xs
xsm
sm
md
lg

ปชป. ประเมิน “เสื้อแดง-แม้ว” สร้างเหตุวุ่นวาย หวังให้เผชิญหน้ากัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์
วอร์รูมปชป.ประเมิน แก๊งเสื้อแดง-เพื่อไทย-แม้ว ใช้ 2 แผนการ “เผชิญหน้า-ยืดเยื้อ” เพื่อให้เกิดความรุนแรง เตือน “จาตุรนต์” วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองอย่าดึงสถาบันเบื้องสูงมาร่วมการเมือง แฉมีขบวนการสร้างหลักฐานเท็จกรณีเงิน 258 ล้าน ให้กกต.พิจารณาหวังยุบพรรคประชาธิปัตย์

วันนี้(30 มี.ค.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คณะทำงานปฏิบัติการเพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ (วอร์รูม) ได้วิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง พรรคเพื่อไทย และพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ร่วมกันขับเคลื่อน 2 แผนการคือ 1.การดำเนินการขับเคลื่อนมวลชนสู่กรเผชิญหน้าทำให้เกิดความรุนแรง โดยนอกจากปิดศาลากลาง 4 จังหวัด ยังมีการก่อความรุนแรงที่ทำเนียบรัฐบาล โดยทำร้ายผู้ที่ใส่เสื้อเหลืองเข้าไปในพื้นที่ โดยทั้งหมดมีเป้าหมายเพื่อนำไปสู่การเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ของมวลชน ใน 2 ลักษณะคือ 1.เผชิญหน้าโดยทันที 2.ชุมนุมยืดเยื้อตามยุทธศาสตร์หรือแดงทั้งแผ่นดิน

นพ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า 2.ขับเคลื่อนผ่านพรรคเพื่อไทย โดยอาศัยแผนที่ 1 กดดันสภาให้พิจารณาร่างพรบ.นิรโทกรรม ซึ่งทั้ง 2 แผน เป็นการสร้างปฏิวัติโดยมวลชนทั่วประเทศ ที่ลุกขึ้นมาต่อต้านอำนาจรัฐและสถาบันหลักของชาติ โดยมีการพูดว่าทำให้เกิดสงครามชนชั้นและสงครามกลางเมืองขึ้นมาได้ รวมถึงทำให้เกิดภาวะสูญญากาศทางการเมือง โดยการยื่นเรื่องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคในการแก้ปัญหาวิกฤติของบ้านเมือง

ส่วนที่นายจตุรนต์ ฉายแสง อดีกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ระบุว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะสิ้นสุดลงเหมือนเหตุการณ์ 6 ต.ค. 19 นั้น นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า พรรคมองว่าเป็นคำทำนายที่อันตรายมาก เพราะในเหตุการณ์ดังกล่าวได้ดึงสถาบันลงมาสู่ความขัดแย้ง เพื่อเป็นต้นเหตุของการเผชิญหน้า จึงขอฝากไปยังนายจาตุรนต์ให้ระวังการวิเคราะห์สถานการณ์ โดยเฉพาะการที่ระบุว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากระบอบประชาธิปไตย ปัญหาเรื่องประชาธิปไตย ถือว่าไม่เป็นความจริง เพราะวิกฤติที่เกิดขึ้นมาจากรัฐบาลที่มีนายจาตุรนต์อยู่ร่วมรัฐบาลด้วย โดยใช้อำนาจไม่เป็นธรรม

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุปัญหาเรื่องเงินบริจาค 258 ล้านบาท ไม่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน โดยเป็นคนละสำนวนกัน ว่า วันนี้มีความพยายามใช้กลไกของราชการที่บกพร่องมาจากรัฐบาลชุดก่อน เพื่อนำเสนอหลักฐานที่มีการพิสูจน์แล้วว่าเป็นหลักฐานเท็จ เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของกกต. โดยข้อมูลล่าสุดในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากมีการสั่งการผ่านดีเอสไอแล้ว ยังมีความพยายามใช้เครื่องมือของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในการโยงการบริจาคเงินของบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด เข้าสู่ระบบบัญชีพรรคประชาธิปัตย์ แต่ว่าไม่พบข้อมูลดังกล่าว จึงไม่มีการพูดถึงข้อมูลดังกล่าวประกอบในสำนวน จึงขอยืนยันว่าเงินบริจาคทั้งหมดในปี 2548 ไม่มีแม้แต่บาทเดียวที่เกี่ยงข้องกับบริษัท ทีพีไอฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า รองปลัดกระทรวงยุติธรรมออกมายอมรับว่าข้อมูลมีการรั่วไหลจริง นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของระบบราชการที่ต้องทำตามกฎหมาย หากมีการทำผิดเกิดขึ้น ผู้บังคับบัญชาก็ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน
กำลังโหลดความคิดเห็น