“เทพไท”ถาม“พญามารแดงแม้ว”ยังเหลือความเป็นไทยในสายเลือดหรือไม่ หลังปั่นหัวสาวกหางแดงบุกทำลายการประชุมอาเซียนที่พัทยา เผยเหตุการณ์สั่งม็อบบุกรอยัลคลิฟบีชฯ เปิดตาชาวโลกรับรู้สันดานชั่ว “นช.ทักษิณ" หาประเทศหลบซ่อนตัวลำบากแน่ จวกปากอย่างใจอย่าง กล่าวหารัฐบาลปิดสื่อ หวังแค่ปลุกระดมมวลชนเสื้อแดงเท่านั้น
วันที่ 12 เม.ย. นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงนำโดยนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ไปปิดล้อมโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช ที่พัทยา ซึ่งใช้เป็นที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน จนต้องเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดถูกถ่ายทอดผ่านสื่อโทรทัศน์ ทำให้ประชาชนคนไทยที่เห็นเหตุการณ์ส่วนใหญ่รับไม่ได้กับพฤติกรรมดังกล่าว ต่างออกมาประณามผู้ที่กระทำและผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งตัวการสำคัญคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้ถูกกระชากหน้ากาก เพื่อให้สังคมโลกได้รับรู้ถึงพฤติกรรมการทำลายชาติแผ่นดินเกิด และมิตรประเทศอาเซียนอีก 16 ชาติ เป็นการแสดงให้เห็นธาตุแท้และตัวตนที่ชัดเจนของ พ.ต.ท.ทักษิณ จากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยจะส่งผลกระทบต่อพ.ต.ท.ทักษิณโดยตรง เพราะเชื่อว่าผู้นำในโซนอาเซียนและมิตรประเทศต่างๆ จะจดจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะคิดได้เองว่าจะให้นักโทษผู้หลบหนีคดีไปหลบซ่อนตัวและใช้ประเทศนั้นเป็นฐานในการเคลื่อนไหวต่อไปอีกหรือไม่ ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์ม็อบที่ทำเนียบต่างปรบมือรอรับม็อบเสื้อแดงที่ไปบุกทำลายเศรษฐกิจของพัทยา ราวกับเป็นวีรบุรุษผ่านสงคราม
“ขอถาม พ.ต.ท.ทักษิณว่า คุณเป็นคนไทยหรือไม่ ถ้าคุณเป็นคนไทยคงไม่ทำหรือสร้างเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะถ้าไม่ใช่คนไทยก็ขอให้คืนพาสปอร์ตและสัญชาติไทยกลับมา แต่ดูแล้วเหมือนคุณทักษิณไม่ใช่คนไทย และไม่มีความเป็นคนไทยอยู่ในสายเลือด” นายเทพไทกล่าว
นายเทพไท กล่าวว่า สำหรับกรณีการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อคืนวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมาซึ่งไม่ปรากฏภาพการโฟนอินผ่านระบบวีดีโอลิงก์เหมือนอย่างที่เคย โดยเจ้าตัวบอกเองว่าอยู่ระหว่างการเดินทางจึงไม่สะดวก ดังนั้น ตนขอตั้งข้อสังเกตว่ามีความเป็นไปได้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณกำลังอยู่ระหว่างการเดินทางตามที่ระบุ หรือไม่ก็อยู่ระหว่างการเมาไวน์ภายหลังฉลองความสำเร็จในผลงานของม็อบเสื้อแดงที่สามารถขัดขวางการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนได้ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่กลับไม่คิดว่าตัวเองกำลังฉลองอยู่บนซากของประเทศชาติ ฉลองอยู่ท่ามกลางเกียรติภูมิของชาติที่ต้องเสื่อมเสียไป
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณพยายามกุข่าวใส่ร้ายรัฐบาลว่าแทรกแซงสื่อและบิดเบือนข้อมูลข่าวสารในกรณีการรายงานข่าวเกี่ยวกับม็อบเสื้อแดงบุกขัดขวางการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เพราะเสนอข่าวแต่ด้านลบ และเรื่องความเสียหาย ทั้งที่ความเป็นจริงรัฐบาลไม่เคยเข้าไปกระทำการตามที่ถูกกล่าวหา แต่ในทางตรงกันข้ามกลับเปิดเสรีให้สื่อรายงานเหตุการณ์ที่เมืองพัทยาทุกระยะตั้งแต่ช่วงเช้า จนกระทั่งถึงเวลาที่ม็อบบุกเข้าโรงแรม แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมปากอย่างใจอย่างของ พ.ต.ท.ทักษิณที่พูดเพียงแต่หวังประโยชน์และปลุกระดมพี่น้องคนไทยมาเป็นเครื่องมือของตัวเอง ซึ่งการบันทึกภาพของสื่อโทรทัศน์ที่รายงานเหตุการณ์ทุกช่องก็จะเป็นข้อมูลหลักฐานในการดำเนินคดีเอาความผิดกับแกนนำและหัวโจก ดังนั้น จึงขอเตือน พ.ต.ท.ทักษิณว่าหลังจากนี้อย่ามาใส่ร้ายกระบวนการยุติธรรมของไทยว่าเป็น 2 มาตรฐาน
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์บุกเข้าโรงแรม รอยัล คลิฟ บีช ที่พัทยาเมื่อวันที่ 11 เม.ย. พรรคได้รับเสียงสะท้อนจากประชาชนจำนวนมาก รวมทั้งเสียงตำหนิ ซึ่งพรรคจะน้อมรับความเห็นและนำเสนอต่อผู้บริหารพรรคต่อไป และขอให้ความมั่นใจแก่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศว่ารัฐบาลมีมาตรการในการดำเนินการกับกลุ่มม็อบ แต่ทุกอย่างต้องเป็นขั้นตอนกระบวนการที่ต้องใช้เวลา แต่เราจะคิดบัญชีทีละราย ทีละข้อหา ทีละเหตุการณ์ตามกระบวนการยุติธรรมที่สากลนิยมปฏิบัติ
