ที่ปรึกษากฎหมายอ้างทุนถูกอายัดเกลี้ยง ไม่มีแหล่งฟอกเงินตามที่องคมนตรีกล่าวหา ยุให้ส่งข้อมูลให้ ปปง.ดีเอสไอตรวจสอบ โหมโรงข่าวองคมนตรีค้านถวายฎีกา ตีปี๊บ “แม้ว” ดึงอดีต กก.บห.ทรท.-พปช. ไอทีวี ที่ว่างงานสวมเสื้อบุกเบิกสถานโทรทัศน์ดาวเทียมช่องใหม่
วันนี้ (29 ก.ค.) นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ฟอกเงินจำนวน 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อป่วนประเทศว่า พล.อ.พิจิตร เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง การมีข้อมูลในเรื่องนี้หากเป็นเรื่องจริงควรไปแจ้งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หรือหน่วยงานของรัฐได้ดำเนินการจับกุม หรือแจ้งพรรคเพื่อไทยรับทราบเพื่อตรวจสอบ ซึ่งพรรคเพื่อไทยยินดีที่จะให้ความร่วมมือด้วยเพราะเรื่องนี้ถือเป็นกระทำที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้นำประเด็นดังกล่าวมากล่าวหากันลอยๆ เพราะหากพูดไม่จริงก็จะต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วย
“ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ฟอกเงิน และไม่มีเงินจำนวนมากขนาดนั้น เพราะเงินของท่านถูกอายัดไปหมดแล้ว และยังระหกระเหินในต่างประเทศอีก ดังนั้น อยากขอความเป็นธรรมจากพล.อ.พิจิตรซึ่งถือเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมืองด้วย” นายนพดลกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข่าวการฟอกเงินสอดรับกับข่าวการลงทุนธุรกิจต่างๆ จำนวนมากของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในต่างประเทศ นายนพดลกล่าวว่า การลงทุนของ พ.ต.ท.ทักษิณบางโครงการไม่ได้ลงทุนคนเดียว แต่ได้ร่วมทุนกับนักธุรกิจรายอื่นด้วย ซึ่งโครงการแต่ละโครงการไม่ได้มีมูลค่าถึงหมื่นล้าน
นายนพดลกล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวจากที่ประชุมองคมนตรีที่มีการหยิบยกกรณีคนเสื้อแดงเข้าชื่อถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าไม่สามารถทำได้ว่า การเข้าชื่อของคนเสื้อแดงเป็นเรื่องที่ประชาชนดำเนินการกันเอง เพราะสงสาร พ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่ต้องการให้เรื่องนี้เป็นที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ส่วนจะถูกตีตกหรือไม่นั้นก็ต้องว่ากันไปตามระเบียบและกฎหมายรัฐธรรมนูญ
นายนพดลกล่าวถึงรายงานข่าวที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ทาบทามอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพนักงานไอทีวี ร่วมงานในทีวีผ่านดาวเทียม 100 ช่องว่า คงมีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยหลายคนเข้าร่วมงานด้วย เนื่องจากบุคคลเหล่านี้ถูกตัดสิทธิ์คงจะมีเวลาว่างมาช่วยงาน รวมถึงบางคนมีความเชี่ยวชาญเรื่องการศึกษาเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ตนได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณในเรื่องนี้ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าจะเร่งเปิดทีวีก่อนจำนวน 3 ช่อง ซึ่งก็คือ ช่องการศึกษา สินค้าโอทอป และเรียลิตีคนจน โดยเรื่องการศึกษานั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญในวิชาต่างๆ อยู่ ซึ่งเบื้องต้นเห็นว่าจะยกทีมงานลงพื้นที่ไปถ่ายทำในท้องถิ่นของอาจารย์คนนั้นเลย ส่วนเรื่องโอทอปนั้น อยู่ระหว่างการให้ผู้ประกอบการส่งรายละเอียดสินค้ามาให้คณะกรรมการคัดเลือก ซึ่งสินค้าที่จะได้รับการคัดสรรโฆษณาผ่านทีวีช่องใหม่นั้นจะต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ และมีความสามารถในการผลิตเพื่อรองรับออเดอร์ที่เข้ามาจำนวนมากได้ สำหรับเรียลิตีคนจนนั้นกำลังอยู่ระหว่างเสนอโครงการโดยสถานีจะหาคนบริจาคต่อไป