xs
xsm
sm
md
lg

“ศิริโชค” ว้ากเด็ก ผบ.ตร.อย่าโยนขี้การเมือง ปัดไม่เกี่ยวโผนายพลสะดุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา เจ้าของฉายาวอลเปเปอร์นายกฯ
“วอลเปเปอร์นายกฯ” ยึดอกเป็นคนใกล้ชิดนายกฯ แต่ปัดไม่เกี่ยวล้วงลูกโผนายพล โวยเด็ก “พัชรวาท” อย่าป้ายขี้ให้ฝ่ายการเมือง หลังถูกทวงเงินค่าวิ่งเต้น ลั่นพร้อมจัดการล้างบางแก๊งนายหน้าขายตำแหน่ง จวกเหตุแห่งปัญหาเกิดตั้งแต่สมัย “ทักษิณ” แทรกแซง สตช. ทำการซื้อขายตำแหน่งมากสุด ชี้เงินสะพัดกว่าพันล้าน

วันนี้ (4 ส.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวคนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เกี่ยวข้องกับการจัดโผโยกย้ายนายตำรวจว่า เป็นแค่การให้ข่าวเพื่อตีขลุมว่าเป็นใคร ในฐานะที่ตนเป็นตนใกล้ชิดกับนายกฯ ก็ต้องออกมาปฏิเสธว่าสิ่งที่นายตำรวจคนใกล้ชิด ผบ.ตร ปล่อยออกมานั้นไม่เป็นความจริง เพราะไม่มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และคนใกล้ชิดนายกฯ คนใดไปยุ่งเกี่ยวกับการจัดโผโยกย้ายนายตำรวจแต่อย่างใด ไม่ว่าโผระดับนายพล หรือระดับนายพันก็ตาม

นายศิริโชคกล่าวว่า สาเหตุที่โผสะดุดเป็นเพราะปัญหาทางเทคนิคด้านกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายการปรับโครงสร้างยังไม่มีผลบังคับใช้ ดังนั้น โผที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.อนุมัติมาถูกตีกลับมาโดยสำนักอารักษ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยให้เหตุผลว่ากฎหมายยังไม่ได้ประกาศใช้ และยังติดมติ ครม.ที่เคยห้ามข้าราชการที่จะเกษียณอายุในปีนี้ห้ามจัดทำโผโยกย้ายข้าราชการภายใน 60 วัน ซึ่งไม่แน่ใจว่ามติ ครม.ดังกล่าวจะครอบคลุมไปถึงหน่วยงานใดบ้าง

นายศิริโชคกล่าวว่า ทางแก้ของเรื่องนี้ต้องปลด 2 ล็อก คือ ล็อกแรก ก.ตร. และกฤษฎีกาต้องมาตีความกันว่ากฎหมายปรับโครงสร้างที่จะประกาศใช้ในราชกิจจาวันที่ 16 ส.ค.นี้ โดยก่อนที่จะมีการประกาศใช้จะสามารถแต่งตั้งได้หรือไม่ ซึ่งถ้าไม่ทำก่อนวันดังกล่าวจะเกิดปัญหาสุญญากาศหรือไม่ และล็อกสอง ครม.ต้องพิจารณาว่าจะยกเว้นในเรื่องนี้หรือไม่

“ดังนั้น การกล่าวหาคนใกล้ชิดนายกฯ ว่าเป็นคนเข้าไปล้วงลูกจนทำให้โผชะงักนั้นไม่เป็นความจริง นอกจากนี้ โผระดับนายพันก็ยังทำไม่เสร็จ ดังนั้น ถ้าฝ่ายการเมืองมีส่วนเข้าไปล้วงลูกจริงก็ต้องรอให้โผเสร็จก่อน ถึงจะออกมาโวยวายได้ใช่หรือไม่ ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะว่ามีผู้สูญเสียผลประโยชน์ คือนายตำรวจคนใกล้ชิด ผบ.ตร.ที่มีกระบวนการเร่ขายตำแหน่ง พอโผสะดุดทำให้คนที่ว่าจ้างออกมาทวงเงินคืน ก็มาโยนความผิดให้ฝ่ายการเมือง อะไรจะดีไปกว่าป้ายสีว่าคนรอบข้างนายกฯ เกี่ยวข้องทั้งที่ไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่าหลายกรณี สำนักงานตำรวจแห่งชาติใช้หลักฐานเท็จจับกุมผู้ต้องหา ดังนั้น การจะอ้างแค่นามบัตรหรือโพยรายชื่อก็ต้องดูให้แน่นอนว่าเป็นลายเซ็นนักการเมืองจริงหรือไม่ ได้มาจากใคร เรื่องเหล่านี้ต้องพิสูจน์กันในศาล จึงขอท้าให้เอาหลักฐานมาพิสูจน์กัน ถ้าเป็นของปลอมคนคนนั้นก็ต้องรับผิดชอบและต้องถูกดำเนินคดี” นายศิริโชค ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาเคยมีกลุ่มอำนาจวิ่งเต้นผ่านหรือไม่ นายศิริโชคกล่าวว่า ไม่มี ส่วนใหญ่ตนไม่สุงสิงกับข้าราชการ โดยทั่วไปพอทำงานเสร็จก็กลับบ้าน ข้าราชการไม่กล้าสุงสิงหรือมาพูดคุยด้วย เพราะปกติตนจะมีบุคลิกเป็นคนหยิ่ง ไม่รู้จักก็จะไม่คุยด้วย ทำให้ข้าราชการไม่กล้าเข้าหาอยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหาในเรื่องคนมาขอให้วิ่งเต้น หรือฝากคน จึงมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตนเองอยู่แล้ว

นายศิริโชคกล่าวว่า ยอมรับว่าที่ผ่านมาก็มีการวิ่งเต้นทุกฤดูโยกย้าย แต่ในยุคนี้ดูจะมีความรุนแรงมากผิดปกติ เพราะมีนายตำรวจคนสนิทของ ผบ.ตร เป็นนายหน้าในการซื้อขายตำแหน่ง วิธีการขจัดคนเหล่านี้คือต้องอย่าให้มีอำนาจ โยกย้ายข้าราชการได้ มิเช่นนั้นข้าราชการที่ดีมีคุณธรรม แต่ไม่มีเงินก็ไม่สามารถก้าวขึ้นมาในตำแหน่งสูงๆ ได้ ซึ่งต้องใช้เวลาแก้ไขพอสมควรเพราะตั้งแต่ระบบทักษิณเข้ามาแทรกแซงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็มีปัญหามาโดยตลอด มีการซื้อขายตำแหน่งมากขึ้น โดยครั้งนี้เม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท จึงจำเป็นต้องชี้แจงให้สังคมรับทราบ แต่ก็คงไม่ถึงขั้นที่รัฐบาลนี้จะเข้าไปล้างบาง แต่ต้องเข้าไปดูแลให้โปร่งใสพยายามผลักดันให้ข้าราชการได้เติบโตด้วยความสามารถของตนเองมากกว่าการซื้อตำแหน่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการตรวจสอบกระบวนการนี้และสาวไปถึงอดีต ผบ.ตร.หรือไม่ นายศิริโชคกล่าวว่า ยอมรับว่าตนไม่มีหลักฐานเพียงพอ เพียงแต่นายกฯ ได้รับการร้องเรียนในเรื่องนี้พอสมควร และมีการแจ้งเบาะแสข้อมูลมาด้วย แต่หากมีนายตำรวจคนไหนที่พร้อมจะออกมายืนยันและเป็นพยานให้กับตน ก็ต้องมีการตรวจสอบต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น