"ฝั่งขวาเจ้าพระยา"
โดย โชกุน
ขนลุกซู่ กับพิธีกรรมของคนเสื้อแดง ที่แบกคานหามกล่องแดง จากทุ่งพระเมรุ มุ่งหน้าไปยังประตูวิเศษไชยศรี
ในกล่องที่ห่อหุ้มมิดชิดด้วยผ้าสีแดง หนำซ้ำ ผู้แบกหาม ยังแต่งกายด้วยชุดแดง เหมือนเพชฌฆาต ข้างในนั้น คงเป็นศีรษะ แขน ขา ที่ถูกหามจากลานประหารท้องสนามหลวงไปเซ่นสังเวย โดยมีโล้นห่มเหลืองนำหน้า หลังจากเจ้าของร่างกล่าวคำปฏิญาณ เสมือนกราบถวายบังคมลา
ใครหนอช่างสร้างสรรค์ คิดค้นรูปแบบ อันทำให้งานมงคล จุดประกายให้จิตนาการเชื่อมโยงไปถึงงานอัปมงคลได้ถึงเพียงนี้ เจ้าของงาน กงเต๊ก ที่วัดแก้วฟ้า ชิดซ้ายไปเลย
ขนาดฟ้า ยังเผลอหลั่งน้ำตา เพราะนึกว่าเป็นงานศพ ยุคใหม่ ที่ผู้ร่วมงานแต่งชุดแดง
พิธีกรรม ถวายฎีกา กดดันสถาบันพระมหากษัตริย์ของคนหนีคุก จงใจทำให้มีกลิ่นอายของการร้องทุกข์ถวายฎีกา หน้าประตูพระบรมมหาราชวัง
แต่ขอโทษ นี่ไม่ใช่ยุคสุโขทัย ปีนี้เป็นปี 2552 ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ฎีกานี้จะถูกส่งไปให้รัฐบาลพิจารณา ให้ความเห็น ก่อนส่งไปยังสำนักพระราชวัง ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีมีคำตอบให้แล้วว่า
“เท่าที่ผมพิจารณาแล้วเห็นว่า การถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ไม่ได้เข้าหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย เพราะต้องเป็นเจ้าตัว หรือครอบครัวเป็นผู้ยื่นฎีกา แต่ถ้าเป็นเรื่องถวายฎีกาความเดือดร้อนทั่วไป เหมือนเวลาที่ชาวบ้านมีปัญหา เราก็จะมาดูว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ถ้าเป็นเรื่องการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”
ชัดเจนอยู่ในคำพูดนี้แล้วว่า เป็นฎีกาเถื่อน ถูกตีตกไปตั้งแต่หน้าประตูวังแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาไปเปิดดูกล่องแดงว่า จะมีหัวใครอยู่ในนั้น หรือว่ามีรายชื่อกี่ล้านคน
ก้าวต่อไปของ นช.ทักษิณ และแกนนำเสื้อแดง ก็จะหยิบเอาเรื่องที่ รัฐบาลสกัดกั้นการถวายฎีกามาเคลื่อนไหวต่อไป แต่ก็จะถูกตอบโต้ ด้วยการงัดเอารายชื่อผู้ลงนามคัดค้านการถวายฎีกา ก่อนหน้านี้ ที่มีจำนวนถึง 10 ล้านคน
ถึงแม้ รัฐบาลจะออกตัวช้าเกินไป สำหรับการชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจถึงจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของ เกมล่าชื่อถวายฎีกาของ นช. ทักษิณ แต่เมื่อได้ชี้แจงไปแล้ว ต้องยอมรับว่า ได้ผลพอสมควร ทำให้เกมของ นช.ทักษิณ สะดุดลง
การแสดงตัวคัดค้านโดยเปิดเผยของกลุ่มบุคคลต่างๆ ที่มีสถานะในสังคม เช่น ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ คณาจารย์ ข้าราชการและนักศึกษาของจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย คนอย่างนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ค่อยจะแสดงความเห็นต่อสาธารณะ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า รวมทั้งปลัดกระทรวง 29 กระทรวง ฯลฯ เหมือนกับ กระแสสังคมในช่วงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทุกฝ่ายต่างออกมาแสดงจุดยืนให้ “ ทักษิณ ออกไป”
การเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ แกนนำเสื้อแดงของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั่วประเทศ และ การที่กลุ่มของนายเนวิน ชิดชอบ ตั้งโต๊ะให้ประชาชนลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกา ที่ถูกพวกคาบคัมภีร์สมานฉันท์ ตำหนิว่า ทำให้ประชาชนแตกแยก นั้น ถือว่า เป็นกลยุทธ์เด็ดที่ทำให้กลุ่มเสื้อแดงไปไม่เป็นเอาเลย
การต่อสู้กับเกมการเคลื่อนไหวของ กลุ่มเสื้อแดงนั้น ก็ต้องสร้าง Activity ให้มวลชนเข้ามามีส่วนร่วมแบบตั้งโต๊ะลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกา จึงจะยันกันอยู่
อันที่จริง นช. ทักษิณ ได้ปล่อยนาทีทองให้หลุดมือไปแล้ว เมื่อครั้งการชุมนุมยึดทำเนียบรัฐบาล และการล้มการประชุมอาเซียนซัมมิตที่พัทยา ครั้งนั้น ถ้าแกนนำเสื้อแดง จะมีสติปัญญาสักหน่อย สลายการชุมนุมที่ทำเนียบทันที หรือ นช. ทักษิณ จะกล้าๆหน่อย บินกลับเข้ามา แม้จะเสี่ยงสูงกับ การถูกจับเข้าคุก หรือจบชีวิตลง แต่ก็มีโอกาสที่จะพลิกเกมเหมือนกัน
นาทีทองนั้นผ่านไปแล้ว และจะไม่กลับมาอีก นับจากวันนั้นเป็นต้นมาคือ การนับถอยหลังของ นช. ทักษิณ พิธีกรรมถวายฎีกาที่ประตูวิเศษไชยศรีเมื่อวานนี้ คือ การหาทางลงให้กับเกมกดดันสถาบันที่ตัวเองเป็นผู้เริ่มขึ้น แต่สังคมไม่เอาด้วย
รอดูกันต่อไปว่า นช. ทักษิณ จะงัดมุขอะไรออกมาขายสื่อให้ช่วยสร้างกระแสอีก สารพัดมุขที่ผ่านมาในรอบ 2ปี ไม่ว่า จะเป็นเรื่องพลเมืองกิตติมศักดิ์ของประเทศไกลปืนเที่ยง ซื้อทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ การลงทุนทำเหมืองเพชร เหมืองทอง ทำลอตเตอรี่ ในดินแดนด้อยพัฒนา การตั้งมูลนิธิ เปิดสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม 100 ช่อง ล้วนแต่เป็นมุขแป๊ก ที่หลอกตัวเองทั้งนั้น