ตร.บางซื่อ ตามรวบพ่อค้ายาบ้าพาพวกรุมสกรัมปืนจี้ ตร.สันติบาลจนได้รับบาดเจ็บ ขณะปฏิบัติหน้าที่ในชุมชนซอยสมถวิล พร้อมขโมยปืนพกหลบหนี ก่อนตามจับกุมตัวได้ในซอยบ้านพักอีกครั้ง สารภาพค้ายาตั้งแต่อายุ 15 ถูกจับคดียามาแล้ว 4 ครั้ง แต่หนีประกันออกมา รับสาเหตุที่รุมซ้อมตำรวจนึกว่าเป็นพวกค้ายาที่มาล้างแค้น
วันนี้ (27 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่ สน.ประชาชื่น พ.ต.ท.ธนกฤต ไชยจารุวุฒิ รอง ผกก.สส.สน.ประชาชื่น พ.ต.ท.เฉลิมศักดิ์ ตรีพนากร สว.สส.สน. พ.ต.ต.บวร สุภิสิงห์ สว.สส. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่น ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายรักวงศ์ หรือแจ้ ห่วงเพชร อายุ 24 ปี 188/11 ซอยสมถวิล ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แขวงและเขตบางซื่อ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1218/2552 ลงวันที่ 1 พ.ค.52 ในข้อหาปล้นทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธปืนติดตัว และทำร้ายร่างกายผู้อื่น, มียาเสพติดให้โทาประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมของกลางยาบ้า 20 เม็ด มีพับ 1 เล่ม รถจยย.ยี่ห้อ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีครีม-เขียว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และเงินสดจำนวน 3,320 บาท
พ.ต.ท.ธนกฤต เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลา 21.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลนายหนึ่งได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในชุมชนซอยสมถวิล ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แขวงและเขตบางซื่อ ก็ถูกผู้ต้องหาพร้อมพวกที่ยังหลบหนีรวม 5 คนรุมทำร้ายร่างกาย พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนจี้บังคับเอาอาวุธปืนประจำตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าวจากนั้นก็ได้แยกย้ายกันหนีไป หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว จนกระทั่งพบว่านายรักวงศ์ คือหนึ่งในผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ
พ.ต.ท.ธนกฤต กล่าวต่อว่า นายรักวงศ์หลบมาพักอาศัยอยู่ในซอยสมถวิล จึงนำกำลังเข้าจับกุมมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ ครั้งนั้นผู้ต้องหาพยายามจะใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ก่อนหลบหนีไปได้ จนกระทั่งเมื่อเวลา 22.00 น.วานนี้ (26 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทราบว่านายรักวงศ์ ได้หนีมาซ่อนตัวในซอยดังกล่าวอีก จึงนำกำลังฝ่ายสืบสวนและสายตรวจเข้าดักซุ่มจับกุม แต่นายรักวงศ์พยายามจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี จนไปพุ่งชนรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจจนคว่ำ เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้
จากการสอบสวน นายรักวงศ์ให้การรับสารภาพว่า ไม่ได้ทำงานอะไร ยึดอาชีพค้ายาบ้ามาตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยจะไปรับยาจากเอเยนต์ชื่อ ปู่เหน่ง กับนายเบิร์ด ซึ่งในอยู่ในชุมชนมาในราคาเม็ดละ 130 บาท และจะไปขายต่อให้ลูกค้ารายย่อยในชุมชนในราคาเม็ดละ 180 บาท ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาก็เคยถูกจับข้อหาครอบครองยาบ้าเพื่อจำหน่ายมาแล้ว 4 ครั้ง แบ่งเป็นท้องที่ สน.ประชาชื่น 2 ครั้ง และสน.เตาปูน 2 ครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดที่ถูกจับพร้อมกับยาบ้า 100 เม็ดในท้องที่ สน.เตาปูน นั้นตนก็จ้างทนายมาประกันตัวใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 230,000 บาท ก่อนจะหนีประกันออกมา
“ส่วนคืนวันเกิดเหตุที่ปล้นปืนตำรวจนั้น มีเด็กวิ่งมาบอกผมว่าเขาพกปืนเดินเข้าซอยมา ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นตำรวจเพราะไม่ได้แต่งเครื่องแบบ พวกผมก็คิดว่าจะเป็นพวกค้ายาที่จะมาล้างแค้นเด็กในซอยผม เพราะเพิ่งมีคนถูกเด็กในซอยหลอกขายยาบ้าปลอมให้ไป พวกผมก็เลยทำทีเข้าไปเตะบอลใกล้จุดที่เขายืนอยู่ พอได้จังหวะก็เข้ารุมกระทืบเลย แล้วปืนเขาก็หล่นมาเอง ไม่ได้เอาปืนไปจี้มา” นายรักวงศ์ให้การ
นายรักวงศ์ให้การต่อว่า หลังจากนั้นตนก็รีบเอาปืนไปขายต่อให้เพื่อนที่ชื่อแก้วในราคา 5,000 บาท แต่ก็นายแก้วก็ถูกตำรวจ สน.เตาปูน จับกุมช่วงระดมกวาดล้างยาเสพติดของ บก.น.2 พร้อมกับยึดปืนไปแล้ว ส่วนตนก็หลบไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อคืนตนเข้าไปเล่นไฮโลในซอยก็มีตำรวจมาดักจับ เลยรีบขับรถจักรยานยนต์หนีออกมาแต่ก็หนีไม่พ้นเพราะดันไปพุ่งชนรถตำรวจที่จอดขวางอยู่จนล้มคว่ำ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายรักวงศ์ ส่ง พ.ต.ท.ณัฏฐพัชร สุรพงรักตระกูล พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ประชาชื่น ดำเนินคดีในข้อหาปล้นทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธปืนติดตัวและทำร้ายร่างกายผู้อื่น และมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายต่อไป