ASTV ผู้จัดการรายวัน - “เทือก” ทำบื้อ บอกไม่เคยรู้เรื่องการซื้อตำแหน่งใน สตช.มาก่อน โทร.ต่อว่าพร้อมทำหนังสือถึง “วอลเปเปอร์” ศิริโชค โสภา ขอข้อมูลมาสอบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อชำระล้างความโสโครกในวงการตำรวจ ด้าน “ป๊อด” บอกทำงานมา 30 ปีก็ไม่เคยรู้เรื่องการซื้อขายตำแหน่ง “ศิริโชค” ยันไม่กลัวถูกฟ้อง เพราะเป็นเรื่องจริง ยินดีให้ข้อมูลแต่ต้องรอแต่งตั้งโยกย้ายเสร็จก่อน “มาร์ค” ยอมรับศิริโชคมาเล่าให้ฟังแล้ว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา คนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เจ้าของฉายา “วอลเปเปอร์” ระบุว่ามีการซื้อตำแหน่งระดับนายพันในตำรวจภูธรภาค 7 จำนวน 2-5 ล้านบาท ว่า ตนจะทำหนังสือถึงนายศิริโชคอย่างเป็นทางการ ขอให้ส่งเอกสารหลักฐาน หรือพยาน อะไรก็ตามที่เห็นว่ามีการซื้อขายตำแหน่งอย่างที่นายศิริโชคได้พูดกับสื่อ เพื่อตนจะได้นำหลักฐานประกอบการสืบสวนสอบสวน เราจะปล่อยให้มีการซื้อขายตำแหน่งอยู่ใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไม่ได้ ฉะนั้นถ้านายศิริโชค มีหลักฐานก็ส่งมาให้เรา และจะได้ดำเนินการ
นายสุเทพกล่าวว่า ตนจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเรื่องนี้ เพราะให้กระจ่างชัด เพื่อปกป้องรักษาศักดิ์ศรีคนดีๆ ตำรวจมี 2-3 แสนคน ถ้าพูดอย่างนี้ตำรวจดีๆ จะเสียกำลังใจ ส่วนใครที่วิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งจริง ต้องสอบสวนเอามาดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เคยได้ยินเลย เมื่อมีคนมาพูดก็ต้องฟัง เมื่อถามว่า ทำไมถึงไม่สอบถามเนื่องจากอยู่พรรคเดียวกัน นายสุเทพกล่าวว่า ตั้งแต่นายศิริโชค เปิดเผยเรื่องนี้ออกมา ยังไม่ได้เจอหน้ากันเลย ตนก็พยายามหาตัวนายศิริโชคอยู่ แต่ตนจะทำหนังสือถึงเจ้าตัว
“เมื่อคุณศิริโชคพูดจาอย่างนี้ ถือว่าคุณศิริโชค กล่าวหาผู้คนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ้าคุณศิริโชคจะกรุณาให้ความร่วมมือ ต้องมาบอกผมว่าคนที่คุณศิริโชค กล่าวหา ชื่ออะไร ยศอะไร และมีหลักฐานอะไร เพื่อผมจะได้สอบสวนได้ เมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ถึงคุณศิริโชคไม่บอกผมก็สอบสวนอยู่ดี” นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามหากไม่เป็นไปตามข้อกล่าวหา นายศิริโชคต้องรับผิดชอบอะไรหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย ขอให้ตนไปทำงานก่อนดีกว่าว่าเป็นอย่างไร
“ผมเป็นรัฐมนตรีมานาน หลายกระทรวง ข้าราชการจะรู้จักผมดีว่า ผมเป็นคนที่พยายามปกป้องข้าราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าราชการดีๆ ถ้าเขาจะต้องเลื่อนชั้น ตำแหน่งแล้วต้องเสียเงิน ผมยอมไม่ได้” นายสุเทพกล่าว
“เทือก” โทร.เฉ่ง “ศิริโชค” แต่เช้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วานนี้ (13 ส.ค.) มีการประชุม ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ห้องวิเทศสัมพันธ์ อาคารรัฐสภา มีนายชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ประธาน ส.ส.เป็นประธานการ ประชุม และมีการหารือเรื่องที่นายศิริโชค ได้ออกมาเปิดโปงเรื่องการซื้อขายเก้าอี้ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย โดย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธาน กมธ.ตำรวจของสภาฯได้หารือเรื่องนี้กับนายศิริโชค โดยนายศิริโชค ยืนยันว่า จะส่งข้อมูลการวิ่งเต้นตำแหน่งให้ กมธ.ตำรวจ ภายในเดือน ก.ย. หลังจากพ้นฤดูโยกย้ายตำรวจไปแล้ว จะได้ทราบว่ามีความไม่โปร่งใสจริงหรือไม่ และหากมีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งจริงจะพบว่ามีบุคคลมาร้องทุกข์
รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงเช้า นายศิริโชค ได้เดินทางเข้าพรรคประชาธิปัตย์ ปรากฏว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้โทรศัพท์ เข้ามาสอบถามข้อมูลเรื่องนี้ จากนายศิริโชค โดยระบุว่าหากพบหลักฐาน หรือมีข้อมูลข้อเท็จจริง ก็นำมายื่นให้ตนได้ตลอดเวลา ไม่ควรออกมาพูดให้เป็นประเด็น อยู่พรรคเดียวกันมีอะไรก็ให้พูดกัน และปัญหาเรื่องนี้ได้พ้นกระแสไปแล้ว ไม่ควรจะสร้างให้เป็นกระแสอีก โดยนายศิริโชค ได้ชี้แจงกับนายสุเทพ ว่า ข้อมูลที่นำมาเปิดเผยเป็นเรื่องที่วงการตำรวจรู้ดีอยู่แล้ว และเป็นข้อมูลเก่า ที่มีการนำมาผูกโยงให้เป็นประเด็น
“ป๊อด” ทำงาน 30 ปี ไม่เคยรู้เรื่องซื้อเก้าอี้
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวก่อนออกเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ ถึงกรณีที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ออกมายืนยันว่ามีข้อมูลเรื่องการซื้อขายตำแหน่งการแต่งตั้งนายตำรวจว่า ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ และตนไม่เคยรับสินบน รับราชการมา 30 ปี ไม่เคยมีความผิดเกี่ยวกับการรับสินบนแต่อย่างใด
“มาร์ค” รับ “ศิริโชค” คุยให้ฟังแล้ว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการวิ่งเต้นซื้อตำแหน่งระดับสูง ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา คนใกล้ชิดออกมาเปิดโปงว่า ตนแนะนำในส่วนของส.ส.ว่า ช่องทางที่ดีที่สุดคือ ช่องทางกรรมาธิการ และจะได้เป็นเรื่องของสภาไป จะได้ไม่มีการคลางแคลงใจ เกี่ยวกับเรื่องการบริหารใดๆ ทั้งสิ้น ก็ให้ไปตรวจสอบในฝ่ายนิติบัญญัติ
เมื่อถามว่า นายศิริโชคได้ส่งข้อมูลเบื้องต้นให้นายกฯรับทราบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เบื้องต้น นายศิริโชค มาเล่าคร่าวๆ มาปรึกษาตนเพื่อจะได้ไม่เป็นปัญหาจะส่งเรื่องไปยังฝ่ายนิติบัญญัติ ใช้ช่องทางกรรมาธิการ ซึ่งตนได้บอกไปแล้วเมื่อ 9-10 วันที่ผ่านมา เมื่อถามอีกว่า เรื่องนี้จะเอาผิดกันยาก เพราะไม่ค่อยมีหลักฐาน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยู่ที่คนที่เอาหลักฐานมาให้ พร้อมที่จะยืนยันข้อมูลหรือไม่
ให้ข้อมูลหลังโยกย้ายเสร็จ
ด้าน นายศิริโชค กล่าวถึงกรณี นายสุเทพ ต้องการข้อมูลเรื่องการซื้อขายตำแหน่งนายตำรวจระดับนายพันว่า ตนพูดเรื่องดังกล่าวตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่มีการกล่าวหาฝ่ายการเมือง จึงจำเป็นต้องออกมาชี้แจง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าสิ่งที่พูด มีพยานหลักฐาน และเป็นการทำในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ต้องการป้องปราม ไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เพราะตำรวจดีก็มีมาก แต่หากการป้องปรามไม่สำเร็จ ก็ต้องมีการปราบปรามตามมา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล โดยต้องรอให้โผการโยกย้ายเสร็จก่อน หากออกมาโปร่งใส เป็นธรรม ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องยื่นให้ กมธ.ตำรวจ ตรวจสอบ
“คิดว่าท่านสุเทพก็มีข้อมูลของตนเองส่วนหนึ่ง ในฐานะที่ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนผมในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ก็ทำงานควบคู่กับรัฐบาล ผมมีหน้าที่เสนอต่อสภาฯ อยู่แล้ว แต่ข้อมูลที่คุณสุเทพจะขอ ก็ยินดีจะให้ เพียงแต่ในเบื้องต้น ต้องยอมรับว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะจบต่อเมื่อมีการโยกย้ายข้าราชการไปแล้ว ขณะนี้ยังไม่เสร็จสิ้น ดังนั้น เมื่อไม่เสร็จ เราก็ออกมาปรามว่าอย่าให้มีสมมมุติว่า ถ้ามีการแต่งตั้งที่เป็นธรรม ไม่มีการซื้อขายตำแหน่งก็จบไป” นายศิริโชค กล่าว และยืนยันว่า ไม่กลัวถูกฟ้องร้อง เพราะสิ่งที่พูดเป็นเรื่องจริง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา คนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เจ้าของฉายา “วอลเปเปอร์” ระบุว่ามีการซื้อตำแหน่งระดับนายพันในตำรวจภูธรภาค 7 จำนวน 2-5 ล้านบาท ว่า ตนจะทำหนังสือถึงนายศิริโชคอย่างเป็นทางการ ขอให้ส่งเอกสารหลักฐาน หรือพยาน อะไรก็ตามที่เห็นว่ามีการซื้อขายตำแหน่งอย่างที่นายศิริโชคได้พูดกับสื่อ เพื่อตนจะได้นำหลักฐานประกอบการสืบสวนสอบสวน เราจะปล่อยให้มีการซื้อขายตำแหน่งอยู่ใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไม่ได้ ฉะนั้นถ้านายศิริโชค มีหลักฐานก็ส่งมาให้เรา และจะได้ดำเนินการ
นายสุเทพกล่าวว่า ตนจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเรื่องนี้ เพราะให้กระจ่างชัด เพื่อปกป้องรักษาศักดิ์ศรีคนดีๆ ตำรวจมี 2-3 แสนคน ถ้าพูดอย่างนี้ตำรวจดีๆ จะเสียกำลังใจ ส่วนใครที่วิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งจริง ต้องสอบสวนเอามาดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เคยได้ยินเลย เมื่อมีคนมาพูดก็ต้องฟัง เมื่อถามว่า ทำไมถึงไม่สอบถามเนื่องจากอยู่พรรคเดียวกัน นายสุเทพกล่าวว่า ตั้งแต่นายศิริโชค เปิดเผยเรื่องนี้ออกมา ยังไม่ได้เจอหน้ากันเลย ตนก็พยายามหาตัวนายศิริโชคอยู่ แต่ตนจะทำหนังสือถึงเจ้าตัว
“เมื่อคุณศิริโชคพูดจาอย่างนี้ ถือว่าคุณศิริโชค กล่าวหาผู้คนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ้าคุณศิริโชคจะกรุณาให้ความร่วมมือ ต้องมาบอกผมว่าคนที่คุณศิริโชค กล่าวหา ชื่ออะไร ยศอะไร และมีหลักฐานอะไร เพื่อผมจะได้สอบสวนได้ เมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ถึงคุณศิริโชคไม่บอกผมก็สอบสวนอยู่ดี” นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามหากไม่เป็นไปตามข้อกล่าวหา นายศิริโชคต้องรับผิดชอบอะไรหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย ขอให้ตนไปทำงานก่อนดีกว่าว่าเป็นอย่างไร
“ผมเป็นรัฐมนตรีมานาน หลายกระทรวง ข้าราชการจะรู้จักผมดีว่า ผมเป็นคนที่พยายามปกป้องข้าราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าราชการดีๆ ถ้าเขาจะต้องเลื่อนชั้น ตำแหน่งแล้วต้องเสียเงิน ผมยอมไม่ได้” นายสุเทพกล่าว
“เทือก” โทร.เฉ่ง “ศิริโชค” แต่เช้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วานนี้ (13 ส.ค.) มีการประชุม ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ห้องวิเทศสัมพันธ์ อาคารรัฐสภา มีนายชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ประธาน ส.ส.เป็นประธานการ ประชุม และมีการหารือเรื่องที่นายศิริโชค ได้ออกมาเปิดโปงเรื่องการซื้อขายเก้าอี้ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย โดย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธาน กมธ.ตำรวจของสภาฯได้หารือเรื่องนี้กับนายศิริโชค โดยนายศิริโชค ยืนยันว่า จะส่งข้อมูลการวิ่งเต้นตำแหน่งให้ กมธ.ตำรวจ ภายในเดือน ก.ย. หลังจากพ้นฤดูโยกย้ายตำรวจไปแล้ว จะได้ทราบว่ามีความไม่โปร่งใสจริงหรือไม่ และหากมีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งจริงจะพบว่ามีบุคคลมาร้องทุกข์
รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงเช้า นายศิริโชค ได้เดินทางเข้าพรรคประชาธิปัตย์ ปรากฏว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้โทรศัพท์ เข้ามาสอบถามข้อมูลเรื่องนี้ จากนายศิริโชค โดยระบุว่าหากพบหลักฐาน หรือมีข้อมูลข้อเท็จจริง ก็นำมายื่นให้ตนได้ตลอดเวลา ไม่ควรออกมาพูดให้เป็นประเด็น อยู่พรรคเดียวกันมีอะไรก็ให้พูดกัน และปัญหาเรื่องนี้ได้พ้นกระแสไปแล้ว ไม่ควรจะสร้างให้เป็นกระแสอีก โดยนายศิริโชค ได้ชี้แจงกับนายสุเทพ ว่า ข้อมูลที่นำมาเปิดเผยเป็นเรื่องที่วงการตำรวจรู้ดีอยู่แล้ว และเป็นข้อมูลเก่า ที่มีการนำมาผูกโยงให้เป็นประเด็น
“ป๊อด” ทำงาน 30 ปี ไม่เคยรู้เรื่องซื้อเก้าอี้
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวก่อนออกเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ ถึงกรณีที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ออกมายืนยันว่ามีข้อมูลเรื่องการซื้อขายตำแหน่งการแต่งตั้งนายตำรวจว่า ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ และตนไม่เคยรับสินบน รับราชการมา 30 ปี ไม่เคยมีความผิดเกี่ยวกับการรับสินบนแต่อย่างใด
“มาร์ค” รับ “ศิริโชค” คุยให้ฟังแล้ว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการวิ่งเต้นซื้อตำแหน่งระดับสูง ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา คนใกล้ชิดออกมาเปิดโปงว่า ตนแนะนำในส่วนของส.ส.ว่า ช่องทางที่ดีที่สุดคือ ช่องทางกรรมาธิการ และจะได้เป็นเรื่องของสภาไป จะได้ไม่มีการคลางแคลงใจ เกี่ยวกับเรื่องการบริหารใดๆ ทั้งสิ้น ก็ให้ไปตรวจสอบในฝ่ายนิติบัญญัติ
เมื่อถามว่า นายศิริโชคได้ส่งข้อมูลเบื้องต้นให้นายกฯรับทราบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เบื้องต้น นายศิริโชค มาเล่าคร่าวๆ มาปรึกษาตนเพื่อจะได้ไม่เป็นปัญหาจะส่งเรื่องไปยังฝ่ายนิติบัญญัติ ใช้ช่องทางกรรมาธิการ ซึ่งตนได้บอกไปแล้วเมื่อ 9-10 วันที่ผ่านมา เมื่อถามอีกว่า เรื่องนี้จะเอาผิดกันยาก เพราะไม่ค่อยมีหลักฐาน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยู่ที่คนที่เอาหลักฐานมาให้ พร้อมที่จะยืนยันข้อมูลหรือไม่
ให้ข้อมูลหลังโยกย้ายเสร็จ
ด้าน นายศิริโชค กล่าวถึงกรณี นายสุเทพ ต้องการข้อมูลเรื่องการซื้อขายตำแหน่งนายตำรวจระดับนายพันว่า ตนพูดเรื่องดังกล่าวตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่มีการกล่าวหาฝ่ายการเมือง จึงจำเป็นต้องออกมาชี้แจง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าสิ่งที่พูด มีพยานหลักฐาน และเป็นการทำในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ต้องการป้องปราม ไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เพราะตำรวจดีก็มีมาก แต่หากการป้องปรามไม่สำเร็จ ก็ต้องมีการปราบปรามตามมา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล โดยต้องรอให้โผการโยกย้ายเสร็จก่อน หากออกมาโปร่งใส เป็นธรรม ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องยื่นให้ กมธ.ตำรวจ ตรวจสอบ
“คิดว่าท่านสุเทพก็มีข้อมูลของตนเองส่วนหนึ่ง ในฐานะที่ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนผมในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ก็ทำงานควบคู่กับรัฐบาล ผมมีหน้าที่เสนอต่อสภาฯ อยู่แล้ว แต่ข้อมูลที่คุณสุเทพจะขอ ก็ยินดีจะให้ เพียงแต่ในเบื้องต้น ต้องยอมรับว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะจบต่อเมื่อมีการโยกย้ายข้าราชการไปแล้ว ขณะนี้ยังไม่เสร็จสิ้น ดังนั้น เมื่อไม่เสร็จ เราก็ออกมาปรามว่าอย่าให้มีสมมมุติว่า ถ้ามีการแต่งตั้งที่เป็นธรรม ไม่มีการซื้อขายตำแหน่งก็จบไป” นายศิริโชค กล่าว และยืนยันว่า ไม่กลัวถูกฟ้องร้อง เพราะสิ่งที่พูดเป็นเรื่องจริง
