โฆษกเพื่อไทยแหกปากรายวันเชียร์ “พัชรวาท” ฟ้องร้องนายกฯ ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ สวมบทบ่างยุ ตร.แต่งดำประท้วงตั้งรักษาการ ปูดข่าวบุรีรัมย์ทุ่มงบ 10 ล้านเกณฑ์ฮาร์ดคอร์ป่วน กทม.17 ส.ค. งานเข้าวอร์รูมเกาะติดสถานการณ์เสื้อแดงถวายฎีกา มั่วจี้ “กอร์ปศักดิ์” ไขก๊อกโครงการชุมชนพอเพียง
วันนี้ (16 ส.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ว่า ในกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งตั้งผู้รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ที่ไปปฏิบัติราชการที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เรื่องนี้นายอภิสิทธ์จะเสียคนอีกครั้งที่ไปอุ้มสม ไปฟังคนใกล้ชิดในเรื่องการตั้งผู้รักษาราชการแทน ผบ.ตร.และโผโยกย้ายตำรวจ ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 157 ที่ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ เข้าไปแทรกแซงโผ และตั้งผู้รักษาราชการแทน ผบ.ตร.โดยที่ไม่เคยมีในจารีตประเพณี ดังนั้น อยากเรียกร้องให้ พล.ต.อ.พัชรวาท เมื่อกลับจากภารกิจว่าอย่าลาออก ต้องอยู่จนกว่าจะเกษียณเพื่อเรียกศักดิ์ศรีของตำรวจกลับคืนมา และร่วมกันแสดงออกด้วยวิธีอารยะขัดขืน แต่งชุดดำพร้อมกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะยอมให้ฝ่ายการเมืองขี่ได้อย่างไร
นายพร้อมพงศ์แถลงถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯ อภิสิทธิ์ ว่าจะมีคนมากกว่า 1 กลุ่มเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในวันที่ 17 ส.ค.ว่า วันนี้มีหลักฐานชัดเจนว่ามีการระดมคนเข้ากรุงเทพฯ โดยชมรมคนอีสานรักประชาธิปไตย โคราช-บุรีรัมย์ ต่อต้าน 2 มาตรฐานได้มาร้องเรียนกับพรรคว่า ใน จ.บุรีรัมย์ นั้นมีความเคลื่อนไหวของนักการเมืองใหญ่ในการระดมคนพวกฮาร์ดคอร์ใน 23 อำเภอๆ ละ 300-500 คน ใช้งบประมาณอำเภอละ 5 แสนบาท รวมเป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้พรรคจะตรวจสอบก่อนที่จะร้องทุกข์กล่าวโทษต่อนักการเมือง และพรรคการเมืองดังกล่าวต่อไปว่าต้องการสร้างสถานการณ์หรือไม่ และฝากเตือนนายกรัฐมนตรีว่าต้องตรวจสอบ อย่าตัดตอน อย่าตกเป็นเครื่องมือของขบวนการที่ไปหารือกันในต่างประเทศที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่เป็นผลดีต่อระบอบประชาธิปไตย ต่อรัฐบาล และต่อตัวนายกรัฐมนตรี เนื่องจากหากเกิดการปะทะกันขึ้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบ และส่งผลให้นายกรัฐมนตรีอาจตกเก้าอี้ได้
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในวันที่ 17 ส.ค. พรรคจะตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์ของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะเดินทางไปยื่นถวายฎีกา รวมทั้งติดสถานการณ์การพิจารณาคดีทุจริตกล้ายาง และท่าทีของรัฐบาลรวมถึงฝ่ายความมั่นคงด้วย โดยวอร์รูมจะเริ่มประชุมตั้งแต่เวลา 09.00 น. แบ่งออกเป็นฝ่ายการเมือง มีประธาน ส.ส.พรรค ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน และประธานภาคทุกภาคเข้าร่วมประเมินสถานการณ์ ส่วนฝ่ายข่าวสารและประมวลสถานการณ์นั้นมีตนเข้าร่วมประชุมด้วย นอกจากนี้ในเวลา 13.00 น. พรรคจะมีการประชุมคณะยุทธศาสตร์และการเมืองของพรรค เพื่อติดตามสถานการณ์การยื่นถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงด้วยเช่นกัน และหากมีเหตุจำเป็นที่พรรคต้องแสดงความเห็นใดๆ ก็จะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทันที
นายพร้อมพงศ์ยังถึงกรณีการทุจริตในโครงการชุมชนพอเพียงว่า ขณะนี้ได้กลายเป็นโครงการโคตรแพงไปแล้ว เพราะวันนี้มีหลักฐานการทุจริตในหลายโครงการ เข้าข่ายชงเองกินเอง หากินกับโครงการพอเพียงที่เป็นปรัชญาของในหลวง ดังนั้น ขอเรียกร้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ว่าอย่าละเว้น ปกปิด ตัดตอนไม่ให้ถึงผู้กระทำผิด และขอเรียกร้องไปยังนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีว่า ต้องแสดงความรับผิดชอบทางจริยธรรมและทางการเมือง
นายพร้อมพงศ์แถลงถึงโครงการเรียนฟรี 15 ปีของรัฐบาลว่า ขณะนี้มีโรงเรียนต่างๆ ร้องเรียนมาที่พรรคว่าโครงการดังกล่าวเรียนฟรีไม่จริง เพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ อีก โดยเฉพาะโรงเรียนบางแห่งใน จ.พังงา ซึ่งเป็นฐานเสียงของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ รวมทั้งโรงเรียนบางแห่งที่ จ.สุราษฎร์ธานีด้วย ซึ่งเป็นฐานเสียงใหญ่ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากนี้ พรรคยังได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีที่รัฐบาลให้โรงเรียนติดป้ายโฆษณาโครงการเรียนฟรีด้วยว่า มีการบังคับให้โรงเรียนออกเงินทำป้ายกันเอง ดังนั้น บางโรงเรียนที่ไม่มีเงินจึงต้องลงขันเพื่อทำป้ายดังกล่าว อาจเข้าข่ายทุจริตเชิงนโยบายได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเอกสารที่นายพร้อมพงศ์นำมาแถลงข่าวนั้นประกอบด้วย หนังสือร้องเรียนของผู้ปกครองกรณีโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ขอความร่วมมือในการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาจำนวน 3,500 บาทต่อคน และหนังสือร้องเรียนของผู้ปกครองกรณีโรงเรียนเมืองสุราษฎร์ธานี ขอสนับสนุนค่าใช้จ่ายและกิจกรรมของทางโรงเรียน เช่น ค่าประกันอุบัติเหตุและค่าประกันชีวิต 150 บาทต่อปี ค่าใช้จ่ายในการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ 580 บาทต่อภาคเรียน และค่าใช้จ่ายในการจ้างครูและบุคลากรเชี่ยวชาญเฉพาะสาขา และยาม 320 บาทต่อภาคเรียน เป็นต้น