โฆษกส่วนตัวนายกฯ สวนกลับ “แม้ว” เลอะเทอะ มั่วอ้างสันติบาลมาเลย์ให้ความคุ้มครอง คาด เพ้อเจ้อฝันนั่งนายกฯ ขำเสื้อแดง ยื่นหนังสือให้ “ฮิลลารี” ห้ามสังฆกรรมร่วม “กษิต” จับตาเสื้อแดงปรับยุทธวิธีใหม่ เปิดแนวรบด้านสื่อกับรัฐ ซัด “จตุพร” ปูดข่าวยิงปืนใหญ่ทำฝนเทียม ชี้ เป็นเรื่องธรรมชาติลงโทษ
วันนี้ (15 ก.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมายังประเทศมาเลเซีย ได้สร้างความสับสนให้กับสังคมเป็นอย่างมาก ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มาที่ประเทศมาเลเซียในฐานะอะไรกันแน่ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ประกาศว่า รัฐบาลมาเลเซียได้ส่งตำรวจสันติบาลมาอารักขาถึง 15 คน แต่วันนี้ทางการมาเลเซียได้ออกมาปฏิเสธ ว่า ไม่มีการส่งตำรวจสันติบาลไปคุ้มครอง ตนคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าใจผิด ที่หลงอยู่กับภาพเก่าๆ ของตัวเอง หรืออาจจะสำคัญผิดคิดว่าตัวเองยังเป็นนายกฯ แต่สถานะที่แท้จริง ก็คือ เป็นนักโทษหนีคุก หากจะมีคนไปแอบซุ่มดูพ.ต.ท.ทักษิณ ก็เพราะต้องการไปจับตัว และเฝ้าดูไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หนี เพราะต้องรอหมายศาลจากประเทศไทยก่อน เนื่องจากก่อนหน้านี้ไทยได้ส่งหนังสือไปยังประเทศต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตทุกประเทศให้ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คือ ผู้ต้องหาหนีคดี ดังนั้น จึงเป็นการควบคุมตัวมากกว่าคุ้มครอง ตนคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงใช้สถานการณ์ในตอนนี้พูดจาเลอะเทอะอยู่ตลอดเวลา จึงอยากเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้วิจารญาณความเป็นอดีตผู้นำ มีวุฒิภาวะในการพูดอะไรก็ตาม เพราะตนไม่อยากให้ทำร้ายประเทศไทย
“ผมแน่ใจว่า นครดูไบ จะมีวัดไทยหรือไม่ ถ้าหากมีก็อยากจะแนะนำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เวลา 3 เดือนจากนี้ไปจำพรรษาที่วัด เอาตัว เอาปากไปสงบปากสงบคำ เพื่อที่จะได้รู้ซึ้งถึงสัจธรรม ว่า ใครทำกรรมใดก็ย่อมจะได้รับกรรมนั้น ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวถึงกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ประกาศว่า จะไม่ให้คนเสื้อแดงไปชุมนุม ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่ จ.ภูเก็ต ถ้าเป็นตามที่ประกาศจริงก็ขอแสดงความยินดีด้วย แต่นั่นคือ ความเห็นเฉพาะนายจตุพรเพียงคนเดียวหรือไม่ เพราะการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำแบบกระจัดกระจายไม่มีเอกภาพ ไม่รับผิดชอบต่อความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ เห็นได้จากการล่ารายชื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ก็บอกว่า เป็นเรื่องของกลุ่มความจริงวันนี้เพียงกลุ่มดียว ส่วนเรื่องการจัดแซยิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็บอกว่า เป็นเรื่องของกลุ่มคนรักแท็กซี่ ไม่เกี่ยวกับกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งตนอยากเรียกร้องว่า หากจะปฏิเสธเรื่องนี้ หรือออกมาประกาศว่าจะไม่ชุมนุม ไม่กดดัน และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนจริง ก็เป็นเรื่องน่ายินดี และอยากให้รักษาคำสัญญานี้ไว้
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนการที่ นายจตุพร พยายามจะปลุกกระแสเรื่องการทำฝนเทียม มาใส่ร้ายรัฐบาล ตนคิดว่า เป็นเรื่องจินตนาการที่ฟั่นเฟือนของคนกลุ่มนี้ พยายามที่จะโยนความผิดมาให้รัฐบาล ตนคิดว่าไม่มีสาเหตุอะไรที่จะมาโทษรัฐบาลได้ จะโทษดินฟ้าอากาศก็ไม่ได้ ก็เลยอ้างเรื่องการยิงปืนใหญ่ทำฝนเทียม เพื่อสลายม็อบกลุ่มคนเสื้อแดง จึงอยากให้นายจตุพรหยุดการปล่อยข่าวรายวัน วันนี้ ยังมีหน้ามาปล่อยข่าวการยิงปืนใหญ่ทำฝนเทียมอีก ถ้าเสร็จจากการงานรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว จะตั้งเป็นเจ้ากรมการข่าวโคมลอย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่ นายจตุพร ระบุว่า จุดที่ปืนใหญ่ทำฝนเทียมชัดเจน และกำลังจะบอกว่า ทหารรู้เห็นเป็นใจกับรัฐบาลในเรื่องนี้หรือไม่ นายเทพไท กล่าวว่า ข้อกล่าวหาของนายจตุพร ที่อ้างว่า ยิงปืนใหญ่จาก พล.ม.2 ก็อยากถามว่าการยิงปืนใหญ่ต้องมีเสียงดัง ไม่ใช่การยิงปืนแก๊ป จึงอยากถามว่า มีพยานหลักฐาน หรือมีคนได้ยินเสียงปืนใหญ่จริงหรือไม่ และมีการพิสูจน์หรือยัง ว่า การยิงปืนใหญ่ทำฝนเทียมทำได้หรือไม่ เพราะวันนี้ตนยังไม่เห็นคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์เลยว่า การยิงปืนใหญ่แล้วจะทำให้ฝนตกได้ ตนเห็นงานพิธีสำคัญๆ มีการยิงปืนใหญ่ 10 หรือ 20 นัด ก็ยังไม่เห็นฝนตกสักครั้ง แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่ยิงปืนใหญ่เพียงนัดเดียว ทำให้ฝนตกจนฟ้าถล่ม ลมแรงจนเวทีของคนเสื้อแดงพังทลาย ตนคิดว่า นายจตุพรไม่ควรปฏิเสธเรื่องธรรมชาติลงโทษ คนที่คิดไม่ดีต่อชาติบ้านเมือง คนอื่นลงโทษไม่ได้ แต่ธรรมชาติจะลงโทษ
นายเทพไท กล่าวว่า วันนี้เห็นได้ชัดเจนว่า ยังไม่ยอมยุติการเคลื่อนไหว พยายามที่จะปรับยุทธวิธี การต่อสู้ทางการเมืองกับรัฐบาลอยู่ตลอดเวลา โดยใช้ยุทธการเปิดแนวรบทางด้านสื่อ นับตั้งแต่การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศโฟนอินในรายการวิทยุชุมชนคนรักอุดรฯ และถ่ายทอดไปยังทั่วประเทศ และวันนี้ยังมีการสร้างเครือข่ายวิทยุชุมชนขึ้นมามากมาย เพื่อรองรับกระแสความเคลื่อนไหว นอกจากนี้ สถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่น ก็ยังออกอากาศเคลื่อนไหวโจมตีรัฐบาลเป็นเรื่องหลัก เอาภาพเหตุการณ์สงกรานต์เลือด ความรุนแรงมาบิดเบือนข้อเท็จจริง ให้ประชาชนรับข้อมูลที่เป็นเท็จเพียงฝ่ายเดียว รวมทั้งยังมีการเปิดเว็บไซต์หลากหลาย และมีการตั้งทีมงานขึ้นมาส่งข้อความไปยังเว็บไซต์ต่างๆ เป็นกิจลักษณะ และยังมีการเปิดสื่อสิ่งพิมพ์ขึ้น เห็นชัดว่าตั้งแต่ออกเรดนิวส์ไป และออกหนังสือพิมพ์ความจริงวันนี้ และล่าสึดที่ประกาศเมื่อวาน (14 ก.ค.) คือ วอยซ์ ออฟ ทักษิณ หรือเสียงจากทักษิณ