู้สด ถ้านายอภิสิทธิ์ไม่มาตอบ ตนก็จะไม่ตั้งกระทู้ถาม และจะถอนกระทู้นี้ทันที และขอเรียกร้องไปยังสื่อว่า อย่าอุ้มนายอภิสิทธิ์ มากเกินไป รวมทั้งขอทวงสัญญาที่จะให้ฝ่ายค้านออกโทรทัศน์ด้วย ตนขอท้าให้นายอภิสิทธิ์ มาดีเบตร่วมกัน โดยเฉพาะเรื่องของตำรวจนั้น ตนถนัดมาก
เย้ย"เหลิม"ล้มละลายทางความเชื่อถือ
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ เฝ้ารอว่า ร.ต.อ.เฉลิม จะมีการตั้งกระทูสด มายังนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งปรากฎชัดถึงวันนี้ว่าไม่มี ซึ่งก็ไม่ทราบสาเหตุอันใด ถ้าเกิด ร.ต.อ.เฉลิม เกี่ยงที่จะถามนายกฯ ก็ต้องรอ แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วคำถามของ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่จำเป็นต้องให้นายกฯ ตอบก็ได้ เพราะท่านได้มอบหมายให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ( สตช.)อยู่ ก็ตอบได้ แต่เมื่อเกี่ยงที่จะตั้งกระทู้ก็ เป็นสิทธิ์ของ ร.ต.อ.เฉลิม แต่เท่านั้นยังไม่พอ ร.ต.อ.เฉลิม ยังให้สัมภาษณ์ท้าทาย ว่าจะดีเบตกับนายกฯ ซึ่งไม่ทราบว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่ในฐานะอะไร หรือเอาฐานะอะไรมาท้าทายนายกฯให้ดีเบตด้วย เพราะจริงๆ ถ้า ร.ต.อ.เฉลิม ต้องการดีเบต ก็ไม่จำเป็นต้องดีเบต ในรายการสถานนีโทรทัศน์ก็ได้ แต่ ใช้ช่องทางรัฐสภา ตั้งกระทู้สด ต่อนายกฯ เพราะรัฐบาลใจกว้าง เปิดให้การถ่ายทอดสดการตั้งกระทู้สดประจำอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า ร.ต.อ.เฉลิม จะยื่นกระทู้ถามวันไหนแค่นั้นเอง
นายเทพไท กล่าวด้วยว่า วันนี้บทบาทของ ร.ต.อ.เฉลิม ทำให้คนสงสัยว่า ทำไมจึงมีความรักความห่วงใย สถาบันตำรวจอย่างจับจิตจับใจ เพราะครั้งหนึ่งถ้าจำได้ วันที่ลูกตัวเองถูกจับที่ สน.ทองหล่อ ร.ต.อ.เฉลิมได้ขึ้นไปด่ากราดบนโรงพัก ตนคิดว่าภาพเหล่านั้นยังฝังใจตำรวจทั้งสำนักงานอยู่ หรือว่า ร.ต.อ.เฉลิม ต้องการไถ่บาปตัวเอง ที่ไปประณาม สตช. ตนคิดว่าสังคมขาดความเชื่อถือในคำพูดของร.ต.อ.เฉลิมไปแล้ว เพราะหลายครั้งที่พูดกลับไปกลับมา แม้กระทั่งการปราศรัยหาเสียงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริง แต่เมื่อ กกต. สอบก็บอกว่าพูดเล่น ตนคิดว่าคำพูดประนาม ตำรวจที่ สน.ทองหล่อ ถ้าวันนี้ไปถาม ร.ต.อ.เฉลิม อาจจะแก้ตัวว่า ที่พูดไปเพราะเมา
