นครบาลแถลงโชว์จับแก๊งโจรกรรมรถยนต์ ก่อเหตุใช้ปืนและมีดจี้ 2 สาวแถวซอยสุขุมวิท 38 ขณะกำลังจะขึ้นรถหลังกินข้าวรอบดึกเสร็จ ผู้เสียหายฝากเตือนหากจะกินข้าวอย่าออกไปดึกๆ หรือจอดรถควรจะจอดในที่มี รปภ.เฝ้าเพื่อความปลอดภัย และต้องระวังรอบข้างให้ดีเพราะอาจจะมีมิจฉาชีพที่จ้องทำร้ายอยู่
วันนี้ (3 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาก่อคดีโจรกรรมรถยนต์ ได้ผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย คือ นายวรกฤติ หรือช้าง มาสกุลทอง อายุ 29 ปี และนายอุดมทรัพย์ หรือแน๊ช ล้อมแก้ว อายุ 33 ปี พร้อมของกลางรถยนต์ฮอนด้าซีวิค ทะเบียน ชพ 9019 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟีโน่ ทะเบียน รจง 713 กรุงเทพมหานคร ปืนขนาด 9 มม.ไม่มีทะเบียน พร้อมกระสุน จำนวน 1 กระบอก พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.ต.ต.พงษ์สันต์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.30 น. ขณะที่ น.ส.สุมาลี สุวรรณา และ น.ส.ณัชนันท์ สุริยพล ผู้เสียหายเสร็จจากรับประทานอาหารภายในซอยสุขุมวิท 38 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ขณะเดินมาเพื่อขึ้นรถกลับที่พัก ถูกผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามาใช้ปืนและมีดจี้บังคับให้ลงจากรถและเอาทรัพย์สินมีค่าบางส่วนก่อนหลบหนีไป กระทั่ง พ.ต.ท.กิตติวัชร์ ภูมิธเนศ สว.สส.สน.ทองหล่อ สืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ร่วมกันก่อเหตุครั้งนี้ และทราบว่านายอุดมทรัพย์ และนายวรกฤติ เคยก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร และ รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ในท้องที่ สภ.ลานโตนด จ.นนทบุรี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง และ ติดตามจับกุมตัวได้ที่ย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนและติดตามรถยนต์ ของกลางมาคืนได้
ด้าน น.ส.สุมาลี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนและเพื่อนมากินข้าวในซอยสุขุมวิท 38 โดยจอดรถไว้ในซอย หลังจากเสร็จแล้วได้เดินออกมาจากร้านเพื่อจะขึ้นรถ ขณะที่ขึ้นรถ 1 ใน 2 ผู้ต้องหาได้เดินเข้ามาที่ฝั่งคนขับที่ตนนั่งอยู่ ก่อนจะกระชากเปิดประตูรถออก เมื่อตนจะเหลือบขึ้นไปมองหน้า คนร้ายกลับใช้ปืนตบเข้าที่บริเวณเหนือคิ้วจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่คนร้ายจะไล่ให้ลงจากรถพร้อมพูดว่า “ลงไปแต่ดีๆ ไม่อยากทำร้ายผู้หญิง” ตนจึงต้องยอมลงมาแต่โดยดี ส่วนเพื่อนของตนนั้นถูกผู้ต้องหาอีกรายใช้มีดจี้บังคับให้ลงจากรถเช่นกัน ด้วยความกลัวถูกทำร้ายจึงยอมลงจากรถแต่โดยดี ก่อนที่คนร้ายทั้งสองจะขับรถหลบหนีไป ตนกับเพื่อนจึงเข้าแจ้งความ
“อยากฝากเตือนผู้หญิงด้วยกันว่าหากจะกินข้าว อย่าออกไปดึกๆ ดื่นๆ หรือการจอดรถควรจะจอดในที่ที่มี รปภ.เฝ้าเพื่อความปลอดภัย และต้องระวังรอบข้างให้ดีเพราะอาจจะมีมิจฉาชีพที่จ้องทำร้ายอยู่” น.ส.สุมาลี กล่าว
อีกราย พล.ต.ต.พงษ์สันต์ แถลงผล เจ้าหน้าตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (191) จับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้า จำนวน 3 ราย คือ นายสุนทร ลีสันติวงศ์ อายุ 24 ปี นายอนุชาติ อนุชิตวรการ อายุ 20 ปี และนายอภินันท์ จิรวัชราวีรสกุล อายุ 19 ปี ทั้งหมดเป็นชาวเชียงราย พร้อมของกลางยาบ้า 14,000 เม็ด เงินสด จำนวน 780,000 บาท รถยนต์นิสสัน เซฟิโร่ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน
พล.ต.ต.พงษ์สันต์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่ามีการลักลอบจำหน่ายยาบ้าในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา จึงวางแผนล่อซื้อจับกุมและนัดส่งมอบของกลางที่ตลาดท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อถึงเวลาผู้ต้องหาได้มาที่จุดนัดหมาย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมได้ของกลางดังกล่าว พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวส่งเจ้าหน้าที่ ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (3 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาก่อคดีโจรกรรมรถยนต์ ได้ผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย คือ นายวรกฤติ หรือช้าง มาสกุลทอง อายุ 29 ปี และนายอุดมทรัพย์ หรือแน๊ช ล้อมแก้ว อายุ 33 ปี พร้อมของกลางรถยนต์ฮอนด้าซีวิค ทะเบียน ชพ 9019 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟีโน่ ทะเบียน รจง 713 กรุงเทพมหานคร ปืนขนาด 9 มม.ไม่มีทะเบียน พร้อมกระสุน จำนวน 1 กระบอก พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.ต.ต.พงษ์สันต์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.30 น. ขณะที่ น.ส.สุมาลี สุวรรณา และ น.ส.ณัชนันท์ สุริยพล ผู้เสียหายเสร็จจากรับประทานอาหารภายในซอยสุขุมวิท 38 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ขณะเดินมาเพื่อขึ้นรถกลับที่พัก ถูกผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามาใช้ปืนและมีดจี้บังคับให้ลงจากรถและเอาทรัพย์สินมีค่าบางส่วนก่อนหลบหนีไป กระทั่ง พ.ต.ท.กิตติวัชร์ ภูมิธเนศ สว.สส.สน.ทองหล่อ สืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ร่วมกันก่อเหตุครั้งนี้ และทราบว่านายอุดมทรัพย์ และนายวรกฤติ เคยก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร และ รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ในท้องที่ สภ.ลานโตนด จ.นนทบุรี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง และ ติดตามจับกุมตัวได้ที่ย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนและติดตามรถยนต์ ของกลางมาคืนได้
ด้าน น.ส.สุมาลี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนและเพื่อนมากินข้าวในซอยสุขุมวิท 38 โดยจอดรถไว้ในซอย หลังจากเสร็จแล้วได้เดินออกมาจากร้านเพื่อจะขึ้นรถ ขณะที่ขึ้นรถ 1 ใน 2 ผู้ต้องหาได้เดินเข้ามาที่ฝั่งคนขับที่ตนนั่งอยู่ ก่อนจะกระชากเปิดประตูรถออก เมื่อตนจะเหลือบขึ้นไปมองหน้า คนร้ายกลับใช้ปืนตบเข้าที่บริเวณเหนือคิ้วจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่คนร้ายจะไล่ให้ลงจากรถพร้อมพูดว่า “ลงไปแต่ดีๆ ไม่อยากทำร้ายผู้หญิง” ตนจึงต้องยอมลงมาแต่โดยดี ส่วนเพื่อนของตนนั้นถูกผู้ต้องหาอีกรายใช้มีดจี้บังคับให้ลงจากรถเช่นกัน ด้วยความกลัวถูกทำร้ายจึงยอมลงจากรถแต่โดยดี ก่อนที่คนร้ายทั้งสองจะขับรถหลบหนีไป ตนกับเพื่อนจึงเข้าแจ้งความ
“อยากฝากเตือนผู้หญิงด้วยกันว่าหากจะกินข้าว อย่าออกไปดึกๆ ดื่นๆ หรือการจอดรถควรจะจอดในที่ที่มี รปภ.เฝ้าเพื่อความปลอดภัย และต้องระวังรอบข้างให้ดีเพราะอาจจะมีมิจฉาชีพที่จ้องทำร้ายอยู่” น.ส.สุมาลี กล่าว
อีกราย พล.ต.ต.พงษ์สันต์ แถลงผล เจ้าหน้าตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (191) จับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้า จำนวน 3 ราย คือ นายสุนทร ลีสันติวงศ์ อายุ 24 ปี นายอนุชาติ อนุชิตวรการ อายุ 20 ปี และนายอภินันท์ จิรวัชราวีรสกุล อายุ 19 ปี ทั้งหมดเป็นชาวเชียงราย พร้อมของกลางยาบ้า 14,000 เม็ด เงินสด จำนวน 780,000 บาท รถยนต์นิสสัน เซฟิโร่ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน
พล.ต.ต.พงษ์สันต์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่ามีการลักลอบจำหน่ายยาบ้าในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา จึงวางแผนล่อซื้อจับกุมและนัดส่งมอบของกลางที่ตลาดท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อถึงเวลาผู้ต้องหาได้มาที่จุดนัดหมาย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมได้ของกลางดังกล่าว พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวส่งเจ้าหน้าที่ ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
