“พีระพันธุ์” ยังไม่ทราบเรื่องบิ๊กดีเอสไอเป็นใครที่วิ่งแจ้นพบ “ชายกระโปรง” จนมีข่าวลือโอนเงิน 250 ล้าน ให้ ปชป.บอกไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามที่ฝ่ายค้านเรียกร้อง ยันไม่เคยแทรกแซงการเมืองในองค์กร ยึดหลักคุณธรรม-จิตสำนึกในการทำงาน ชี้ ไม่คิดย้ายอธิบดีดีเอสไอช่วงนี้ และไม่จำเป็นต้องชี้แจงเรื่องใด เพราะตนเองยังไม่ทราบเรื่อง แนะใครมีข้อมูลส่งมาให้ตรวจสอบได้ หรือไปแจ้งความดำเนินคดีได้เลย
วันนี้ (16 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐภาค รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวบิ๊กดีเอสไอไปพบ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรัฐบาลชุดเก่า ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค เมื่อวันที่ 12 ก.พ.กระทั่งมีข่าวเกี่ยวกับการโอนเงินบริจาค 250 ล้าน ไปให้พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ยังไม่ทราบเรื่อง แต่เคยบอกแล้วว่าไม่ให้ดีเอสไอ ทำตัวเป็นคนที่รับใช้ทางการเมืองไม่ว่าพรรคไหน ตนมาอยู่ที่นี่ก็ไม่เคยแทรกแซงทางการเมือง หากมีข่าวลักษณะนี้ออกมาอีกก็ต้องให้คนที่นำข้อมูลออกมาเปิดเผย เป็นคนชี้แจงเอง
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ถ้าตนหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้วใครจะทำ ซึ่งสมัยก่อนที่รัฐบาลอื่นถ้าเกี่ยวข้องกับการทำงานของกรมต่างๆ ในกระทรวง ก็ไม่เคยเห็นรัฐบาลนั้นหยุดปฏิบัติหน้าที่ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่หยุด หรือไม่หยุด ถ้าเราจะเจตนาไม่ดี ถึงแม้เราไม่ไปบังคับบัญชาเขา ก็สามารถแทรกแซงได้อยู่ดีในระบบราชการ เพราะฉะนั้นจึงอยู่ที่คุณธรรมและการสำนึกของคนที่อยู่ในตำแหน่งหน้าที่มากกว่า ตนคิดว่าตนไม่ทำในสิ่งที่คนอื่นเขาเคยทำกัน และตนมีคุณธรรมพอที่จะไม่ไปแทรกแซงเขา และไม่จำเป็นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เพราะไม่เกี่ยวข้องกัน
เมื่อถามว่า จะเรียกอธิบดีดีเอสไอมาสอบถามเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องชี้แจง เพราะตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ซึ่งถ้าหากใครมีข้อมูลลักษณะนี้ ก็ทำได้ 2 อย่าง คือ ส่งเรื่องมาให้ตนตรวจสอบ หรือสองถ้าเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ทางราชการโดยไม่ถูกต้อง ก็สามารถไปแจ้งความดำเนินคดีได้
“หากข้าราชการคนใดคนหนึ่งใช้อำนาจหน้าที่ราชการไปช่วยเหลือเกื้อกูลใครโดยไม่ถูกต้อง เขาก็สามารถไปแจ้งความดำเนินคดีได้ ทางวินัยสามารถแจ้งมาที่ต้นสังกัดได้ แต่ที่ผมยังไม่มีใครส่งเรื่องมา” รมว.ยุติธรรม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าทราบหรือไม่คดีโอนเงิน 250 ล้าน ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษเรียบร้อยแล้ว รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบเพราะตนไม่ได้เข้าไปดูในรายละเอียดคดีของดีเอสไอ เพราะไม่เคยลงไปยุ่งในรายละเอียดการทำงาน ตนเป็นผู้กำหนดนโยบาย เพียงแต่มอบนโยบายการทำงานให้อยู่ในทิศทางที่ถูกต้องส่วนรายละเอียดของคดีต่างๆ เป็นเรื่องของฝ่ายปฏิบัติที่เขาจะต้องดำเนินการเอง
“การทำงานตอนนี้ดีขึ้น อยู่ในกรอบทิศทางที่ตนคิดว่าควรจะเป็น จากความรู้สึกในอดีตที่เป็นฝ่ายค้านและมองเข้ามา วันนี้รู้สึกว่าเขาพยายามทำงานเต็มที่ไม่เฉพาะที่ดีเอสไอ แต่หมายถึงทุกกรมต่างๆ ในกระทรวง ที่เริ่มทำงานเป็นทีมและมีทิศทางเดียวกัน” รมว.ยุติธรรมกล่าว
ผู้สื่อข่าวถาม แสดงว่า ยังไม่มีการโยกย้ายอธิบดีดีเอสไอในช่วงนี้ รมว.ยุติธรรม ยืนยันไม่มี เป็นกระแสของสื่อมวลชนที่คาดการณ์กันไปเอง ทั้งกระแสปลด และกระแสไม่ปลด กระแสดังกล่าวไม่ได้มาจากตน เพราะตนเข้ามาทำงาน มาด้วยเป้าหมายของการทำงานไม่ใช่มาใช้อำนาจหน้าที่โยกย้ายคนโน้น คนนี้ การปรับปรุงโยกย้ายตำแหน่งมันเป็นไปตามวาระ เป็นไปตามระบบเลื่อนชั้นของระบบราชการซึ่งมีวาระของมันอยู่ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตน
“อย่างที่ผมเรียนถ้าทุกคนทำงาน ก็สามารถทำงานด้วยกันได้ ถ้าไม่ทำงานอย่างนี้ใช้ไม่ได้ เพราะประชาชนจ่ายภาษีมาให้ทำงานและก็ทำงานตามกรอบหน้าที่ที่ถูกต้อง รวมถึงผมด้วย ถ้าไม่ทำตามนั้นก็ทำงานด้วยกันไม่ได้” นายพีระพันธุ์ กล่าวทิ้งท้าย