ตรัง - ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ตั้งด่านจับกุมตัว 9 วัยรุ่น พร้อมของกลางในการโจรกรรมรถจำนวนมาก พบประวัติออกก่อเหตุในพื้นที่ต่างๆ อย่างโชกโชน โดยใช้กุญแจผีชนิดพิเศษที่ทำจากเหล็กกล้า
วันนี้ (28 มิ.ย.) พ.ต.ท.ชัยโรจน์ โพธิปฐม รองผู้กำกับการ ฝ่ายป้องกันปราบปราม ร่วมกับ พ.ต.ท.อรรถพล วิภาศินนท์ สารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองตรัง แถลงข่าวผลการระดมกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามแผนกวาดล้างอาชญากรรม ของ พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ที่บริเวณแยกใต้สะพานลอยทางเข้าชุมชนควนขนุน ตำบลทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ปรากฏว่า ได้มีชายวัยรุ่น จำนวน 4 คน ขี่และซ้อนรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 หมายเลขทะเบียน 540 ตรัง มาด้วยกัน แต่เมื่อขี่รถเข้าไปเจอกับจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 ในวัยรุ่นได้โยนทิ้งสิ่งของลงบนพื้นถนนใกล้กับรถสายตรวจรถยนต์ 191 จนเกิดเสียงดัง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งจุดตรวจอยู่จึงสงสัยและเดินไปหยิบมาดู โดยพบว่าเป็นกุญแจผีที่สั่งทำพิเศษจากเหล็กกล้า จึงสั่งให้หยุดรถและทำการตรวจค้นทั้งรถ และคน ซึ่งวัยรุ่นทั้งหมดเป็นชาวตำบลทุ่งยาว อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง
ประกอบด้วย นายทัศนะ จิตรหลัง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ที่ 3 เป็นคนขับ, นายวุฒิชัย เจริญฤทธิ์ หรือ แดง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ที่ 3, นายพรชัย พราวแก้ว หรือ หมาน อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 หมู่ที่ 1 และ นายกิตติศักดิ์ เส็นฤทธิ์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158 หมู่ที่ 4 จากนั้น เมื่อตรวจค้นรถ ปรากฏว่า พบอุปกรณ์สำหรับการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ได้แก่ ปะแจ 6 เหลี่ยมตกแต่งปลาย จำนวน 1 อัน ปะแจห่วงเบอร์ 10 จำนวน 1 อัน และคีมตัดเล็บ จำนวน 1 อัน จึงยึดของกลางและควบคุมตัวทั้งหมดไปสอบสวนขยายผล
นายทัศนะ ให้การว่า เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2552 เวลา 01.30 น.ได้ร่วมกับพวก คือ นายธนาธิป บุญเสน อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/1 หมู่ที่ 3 ตำบลทุ่งยาว อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง และนายอนุรักษ์ ศรีสมวงศ์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/3 หมู่ที่ 3 ตำบลนาเมืองเพชร อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ร่วมกันโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีขาว 1 คัน ที่บริเวณแยกสาริการาม ในเขตเทศบาลนครตรัง
จากนั้น เวลา 03.00 น.ของคืนเดียวกัน ยังได้ร่วมกันโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า นูโว สีดำ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง 1 คัน จากบริเวณหน้าสวนสาธารณสุพรุชี ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง แล้วนำไปเก็บไว้ที่บ้านของ นายทิวานนท์ บัวสม อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/3 หมู่ที่ 4 ตำบลนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมแก๊ง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังไปจับกุม นายทิวานนท์ ได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 63 หมู่ที่ 6 ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง และจับกุม นายธนาธิป ได้ที่บ้านเช่า ซอย 3 ถนนวิเศษกุล ในเขตเทศบาลนครตรัง
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้วิธีให้ผู้ต้องหาโทรศัพท์ล่อเพื่อนร่วมแก๊งอีกคน คือ นายอนุรักษ์ ศรีสมวงษ์ มายัง สภ.เมืองตรัง และรวบตัวเอาไว้ได้ โดยนายทิวานนท์ ให้คำรับสารภาพว่า เมื่อคืนวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา ได้ร่วมกับ นายสมมาตร หูเขียว อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/2 หมู่ที่ 3 ตำบลทุ่งยาว อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ทำการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่ามีโอ สีแดง จากหน้าโรงเรียนสภาราชินี ถนนวิเศษกุล ในเขตเทศบาลนครตรัง โดย นายสมมาตร เป็นผู้ใช้ปะแจ 6 เหลี่ยม สตาร์ทรถและขับหลบหนีไปได้ แต่ต่อมาเมื่อนายสมมาตร ทราบข่าวว่าเพื่อนร่วมแก๊งถูกจับ จึงได้เดินทางมามอบตัวที่โรงพัก พร้อมให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับ นายทิวานนท์ โจรกรรมรถจากหน้าโรงเรียนสภาราชินีจริง
นายทัศนะ ยังให้ปากคำอีกว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ร่วมกับ นายเรวัติ ลิลาศิวรักษ์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ซอยควนขนุน ตำบลทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง ทำการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 สีดำ บริเวณถนนควนคีรี ในเขตเทศบาลนครตรัง จากนั้น นำไปเก็บรักษาไว้ที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง โดยมอบให้ นายวุฒิชัย หรือแดง นำไปขายต่อที่อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ให้กับคนไม่ทราบชื่อนามสกุล ในราคาคัน 4,000 บาท แล้วนำเงินมาแบ่งกับ นายเรวัติ รวมผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ทั้งหมดในคดีนี้ถึง 9 คน
อย่างไรก็ตาม ยังพบว่า นายทัศนะ ได้ร่วมกับ นายสมมาตร ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันกับแม่ค้ารายหนึ่งในพื้นที่ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมืองตรัง ด้วยโดยนายทัศนะ เป็นคนขี่รถ และใช้อาวุธมีดจี้บังคับผู้เสียหาย ส่วน นายสมมาตร ซึ่งนั่งซ้อนท้าย ได้ใช้เท้าถีบรถผู้เสียหายจนล้มลง จากนั้น ได้นำรถจักรยานยนต์ไปขายต่อให้กับ นายเบิร์ด ไม่ทราบชื่อจริง ที่จังหวัดพัทลุง โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการพยายามขยายผลต่อไป ซึ่งแก๊งดังกล่าวนี้มักจะรวมตัวกันมั่วสุมยาเสพติด ชนิดสี่คูณร้อย และเคยถูกจับในข้อหาเช่นนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง
