จากเหตุการณ์กลุ่มคนเสื้อแดงภายใต้การบงการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ บุกเข้าไปในโรงแรมรอยัลคลิฟบัช รีสอร์ท พัทยา ทำให้การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ต้องยกเลิกไปเมื่อวันที่ 11 เม.ย.นั้น พรรคประชาธิปัตย์ได้ออกแถลงการณ์ดังนี้
แถลงการณ์ พรรคประชาธิปัตย์
ฉบับที่ ๓
จากเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้ชุมนุมขับไล่รัฐบาล บุกเข้าปิดล้อมและยึดสถานที่จัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจา จนสถานการณ์ลุกลามบานปลาย เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและสูญเสียทรัพย์สิน ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องเข้าระงับความเสียหายโดยใช้มาตรการทางกฎหมายที่เข้มข้นขึ้น ด้วยการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการฉุกเฉินที่ร้ายแรง ในพื้นที่เมืองพัทยา และจังหวัดชลบุรีนับเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
ผลพวงที่เกิดจากการกระทำดังกล่าว บัดนี้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ซ้ำเติมต่อระบบเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การลงทุน อย่างร้ายแรงจนประเมินค่ามิได้
ที่ผ่านมาทุกภาคฝ่ายในสังคมไทยที่ปรารถนาจะเห็นความสงบสุขของบ้านเมืองได้ร่วมกันเรียกร้องต่อกลุ่มผู้ชุมนุมให้ยุติการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติโดยส่วนรวม ทั้งด้านการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ และสังคม แต่กลับได้รับการตอบสนองที่ตรงข้าม ด้วยการยกระดับการกดดันรัฐบาลด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่สนใจว่าประเทศชาติจะเสียหาย หรือประชาชนผู้บริสุทธิ์จะได้รับความเดือดร้อนเสียหายอย่างไร
พรรคประชาธิปัตย์รู้สึกสลดใจกับการกระทำที่มุ่งร้ายต่อส่วนรวมของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเฉพาะแกนนำการชุมนุม และผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการแต่จะบรรลุเป้าหมายของตนเองโดยไม่สนใจสิ่งใด ขณะเดียวกันจากการสดับรับรู้ความรู้สึกของพี่น้องประชาชนทั่วไปแล้วพบว่าล้วนแล้วแต่วิตกกังวลกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ จึงขอแสดงความเห็นและท่าทีอีกครั้งหนึ่งดังนี้
๑) แม้รัฐบาลจะพยายามจำกัดสถานการณ์ด้วยการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เฉพาะพื้นที่แล้วแต่ยังเป็นห่วงว่า กลุ่มผู้เคลื่อนไหวที่จงใจละเมิดกฎหมาย จะยังไม่ยุติการก่อเหตุร้ายให้ลุกลามบานปลาย จนอาจก่อให้เกิดภาวะสับสน จลาจลในพื้นที่อื่น ๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดสำคัญ ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ไม่พึงปรารถนา
๒) ในท่ามกลางความพยายามแก้ไขสถานการณ์ของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ยังปรากฏต่อเนื่องตลอดมาว่า แกนนำผู้เคลื่อนไหวยังแสดงพฤติกรรมยั่วยุละเมิดกฎหมาย โดยพยายามปลุกระดมผู้เข้าร่วมชุมนุมและพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ให้กระทำผิดกฎหมายอย่างชัดแจ้ง สร้างความหวั่นวิตกแก่ประชาชนผู้รักสันติทั้งหลายอย่างมาก จำเป็นที่รัฐบาลเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบต้องใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าระงับยับยั้ง ก่อนที่จะเกิดการปฏิบัติการที่ร้ายแรงดังคำข่มขู่
๓) ขอเรียกร้องไปยังพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนในสังคมที่ปรารถนาจะให้ประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สงบสุข และเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง ต้องร่วมกันแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยกับการใช้สิทธิเรียกร้องที่ไม่อยู่ภายใต้กติกาประชาธิปไตย และความสงบสุขของสังคมส่วนร่วม โดยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคลี่คลายปัญหาในทุกพื้นที่และทุกสถานการณ์ ไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ก่อเหตุรุนแรงใดๆ
๔) ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ได้รับผลกระทบในทุกด้านจากการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ละเมิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ สูญเสียทรัพย์สิน ผู้ประสบความยากลำบากในการเดินทาง หรือใช้ชีวิตประจำวัน ผู้ประกอบการธุรกิจ นักลงทุน นักท่องเที่ยว พี่น้องชาวต่างประเทศที่พำนักอาศัยในประเทศไทยระหว่างเกิดสถานการณ์ไม่ปกติ ขอให้จงมั่นใจว่า รัฐบาลและผู้มีหน้าที่รับผิดชอบจะดูแลแก้ไขเยียวยาผลกระทบเหล่านั้นเป็นอย่างดีต่อไป
๕) พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่เห็นด้วยกับการกระทำ ข้อเรียกร้องหรือข้อเสนอใด ๆ ที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง การปกครอง หรือกติกาของบ้านเมือง ซึ่งไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
พรรคประชาธิปัตย์
๑๑ เมษายน ๒๕๕๒
เวลา ๑๖.๐๐ น.